72for Quality Vol.16 No.147

January 2010

for Quality

Special Issue

คุณปิยะ ธนากิจอำนวย

Chief Executive Officer

บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด

มุ่งพัฒนาสู่องค์การที่เป็นเลิศ

แบรนด์ดังสายเลือดไทย

กองบรรณาธิการ

Special Issue

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

Special Issue

73

AIIZ แบรนด์ดังสายเลือดไทย

คุณปิยะ ธนากิจอำนวย สร้างแบรนด์ AIIZ ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ทำให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งในตลาด ในปี พ.ศ.2541 เขาผลักดันสินค้าเฉพาะกลุ่มอื่น ๆ สู่ตลาด เกาะกลุ่มไปกับแบรนด์ AIIZ และอีกหลายแบรนด์ อาทิ AIIZ XII เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับเด็กอายุ 6-14 ปี AIIZ Career สำหรับลูกค้าวัยทำงานอายุ 20-25 ปี Workshop, SCRUM 03, VNC, Monkey See, Camel Active

ปัจจุบัน AIIZ มียอดขายสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ที่อยู่ในระนาบเดียวกันราว 2-8 เท่า โดยมียอดขายต่อปีกว่า 4,000 ล้านบาท จากสาขาทั่วประเทศรวมกว่า 553 แห่ง ทั้งในแบบสแตนอโลน เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า และส่งออกไปยัง 8 ประเทศในประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย และตะวันออกกลาง มีศักยภาพพร้อมเปิดจุดขายในต่างประเทศได้อีกมหาศาล

เสื้อผ้า AIIZ ได้รับการออกแบบ และผลิตวางจำหน่ายในปี พ.ศ.2538 โดยเน้นเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-22 ปี เปิดสาขาแรกในห้างมาบุญครอง เพียงแค่วันแรกที่เปิดก็สร้างปรากฏการณ์ทำยอดขายได้ถึง 300,000 บาทต่อวัน ด้วยสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาถูกแล้ว ยังมีระบบการจัดวางสินค้าที่ทำให้ดูรู้สึกว่ามีของเยอะมาก สินค้าแต่ละชิ้นมีโอกาสได้โดดเด่นในพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างลงตัว เพียงแค่ปีแรกที่เริ่มต้น AIIZ ขยายสาขาได้ถึง 60 แห่ง ผ่านไป 2 ปี เป้าหมายในการสร้างกระแสนิยมของ AIIZ ก็ได้รับผลตอบรับเกินคาด

เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงในประเทศในปี 2540 คุณปิยะ ธนากิจอำนวย ตัดสินใจเดินสวนกระแส แปรวิกฤตให้เป็นโอกาส และได้ดำเนินงานด้วย พลังแห่งการสร้างสรรค์ สร้างจุดต่างให้แบรนด์ AIIZ ไม่ว่าสินค้าที่เป็นเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งร้าน และรูปแบบการจัดวางสินค้า AIIZ จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างไปจากแบรนด์อื่น

■ ความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งร้าน เลือกวัสดุ อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถสื่อตรงให้ลูกค้า ขณะเดียวกันก็สร้างสีสันให้ดูมีสไตล์ การจัดวางสินค้า เน้นการจัดสินค้าให้ดูหลากหลายดึงดูดใจลูกค้าให้เข้ามาเลือกชม

■ เครือข่ายที่แข็งแกร่ง คือ ข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ความเป็นธุรกิจที่มีเครือข่ายจำนวนมาก มคีวามสำคญัทีจ่ะทำให ้AIIZ แขง็แรงขึน้ นอกจากมีพันธมิตรทางการค้า มี Distributor ที่มีความเก่งและชำนาญ ย่อมเสริมแรงให้การทำการตลาดประ-สบความสำเร็จ

■ มีทีมผู้บริหารเก่งครบเครื่อง เป็นกำลังสำคัญให้กับองค์การ การทำธุรกิจเสื้อผ้าให้ประสบความสำเร็จ มีปัจจัยสำคัญหลายส่วน ตั้งแต่ดีไซเนอร์ ออกแบบเสื้อผ้า ส่วนการตลาด คอยคุมตำแหน่งทางการตลาด ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายขาย ปัจจัยทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนใดสำคัญกว่าส่วนใด

