Cashew Resize

Preview:

Citation preview

รายงานผลการศึกษา ต้นกาหยู

โดยโดย

โรงเรียนพชิัยรตันาคาร อำาเภอเมืองระนอง โรงเรียนพชิัยรตันาคาร อำาเภอเมืองระนอง จังหวดัระนอง จังหวดัระนอง

สงักัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาระนองสงักัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาระนอง

นายชเนศร์ นายชเนศร์ ตันกุล ตันกุล นายศราวธุ จันทร์ผ่องนายศราวธุ จันทร์ผ่องนายวทิวัส นายวทิวัส ตัณฑะจินะ ตัณฑะจินะ นายภาคภมูิ ตันฑสกุิจวณิชนายภาคภมูิ ตันฑสกุิจวณิชนายกิตติศักดิ์ โถวสมบัติ นายกิตติศักดิ์ โถวสมบัติ นายสริิพล ขอบใจนายสริิพล ขอบใจ

นางสาววรางรัตน์ ง่วนชูนางสาววรางรัตน์ ง่วนชู

คำำขวัญเมอืงระนองคอคอดกระ ภูเขำหญ้ำ กำหยูหวำน ธำรนำำำแร่

มขุแทเ้มอืงระนอง

มะมว่งหิมพำนต์ มะมว่งหิมพำนต์ (( กำหยูกำหยู))

พืชเศรษฐกิจของจังหพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนองวัดระนอง

วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาจากการทีค่ณะผู้จัดทำาไดเ้ล็งเห็นถึงความสำาคัญและประโยชน์ของต้นกาหยู

ดังนั้นคณะผู้จัดทำาจึงได้แบ่งกลุ่มเพื่อศึกษาส่วนประกอบของต้นกาหยู ซึ่งจะศกึษาทั้งลักษณะ

ภายนอกของต้นกาหยู การงอกของเมลด็ และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการแบ่งกลุม่สามารถแยก

ออกเป็น 7 กลุม่ ดงัต่อไปนี้กลุม่ที่ 1. ศึกษาเรื่องรากกลุม่ที่ 2. ศึกษาเรื่องลำาตน้ และ กิ่งกลุม่ที่ 3. ศึกษาเรื่องใบกลุม่ที่ 4. ศึกษาเรื่องผล และ เมล็ดกลุม่ที่ 5. ศึกษาทางด้านดอกกลุม่ที่ 6. ศึกษาทางด้านการงอกของเมล็ดกาหยูกลุม่ที่ 7. ศึกษาทางด้านภูมิปัญญาทอ้งถิ่นนอกจากนั้น

ทางคณะผู้ทำาการศึกษาได้ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับประโยชนข์องส่วนตา่งๆ

ของกาหยู และระบบนิเวศของกาหยูกับสิ่งแวดล้อมรอบข้างอีกด้วย

ประวัติ

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ผลพืน้เมืองของชาวอเมริกาใต้ปลูกกันทั่วไปตั้งแต่เม็กซโิกไป

จนถงึเปรู ต่อมาได้ขยายพนัธุ์อย่างกวา้งขวางรวมถึงใ

นแถบทวีปเอเชียด้วย ในประเทศไทยนั้นสันนิษฐานวา่

พระยารัษฎานุประดิษฐ์เป็นผู้นำาเข้ามาปลูกเป็นคนแรก ซึ่งได้นำามาจากประเทศอินเดียในปพี.ศ. 2444 พร้อมกับยางพารา

ชื่อวิทยาศาสตร ์Anacardium occidentale Linn.

