73
มมมมมมมมมมมมมมมมม มมมมมมมมม

มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

  • Upload
    lindsey

  • View
    44

  • Download
    0

Embed Size (px)

DESCRIPTION

มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่. แสวง อินทวงศ์ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 2 ศิลปศาสตรบัณฑิต(ศศ.บ.)การประถมศึกษา ศิกษาศาสตร์มหาบัณฑิต(ศษ.ม.)วิจัยและสถิติการศึกษา ครูผู้สอน 7 ปี ( 2514- 2521 ) ผู้บริหาร 4 ปี ( 2522- 2525 ) - PowerPoint PPT Presentation

Citation preview

Page 1: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

มหาวิ�ทยาลัยราชภัฏเช�ยงใหม�

Page 2: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

แสวิง อิ�นทวิงศ์�ศึ�กษานิ�เทศึกชำ�านิาญการพิ�เศึษสำ�านิ�กงานิเขตพิ��นิท��การศึ�กษาเชำ�ยงใหม่�เขต 2 ศึ�ลปศึาสำตรบั�ณฑิ�ต(ศึศึ.บั.)การประถม่

ศึ�กษา ศึ�กษาศึาสำตรม่หาบั�ณฑิ�ต(ศึษ.ม่.)วิ�จั�ยและ

สำถ�ต�การศึ�กษา คร*ผู้*,สำอนิ 7 ป. (2514- 2521)

ผู้*,บัร�หาร 4 ป. (2522- 2525)

ศึ�กษานิ�เทศึก 28 ป. (2525- 2533)

โทรศึ�พิท 053 - 255682 , 081 - 0216544E – mail [email protected]

Page 3: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข,อม่*ลนิ�กศึ�กษา

1 .ชำ��อ.................................................นิาม่สำก0ล......................................

2. ท��อย*�ป1จัจั0บั�นิ......................................................................................

..........................................................................................................

1 .โทรศึ�พิท บั,านิ.....................................สำ�านิ�กงานิ..............................

ม่�อถ�อ.................................E-mail...................................

4 วิ0ฒิ� อนิ0ปร�ญญา................................................................

ปร�ญญา.......................................สำาขา....................................

5 สำถานิท��ท�างานิ...................................................................................

Page 4: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

แนิะนิ�ารายวิ�ชำา FE 5102

ควิาม่เป3นิคร*(Teacher’Self Acturelization)

Page 5: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

คร�ในทรรศ์นะขอิงข�าพเจ้�า

Page 6: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

Philosophy เป็"นค#าสนธิ�ระหวิ�างค#าวิ�า Philos แป็ลัวิ�า ควิามรก ควิามสนใจ้ ควิามเลั&'อิมใส กบค#าวิ�า Sophia ซึ่*'งแป็ลัวิ�า ควิามร��ควิามสามารถ ควิามฉลัาด ป็.ญญา เม&'อิรวิม 2 ค#าเข�าด�วิยกน ก0จ้ะได�ค#าแป็ลัวิ�าควิามรกในควิามร��ควิามรกในควิามฉลัาด หร&อิควิามรกในควิามป็ราดเป็ร&'อิง (Love of Wisdom) ควิามหมายตามร�ป็ศ์พท�ภัาษาอิงกฤษเน�นท�'ทศ์นคต� น�สยแลัะควิามต5งใจ้ แลัะกระบวินการแสวิงหาควิามร��

Page 7: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ค#าวิ�าป็รชญา ในภัาษาไทยเป็"นค#าท�'พระวิรวิงศ์�เธิอิกรมหม&'นนราธิ�ป็พงศ์�ป็ระพนธิ�ทรงบญญต�ข*5นใช�แทนค#าวิ�า Philosophy ในภัาษาอิงกฤษ เป็"นการบญญต�เพ&'อิให�ม�ค#าภัาษาไทยวิ�าป็รชญา ใช�ค#าวิ�าป็รชญา เป็"นค#าในภัาษาสนสกฤต ป็ระกอิบด�วิยร�ป็ศ์พท� 2 ค#า ค&อิ ป็ร ซึ่*'งแป็ลัวิ�าไกลั ส�งส6ด ป็ระเสร�ฐ แลัะค#าวิ�า ชญา หมายถ*งควิามร�� ควิามเข�าใจ้ เม&'อิรวิมกนเป็"นค#าวิ�าป็รชญาจ้*งหมายถ*งควิามร��อินป็ระเสร�ฐ เป็"นควิามรอิบร�� ร��กวิ�างขวิาง ควิามหมายตามร�ป็ศ์พท�ในภัาษาไทยเน�นท�'ตวิควิามร��หร&อิผู้��ร�� ซึ่*'งเป็"นควิามร��ท�'กวิ�างขวิาง ลั*กซึ่*5ง ป็ระเสร�ฐ (ไพฑู�รย� ส�นลัารตน� 2524 : 2)

Page 8: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2. ควิามหมายโดยอิรรถ2.1 ป็รชญา ค&อิ ศ์าสตร�หน*'งท�'ม�วิตถ6ป็ระสงค�ท�'จ้ะจ้ดหมวิดหม�� หร&อิระบบควิามร��สาขาต�างๆ เพ&'อิน#ามาใช�เป็"นเคร&'อิงม&อิท#าควิามเข�าใจ้แลัะแป็ลัควิามหมายข�อิเท0จ้จ้ร�งต�างๆ อิย�างสมบ�รณ์�แบบ ป็รชญาจ้ะป็ระกอิบด�วิยวิ�ชา ตรรกวิ�ทยา จ้ร�ยศ์าสตร� ส6นทร�ศ์าสตร� อิภั�ป็รชญาแลัะศ์าสตร�ท�'วิ�าด�วิยควิามร��ท5งป็วิงขอิงมน6ษย� (Good 1959 : 395)