Special Issue

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

74

แต่จะต้องประสานกันเป็นหนึ่งเดียว คุณปิยะ ธนากิจอำนวย จึงถ่ายทอดวิชาความรู้ สร้างผู้บริหารฝีมือดีขึ้นมาดูแลสินค้าในแต่ละแบรนด์ ทุกข้อมูลสำคัญทางการตลาด รายงานวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ จะถูกทำให้เห็นภาพรวมที่เด่นชัดด้วยการช่วยกันระดมความคิดและแก้ไขสถานการณ์ในการประชุมร่วมกัน

หลากหลายแบรนด์ดัง ภายใต้ บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด

ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแล ได้แก่ AIIZ Young เป็นสินค้า Casual Wear สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงวัยรุ่น วัยสดใส Teenage อายุระหว่าง 18-25 ปี AIIZ Men สินค้า Casual Wear สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ชายวัยรุ่น อายุระหว่าง 18-25 ปี AIIZ Career กลุ่มลูกค้าผู้หญิงวัยทำงาน หรือ First Jobber อายุระหว่าง 25 ปีขึ้นไป และชอบแต่งกายแบบ Class AIIZ XII กลุ่มลูกค้าทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป AIIZ Baby กลุ่มลูกค้าเด็กแรกเกิด-3 ปี Monkey See กลุ่มลูกค้าผู้ชายและ ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสนุก สินค้าเน้นเสื้อยืดพิมพ์ลาย หรือการใช้เทคนิคพิเศษ Workshop กลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่ชอบตามแนวโน้มแฟชั่น ต้องการความแตกต่าง Scrums สินค้า Casual Wear สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่ชอบ Sport สินค้าได้ไอเดียจาก Sport มาตกแต่ง Detail ให้กับสินค้า สินค้าที่ทางบริษัทฯ ได้ License และ Franchise จากต่างประเทศ ได้แก ่Camel สินค้าที่ได้ License จากประเทศเยอรมัน เป็นสินค้า City Wear ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Adventure Wear และ VNC สินค้าที่ได้ Franchiseจากประเทศมาเลเซีย เป็นสินค้า Footwear ที่ตาม

Special Issue

งานของบริษัทฯ สวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นอย่างมาก เพราะบริษัทฯ ทำรายได้ได้ดี และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ AIIZ มีทุกวันนี้ได้ จากวันนั้นถึง วันนี้ วันที่ผ่านพ้นวิกฤตมาได้เนื่องจากวิสัยทัศน์ของ คุณปิยะ นั่นเอง ในเรื่องนี้ คุณปิยะ กล่าวว่า “ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2540 หลายบริษัทไม่-กล้าที่จะลงทุนและระงับการผลิตทั้งหมด เนื่องจากไม่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงมากขึ้นหรือไม่ แต่ AIIZ ในขณะนั้นกลับเร่งอัตราการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะสินค้าและบริการของ AIIZ จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคก็เป็นได้ และอีกปัจจัยหนึ่ง คือ สินค้าของเราเป็นสินค้าที่ง่ายต่อการบริโภคและมีคุณภาพ ตั้งแต่นั้นมา ยอดขายก็เติบโตขึ้นต่อเนื่องอย่างชัดเจน และในปี พ.ศ.2552 นี้ ยอดขายของเราน่าจะสูงขึ้นกว่าปี พ.ศ.2551 อย่างแน่นอน”