ชื่อวงศ์ ANACARDIACEAE

ชื่ออื่นๆ

กะแตแก กาหยี ตำาหยาว

ท้ายล่อ มะม่วงกาสอ มะม่วงกุลา

มะม่วงทูนหนว่ย มะม่วงไม่รู้หาว นายอ มะม่วงยางหุย มะม่วงลังกา

ยาร่วงมะม่วงเล็ดล่อ มะม่วงสงิหน

มะม่วงสโิห

ราก

รากของต้นกาหยูแบง่ออกได้เปน็ 3 ชนิด

1. ระบบรากแก้ว 2. ระบบรากแขนง 3. ระบบรากฝอย

1. ระบบรากแก้ว รากแก้วเป็นรากที่มีแขนงขนาดใหญ่ที่สุดของต้นก

าหยู ชว่ยพยุงลำาต้น มีลักษณะคล้ายรูปกรวย ส่วนของรากที่ติดอยู่กับโ

คนของลำาต้น สามารถเจรญิเตบิโตเร็วแ

ละขยายใหญ่ขึ้น มักเป็นที่สะสมอาหารดว้

2. ระบบรากแขนง เป็นรากที่งอกออกมาจา

กรากแก้ว มีขนาดเล็กกว่ารากแก้ว และมีลักษณะคอ่นขา้งก

ลม ยาว จะแผอ่อกจากลำาต้นและ

รากแก้วทุกทิศทาง แต่ต้นกาหยูส่วนใหญ่จะมีรากแขนงบริเวณโคนข

องรากแก้ว ปลายรากจะมีขนาดเลก็

ที่สุด ชว่ยในการยึดเกาะหน้าดิน พยุงลำาต้นไม่ให้ล้ม

ดังนั้นต้นกาหยูจึงเป็นต้นไม้ที่มีความแข็งแรง

ทนตอ่สภาพภูมิอากาศ

3. ระบบรากฝอย เป็นรากที่มีขนาดเล็กที่สดุ รากเหล่านี้จะช่วยคำ้าจุนลำาต้น

และชว่ยยึดดนิไว้ไม่ให้ดินทะลาย จะพบมากบริเวณรอบรากที่มีขนาดเล็กที่สดุ

และจะพบมากบริเวณปลายรากแขนง รากฝอยจะมีการการงอกเป็นกระจุก

ลักษณะภายนอกจะเปน็เสน้เล็กๆหยิกๆงอๆ

ลำาต้น

ตน้กาหยเูป็นไม้ยืนต้น ลำาตน้เป็นทรงกระบอก

และตั้งตรงไดเ้อง เป็นไม้เนื้อออ่น

บริเวณเปลือกไม้มีผิวขรุขระ

ลำาตน้อ่อนจะมีสีเขียวแก่ ส่วนลำาต้นแกจ่ะมีสีนำ้าตา

ล ลำาตน้จะยืดตัวสูงขึน้เพือ่

รบัแสงแดด แต่ละต้นจะแตกต่างกนัอ

อกไปขึน้อยู่กบัอาย ุสถานที่ปลกูและ

สภาพแวดลอ้มที่ปลูก

ลำาต้นออ่น

ลำาตน้อ่อน

ใบ

มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ส่วนหน้าของใบจะมีสีเข้มกว่าด้า

นหลังใบซึง่มีสีอ่อนกว่า โดยใบออ่นจะมีลักษณะมันวาว

สามารถหักงอได้ มีสีเขียวปนนำ้าตาล

แต่พอใบแก่จะมีสีเขียวเข้ม ไมม่ีความมันวาวของใบ

ส่วนใบจะแข็งกรอบ การจัดเรยีงตัวของเส้นใบจะมีลัก

ษณะแบบรา่งแห สามารถมองเห็นเส้นใบเป็นสีใสไ

ด้ ใบเป็นแบบขอบมน ปลายใบเรียวมนจนถึงโคนใบ

เป็นแบบรปูไข ่ขณะยังเป็นต้นอ่อน

ปลายใบจะมีลักษณะเรยีวแหลมจนถึงโคนใบ

ส่วนสีของใบจะมีลักษณะคล้ายกับต้นที่เติบใหญ่แล้ว

การเรยีงตัวของใบจะเรียงตัวสลับ

หน้าใบ (ใบอ่อน)

หน้าใบ (ใบแก่)

หลงัใบ (ใบอ่อน)

หลังใบ (ใบแก่)

