ทำ�ไมถึงต้องก�ร IPv6

คำ�ตอบก็คือ เร�นัน้ต้องก�รซึ่งก�รติดต่อสื่อส�ร ซึ่งระบบคอมพวิเตอรใ์นขณะน้ีไมส่�ม�รถตัดมนัออกได้

ในปัจจุบนัได้มอุีปกรณ์สื่อส�รเพิม่ขึ้นทกุๆวนั ทำ�ใหI้Pv4 เดิมอ�จจะไมเ่พยีงพอต่อก�รใชง้�นในอน�คต

เน่ืองจ�ก IPv4 ในท�งทฤษฎีรบัรองก�รใชง้�นได้ประม�ณ 4 พนั 3 รอ้ยล้�น address แต่ส�ม�รถใชไ้ด้จรงิแต่เพยีง 250 ล้�น เท่�นัน้ ถึงแมจ้ะม ี Classless Inter-Domain Routing (CIDR) และ Network Address Translation (NAT) ชว่ยในก�รบรรเท�ก�รข�ดแคลนแล้วก็ต�ม แต่ในอีกไมช่�้ก็จะเกิดก�รข�ดแคลนขึ้นและจะทำ�ใหส้ญูเสยีคว�มส�ม�รถในก�รสื่อส�รลง ลองสมมติดวู�่ประช�กรบนโลกน้ีมปีระม�ณ 6 พัน 5 รอ้ยล้�นคน แล้วประช�กรแค่เพยีง 10 % เชื่อมต่อ internet เท่�กับมกี�รใชง้�น address ถึง 650 ล้�น address ซึ่งเกินกว�่ท่ี IPv4 เดิมจะรองรบัได้ เพร�ะฉะนัน้ จงึได้มกี�รพฒัน� IPv6 ขึ้นม�เพื่อแก้ปัญห�เหล่�นัน้

ผลประโยชน์ในก�รใชง้�น IPv6

IPv6 นัน้ส�ม�รถรองรบัได้สงูม�กถึง 3.4x10^38 address และใน IPv6 เองก็ได้เพิม่คณุสมบติับ�งประก�รท่ีทำ�ใหส้�ม�รถใชง้�นได้ดีขึ้น

ระบบเครื่อข่�ยในวนัน้ีมคีว�มต้องก�รม�กม�ยท่ีไมส่�ม�รถค�ดก�รณ์ได้ในตอนท่ีคิดค้น IPv4 ซึ่งเร�นัน้ก็ได้พย�ย�มท่ีจะชดเชยคว�มต้องก�รด้วยก�รเพื่มสว่นเสรมิเข้�ไป แต่มนัก็เป็นสิง่ท่ีย�กลำ�บ�กกว�่ก�รที่

จะทำ�ใหม้นัรองรบัคว�มต้องก�รได้โดยพื้นฐ�นของมนัเอง ซึ่ง IPv6 นัน้ได้ทำ�ก�รประปรุงและเพิม่คณุสมบติัม�กม�ยเพื่อท่ีจะรองรบัคว�มต้องก�รเหล่�นัน้ได้โดยพื้นฐ�นของตัว IPv6 เอง ตัวอย�่งเชน่ IPSec ซึ่งเป็นคณุสมบติัท่ีใชร้กัษ�คว�มปลอดภัยระหว�่งปล�ยส�ย

แต่คณุสมบติัที่ทำ�ให ้IPv6 นัน้น่�สนใจคือ header ท่ีมจีำ�นวน field เพยีงครึง่เดียวของ IPv4 ทำ�ใหค้ว�มเรว็ในก�รประมวลผลเพิม่ขึ้น เน่ืองจ�กใน IPv6 ได้ตัด field บ�งตัวออก แต่ field ใน IPv4 เดิมนัน้ก็ยงัส�ม�รถนำ�ม�ใชไ้ด้ โดยก�รนำ�ม�ใสล่งไปใน extension header ซึ่งอยูถั่ดจ�ก header ปกติ