สืบเนื่องมาจากความเจริญเติบโตของธุรกิจของ บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด จึงส่งผลให้การดำเนินงานจะต้องขยายตัวอย่างรวดเร็ว คุณปิยะ กล่าวว่า “เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้เพียงพอและทั่วถึง ทาง บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด จึงมีการเพิ่มจุดขาย ในปัจจุบันมีถึง 553 จุดขาย ซึ่งถือว่ามีเยอะมาก ทุกเดือนเราจะเปิดจุดขายตลอด ดังนั้น เราจึงต้องมีการอัพเดทจุด-ขายทุกเดือน นอกจากนี้เรายังมี Retail Shops อยู่ 99 จุดขาย และหากเป็น Corner ภายในห้างสรรพสินค้ามีทั้งหมด 352 จุดขาย และมี Corner ในพลาซ่าทั้งหมด 63 จุดขาย นอกจากนี้เรายังมีจุด-ขายในตลาดต่างประเทศอีก 44 จุดขาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศอินโดนีเซีย ประเทศบรูไน ประเทศกัมพูชา ประเทศดูไบ ประเทศจอร์แดน ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศคูเวต และประเทศปากีสถาน โดยรวมยอดขายต่างประเทศจะอยู่ที่ 400 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกับ Distributor ต่างประเทศมากมาย ไม่ว่า

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

75

สินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ชั้นนำ ซึ่ง คุณ-ปิยะ กล่าวเกี่ยวกับการเลือกสรรสินค้าและมาตรฐานเพื่อให้ได้มาตรฐานระดับโลกว่า “บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด จะมีการศึกษาแนวโน้ม หรือ Trend ทางด้านแฟชั่นตลอดเวลา และเพื่อให้สินค้าและบริการมีมาตรฐานเทียบเท่านานาประเทศ ดังนั้น ในการเลือกวัตถุดิบจะเกี่ยวเนื่องกับการเลือก Trend ที่จะนำมาใช้ในแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยจะเลือกวัตถุดิบให้สอดคล้องกัน และมาตรฐานในการผลิตสินค้านั้น ทางบริษัทฯ ได้เลือกโรงงานที่มีกำลังการผลิต และมาตรฐานในการผลิตสินค้าส่งออกต่างประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจสูงสุดกับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพของเรา”

กระจายจดุขายเพือ่ตอบสนอง

ความต้องการของลูกค้า

หากพูดถึงยอดขายในแต่ละปีที่-ผ่านมา AIIZ มียอดขายที่สูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเปิดบริษัทฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 โดยในปี พ.ศ.2551 บริษัทฯ มียอดขายสูงถึง 4,200 ล้านบาท และหากย้อนไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ในช่วงวิกฤต-เศรษฐกิจปี พ.ศ.2540 ขณะนั้นบริษัทฯ ยังมีสินค้าไม่มากนัก แต่สามารถทำรายได้สูงถึง 514 ล้านบาท และถือว่าการดำเนิน-

จะเป็น Sogo Department Store ที่ประ-เทศอินโดนีเซีย Sharaf General Trading ที่ประเทศดูไบ Padini Holdings BHD ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ดังนั้น จะเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างยิ่งจึงพยายามขยายจุดขายให้ทั่วถึง สิ่งที่จะตอบคำถามได้ว่า เพราะเหตุใดจึงต้องมีจุดขายหลายจุด เพราะเราเล็งเห็นว่าของดีราคาถูกน่าจะมีน้อย แต่ถ้าต้องการให้ของดีถึงมือผู้บริโภคได้ในราคาถูกลง เราจึงต้องสั่งของดีในจำนวนมาก ๆ เพื่อให้ราคาต้นทุนถูกลง ดังนั้น ผู้บริโภคก็จะได้สินค้าราคาย่อมเยา และมีจำหน่ายทั่วถึง”

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

76

Special Issue

เทคโนโลยีในการผลิตของ

บริษัท รีโน (ประเทศไทย)