ขอบใบ (ใบอ่อน)

ขอบใบ (ใบแก่)

เซลล์คุมใบกาหยูเซลล์คุมใบกาหยู

ปากใบ

เซลล์คมุ

ดอก

กาหยูจะเริ่มออกดอกตัง้แต่ปลายมกราคม

ออกเป็นชอ่หลวม ๆตามปลายกิ่ง ชอ่ยาว 15 -

20 ซม. ตดิผลตั้งแตเ่ดือนกมุภาพันธ-์

พฤษภาคม เมื่อผสมแล้วดอกเริ่มร่วง

ฐานรองดอกยังมีขนาดเล็กสีเขียวเข้ม ดอกย่อยมีกลีบดอก

5 กลีบ ดอกมีเกสรตัวเมีย และ มีเกสรผู้ 8 - 10 อนั มีหนึ่งอันที่ยาวกว่าอันอื่น

ดอกออกเป็นช่อสีขาว แล้วเปลี่ยนดอกเป็น

สีแดงอมม่วงหรือ สีครีม กลิ่นหอมเอียน

ผลผลของกาหยคูล้ายชมพู่

ต้นไหนมีผลแดงก็แดงไปทั้งต้น

ต้นไหนมีผลเหลืองก็เหลืองไปทั้งต้น

ที่ปลายผลเป็นเหมือนเมล็ดสีนำ้าตาล

เปลือกแข็งรูปทรงคล้ายมะมว่งขนาด ย่อมตดิอยู่

มักคิดว่าส่วนที่พองโตเต่งนำ้าคล้ายชมพู่คอื ผล

ส่วนติ่งสีนำ้าตาลเข้มคอื เมล็ดที่หลุดออกมาอยู่นอกผล

แต่ความจริงแล้วส่วนที่เป็นเหมือนผลเป็นเพียงฐานรองดอกที่พองโตขึน้หลังจากผสมเกส

รแล้ว ส่วนที่ดูเหมือนเมล็ดที่ตดิอยู่ที่

ปลายนั้นกลับเป็นผลจริง

ผลเทียม ผลแ

ท้

ศึกษาการงอกของเมล็ดมะม่ศึกษาการงอกของเมล็ดมะม่วงหมิพานต์วงหมิพานต์

- นำาเมล็ดกาหยู 20 เมล็ด

ไปแชน่ำ้าเป็นเวลา 3 วัน- นำาเมล็ดกาหยูที่แช่นำ้าทั้ง

20 เมล็ดมาปลูก แล้วสังเกต

และบันทึกผลการศึกษาทุก 2 วนั

- วันที่ 6 จะเริ่มมีแรดิเคลิงอก

ออกจากเมล็ดกาหยู- วันที่ 8 วดัแรดิเคิลที่ออกจาก

เมล็ดกาหยูได้ 1.8 ซม.

- วันที่ 10 วัดแรดิเคลิได้ 2 ซม. และพบรากแขนง

แรดเิคิล

- วันที่ 12 วัดแรดิเคลิได้ 2.1 ซม. และไฮโปคอทิล สงู 3 ซม.

- วันที่ 14 วัดแรดิเคลิได้ 2.3 ซม.และไฮโปคอทิล สงู 4 ซม.ไฮโปคอ

ทิล

แรดเิคิล

- วันที่ 16 วัดแรดิเคลิได้

2.6 ซม.และไฮโปคอทิลสงู 5 ซม.