ใน IPv6 นัน้ได้ปรบัปรุงก�รระบุaddress ใหม้กี�รจดัเรยีงลำ�ดับและมคีว�มกระชบัม�กขึ้น ทำ�ใหก้�รกำ�หนดเสน้ท�งมปีระสทิธภิ�พและมีคว�มน่�เชื่องถือม�กขึ้นกว�่เดิม และใน IPv6 นัน้ก็ได้รองรบัก�รใชง้�นแบบ multiple address สำ�หรบั host และระบบเครอืข่�ย และขอ้น้ีเองท่ีทำ�ใหอ้งกรค์ธรุกิจสนใจท่ีจะนำ�ม�ใช้

ใน IPv4 มกี�รใช ้broadcast อย�่งม�กม�ย ซึ่งอ�จจะทำ�ใหเ้กิดปัญห� broadcast strom ขึ้นได้

ซึ่งเกิดจ�กก�รสง่ต่อ broadcast ท่ีไมส่�ม�รถควบคมุได้ ทำ�ใหส้ิน้เปลือง bandwidth จำ�นวนม�กไปอย�่งเปล่�ประโยชน์ และสิง่ท่ีน่�วติกอีกอย�่งก็คือ เมื่อมกี�รสง่ broadcast ในระบบ ทกุๆเครื่องก็จะหยุดง�นท่ีทำ�อยู ่และจะตอบรบัก�ร broadcast นัน้

แต่ใน IPv6 นัน้จะไมม่ปีัญห�ในเรื่องของ broadcast อีกต่อไป เพร�ะว�่ IPv6 ใชก้�รสื่อส�รแบบ multicast แทน สว่น unicast นัน้ไม่ได้มกี�รเปล่ียนแปลงยงัคงเหมอืนกับใน IPv4 ทกุประก�ร และได้เพิม่วธิีก�รสื่อส�รแบบใหมก่็คือ anycast ซึ่งก�รสื่อส�รแบบ anycast นัน้ส�ม�รถใชห้ม�ยเลข address เดียวกันบนอุปกรณ์ตัวอ่ืนได้ โดยหลักก�ร

ทำ�ง�นก็คือ เมื่อมขีอ้มูลม�ท่ีอุปกรณ์ตัวหน่ึง อุปกรณ์ตัวนัน้ก็จะสง่ต่อไปยงัอุปกรณ์ท่ีมหีม�ยเลข address เดียวกันที่อยูใ่กล้ที่สดุ

ก�รกำ�หนด address ใน IPv6

เป็นท่ีเข�้ใจกันอยูแ่ล้วว�่โครงสร�้งแล้วรูปแบบก�รใชง้�น IP Address นัน้ เป็นปัญห�กับก�รกำ�หนด address ของ IPv4 และ ใน IPv6 เองก็มปีัญห�เชน่กัน ซึ่งใน IPv6 มขีน�ดของ address 128 บติ และมขีน�ดใหญ่กว�่ IPv4 ด้วยเหตน้ีุจงึต้องห�วธิกี�รใหมใ่นก�รกำ�หนด address

2001:0db8:3c4d :0012 :0000:0000:1234:56ab

Global prefix Subnet Interface ID

น่ีคือตัวอย�่ง address ของ IPv6 48 บติแรกนัน้คือ global prefix 16 บติตรงกล�งคือ subnet และ 64 บติท้�ยคือ Interface ID

ดังที่เหน็ในตัวอย่�ง ขน�ดของ address มขีน�ดใหญ่กว�่ IPv4 ม�กจรงิๆ และต่�งกันตรงท่ีIPv6 นัน้ใชเ้ลขฐ�น 16 และได้ทำ�ก�รแบง่หม�ยเลขออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ตัว คัน่กล�งด้วยเครื่องหม�ย colons

ก�รยอ่ Address ของ IPv6

Address ของ IPv6 นัน้เป็นอะไรย�วและยุง่ย�กซึ่งลำ�บ�กต่อก�รเขยีนหรอืจดจำ� แต่ก็มเีทคนิคในก�รยอ่ address ใหส้ัน้ลงโดยก�รตัด

บ�งสว่นของ address ออก โดยวธิคืีอ นำ�เลขศูนยท่ี์อยูห่น้�สดุในบล็อกๆนัน้ออก หลังจ�กที่ทำ�แล้ว address ท่ีทำ�ก�รยอ่แล้วต้องเป็นแบบตัวอย�่งน้ี