จำกัด

ด้วยความนิยมอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้บริโภค ทำให้ AIIZ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ครองตำแหน่งอันดับ Top 3 ในตลาดสินค้าเครื่องนุ่งห่ม ดังนั้น การเน้นหนักด้านเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ คุณปิยะ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การดำเนินงานที่เราทำอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของเราจะแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ด้านกรรมวิธีกระบวนการผลิต เช่น Designer เราจะเน้นหนักในด้านการศึกษาแนวโน้มแฟชั่นต่างประเทศ คิด Theme ที่จะใช้ในแต่ละฤดูกาล กำหนด Theme และกลุ่มสีที่จะใช้ในแต่ละคอล-เลกชั่น พร้อมทั้งกำหนดผ้าและวัตถุดิบที่จะใช้ และกำหนดแบบ โดยให้สัมพันธ์กับ Theme DNA และคอลเลกชั่นที่ใช้ เมื่อทาง Designer ได้แบบทั้งหมดแล้ว Pat-terner จึงกำหนด Specification Size ให้สัมพันธ์กันกับแต่ละแบบ นอกจากนี้ Buyer ยังมีการกำหนดจำนวนในการสั่งผ้าให้สัมพันธ์กันกับเป้าหมายการผลิตและวางแผนการปล่อยงานกับทางโรงงาน สำหรับ Sample Room ก็จะทำการขึ้น

ตัวอย่างสินค้าให้ตรงกับแบบ และผ้าที่ทาง Designer ต้องการ จากนั้นโรงงานจึงทำ การผลิต จะเห็นว่าการดำเนินงานของเราสอดคล้องสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ลดอัตราการเกิดความผิดพลาดในกระบวนการดำเนินงาน และเพื่อคุณภาพที่ดีของงานนั่นเอง

ทั้งนี้ AIIZ ยังมี การพัฒนาเทคโน-โลยีความเป็นเลิศในด้านการออกแบบ การวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีการวิเคราะห์สินค้าที่ขายดีและขายช้า เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเรามีทีมงานในการติดตามและศึกษา Trend แนวโน้มแฟชั่นจากทุกประเทศชั้นนำทั่วโลก เพื่อ

ศึกษาและวิจัยว่าแนวโน้มใดที่จะเหมาะ-กับผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบรนด์ โดยศึกษาจากเว็บไซต์สำคัญต่าง ๆ รวมทั้งทางทีม Product Development ได้เดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อศึกษากลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ เพื่อนำมาประยุกต์เข้ากันกับสินค้าของเรา

การพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคและการคัดเลือกผู้จัด-จำหน่าย โดยเรามีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งหมด 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ขายยังต่าง-ประเทศ ซึ่งเรามี Distributor ในแต่ละประเทศ ดังที่กล่าวข้างต้น 2. ขายโดยมีร้านค้าของเราเอง 3. ขายตามห้างสรรพ-สินค้า โดยมีทั้งระบบฝากขาย (consign-ment) และระบบซื้อขาด นอกจากนี้เรายังมีวิทยาการใหม่ ๆ ที่นำมาใช้ในกระบวน-การควบคุมมาตรฐานของสินค้าและบริการ และเรายังมีระบบ QC Quality Control ซึ่งสามารถควบคุมมาตรฐานของสินค้าได้ดี”

หลักการบริหารเพื่อมุ่งสู่

องค์การคุณภาพระดับโลก

การบริหารงานของ AIIZ เน้นการบริหารเพื่อมุ่งสู่การเป็น Mass Product ดังนั้น การดำเนินงานจึงต้องมีกลไกการบริหารที่ทันต่อสถานการณ์และเรียนรู้จากภายนอกให้มากที่สุด คุณปิยะ กล่าวสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “สืบเนื่องจากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการผลิตเสื้อผ้าในปริมาณมาก และเน้นการเป็น Mass Product ดังนั้น จึงเกิดกระบวนการที่ต้องผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อได้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองที่ดีกว่า ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมี

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

77

Special Issue

คุณภาพแต่มีราคาถูกลง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จึงทำให้เราจึงต้องเปิดจุดขายจำนวนมากนั่นเอง นอกจาก-นี้วิสัยทัศน์ในอนาคต เราจะขยายตลาดโดยส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศในแถบเอเชียตะวัน-ออกเฉียงใต้ต่อไป