เริ่มมีใบเลี้ยง 2 ใบ และเปลือกหุ้ม

เมล็ดเริ่มหลุดออกเปลือกหุ้มเมล็ด

ใบเลี้ยง

ไฮโปคอทิล

แรดเิคิล

- วันที่ 18 วัดแรดิเคลิได้ 2.6ซม. มีไฮโปคอทิล สูง 6 ซม. และอิพิคอทิล สงู 3 ซม. มใีบเลี้ยง 2 ใบ ชดัเจนและเปลือกหุ้มเมล็ดหลุดออกใบเลี้ยง

เปลือกหุ้มเมล็ด

- วันที่ 20 วัดแรดิเคลิได้ 2.7 ซม.มีไฮโปคอทิล 8 ซม.และอิพิคอทิล กลายเป็นใบแท้ 4 ใบ

- วันที่ 22 วัดแรดิเคลิได้ 2.8 ซม.และไฮโปคอทิลสงู 11 ซม. และใบเลี้ยงเริ่มบางลง อิพิคอทิลส่วนที่เป็นใบแท้เริ่มเปลี่ยนจากสีนำ้าตาลเปน็สีเขียวอ่อน และเริ่มแตกปลายยอด

ใบแท้

- วันที่ 24 วดัแรดเิคลิได้ 2.9 ซม.และไฮโปคอทิล 12ซม. มีใบแท้ 6 ใบ และใบเลี้ยงยิ่งบางลงกว่าเดมิ

- วันที่ 26 วดัแรดเิคลิได้ 2.9 ซม.และไฮโปคอทิล สูง 13 ซม.

- วันที่ 28 วดัแรดิเคิล ได ้2.9 ซม.และไฮโปคอทิล สูง 14 ซม.

- วันที่ 30 วดัแรดิเคิล ได ้3.0 ซม.และไฮโปคอทิล สูง 15 ซม.

สรุปโครงสร้ำงที่งอกออกจำกเมล็ดเรียงลำำดับกำรงอกได้ดังนีำ

1. แรดเิคลิ ซึง่ตอ่ไปจะเจรญิไปเป็นราก

2. ไฮโปคอทิล ซึง่ต่อไปจะเจริญไปเป็นลำาตน้

3. อิพิคอทิล ซึง่ต่อไปจะเจริญไปเป็น

ส่วนหนึ่งของลำาตน้ ใบ ดอก ผล

ระบบนิเวศ

กาหยูเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดนิทราย พบที่บางจังหวัดของ

ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉยีงเหนือ สิ่งมีชวีติที่อยู่ร่วมกบักาหย ูไดแ้ก่ มอส

ไลเคนส์ ปลวก มด ใตโ้คนกาหยูจะพบหญ้าและวัชพืชอื่นๆมากมายหลายชนิด

สถานที่ที่เพาะปลูกกาหยูที่มชีือ่เสียงในจงัหวัดระนอง คือ กาหยูที่มา

จากเกาะพยาม และเกาะชา้ง ดว้ยลักษณะเมล็ดที่สมบูรณ์จึงทำาให้กาหยูที่นี่

แตกต่างจากเมล็ดกาหยูจากแหล่งอื่นๆ

ประโยชน์ของมะม่วงหิมพ

ำนต์

ผล

ใช้รับประทานเป็นอาหาร ทำาแยม นำ้าส้มสายช ูเครื่องดื่มและไวน์

นำ้าของผลมะม่วงหิมพานต์ ใชแ้ก้โรคกระเพาะอาเจียน คอเจ็บ ขับเหงือ่และปัสสาวะ

ใช้พอกดับพิษและแก้ลักปิดลักเปิดอีกด้วย

ไวน์จากผลกาหยู

ฐานรองดอกหั่นเป็นชิน้จิ้มกับพริกเกลือ

เปลอืกหุ้มเมลด็

นำามาสกัดได้กรดนำ้ามัน มีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมทำาผ้าเบรค แผ่นคลัช หมึกพิมพ์ นอกจากนี้ยังทำาเป็นยาแก้โรคเหน็บชา โรคเลือดคั่ง และโรคผิวหนงั

เยื่อหุ้มเมลด็ใน

ใช้เป็นอาหารสตัว์

เมลด็ในใช้รับประทานมีคณุค่าทางอาหารสงู

ใกล้เคียงกับ ไข่ นม เนื้อ เปน็แหล่งโปรตีนที่ย่อยงา่ยที่สดุ ดีกว่าพืชตระกูลถั่วทั่วๆไป และยังสามารถนำามาประยุกตใ์ห้เข้ากับอาหารต่างๆได ้นอกจากนั้นยังชว่ยแก้โรคทางผิวหนัง และบำารุงกระดูกบำารุงกำาลังอีกดว้ย