Page 9: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2.2 ป็รชญาค&อิ ควิามค�ดเห0นใดท�'ยงพ�ส�จ้น�ไม�ได� หร&อิยงสร6ป็ผู้ลัแน�นอินไม�ได� แต�ถ�าพ�ส�จ้น�ได�จ้นลังตวิแลั�วิก0จ้ดวิ�าเป็"นศ์าสตร� (จ้#านง ทอิงป็ระเสร�ฐ 2524 : 2) 2.3 ป็รชญาค&อิ ศ์าสตร�ชน�ดหน*'ง ท�'ม�วิตถ6ป็ระสงค�ท�'จ้ะจ้ดหมวิดหม��หร&อิแบบควิามร��สาขาต�างๆ เพ&'อิน#ามาใช�เป็"นเคร&'อิงม&อิท#าควิามเข�าใจ้แลัะแป็ลัควิามหมายข�อิเท0จ้จ้ร�งต�างๆอิย�างสมบ�รณ์�แบบ (ภั�ญโญ สาธิร 2514: 21)

Page 10: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ป็รชญาจ้ะม�ลักษณ์ะดงน�51) ท#าหน�าท�'รวิบรวิมราย

ลัะเอิ�ยดต�างๆ ขอิงโลักแลัะช�วิ�ตไวิ�ท5งหมด

2) พยายามหาค#าตอิบท�'เป็"นควิามจ้ร�งท�'เป็"นน�รนดร� สามารถอิธิ�บายส�'งต�างๆท�'เก�ดข*5นได�

3) ใช�วิ�ธิ�การทางตรรกวิ�ทยาในการค�นหาควิามจ้ร�ง ซึ่*'งเป็"นวิ�ธิ�การค�ดอิย�างม�เหต6แลัะผู้ลั

4) เน&5อิหาขอิงป็รชญาจ้ะเป็ลั�'ยนแป็ลังไป็ตามย6ค ตามสมย แลั�วิแต�วิ�าจ้ะสนใจ้ท�'จ้ะศ์*กษาในเร&'อิงใดหร&อิป็.ญหาใด อินจ้ะก�อิให�เก�ดป็ระโยชน�ต�อิมวิลัมน6ษยชาต�

Page 11: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ปร�ชำญาแบั�งออกเป3นิ 3 สำาขา ค�อ1. อิภั�ป็รชญา (Metaphysics)

หร�อ ภวิวิ�ทยา (Onthology) เป3นิการศึ�กษาเก��ยวิก�บัควิาม่จัร�ง (Reality) เพิ��อค,นิหาควิาม่จัร�งอ�นิเป3นิท��สำ*งสำ0ด (Ultimate reality) ได,แก�ควิาม่จัร�งท��เก��ยวิก�บัธรรม่ชำาต� จั�ตวิ�ญญาณ รวิม่ท��งเร��องของพิระเจั,า อ�นิเป3นิบั�อเก�ดของศึาสำนิา

Page 12: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2. ญาณ์วิ�ทยา (Epistemology) เป็"นการศ์*กษาเก�'ยวิกบเร&'อิงควิามร�� (Knowledge) ศ์*กษาธิรรมชาต�ขอิงควิามร�� บ�อิเก�ดขอิงควิามร�� ขอิบเขตขอิงควิามร�� ซึ่*'งควิามร��อิาจ้จ้ะได�มาจ้ากแหลั�งต�างๆเช�น จ้ากพระเจ้�าป็ระธิานมาซึ่*'งป็รากฏอิย��ในคมภั�ร�ขอิงศ์าสนาต�างๆจ้ากผู้��เช�'ยวิชาญท�'ท#าการศ์*กษาค�นควิ�าป็รากฏในต#ารา เก�ดจ้ากการหย'งร��เป็"นควิามร��ท�'เก�ดข*5นมาในทนท�ทนใด เช�นพระพ6ทธิเจ้�าตรสร��หร&อิเป็"นควิามร��ท�'เก�ดจ้ากการพ�จ้ารณ์าเหต6แลัะผู้ลัหร&อิได�จ้ากการสงเกต

Page 13: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3. ค6ณ์วิ�ทยา (Axiology) ศ์*กษาเร&'อิงราวิเก�'ยวิกบค6ณ์ค�าหร&อิค�าน�ยม (Value) แบ�งอิอิกเป็"น 2 ป็ระเภัท ค&อิ

3.1 จ้ร�ยศ์าสตร� (Ethics) ได�แก�ค6ณ์ค�าแห�งควิามป็ระพฤต� หลักแห�งควิามด� ควิามถ�กต�อิง เป็"นค6ณ์ค�าแห�งจ้ร�ยธิรรม เป็"นค6ณ์ค�าภัายใน

3.2 ส6นทร�ยศ์าสตร� (Anesthetics) ได�แก�ค6ณ์ค�าควิามงามทางศ์�ลัป็ะ ซึ่*'งสมพนธิ�กบจ้�ตนาการแลัะควิามค�ดสร�างสรรค� ซึ่*'งตดส�นได�ยากแลัะเป็"นอิตนย เป็"นค6ณ์ค�าภัายนอิก