2001:0db8:3c4d:0012:0000:0000:1234:56ab

2001:db8:3c4d:12:0:0:1234:56ab

และในกรณีท่ีทัง้บล็อกนัน้เป็นเลขศูนยท์ัง้หมดหล�ยบล็อกติดกัน ก็จะใช้เครื่องหม�ย colon 2 อันแทน ดังตัวอย่�ง

2001:db8:3c4d:12::1234:56ab

แต่ในกรณีที่มบีล็อกท่ีเป็นศูนย์2 บล็อกติดกัน 2 คู่แต่มบีล็อกธรรมด�คัน่อยู ่นัน้ไมส่�ม�รถที่จะแทนที่ด้วย double colon ได้ทัง้หมด แทนได้แค่เพยีงคู่เดียวเท่�นัน้ ดังตัวอย�่ง

2001:0000:0000:0012:0000:0000:1234:56ab

2001::12:0:0:1234:56ab

ด้วยเหตผุลท่ีว�่ตัวอุปกรณ์จะไมส่�ม�รถรูไ้ด้ว�่ต้องแทนค่�ศูนยก์ลับไปตรงสว่นไหนบ้�ง เพร�ะตัวอุปกรณ์จะนับจำ�นวนบล็อกทัง้หมดแล้วทำ�ก�รคำ�นวณจำ�นวนบล็อกท่ีต้องก�รแทนค่�ด้วยศูนย์

Address Type

เร�นัน้คุ้ยเคยกับ IPv4 ทีaddress เป็นแบบ unicast , broadcast และ multicast ซึ่งเป็นสิง่พื้นฐ�นท่ีจะระบุว�่เป็นใครหรอืจำ�นวนอุปกรณ์อ่ืนๆท่ีสื่อส�รด้วย แต่สำ�หรบั IPv6 นัน้ได้ทำ�ก�รเพิม่ anycast เข�้ไป และดำ้�ก�รตัว broadcast ออกเน่ืองจ�กอ�จจะทำ�ให้เกิดปัญห�ท่ียุง่ย�ก

โดยใน IPv6 ได้มรูีปแบบก�รสื่อส�รดังต่อไปน้ี

Unicast ใน IPv6 นัน้ก�รสื่ส�รแบบ unicast ยงัคงเหมอืนกับใน IPv4 ทกุประก�ร

Global Unicast address เป็น public routable address ซึ่งจะยงัคงเหมอืนกับ IPv4 ทกุประก�ร

Link –Local address ใชใ้นก�รก�รค้นห�และรกัษ�สถ�นก�รณ์เชื่อมต่อของเพื่อนบ้�น

Unique local address จะมลัีกษณะคล้�ยคลึงกันกับ Private IP Address ของ IPv4 โดยท่ี Router จะไมท่ำ�ก�ร Forward IP Address น้ี

Multicast ใน IPv6 นัน้ multicast ก็ยงัคงเหมอืนกับใน IPv4 ทกุประก�ร

Anycast จะคล้�ยๆกับ multicast แต่ต่�งกันตรงท่ีขอ้มูลของ anycast packet จะถกูสง่ไปที่ address เดียวแต่ address นัน้ส�ม�รถถือครองได้โดยอุปกรณ์หล�ยตัว

Address พเิศษ

0:0:0:0:0:0:0:0 Equals :: มคีว�มหม�ยเดียวกับ 0.0.0.0 ใน IPv4 ใชใ้นก�ร stateful configuration