นอกจากนี้เรายังเน้นหนักในเรื่องของการบริหารองค์การสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารจัดการองค์การ โดยเรามีการกำหนดบทบาทการทำงานของพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน โดยในแต่ละ Unit มีผู้จัดการที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการทำงานได้เอง และมีการวัดผลการดำเนินงานด้วย KPI เรามีนโยบายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์การ มีการพัฒนาศักยภาพของพนักงานด้านต่าง ๆ ซึ่งเรามีการเชิญวิทยากรมาฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ ให้แก่พนักงาน รวมทั้งมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่าง-ประเทศมาให้ความรู้ในเรื่องที่สำคัญ ๆ เช่น เรื่องการออกแบบ การจัดหน้าร้าน VM นอกจากนี้ยังส่งเสริมและสนับสนุนให้นัก-ออกแบบของเราเดินทางไปต่างประเทศเพื่อศึกษาดูงานด้าน Trend และงาน Fair ต่าง ๆ”

วิกฤตไม่กระทบต่อโอกาส

สืบเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2551-2552 ที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ AIIZ ที่จะฝ่าฟันวิกฤตอีกครั้ง คุณปิยะ กล่าวเกี่ยวกับกลยุทธ์การดำเนินงานว่า “สำหรับวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2551-2552 นี้ เราถือว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับข้อดีนั้น จะส่งผลให้สินค้าจากต่างประเทศไม่กล้าบุกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ดังนั้น จึงทำให้ AIIZ ไม่มีคู่แข่ง ทำให้เราสามารถตั้งหลักเพื่อรักษาสมรภูมิ สร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นได้ และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น เมื่อต่างประเทศเข้ามา บุกตลาดในบ้านเรา เราก็จะสามารถแข่งขันและมีสิทธิ์ที่จะได้รับชัยชนะได้ ส่วนข้อเสียนั้น ปัญหาเศรษฐกิจที่ เกิดขึ้นส่งผลต่อเป้าหมายในการลงทุนต่างประเทศของเรา หลายโครงการของเราจึงต้องระงับไว้ ทั้ง ๆ ที่ AIIZ เป็นแบรนด์ที่มี ชื่อเสียงติด 1 ใน Top 1,000 แบรนด์ ในเอเชียที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องนุ่งห่ม

ทั้งนี้หากพิจารณาถึงศักยภาพของเรากับคู่แข่งต่างประเทศแล้ว ต้องขอบอกว่าทุกวันนี้การ

Special Issue

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

78

ทำการตลาดในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุด เนื่องจากเรามีปัจจัยในการจำกัดในประเทศมากมาย หากผ่านการทำการตลาดในประเทศไทยจนสำเร็จแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่เราจะไปแข่งขันยังต่างประเทศ ดังนั้น คนไทยถือว่าเป็นแรงงานที่มีภูมิต้านทาน มีความรู้ มีความอดทน รวมทั้งมีเทคนิคมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในเอเชียตะวัน-ออกเฉียงใต้ด้วยกัน เราถือว่าเราไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศใดในแถบนี ้

จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ AIIZ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เนื่องจากเราสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ของคนไทยสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ จำหน่ายในราคาที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้น AIIZ จึงเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง และในอีก 5 ปีข้างหน้า AIIZ จะพัฒนาเข้าสู่องค์การแห่งความเป็นเลิศ ดังนั้น เราจะมี Standardize ในกระบวนการดำเนินงานที่ชัดเจนและเป็นระบบมากยิ่งขึ้นอีก”

CSR เพื่อผู้ด้อยโอกาสอย่างแท้จริง

การดำเนินธุรกิจจนกระทั่งประสบความสำเร็จจนปัจจุบันนี้ สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่พยายามพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีมีคุณภาพในราคาที่คนไทยจับต้องได้ สิ่งที่สะท้อนให้เห็น คือ ความตั้งมั่นในการผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อได้โดยไม่มีความลังเล และขายในราคาเหมาะสมด้วยของดี ราคาย่อมเยา ทั้งนี้ AIIZ ก็ยังไม่ลืมที่จะตอบแทนสังคมด้วยความยึดมั่นที่จะเป็นบริษัทธรรมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย คุณปิยะ กล่าวว่า “โครงการที่ AIIZ ดำเนินการนั้น มุ่งเน้นเพื่อผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดย AIIZ จัดทำโครงการต่าง ๆ มากมาย อาทิ เราได้จัดทำโครงการ AIIZ Love Charity Campaign โดยทุกวันวาเลนไทน์ของทุกปี AIIZ ผลิตเสื้อยืด โดยรายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งมอบให้มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องหัวใจ แต่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล และเราได้ร่วม-กันกับมูลนิธิกระจกเงาจัดทำโครงการอุ่นไอรัก ซึ่งเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าในร้านครบ 1,800 บาท จะได้รับผ้าห่ม เพื่อนำไปมอบให้ทางมูลนิธิฯ ซึ่งมูลนิธิฯ จะนำไปมอบให้ผู้คนบนดอยทางจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย นอก-จากนี้ยังมอบเงินสนับสนุนให้มูลนิธิชัยพฤกษ์ เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนอีกด้วย”