Page 14: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ป็รชญาพ&5นฐานปร�ชำญาพิ��นิฐานิ ม่� 4 ล�ทธ� ได,แก�1. ลัทธิ�จ้�ตน�ยม (Idialism) เป3นิ

ล�ทธ�ปร�ชำญาท��เก�าแก�ท��สำ0ด ปร�ชำญาล�ทธ�นิ��ถ�อเร��องจั�ตเป3นิสำ��งสำ�าค�ญ ม่�ควิาม่เชำ��อวิ�าสำ��งท��เป3นิจัร�งสำ*งสำ0ดนิ��นิไม่�ใชำ�วิ�ตถ0หร�อต�วิตนิ แต�เป3นิเร��องของควิาม่ค�ดซึ่��งอย*�ในิจั�ต (Mine) สำ��งท��เราเห:นิหร�อจั�บัต,องได,นิ��นิ ย�งไม่�ควิาม่จัร�งท��แท,ควิาม่จัร�งท��แท,จัะม่�อย*�ในิโลกของจั�ต (The world of mind) แต�ละสำาขาด�งนิ��

Page 15: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

1.1 อิภั�ป็รชญา ถ�อวิ�าเป3นิจัร�ง

สำ*งสำ0ดเป3นินิาม่ธรรม่ม่ากกวิ�าร*ปธรรม่ ต,องพิ�ฒินิาคนิในิด,านิจั�ตใจัม่ากกวิ�าวิ�ตถ0

1.2 ญาณ์วิ�ทยา ถ�อวิ�าควิาม่ร* ,เก�ดจัากควิาม่ค�ดหาเหต0ผู้ล และการวิ�เคราะหแล,วิสำร,างเป3นิควิาม่ค�ดในิจั�ตใจั

1.3 ค6ณ์วิ�ทยา ถ�อวิ�าค0ณค�าควิาม่ด�ควิาม่งาม่ม่�ล�กษณะตายต�วิคงทนิถาวิรไม่�เปล��ยนิแปลง ในิด,านิจัร�ยศึาสำตร ศึ�ลธรรม่ จัร�ยธรรม่จัะไม่�เปล��ยนิแปลง สำ�วินิสำ0นิทร�ยศึาสำตรนิ��นิ การถ�ายทอดควิาม่งาม่ เก�ดจัากควิาม่ค�ดสำร,างสำรรคและอ0ดม่การณอ�นิสำ*งสำ�ง

Page 16: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

สำร0ปวิ�า ปร�ชำญาล�ทธ�จั�ตนิ�ยม่เป3นิการพิ�ฒินิาด,านิจั�ตใจั สำ�งเสำร�ม่การพิ�ฒินิาทางด,านิค0ณธรรม่ จัร�ยธรรม่ ศึ�ลปะต�างๆ การจั�ดการศึ�กษาตาม่แนิวิจั�ตนิ�ยม่จั�งเนิ,นิในิด,านิอ�กษรศึาสำตรและศึ�ลปะศึาสำตร เป3นิผู้*,ม่�ควิาม่รอบัร* ,โดยเฉพิาะต�ารา การเร�ยนิการสำอนิม่�กจัะใชำ,ห,องสำม่0ดเป3นิแหล�งค,นิควิ,าและถ�ายทอดเนิ��อหาวิ�ชำาสำ�บัต�อก�นิไป

Page 17: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2. ลัทธิ�วิตถ6น�ยม หร&อิสจ้น�ยม (Realism)เป็"นลัทธิ�ป็รชญาท�'ม�ควิามเช&'อิในโลักแห�งวิตถ6 (The world of things) ม�ควิามเช&'อิในแสวิงหาควิามจ้ร�งโดยจ้�ตตามแนวิค�ดขอิงจ้�ตน�ยมอิย�างเด�ยวิไม�พอิ ต�อิงพ�จ้ารณ์าข�อิเท0จ้จ้ร�งตามธิรรมชาต�ด�วิย ควิามจ้ร�งท�'แท�ค&อิ วิตถ6ท�'ป็รากฏต�อิสายตา สามารถสมผู้สได� ส�'งเหลั�าน�5เป็"นพ&5นฐานขอิงการศ์*กษาทางด�านวิ�ทยาศ์าสตร� บ�ดาขอิงลัทธิ�น�5ค&อิ อิร�สโตเต�ลั (Aristotle)

Page 18: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2.1 อิภั�ป็รชญาม�ควิามเช&'อิวิ�า ควิามจ้ร�งมาจ้ากธิรรมชาต� ซึ่*'งป็ระกอิบส�'งท�'เป็"นวิตถ6สามารถสมผู้สจ้บต�อิงได� แลัะพ�ส�จ้น�ได�ด�วิยวิ�ธิ�วิ�ทยาศ์าสตร�2.2 ญาณ์วิ�ทยา เช&'อิวิ�าธิรรมชาต�เป็"นบ�อิเก�ดขอิงควิามร��ท5งมวิลัควิามร��ได�มาจ้ากการได�เห0นได�สมผู้สด�วิยป็ระสาทสมผู้ส 2.3 ค6ณ์วิ�ทยา เช&'อิวิ�าธิรรมชาต�สร�างท6กส�'งท6กอิย�างมาด�แลั�วิ ในด�านจ้ร�ยศ์าสตร�ก0ควิรป็ระพฤต�ป็ฏ�บต�ตามกฎธิรรมชาต� กฎธิรรมชาต�ก0ค&อิศ์�ลัธิรรมจ้รรยา ขนบธิรรมเน�ยมป็ระเพณ์�

Page 19: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3. ล�ทธ�ประสำบัการณนิ�ยม่ (Experimentalism)เป3นิปร�ชำญาท��ม่�ชำ��ออ�กอย�างหนิ��งวิ�า ปฏิ�บั�ต�นิ�ยม่ (Pragmatism) ปร�ชำญากล0�ม่นิ��ม่�ควิาม่สำนิใจัในิโลกแห�งประสำบัการณ แต�หม่ายรวิม่ถ�งสำ��งท��ม่นิ0ษยกระท�า ค�ด และร* ,สำ�ก รวิม่ถ�งการค�ดอย�างใคร�ครวิญและการลงม่�อกระท�า ท�าให,เก�ดการเปล��ยนิแปลงในิผู้*,กระท�า กระบัวินิการท��งหม่ดท��เก�ดข��นิครบัถ,วินิแล,วิ จั�งเร�ยกวิ�าเป3นิ ประสำบัการณ

Page 20: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.1 อิภั�ป็รชญา เช&'อิวิ�าควิามจ้ร�งเป็"นโลักแห�งป็ระสบการณ์� ส�'งใดท�'ท#าให�สามารถได�รบป็ระสบการณ์�ได� ส�'งน5นค&อิควิามจ้ร�ง3.2 ญาณ์วิ�ทยา เช&'อิวิ�าควิามร��จ้ะเก�ดข*5นได�ก0ด�วิยการลังม&อิป็ฏ�บต� กระบวินการแสวิงหาควิามร��ก0ด�วิยวิ�ธิ�การทางวิ�ทยาศ์าสตร� (Scientific method)3.3 ค6ณ์วิ�ทยา เช&'อิวิ�าควิามน�ยมจ้ะเก�'ยวิกบการป็ระพฤต�ป็ฏ�บต�ทางด�านศ์�ลัธิรรม จ้รรยาเป็"นส�'งท�'มน6ษย�สร�างแลัะก#าหนดข*5นมาเอิง แลัะสามารถเป็ลั�'ยนแป็ลังได� ส�วินส6นทร�ยศ์าสตร� เป็"นเร&'อิงขอิงควิามต�อิงการแลัะรสน�ยมท�'คนส�วินใหญ�ยอิมรบกน

Page 21: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

สร6ป็วิ�า ป็รชญาลัทธิ�ป็ระสบการณ์�น�ยม เน�นให�คนอิาศ์ยป็ระสบการณ์�ในการแสวิงหาควิามเป็"นจ้ร�งแลัะควิามร��ต�าง ๆ ได�มาจ้ากป็ระสบการณ์� การศ์*กษาในแนวิลัทธิ�ป็รชญาน�5เน�นการลังม&อิกระท#าเพ&'อิหาควิามจ้ร�งด�วิยค#าตอิบขอิงตนเอิง

Page 22: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4. ลัทธิ�อิตถ�ภัาวิะน�ยม (Existentialism) ม�ควิามหมายตามศ์พท� ค&อิ Exist แป็ลัวิ�าการม�อิย�� เช�น ป็.จ้จ้6บน ม�มน6ษย�อิย��ก0เร�ยกวิ�า การม�มน6ษย�อิย��หร&อิ Exist ส�วินไดโนเสาร�ไม�ม�แลั�วิ ก0เร�ยกวิ�ามนไม� Exist ค#าวิ�าExistentialism จ้*งหมายควิามวิ�า ม�ควิามเช&'อิในส�'งท�'ม�อิย��จ้ร�งๆ เท�าน5น (The world of existing)

Page 23: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4.1 อิภั�ป็รชญา ควิามจ้ร�งเป็"นอิย�างไร ข*5นอิย��กบแต�ลัะบ6คคลัจ้ะพ�จ้ารณ์า แลัะก#าหนดวิ�าอิะไรค&อิควิามจ้ร�ง4.2 ญาณ์วิ�ทยา การแสวิงหาควิามร��ข*5นอิย��กบแต�ลัะบ6คคลัท�'จ้ะเลั&อิกสรรเพ&'อิให�สามารถด#ารงช�วิ�ตอิย��ได�4.3 ค6ณ์วิ�ทยา ท6กคนม�เสร�ภัาพท�'จ้ะเลั&อิกค�าน�ยมท�'ตนเอิงพอิใจ้ด�วิยควิามสมครใจ้ส�วินควิามงามน5นบ6คคลัจ้ะเป็"นผู้��เลั&อิกแลัะก#าหนดเอิง โดยไม�จ้#าเป็"นจ้ะต�อิงให�ผู้��อิ&'นเข�าใจ้

Page 24: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

สร6ป็วิ�า ป็รชญาลัทธิ�อิตถ�ภัาวิน�ยม เป็"นป็รชญาท�'ให�ควิามส#า คญแก�มน6ษย�วิ�าม�ควิามส#าคญส�งส6ด ม�ควิามเป็"นตวิขอิงตวิเอิง สามารถเลั&อิกกระท#าส�'งใดๆได�ตามควิามพอิใจ้ แต�จ้ะต�อิงรบผู้�ดชอิบในส�'งท�'กระท#า การศ์*กษาในแนวิลัทธิ�ป็รชญาน�5จ้ะให�ผู้��เร�ยนม�อิ�สระในการแสวิงหาควิามร�� เลั&อิกส�'งต�างๆได�อิย�างเสร� ม�การก#าหนดระเบ�ยบกฎเกณ์ฑู�ข*5นมาเอิง แต�ต�อิงรบผู้�ดชอิบต�อิตนเอิงแลัะสงคม