ยำาเม็ดมะม่วงหิมพานต์

บะหมี่ผดัเม็ดมะม่วงหิมพานต์

แกงไตปลามะม่วงหิมพานต์

ใบ

ใบและยอดอ่อน

รับประทานบรรเทาโรคท้องร่วง บิด ริดสีดวง

ใบแก่

นำามาบดละเอียด ใช้พอกแผลที่เกิดจากไฟไหม้หรือนำามาขยี้ ใช้สีฟัน

ลำำต้นลำาต้น

ทำาหบีใส่ของ ลงัไม้ เรือ

ยางจากเปลือกลำาต้น

ทำาหมึกประทับตราผา้ นำ้ามนัขัดเงา

เคลือบหนังสือ ทำากาว ใชร้ักษาหูด

แก้ปวดฟัน แก้ท้องเสีย

รากเป็น ยาฝาดสมานแผล และแก้ท้องร่วง

ภูมิปญัญาท้องถิ่น

ขั้นตอนการทำากาหยูคั่วมือ

1.เอากาหยูใสใ่นกระทะสงักะสีทรงสี่เหลี่ยมแบนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนแท่นก้อนหินกลางลานดิน

เริ่มคั่วด้วยการเทเม็ดกาหยูที่ยังมเีปลือกประมาณ 10 กิโลกรัมใส่กระทะแบน

ใชไ้ม้ด้ามยาวคนเม็ดกาหยูไปมาให้ทั่ว สกัพักก็เริ่มมีไฟลุกบนกระทะที่เต็มไปด้วยเม็ดกา

หยู หากไฟลุกแรงเกินไปก็วักนำ้าราดลงไปเล็กนอ้ย สักพกัไฟก็ลุกท่วมอีกวักนำ้ารดอีกแล้วคั่วต่อจนไ

ฟลุก ทำาอย่างนี้ประมาณ 3 รอบ จึงเอากระทะออกจากเตา

มาคั่วให้คลายความร้อน แล้วเทควำ่าไว้บนดิน

2. เอาเม็ดกาหยูที่เริ่มเย็นลง มาให้กับแผนกที่กะเทาะเปลือก

โดยใช้คอ้นเหล็กอันเล็กกะเทาะเปลือกออก กาหยู 10 กิโลกรัม

เมื่อกะเทาะเปลือกแล้วจะได้ประมาณ 3 กิโลกรัม

3. เอากาหยูที่กะเทาะเปลือกแล้วมาอบ โดยใช้วิธีแบบโบราณ

เริ่มด้วยเอาเม็ดกาหยูที่กะเทาะเปลือกแล้วใส่ในกะละมังแล้ววางลงบนเตาที่มีถ่านอยู่ด้านล่าง ปิดด้วยแผ่นเหล็กแบน วางถ่านร้อนๆ ลงบนแผ่นเหล็ก แล้วหมั่นฝัดกะละมัง เพื่อให้เม็ดกาหยูได้ร้อนทั่วถึง โดยประมาณ 2-3 นาท ี

ติดต่อกนัประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งจะทำาให้เม็ดกาหยูรอ้นและสุกทั่วถึงกนั

จะได้รสชาติที่หวานและหอม

4. เอาเม็ดกาหยูที่อบดีแล้วมาห่อด้วยกระดาษอกีประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกระจายให้กาหยูคลายความร้อน

และจะได้กาหยูที่กรอบสมำ่าเสมอ แล้วจึงบรรจุถุงขาย

ข้อเสนอแนะ

การเลือกซื้อเม็ดกาหยูรับประทานให้อร่อย

และรสชาติหวานมันนั้น ควรเปน็ช่วงฤดูที่กาหยูออกใหม่ๆ

เพราะกาหยูที่มีขายตลอดทั้งปีมาจากเม็ดตากแห้งที่เก็บไว้และนำามาคั่วขายรสชาติความอร่อยจะเทียบกันเม็ดกาหยูในฤดูกาลไ