0:0:0:0:0:0:0:1 Equals ::1มคีว�มหม�ยเดียวกับ 127.0.0.1 (local host)ใน IPv4

0:0:0:0:0:0:192.168.100.1น่ีคือก�รเขยีน IPv6 เพื่อ compatible กับ IPv4

2000::/3เป็นชว่ง address ของ global unicast

FC00::/7แป็นชว่ง address ของ unique local unicast

FE80::/10เป็นชว่ง address ของ link-local unicast

FF00::/8เป็นชว่ง address ของ Multicast

3FFF:FFFF::/32 และ 2001:0DB8::/32

สงวนไวส้ำ�หรบัตัวอย�่งและเอกส�ร

2002::/16ใชส้ำ�หรบัในก�รสง่ IPv6 packet ไปบนระบบท่ีเป็น IPv4

IPv6ทำ�ง�นอย�่งไรใน Internetwork

Autoconfiguration

Autoconfiguration เป็นระบบก�รจดัก�รที่มปีระสทิธภิ�พที่น่�ท่ึง เพร�ะว�่มนัส�ม�รถใหอุ้ปกรณ์บบระบบเครื่อข่�ยกำ� address ด้วยตัวเองได้ด้วยก�รใช ้link local unicast ระบบน้ีเกิดจ�กก�รเรยีนรูข้อ้มูล prefix จ�ก router ก่อน แล้วผนวกเข้�กับ physical address ของตัวอุปกรณ์เอง นัน่ก็คือ interface ID

ในระบบเครื่องข�ยแบบ ethenet นัน้ Interface ID ก็คือ MAC Address นัน่เอว แต่ว�่ MAC Address นัน้มคีว�มย�วแค่ 48 บติ เท่�นัน้ อีก 16 บติที่เหลือจงึต้องเพิม่ padding เข�้ไปโดยก�รเพิม่ FFFE เข�้ไประหว�่งกึ่งกล�งของ MAC Address ดังตัวอย�่งต่อไปน้ี

MAC = 0060.d673.19870260.d6FF.FE73.1987 ก�รทำ�ง�นของ autoconfiguration นัน้แบง่ออกเป็น 2 ขัน้ตอน

1. Host ต้องม ีprefix information เพื่อท่ีจะกำ�หนด interface มนัจงึสง่คำ�ขอ router solicitation (RS)

โดยจะสง่แบบ multicast ไปยงั multicast address ของ router ซึ่งในก�รใชง้�นจรงิๆก็จะสง่เป็น ICMP message Type 133

2. Router ก็จะตอบกลับค่� prefix ทีต้องก�ร ผ่�นท�ง router advertisement (RA) ซึ่ง RA ก็จะถกูสง่ไปแบบ multicast เชน่เดียวกัน ซึ่งจะสง่ไปยงั multicast address ของ node บนเครอืข�่ย โดยจะสง่ผ่�น ICMP type 134 RA message นัน้จะสง่แบบกำ�หนดชว่งเวล� แต่ host จะสง่ RS message แบบต่อเนืองดังนัน้ก็ไมจ่ำ�เป็นจะต้องรอต�ร�งเวล�ของ RA เพื่อท่ีจะได้สิง่ที่ต้องก�ร

วธิ ีautoconfiguration แบบน้ีเป็นที่รูจ้กักันในชื่อ stateless autoconfiguration เพร�ะว�่มนัไมจ่ำ�เป็นติดต่อ หรอืเฃื่อมต่อ และไม่ต้องรบัขอ้มูลเสรมิจ�กอุปกรณ์ตัวอ่ืนเลย

Configuration Cisco Router กับ IPv6

ในขัน้ต้นของก�รใชง้�น IPv6 บน router จะต้องป้อนคำ�สัง่ ipv6 unicast-routing global configuration ดังตัวอย�่งต่อไปน้ีเสยีก่อน

Corp(config)#ipv6 unicast-routingโดยพื้นฐ�นแล้วก�รใชง้�น IPv6 นัน้จะถกูปิดก�รทำ�ง�นไว ้จงึ

ต้องใชค้ำ�สัง่น้ีในก�รเปิดใชง้�น

และ จำ�เป็นต้องทำ�ก�รเปิดใชง้�น interface ทีละตัว

แต่ก็มที�งเลือกอ่ืนที่จะทำ�แบบนัน้ โดยก�รเพิม่ address ไปยงั interface นัน้ โดยใชค้ำ�สัง่