Page 25: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ป็รชญาการศ์*กษา

Page 26: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ควิามสมพนธิ�ระหวิ�างป็รชญากบการศ์*กษา

การศ์*กษาม�ควิามสมพนธิ�กนอิย�างมาก ป็รชญาช�วิยให�เก�ดควิามชดเจ้นทางการศ์*กษาแลัะท#าให�นกศ์*กษาสามารถด#าเน�นการทางการศ์*กษาได�อิย�างถ�กต�อิงรดก6มเพราะได�ผู้�านการพ�จ้ารณ์า วิ�พากย�วิ�เคราะห�อิย�างลัะเอิ�ยดท6กแง�ท6กม6ม ท#าให�เก�ดควิามเข�าใจ้อิย�างชดเจ้น ขจ้ดควิามไม�สอิดคลั�อิง แลัะหาทางพฒนาแนวิค�ดใหม� ให�กบการศ์*กษา

Page 27: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ควิามหมายขอิงป็รชญาการศ์*กษาม�ผู้��ให�น�ยามป็รชญาการศ์*กษา

แตกต�างกนหลัายทศ์นะดงต�อิไป็น�5จ้อิร�จ้ เอิฟ เนลัเลัอิร� (Kneller

1971 : 1) กลั�าวิวิ�า ป็รชญาการศ์*กษา ค&อิ การค�นหาควิามเข�าใจ้ในเร&'อิงการศ์*กษาท5งหมด การต�ควิามหมายโดยการใช�ควิามค�ดรวิบยอิดท'วิไป็ท�'จ้ะช�วิยแนะแนวิทางในการเลั&อิกจ้6ดม6�งหมายแลัะนโยบายขอิงการศ์*กษา

Page 28: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

เจ้มส� อิ� แมคเคลันเลัน (Mcclellan 1976) ป็รชญาการศ์*กษา ค&อิ สาขาวิ�ชาหน*'งในบรรดาสาขาต�าง ๆ ท�'ม�อิย��มากมาย อินเก�'ยวิข�อิงกบการด#ารงช�วิ�ตขอิงมน6ษย�วิ�จ้�ตร ศ์ร�สอิ�าน ป็รชญาการศ์*กษา ค&อิจ้6ดม6�งหมาย ระบบควิามเช&'อิ หร&อิแนวิควิามค�ดท�'แสดงอิอิกมาในร�ป็ขอิงอิ6ดมการณ์� หร&อิอิ6ดมคต� ท#านอิงเด�ยวิกบกบท�'ใช�ในควิามหมายขอิงป็รชญาช�วิ�ตซึ่*'งหมายถ*ง อิ6ดมการณ์�ขอิงช�วิ�ต อิ6ดมคต�ขอิงช�วิ�ต แนวิทางด#าเน�นช�วิ�ตน'นเอิง กลั�าวิโดยสร6ป็ ป็รชญาการศ์*กษาค&อิ จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษาน'นเอิง

Page 29: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ส6ม�ตร ค6ณ์าน6กร ป็รชญาการศ์*กษา ค&อิ อิ6ดมคต� อิ6ดมการณ์�อินส�งส6ด ซึ่*'งย*ดเป็"นหลักในการจ้ดการศ์*กษา ม�บทบาทในการเป็"นแม�บท เป็"นต�นก#าเน�ดควิามค�ดในการก#าหนดควิามม6�งหมายขอิงการศ์*กษาแลัะเป็"นแนวิทางในการจ้ดการศ์*กษา ตลัอิดจ้นถ*งกระบวินการในการเร�ยนการสอิน

Page 30: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

สร6ป็วิ�า ป็รชญาการศ์*กษาค&อิ แนวิควิามค�ด หลักการ แลัะกฏเกณ์ฑู� ในการก#าหนดแนวิทางในการจ้ดการศ์*กษา ซึ่*'งนกการศ์*กษาได�ย*ดเป็"นหลักในการด#าเน�นการทางการศ์*กษาเพ&'อิให�บรรลั6เป็@าหมาย นอิกจ้ากน�5ป็รชญาการศ์*กษายงพยายามท#าการวิ�เคราะห�แลัะท#าควิามเข�าใจ้เก�'ยวิกบการศ์*กษา ท#าให�สามารถมอิงเห0นป็.ญหาขอิงการศ์*กษาได�อิย�างชดเจ้น ป็รชญาการศ์*กษาจ้*งเป็ร�ยบเหม&อินเข0มท�ศ์น#าทางให�นกการศ์*กษาด#าเน�นการทางศ์*กษาอิย�างเป็"นระบบ ชดเจ้น แลัะสมเหต6สมผู้ลั

Page 31: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ลัทธิ�ป็รชญาการศ์*กษา3.1 ป็รชญาการศ์*กษาสารตถ

น�ยม (Essentialism) 3.1.1 ป็รชญาการศ์*กษาลัทธิ�น�5ให�ควิามสนใจ้ในเน&5อิหาเป็"นหลักส#าคญ

3.1.2 ป็รชญาน�5ม�ควิามเช&'อิวิ�า การศ์*กษาควิรม6�งพฒนาควิามสามารถท�'มน6ษย�ม�อิย��แลั�วิ