ม่ได้

กำรบูรณำกำรมะม่วกำรบูรณำกำรมะม่วงหิมพำนต์งหิมพำนต์

กบักลุ่มสำระกำรเรียกบักลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิชำต่ำงๆนรู้วิชำต่ำงๆ

กำรบูรณำกำรร่วมกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำ

ศำสตร์

ผลกำรศึกษำ

สรุปผลกำรศึกษำ

1. สารสกัดจากกาหยูมีสีเขียวอ่อนขุ่นมาก สารละลายมีสมบัติเปน็กรด เพราะเปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสนีำ้าเงนิเปน็สีแดงมีค่า pH เท่ากับ 4.7 โดยวัดจาก pH – meter

2. สารสกัดจากกาหยูนำาไปแยกสารที่ไดโ้ดยวิธีโครมาโทกราฟฟีกระดาษ พบว่าได้ 1 สี คือ สเีขียวเข้ม

3. ถ้าต้องการสกัดสจีากกาหยูควรใช ้เอทิลแอลกอฮอล์เป็นตัวทำาละลาย

กำรบูรณำกำรร่วมกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำ

ไทย

อัศจรรย์ไม้สองผลไม้ยนืต้นนำมมะม่วงหิมพำนต์ต้นดำษดำรด้วยผลคล้ำยชมพู่ใหญ่

ต้นไหนผลสีเหลืองคลุมทั่วไปต้นนัำนไซร้ผลสีเหลืองมิมีแดงแต่ต้นใดมีผลสีแดงสด ต้นนัำนงดสีเหลืองสีลำำแสง

ต้นต้นนัำนจะมีแค่ผลสีแดง ดูร้อนแรงสวยสดทุกผลไปลักษณะผลพองโตและเต่งนำำำ เมล็ดคลำำำสีนำำำตำลอยูข่้ำงใต้

มีรูปคล้ำยมะม่วงติดตรึงใน เมล็ดไซร้ผุดออกมำอยูค่รึ่งหนึ่งที่เรียกผลแต่สิ่งนัำนไม่ใช่ผล ช่ำงสับสนน่ำงงตะลึงอึำง

ผลที่ว่ำสีเหลืองแดงนัำนกลับทึ่งกลำยเป็นซึ่งเพียงแค่ฐำนรอกดอกแต่ผลจริง คือ เมล็ดที่ปลำยนัำน น่ำอัศจรรย์กับผลไม้หลอก

ผลคือเม็ด เม็ดคือผล ดูกลับกลอก ไม่งงหรอกเมื่อฟังจบท่ำนเขำ้ใจ

กำำเนดิกำหยูแรกเริ่มกำรกำำเนิดต้นกำหยูมำจำกผู้อยูโ่พ้นทะเลใหญ่

ทำ่นไดน้ำำมำเพำะปลูกในเมอืงไทยนำมขำนไขคอซิมบีำ ณ ระนองถิน่ศรีตรัง คือ ดนิแดนทองแหง่แรกทำ่นนำำแจกเมล็ดพนัธุ์ใหก้ับผอง

หลังจำกนัำนไดแ้พร่หลำยถึงเมอืงทองนำมแร่นองเมอืงสวรรค์อันสมบูรณ์ศตวรรษผ่ำนล่วงเลยจำกเริ่มกำหยูเพิ่มคุณค่ำไมส่ิำนสูญ

กลำยเป็นพืชเศรษฐกิจที่จำำรูญคอยเพิม่พูนรำยได้สู่เมอืงไทยทัำงภำยในค้ำขำยส่งออกนอกมติ้องบอกมำกโขในรำยได้

อีกคั่วแกงกินเล่นเห็นบ่อยไปใบต้นไซร้ประโยชน์มำกประมำณเจ้ำกำหยูเจ้ำอยู่คู่เมอืงนองหนำอยู่จนได้ฉำยำกำหยูหวำน