Ipv6 address <ipv6prefix> /<prefix –length> [eui-64] ดังตัวอย�่งต่อไปน้ี

Corp(config)#ipv6 address 2001:db8:3c4d:1:0260.d6FF.FE73.1987/64

หรอืจะใช ้eui-64 option ในก�รชว่ยสร�้ง Interface ID ก็ได้

Corp(config)#ipv6 address 2001:db8:3c4d:1::/64 eui-64

ถ้�ต้อง ง�นแค่เฉพ�ะ link-local address ก็ใชแ้ค่เพยีงคำ�สัง่

Corp(config)#ipv6 enable

DHCPv6

DHCPv6 นัน้ใชง้�นได้ดีเหมอืนกับใน DHCP ของ v4 จะต่�งกันเพยีงแค่มนัรองรบัก�ร addressing ของ IPv6 เท่�นัน้ แต่ก็มีคณุสมบติับ�งประก�รที่ DHCP ยงัคงใหบ้รกิ�รได้อยูซ่ึ่ง

autoconfiguration ไมม่เีชน่ DNS servers , domain names หรอื คณุสบติัอ่ืนๆท่ี DHCP ยงัคงมอียูตั่ง้แต่ IPv4

เมื่อเริม่ต้นทำ�ง�นใน IPv4 client จะทำ�ก�รสง่ DHSP discover message เพื่อท่ีจะค้นห� sever ท่ีจะใหข้อ้มูลัต้้องก�ร แต่จำ�ไวว้�่ใน IPv6 RS และ RA จะเกิดขึ้นก่อน ถ้�ม ีDHCPv6 server บรกิ�รอยู ่RA จะสง่ขอ้คว�มไปยงั client ว�่ DHCP พรอ้มใชง้�น แต่ถ้�ค้นห� router ไมพ่บ client จะทำ�ก�รสง่ DHCP solicit message เพื่อห� DHCP agents

ใน router Cisco IOS นัน้ส�ม�รถรองรบั DHCPv6 บ�งประก�ร แต่จำ�กัดก�รใชง้�นแค่ stateless DHCP server เท่�นัน้ จงึไมส่�ม�รถท่ีจะทำ�ก�ร address management ได้ และใชง้�นได้แค่ DNS ,domain name และ SIP เท่�นัน้

ดังนัน้จงึต้องพึ่ง server รอบข�้งท่ีจะรองรบัคณุสมบติัในก�รทำ� address management

และน่ีคือวธิตัีง้ค่� เพื่อท่ีจะใชง้�น stateless DHCP ใน router IOS

Router(config)#ipv6 dhcp pool ?WORD DHCP Pool nameRouter(config)#ipv6 dhcp pool testRouter(config)# ?IPv6 DHCP configuration commands:

default Set command to its defaultsdns-server DNS serversdomain-name Domain name to

complete unqualified host names

exit Exit from DHCPv6 configuration mode

no Negate a command or set its defaults

prefix-delegation IPv6 prefix delegationsip SIP server options

Router(config)#dns-server ?Hostname or X:X:X:X::X Server’s name or IPv6

addressRouter(config)#domain-name lammle.comRouter(config)#prefix-delegation ?

X:X:X:X::X/<0-128> IPv6 x:x::y/<z>aaa Acquired prefix from AAApool IPv6 prefix pool

Router(config)#prefix-delegation pool ?WORD IPv6 prefix pool

Router(config)#prefix-delegation pool test ?lifetime Configure prefix lifetime<cr>

Router(config)#prefix-delegation pool test lifetime ?

<60-4294967295> valid lifetime (seconds)At Expire prefix at a specific

time/dateInfinite Infinite valid lifetime

Router(config)#prefix-delegation pool test lifetime 3600 ?

<60-4294967295> valid lifetime (seconds)Infinite Infinite valid lifetime

Router(config)#prefix-delegation pool test lifetime 3600 3600 ?

<cr>Router(config)#prefix-delegation pool test lifetime

3600 3600เหมอืนกับใน IPv4 ไมจ่ำ�เป็นจพต้องตัง้ค่� lifetime

ตอนนี้เร�ก็ม ีpool configured แล้ว แต่วธิใีนก�รกำ�หนดลงใน interface นัน้จะต่�งจ�ก IPv4

Router1(config)#int fa 0/0 Router1(config-if)#ipv6 dhcp server ?