Page 32: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ก. จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษา ม� 2 ระดบ ค&อิ ระดบท�'กวิ�าง ได�แก�การถ�ายทอิดมรดกทางวิฒนธิรรมเพ&'อิสงคมม�ควิามเฉลั�ยวิฉลัาด ในระดบท�'แคบ ม6�งพฒนาสต�ป็.ญญาขอิงมน6ษย�เพ&'อิให�ม�ควิามเฉลั�ยวิฉลัาด ม�ควิามป็ระพฤต�ด� เป็"นแบบอิย�างท�'ด�งามขอิงคนร6�นหลัง

Page 33: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข. อิงค�ป็ระกอิบขอิงการศ์*กษา1) หลักส�ตร ย*ดเน&5อิหาวิ�ชาเป็"นส#าคญ เน&5อิหาท�'เป็"นวิ�ชาพ&5นฐาน ได�แก�ภัาษา วิ�ทยาศ์าสตร� คณ์�ตศ์าสตร� ป็ระวิต�ศ์าสตร� แลัะเน&5อิหาท�'เก�'ยวิกบศ์�ลัป็ะ ค�าน�ยม แลัะวิฒนธิรรม หลักส�ตรจ้ะเป็"นแบบแผู้นเด�ยวิกนท'วิป็ระเทศ์ แลัะจ้ดเตร�ยมโดยคร� หร&อิผู้��เช�'ยวิชาญโดยจ้ดเร�ยงลั#าดบตามควิามยากง�าย

Page 34: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2) คร� เป็"นบ6คคลัท�'ม�ควิามส#าคญอิย�างมากการศ์*กษาจ้ะต�อิงมาจ้ากคร�เท�าน5นคร�จ้ะท#าให�ผู้��เร�ยนได�รบควิามร�� เพราะคร�เป็"นผู้��ท�'ร��เน&5อิหาท�'ถ�กต�อิงท�'ส6ด คร�เป็"นผู้��ก#าหนดก�จ้กรรมในห�อิงเร�ยน การก#าหนดมาตรฐานการเร�ยนร�� คร�เป็"นต�นแบบท�'นกเร�ยนจ้ะต�อิงท#าตามเป็ร�ยบเสม&อินแม�พ�มพ�

Page 35: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3) ผู้��เร�ยน จ้ะต�อิงเป็"นผู้��ส&บทอิดค�าน�ยมไวิ�แลัะถ�ายทอิดไป็ยงคนร6�นหลัง ผู้��เร�ยนจ้ะต�อิงเช&'อิฟ.งค#าส'งสอินขอิงคร�หร&อิผู้��ใหญ�ท�'ได�ก#าหนดเน&5อิหารสาระไวิ� นกเร�ยนเป็"นผู้��รบฟ.งแลัะท#าควิามเข�าใจ้ในเน&5อิหาวิ�ชาต�างๆ แลั�วิจ้ดจ้#าไวิ� เพ&'อิจ้ะน#าไป็ถ�ายทอิดต�อิไป็ นกเร�ยนไม�จ้#าเป็"นต�อิงม�ควิามค�ดร�เร�'ม คอิยรบฟ.งอิย�างเด�ยวิแลัะจ้ดจ้#าไวิ�เท�าน5น

Page 36: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4) โรงเร�ยน ม�บทบทในการจ้ดการศ์*กษาให�สอิดคลั�อิงกบสงคม สงคมมอิบหมายให�ท#าอิย�างไรก0ให�เป็"นไป็ตามน5น หร&อิกลั�าวิอิ�กอิย�างหน*'งวิ�า โรงเร�ยนเป็"นเคร&'อิงม&อิขอิงสงคม ท#าหน�าท�'ตามท�'สงคมมอิบหมายเท�าน5น ไม�ต�อิงไป็แนะน#า หร&อิเป็ลั�'ยนแป็ลังอิย�างหน*'งอิย�างใดแก�สงคม ม�หน�าท�'อิน6รกษ�ส�'งท�'ม�อิย��แลัะถ�ายทอิดต�อิไป็ เพราะถ&อิวิ�าท6กอิย�างในสงคมด�แลั�วิ

Page 37: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

5) กระบวินการเร�ยนการสอินข*5นอิย��กบคร�เป็"นส#าคญ คร�เป็"นผู้��อิธิ�บาย ช�5แจ้งให�นกเร�ยนเข�าใจ้ วิ�ธิ�การเร�ยนการสอินจ้*งเน�นการสอินแบบบรรยายเป็"นหลัก นอิกจ้ากน�5การเร�ยนการการสอินยงฝึBกฝึนการเป็"นผู้��น#าในกลั6�ม ซึ่*'งผู้��น#าจ้ะต�อิงม�ระเบ�ยบวิ�นย ควิบค6มแลัะรกษาตนเอิงได�ด�เป็"นแบบอิย�างท�'ด� จ้ดตารางสอิน จ้ดห�อิงเร�ยน แผู้นผู้งท�'น'งในห�อิงเร�ยน คร�เป็"นผู้��ก#าหนดแต�ผู้��เด�ยวิ

Page 38: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.2 ป็รชญาการศ์*กษาน�รนตรน�ยม (Perennialism) เป็"นป็รชญาการศ์*กษาท�'ได�รบอิ�ทธิ�พลัจ้ากป็รชญาพ&5นฐานกลั6�มวิตถ6น�ยมเช�งเหต6ผู้ลั(Rational realism)