หนึ่งในสิ่งทีภ่มูใิจแต่โบรำณคนกล่ำวขำนชื่อ กำหยู คู่เมอืงนอง

กำรบูรณำกำรร่วมกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปศึ

กษำ

กำรบูรณำกำรร่วมกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำ

ต่ำงประเทศ

สรุปผลที่ได้รับธรรมชาติชีวติของกาหยู

ด้านนิเวศวิทยากาหยูเป็นพืชที่เจรญิเติบโตได้ดีในดินทราย

พบสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมกบักาหยู ได้แก่ มอส ไลเคนส์ ปลวก มด ใต้โคนกาหยูจะพบหญ้าและวชัพืชอื่นๆมากมายหลายชนิด

ด้านสัณฐานวทิยารากของกาหยู ม ี3 ระบบ คือ รากแก้ว รากแขนง

และรากฝอย ซึ่งรากแก้ว จะมีขนาดใหญ่ที่สุดแลจะงอกออกมากอ่นส่วนอื่นๆ จากนั้นรากแขนง และรากฝอยจะงอกออกมาตามลำาดับ

ลำาต้นของกาหยู เป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน ลักษณะลำาต้นเป็นทรงกระบอก บริเวณเปลือกไม้มีผิวขรขุระ ลำาต้นอ่อนจะมีสีเขียวแก่ ส่วนลำาต้นแกจ่ะมีสีนำ้าตาล

ใบของกาหยู มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว หน้าใบจะมีสีเข้มกว่าหลังใบ โดยใบอ่อนจะมีลักษณะมันวาว สามารถหักงอได้ มีสีเขียวปนนำ้าตาล แต่พอใบแก่จะมีสีเขียวเข้มและไม่มีความมันวาว การจัดเรยีงตัวของเส้นใบจะมีแบบร่างแห การเรยีงตัวของใบจะเรียงตัวแบบสลับ ขอบใบเรียบ โคนใบอ่อนจะสอบ ปลายใบจะแหลม ใบมีรูปร่างแบบหอก ส่วนใบแก่ โคนใบและปลายใบจะมน ใบมีรูปร่างเป็นแบบไข่กลับ

ผลของกาหยู อยู่ที่ปลายผลเทียมเป็นเมล็ดสีนำ้าตาล เปลือกแข็งรปูทรงคล้ายมะม่วง ผลเทียมมีรปูรา่งคล้าย ชมพู่ รสฝาด ดอกของกาหยู จะออกตั้งแต่ปลายมกราคม ออกเป็นช่อหลวม ๆตามปลายกิง่ ดอกย่อยมีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีเกสรตัวเมีย และเกสรผู้ 8 - 10 อนั ดอกออกเป็นช่อสีขาว แล้วเปลี่ยนดอกเป็นสีแดงอมม่วงหรอื สีครีม มีกลิ่นหอมเอียน

สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว

รักษาโรค

มนุษย์

เป็นร่มเงา

ใบ

รากผล

ให้ก๊าซออกซิเจน

อาหาร

ผล เมล็ด

สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว

สิ่งมีชีวติ

มอส

มด

ทำารัง

ปลวก

กินราก

กินเนื้อไม้

สร้างรัง

ไลเคนส์

สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว

ภูมิปัญญาท้องถิน่

เป็นมรดกทางภูมิปัญญา

ที่สืบทอดมาตัง้แต่บรรพบุรษุ

การทำากาหยูคั่ว

สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว

การนำาไปใช้ประโยชน์

ใบ

ผล เมล็ด

ลำาต้นสมุนไพร

พอแผลไฟไหม้

คัน้นำ้าทำาไวน์

ดื่มแก้โรคกระเพาะ

อาหาร

หบี

เรือ

โรงเรียนพิชัยรัตนำคำรโรงเรียนพิชัยรัตนำคำร

ขอขอบคุณขอขอบคุณ

ทุกท่ำนทุกท่ำน