WORD Name of IPv6 DHCP pool Router1(config-if)#ipv6 dhcp server test

ICMPv6

IPv4 นัน้ใชป้ระโยชน์จ�ก ICMP หล�ยๆอย�่ง เชน่ error message , ก�รตรวจสอบสถ�นะปล�ยท�ง

และแก้ไขปัญห�ต่�งๆ ใน ICMPv6 นัน้ก็ยงัคงคณุสมบติันัน้เชน่กัน

ขัน้ตอนก�รทำ�ง�นของมนัก็คือ node ต้นท�งจะทำ�ก�รสง่ packet ท่ีมขีน�ดเท่�กับ MTU และเมื่อ packet น้ีเดินท�งไปยงัจุดหม�ยผ่�นจุดเชื่อมต่อที่ค่� MTU ตำ่�กว�่ขน�ดของ packet ใยขณะนัน้ จะบงัคับให ้router สง่ขอ้คว�มว�่ packet นัน้ใหญ่เกินไป ไปยงัเครื่องต้น

ท�ง ขอ้ค�มน้ีจะบอกถึงขน�ดของ MTU เพื่อท่ีต้นท�งจะได้ทำ�ก�รลดขน�ดของ packet ลงเพื่อที่จะส�ม�รถสง่ packet ผ่�นจุดนัน้ได้ ขัน้ตอนเหล่�น้ีจะกระทำ�ไปเรื่อยๆจนกว�่จะถึงปล�ยท�ง ตอนน้ีเครื่องต้นท�งจะได้ค่� MTU ท่ีเหม�ะสมในก�รสง่ขอ้มูล เพื่อป้องกันก�ร fragmentation

ICMPv6 ในขณะน้ีได้รวมหน้�ท่ีก�รค้นห� address ของอุปกรณ์อ่ืนบนเครอืข่�ยเอ�ไวด้้วย Address Resolution Protocol จะทำ�หน้�ท่ีน้ีใน IPv4 แต่ได้ทำ�ก�รเปล่ียนชื่อเป็น Neighbor Discovery ใน IPv6

กระบวนก�รน้ีทำ�ง�นโดยใช ้multicast address ทำ�ก�รเรยีก node address และทกุๆ host เพื่อเข�้รว่ม multicast group เมื่อเครื่องเหล่�นัน้ทำ�ก�รเชื่อมต่อกับระบบเครอืข่�ย

ใน IPv4 โปรโตคอล IGMP ถกูใฃเ้พื่อใหอุ้ปกรณ์ host บอกว�่ router ตัวไหนท่ีมนัต้องใชใ้นก�รเข�้รว่ม multicast group และต้องก�รที่จะรบัขอ้มูลจ�ก group นัน้ IGMP นัน้ถกูแทนท่ีด้วย ICMPv6 และถกูเปล่ียนชื่อเป็น multicast listener discovery

IPv6 routing Protocol

Routing Protocol สว่นใหญ่ได้ทำ�ก�รปรบัปรุงเพื่อท่ีจะใชใ้นระบบเครอืข�่ยท่ีใช ้IPv6

ซึ่งฟงัก์ชนัก�รใชง้�นแล้ววธิใีชท้ี่เรยีนรูอ้ยูเ่ดิมแล้วนัน้ส�ม�รถนำ�ม�ใชไ้ด้เหมอืนเดิมทกุประก�ร

เน่ืองจ�กใน IPv6 ได้ทำ�ก�รนำ� broadcast ออกไป ดังนัน้ protocol บ�งตัวท่ีใชง้�นแบบ broadcast จะไมส่�ม�รถใชง้�นได้ แต่นัน้ก็เป็นขอ้ดีเพร�ะทำ�ใหไ้มต้่องสญูเสยี bandwidth ไปโดยเปล่�ประโยชน์

Routing Protocol ท่ีใชใ้น IPv6 ได้ทำ�ก�รเปล่ียนชื่อและทำ�ก�รยกระดับขึ้น

อันแรกคือ RIPng(next generation) RIP นัน้ส�ม�รถทำ�ง�นได้ดีทีเดียวในเครอืข่�ยขน�ดเล็ก ซึ่งทำ�ใหม้นัยงัคงนำ�ม�ใชใ้น IPv6 อีก และเร�ยงัม ีEIGRPv6 เพร�ะว�่มนัมโีปรโตคอลที่ทำ�ง�นรว่มกัน และโปรโตคอลที่ไมอ่ยูใ่นกลุ่ม แต่ยงัคงอยูไ่ด้คือ OSPFv3