Page 39: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.2.1 แนวิควิามค�ดพ&5นฐาน ม�รากฐานมาจ้ากป็รชญา จ้�ตน�ยมแลัะป็รชญาวิตถ6น�ยม แบ�งอิอิกเป็"น 2 ทศ์นะ ค&อิ ทศ์นะแรกเน�นในเร&'อิงเหต6ผู้ลัแลัะสต�ป็.ญญา อิ�กทศ์นะหน*'งเป็"นเร&'อิงเก�'ยวิกบศ์าสนา โดยเฉพาะกลั6�ม ศ์าสนาคร�สต�น�กายโรมนคาทอิลั�ค ต5งแต� 2 ทศ์นะ เก�'ยวิข�อิงกบเหต6แลัะผู้ลั จ้นเช&'อิได�วิ�าเป็"น โลักแห�งเหต6ผู้ลั(A world of reason) ส�วินค#าวิ�าน�รนดร เช&'อิวิ�าควิามคงทนถาวิรย�อิมเป็"นจ้ร�งมาก กวิ�าส�'งท�'เป็ลั�'ยนแป็ลัง การศ์*กษาควิรสอินส�'งท�'เป็"นน�รนดร ไม�เป็ลั�'ยนแป็ลัง แลัะจ้ะเป็"นส�'งท�'ม�ค6ณ์ค�าท6กย6คท6กสมย

Page 40: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.2.2 แนวิค�ดทางการศ์*กษา เช&'อิวิ�าส�'งท�'ส#าคญท�'ส6ดขอิงธิรรมชาต�มน6ษย�ค&อิ ควิามสามารถในการใช�เหต6ผู้ลั ซึ่*'งควิามสามารถในการใช�เหต6ผู้ลัน�5จ้ะควิบค6มอิ#านาจ้ฝึCายต#'าขอิงมน6ษย�ได� เพ&'อิให�มน6ษย�บรรลั6จ้6ดม6�งหมายในช�วิ�ตท�'ป็รารถนา การศ์*กษาในแนวิป็รชญาการศ์*กษาน�รนตรน�ยม ค&อิ การจ้ดป็ระสบการณ์�ให�ได�มาซึ่*'งควิามร�� ควิามค�ดท�'เป็"นสจ้ธิรรม ม�ค6ณ์ธิรรม แลัะม�เหต6ผู้ลั

Page 41: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ก. จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษา ป็รชญาการศ์*กษาลัทธิ�น�5ม�จ้6ดม6�งหมายท�'จ้ะสร�างคนให�เป็"นคนท�'สมบ�รณ์�เพราะมน6ษย�ม�พลังธิรรมชาต�อิย��ในตวิ พลังในท�'น�5ค&อิสต�ป็.ญญา จ้ะต�อิงพฒนาสต�ป็.ญญาขอิงมน6ษย�ให�เต0มท�'

Page 42: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข. อิงค�ป็ระกอิบขอิงการศ์*กษา1) หลักส�ตร ก#าหนดโดยผู้��ร��หร&อิผู้��เช�'ยวิชาญ เป็"นหลักส�ตรท�'เน�นวิ�ชาทางศ์�ลัป็ะศ์าสตร� (Liberal arts) ซึ่*'งม�อิย�� 2 กลั6�มค&อิ กลั6�มศ์�ลัป็ะทางภัาษา (Liberacy arts) อิ�กกลั6�มหน*'งค&อิ ศ์�ลัป็ะการค#านวิณ์ (Mathematical arts)

Page 43: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2) คร� ป็รชญาการศ์*กษาน�5ม�ควิามเช&'อิวิ�าเด0กเป็"นผู้��ม�เหต6ผู้ลัแลัะม�ช�วิ�ตม�วิ�ญญาณ์ คร�จ้ะต�อิงรกษาวิ�นยทางจ้�ตใจ้ แลัะเป็"นผู้��น#าทางวิ�ญญาณ์ขอิงนกเร�ยนท6กคน คร�ต�อิงเป็"นผู้��ใฝึCร��อิย��เสมอิ เข�าใจ้เน&5อิหาวิ�ชาท�'สอินอิย�างถ�กต�อิงชดเจ้น ม�ควิามค�ดยาวิไกลั เป็"นผู้��ด�แลัรกษาระเบ�ยบวิ�นย ควิบค6มควิามป็ระพฤต�ขอิงผู้��เร�ยน เป็"นแบบอิย�างในการป็ระพฤต�ป็ฏ�บต�ท�'ด�

Page 44: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3) ผู้��เร�ยน โดยธิรรมชาต�เป็"นผู้��ม�เหต6ผู้ลัม� สต� ม�ศ์กยภัาพในตวิเอิงท�'สามารถพฒนาไป็ส��ควิามม�เหต6ผู้ลั ถ&อิวิ�าผู้��เร�ยนม�ควิามสนใจ้ใคร�เร�ยนร�� อิย��แลั�วิ ผู้��เร�ยนท6กคนม�โอิกาสเร�ยนเท�าเท�ยมกนหมด ใช�หลักส�ตรเด�ยวิกนท5งเด0กเก�งแลัะเด0กอิ�อิน ถ�าเด0กอิ�อินเข�าใจ้ช�าก0ต�อิงฝึBกฝึนบ�อิยๆ หร&อิท#าซึ่#5าๆกนเพ&'อิไป็ให�ถ*งมาตรฐานเด�ยวิกนกบเด0กเก�ง