หากมองย้อนกลับไปกว่า 10 ปีที่แล้ว ประเทศไทยถือว่าเป็น

ประเทศที่รับจ้างผลิตสินค้าสิ่งทอและเครื่อง-นุ่งห่มเพียงอย่างเดียว ระยะต่อมาจึงได้นำแฟชั่นที่ได้รับจ้างผลิตนั้น มาเป็นแฟชั่นในเมืองไทย ซึ่งขณะนั้นภาคการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้จากการส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งขณะนั้นก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นจากการส่งออก นั่นคือ เกิดปัญหาการผูกขาดในการส่งออกเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของโควต้าในการส่งออกที่จำกัด ทำให้การดำเนินงานของกลุ่มอุต-สาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มติดขัดมาก-ยิ่งขึ้น

หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นใน ปี พ.ศ.2540 การส่งออกสินค้าประเภทสิ่ง-ทอและเครื่องนุ่งห่มก็ยังคงประสบปัญหาอยู่เช่นเดิม ในขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในเรื่องแฟชั่นมากขึ้น ด้วยประเด็นที่ว่า การสร้างเมืองไทยให้มีสีสัน ซึ่งในอดีตจะเห็นว่าผู้ชายไทยนิยมใส่เสื้อ สีขาว เพราะเหตุผลที่ว่าสีขาวเป็นสีที่สุภาพ การสร้างกระแสในเรื่องของสีจึงเกิดขึ้น แต่

คุณสฤษดิพงษ์ รัตนาพต

อดีตผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายบริหารสินค้า

บริษัท เดอะมอลล์ กรุ้ป จำกัด

Special Issue

Vol.16 N

o.1

47 January 2010

79

ผู้ผลิตบางแห่งไม่มั่นใจที่จะผลิตแฟชั่นที่มีสีสัน เพราะเคยผลิตแล้ว แต่ขายไม่ได้ เหตุเพราะที่ผ่านมายังไม่มีกระบวนการในการสร้างสีสันให้เกิดขึ้นกับแฟชั่นในประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่าทำอย่างไรจึงจะเกิดการเริ่มกระบวนการ สิ่งที่ตอบโจทย์ได้ก็คือ การเริ่มผลิตของใหม่ การผลิตสินค้าที่เป็นเสื้อสีสันจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นสินค้าใหม่ โดยเริ่มจากสีฟ้า และผลตอบรับ คือ ขายดีมาก เพราะในห้างสรรพสินค้าแห่งเดียวสามารถขายได้ถึง 17 ล้านบาท จากนั้นจึงเริ่มประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชายใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันมากยิ่งขึ้น โดยใช้สื่อมวลชน และงานทางด้านบันเทิงเข้ามาช่วยสนับสนุน ให้ดารา และพิธีกรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสัน คนเริ่มเห็นสีสันมากขึ้น และเริ่มมีมุมมองเกี่ยวกับสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่เปลี่ยนแปลงไป จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำเสื้อผ้าสีสันนั้น เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นแต่ละครั้ง โรงงานจะหยุดการผลิตทันที แต่เมื่อมีความนิยมสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันเกิดขึ้นแล้วนั้น ปรากฏว่าโรงงานไม่เคยหยุดผลิตเลย