RIPng

คณุสมบติัหลักๆของ RIPng นัน้เหมอืนกันกับ RIPv2 ยงัคงม ีdistance vector protocol ม ีmax hop coung อยูท่ี่ 15 และยงัคงใช ้split horizon , poison reverse และ loop avoidance mechanism อยู ่แต่ได้ทำ�ก�รเปล่ียนเป็น

UDP port 521 แทน

และมนัยงัคงใช ้multicast ในก�ร update ต�ร�งเสน้ท�งอีกด้วย แต่ใน IPv6 ได้ใช ้FF02::9 สำ�หรบั transport address ยงัคงเหมอืนกับ RIP2 ท่ีใช ้multicast address เป็น 224.0.0.9 ซึ่งเหมอืนกันตรงท่ีใชเ้ลข 9 เป็นตัวสดุท้�ย

และแน่นอนมนัก็ต้องมอีะไรท่ีเปล่ียนแปลงไป เพร�ะว�่มนัคือเวอรช์นัใหม ่ถ้�ไมไ่ด้ปรบัปรุงเปล่ียนแปลงอะไรจะเป็นเวอรช์นัใหมท่ำ�ไม เร�รูว้�่ router นัน้จะเก็บ address ของ hop ต่อไปท่ีอยูร่อบข้�งสำ�หรบัทกุจุดหม�ยปล�ยท�ง ไวใ้น routing table คว�มแตกต่�งอยูท่ี่ RIPng จะเก็บหม�ยเลขของ hop ต่อไปโดยใช ้link-local address ไมใ่ช ้global address

EIGRPv6

EIGRPv6 นัน้ทำ�ง�นเหมอืนเดิมกับใน IPv4 ซึ่งคณุสมบติัสว่นใหญ่ที่อยูใ่น EIGRP เดิมยงัคงใชก้ับ EIGRPv6

EIGRP ยงัคงเป็น advance distance vector protocol ท่ีม ีlink state feature อยู ่ และ neighbor discovery process ท่ีใช ้hellos ยงัคงอยูเ่หมอืนเดิม และยงัคงคว�มน่�เชื่อถือในก�รสื่อส�รด้วย โปรโตคอลในก�รขนสง่ท่ีน่�เชื่อถือ โดยใช ้Diffusing Update Algorithm (DUAL)

Hello packets และก�ร update จะสง่โดยใชว้ธิีส่ง่แบบ multicast และใช ้multicast address ท่ีคล้�ยคบงึกับ RIPng โดยใช ้multicast address เป็น FF02::A (A ในเลขฐ�นสบิหก = 10) ซึ่งยงัคงเหมอืนกับใน IPv4 ท่ีใช ้224.0.0.10

OSPFv3

ในเวอรช์นัใหมข่อง OSPF ยงัคงมคีว�มคล้�ยคลึงกับที่ใชใ้น IPv4 โดยพื้นฐ�นของ OSPF จะยงัคงเหมอืนเดิม ซึ่งจะยงัคงมทีำ� link state protocol โดยแบง่ ระบบ internetwork หรอื autonomous ออกเป็นพื้นท่ี และทำ�ก�รจดัลำ�ดับ ใน OSPFv2 router ID (RID)จะถกูกำ�หนดโดย IP address สงูสดุ แต่ใน version 3 เร�เป็นคนกำ�หนด RID,area ID,link-state ID และยงัคงใชค้่� 32 บติเหมอืนเดิมแต่ไมไ่ด้ใช ้IP address อีกต่อไปเน่ืองจ�ก IPv6 address มคีว�มย�ว 128 บติ และก�รท่ีไมใ่ช ้IP address ทำ�ใหส้�ม�รถทำ�ก�ร routed ได้เกือบทกุ network layer

สำ�หรบัค่�ของ hop ท่ีอยูถั่ดไปนัน้จะใช ้link-local address และ OSPFv3 ยงัคงใช ้multicast ในก�รสง่ขอ้มูล update ด้วย address FF02::5 สำ�รหบั OSPF router และ FF02::06 สำ�หรบั OSPF-designated router ม�แทนที่ของเดิมคือ 224.0.0.5 และ 224.0.0.6

ก�รเปลี่ยนไปใช ้IPV6

ก�รปรบัเปล่ียนระบบนัน้ใชเ้วล�น�นที่จะทำ�ใหร้ะบบสมบูรณ์ และถ้�พูดถึงระบบขน�ดใหญ่ม�กๆที่จำ�นวนอุปกรณ์มมี�กม�ยมห�ศ�ลละก็ มนัก็จะใชเ้วล�น�นม�กๆ แต่ก็ไมน่่�เป็นที่กลังวลสกัเท่�ไร เน่ืองจ�กเร�ส�ม�รถว�งแผนในก�รปรบัเปล่ียนใหเ้ป็นไปอย่�งช�้ๆค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งแบง่ออกเป็น 3 วธิ ีดังต่อไปน้ี

Dual Stack

เป็นวธิท่ีีถกูำ�ม�ใชม้�กที่สดุเพร�ะว�่มนัง่�ยที่สดุ เน่ืองจ�กมนัส�ม�รถทำ�ให ้IPv4 และ IPv6 ใชง้�นรว่มกันได้ โดย Dual Stack จะใช ้IP stack สองอันคือ IPv4 stack และ IPv6 stack ทำ�ง�นควบคู่กัน เมื่อใดท่ีแอพพลิเคชัน่ท่ีใชเ้ป็น IPv4 ขอ้มูลแพก็เก็ตก็จะถกูสง่ออกผ่�นท�ง IPv4 stack เมื่อใดท่ีแอพพลิเคชัน่ที่ใชเ้ป็น IPv6 ขอ้มูลแพก็เก็ตก็จะถกูสง่ออกผ่�นท�ง IPv6 stack

6 to 4 Tunneling

6 to 4 Tunneling เป็นวธิท่ีีมปีระสทิธภิ�พม�กที่จะนำ�ขอ้มูลท่ีเป็น IPv6 สง่ไปบน ระบบเครอืข่�ยที่ยงัคงเป็น IPv4 ก�รสง่ขอ้มูลทำ�ได้โดยก�ร encapsulate IPv6 packet ภ�ยใน IPv4 packet ท่ี tunneling gateway ก่อนออกไปยงัเครอืข่�ย IPv4 ท่ีปล�ยท�ง ก่อนเข�้ไปสูเ่ครอืข่�ย IPv6 ก็จะต้องผ่�น tunneling gateway อีกตัวซึ่งทำ�หน้�ท่ี decapsulate IPv6 packet และสง่ต่อไปยงัจุดหม�ยปล�ยท�ง

NAT-PT

NAT-PT ควรจะเป็นท�งเลือกสดุท้�ยเพร�ะมนัไมใ่ชท่�งเลือกท่ีดีนัก โดยมวีธิกี�รคือดึงเอ� data ท่ีเป็นขอ้มูลออกม�แล้วทำ�ก�รประกอบเป็นอีก IP type นึง เชน่ packet เดิมเป็น IPv4 ทำ�ก�ร repackage ได้เป็น packet IPv6

IP v6 packet ทำ�ก�ร repackage ได้ IPv4 packet

สรุป(Summary)

ในบทน้ีได้กล่�วถึงวธิกี�รท่ีจะทำ�ให ้IPv6 ทำ�ง�นรว่มกับระบบเครอืข�่ยของ Cisco

โดยเริม่จ�กทำ�ไมถึงต้องก�ร IPv6 และผลประยชน์ที่ได้จ�กก�รใช้ง�น และวธิกี�รทำ� shortened expression

และ address พเิศษท่ีถกูสงวนใน IPv6

และ IPv6 นัน้ส�ม�รถทำ�ง�นได้เองโดยอัตโนมติั ด้วยก�รใช ้autoconfiguration และ DHCPv6

ICMP นัน้เป็นสว่นสำ�คัญอย�่งยิง่ของ IPv6 ต�มด้วยก�รใชง้�น routing protocol ใน IPv6

และวธิกี�รในก�รแก้ปัญห�ในก�รปรบัเปล่ียนจ�ก IPv4 ไปยงั IPv6