เมื่อเรื่องสีสันประสบความสำเร็จแล้ว ต่อมาเรื่องของฤดูกาลจึงมีบทบาทมากขึ้นตามมา มีการสอบถามกันในเรื่องของช่วงเดือนในการผลิตเสื้อผ้า เช่น เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน เป็นช่วงเวลาฤดูร้อน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม เป็นช่วงฤดูหนาว หลังจากนั้นจึงได้มีการเริ่มต้นพูดคุยกับผู้ผลิตเกี่ยวกับการแบ่งช่วงของฤดูกาล ให้เกิดเป็น Creative Season ขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทุก ๆ 3 เดือน โรงงานก็จะผลิตสินค้าตามช่วงของฤดูกาล โดยผลิตในจำนวนไม่มากนัก แต่สามารถผลิตสินค้าที่ตลาดต้องการได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงงานไม่ต้องหยุดการผลิตเลย นี่คือที่มาของแฟชั่นในประเทศไทยที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และหากพูดถึงเรื่องของแฟชั่นนั้น แฟชั่นเกิดขึ้นจากผู้ผลิตผา้มากอ่นวา่จะมกีารนำผา้แบบใด หรอืชนดิใดมาขาย ซึง่ประเทศ-ไทยก็จะออกแบบตามแบบผ้าที่มีเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้เกิด Creative Economy จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยมีการสั่งให้ผู้ผลิตผ้า ผลิตตามที่ผู้ออกแบบต้องการ แฟชั่นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงและ

มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อมีการนำแนวคิด

ในเรื่องฤดูกาลเข้ามาช่วยก็ไม่ทำ ให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะยังต้องเป็น OEM เช่นเคย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมากยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายร่วมกับสถาบัน-เทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ ได้จับมือกันเพื่อก่อตั้งสถาบันแฟชั่นแห่งประเทศไทย โดยเป็นองค์การตัวแทนของประเทศไทยกับ 14 ประเทศทั่วโลก เป็นสมาชิกในองค์การ Inter Colour เพื่อร่วมกันกำหนด Trend ในแต่ละปีของแฟชั่น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตในแต่ละประเทศว่า ในปีหนึ่ง ๆ จะกำหนดสี และ Trend ในการออกแบบสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอย่างไร โดยมีการกำหนดด้วยไกด์บุ๊ค ซึ่งไกด์บุ๊คนี้หากไปซื้อที่ต่างประเทศจะมีราคาแพงมาก แต่หลังจากที่ได้ก่อตั้งสถาบันแฟชั่นแห่งประ-เทศไทย เราสามารถผลิตไกด์บุ๊คได้เอง แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาในการดำเนินงานของสถาบันฯ นั่นคือ ผู้ผลิตต้นน้ำยังไม่สามารถผลิตผ้าออกมาได้เลย เราจึงต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ผลิตต้นน้ำเพื่อให้การดำเนินการด้านแฟชั่นเติบโตได้ต่อไป

และหากพูดถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแล้ว หากแฟชัน่ไดร้บัการสนบัสนนุและเจรญิเตบิโตอยา่งตอ่เนือ่ง ยอ่มส่งผลให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทุกวันนี้การแข่งขันด้านค้าปลีกมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่หากเรามีการจัดแบ่งการผลิตออกตามฤดูกาลดังที่กล่าวข้างต้น ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การตลาดในประเทศเติบโตขึ้นได้

สิ่งที่อยากจะฝาก คือ เราจะต้องมีการจับมือกันให้ได้ระหว่างผู้ผลิตต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากนี้ยังขอฝากในเรื่องของการคิดที่แตกต่าง สิ่งที่ก่อให้เกิดความแตกต่างจะเริ่มต้นที่ “คน” ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องเริ่มก่อน นั่นคือ การสร้างคนให้คิด และทำให้เกิดความแตกต่าง หลุดออกมาจากกรอบเดิม ๆ ให้ได้ ความเจริญเติบโตก็จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

ทัศนะเรื่องความเจริญเติบโต

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จาก คุณสฤษดิพงษ์ รัตนาพต

อดีตผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ้ป จำกัด

ของ