Page 45: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4) โรงเร�ยน ไม�ม�บทบาทต�อิสงคมโดยตรง เพราะเน�นท�'ตวิบ6คคลัเป็"นหลักใหญ� เพราะถ&อิวิ�า ถ�าเก�ดการพฒนาในตวิบ6คคลัแลั�วิก0สามารถท#าให�สงคมน5นด�ข*5นด�วิยโรงเร�ยนจ้*งเป็"นเสม&อินตวิกลัางในการเตร�ยมผู้��เร�ยนให�เก�ดควิามก�าวิหน�าท�'ด�งามท�'ส6ดขอิงวิฒนธิรรมท�'ม�มาแต�อิด�ต โรงเร�ยนจ้ะสร�างบรรยากาศ์แลัะจ้ดสภัาพแวิดลั�อิมให�ม�ลักษณ์ะสร�างควิามน�ยมในวิฒนธิรรมท�'ม�อิย��แลัะเคร�งครดในระเบ�ยบวิ�นยโดยเน�นการป็ระพฤต�ป็ฏ�บต�

Page 46: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

5) กระบวินการเร�ยนการสอิน ใช�วิ�ธิ�ท�อิงจ้#าเน&5อิหาวิ�ชาต�าง ๆ แลัะฝึBกให�ใช�ควิามค�ดหาเหต6ผู้ลัโดยอิาศ์ยหลักวิ�ชาท�'เร�ยนร��ไวิ�แลั�วิเป็"นแนวิทางพ&5นฐานแห�งควิามค�ด เพ&'อิพฒนาสต�ป็.ญญาหร&อิเน�นด�านพ6ทธิ�ศ์*กษา ท�'เร�ยกวิ�า Intellectual Education

Page 47: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.3 ป็รชญาการศ์*กษาพ�พฒนาการน�ยม (Progessivism) สงครามโลักคร5งท�' 2 ป็รชญาการศ์*กษา สารตถน�ยมกลับมาได�รบควิามน�ยมอิ�ก จ้นสมาคมการศ์*กษาพ�พฒนาการน�ยมต�อิงย6บเลั�กไป็ แต�แนวิค�ดทางการศ์*กษาป็รชญาพ�พฒนาการน�ยมยงคงใช�ในสหรฐอิเมร�กา ต�อิมาได�รบควิามน�ยมมากข*5นแลัะแพร�หลัายไป็ยงป็ระเทศ์ต�าง ๆ รวิมท5งป็ระเทศ์ไทยด�วิย

Page 48: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.3.1 แนวิควิามค�ดพ&5นฐาน ป็รชญาพ�พฒนาการน�ยมม� ค#าวิ�า พ�พฒน หร&อิ Progressive หมายถ*ง ก�าวิหน�า เป็ลั�'ยนแป็ลัง ไม�หย6ด อิย��กบท�'สาระส#าคญขอิงควิามเป็"นจ้ร�งแลัะการแสวิงหาควิามร��ไม�หย6ดน�'งอิย��กบท�' แต�จ้ะเป็ลั�'ยนแป็ลังไป็ตามกาลัเวิลัาแลัะส�'งแวิดลั�อิม

Page 49: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.3.2 แนวิควิามค�ดทางการศ์*กษา ม�แนวิค�ดวิ�า การศ์*กษาค&อิช�วิ�ต ม�ใช�เป็"นการเตร�ยมตวิเพ&'อิช�วิ�ต หมายควิามวิ�า การท�'จ้ะม�ช�วิ�ตอิย��อิย�างม�ควิามส6ขจ้ะต�อิงอิาศ์ยการเข�าใจ้ควิามหมายขอิงป็ระสบการณ์�น�ยม

Page 50: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ก. จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษา ป็รชญาการศ์*กษาพ�พฒนาการน�ยม ไม�ม�จ้6ดม6�งหมายท�'ตายตวิ เพราะช�วิ�ตเป็ลั�'ยนแป็ลังอิย��เสมอิตามกระแสการเป็ลั�'ยนแป็ลังขอิงโลักวิตถ6ป็ระสงค�ขอิงการศ์*กษาก0เพ&'อิแก�ป็.ญหาท�'เก�ดข*5น

Page 51: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข. อิงค�ป็ระกอิบขอิงการศ์*กษา1) หลักส�ตร หลักส�ตรจ้ะเน�นวิ�ชาท�'เสร�มสร�างป็ระสบการณ์�ทางสงคม ตลัอิดจ้นช�วิ�ตป็ระจ้#าวิน เน&5อิหา ได�แก� สงคมศ์*กษา วิ�ชาทางภัาษา วิ�ทยาศ์าสตร� แลัะคณ์�ตศ์าสตร� แต�ควิามส#าคญขอิงการศ์*กษา พ�จ้ารณ์าในแง�ขอิงวิ�ธิ�การท�'น#ามาใช� ค&อิ กระบวินการแก�ป็.ญหาทางวิ�ทยาศ์าสตร� เพ&'อิให�ผู้��เร�ยนม�ควิามสามารถในการแก�ป็.ญหาในบทเร�ยน แลัะน#าเอิากระบวินการแก�ป็.ญหาไป็ใช�ในช�วิ�ตป็ระจ้#าวิน

Page 52: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2) คร� ไม�เป็"นผู้��อิอิกค#าส'ง แต�ท#าหน�าท�ทในการแนะแนวิทางให�แก�ผู้��เร�ยนแลั�วิจ้ดป็ระสบการณ์�ท�'ด�ท�'เหมาะสมให�แก�ผู้��เร�ยน

3) นกเร�ยน ผู้��เร�ยนจ้ะได�ป็ระสบการณ์�ด�วิยการลังม&อิกระท#าด�วิยตนเอิง (Learning bydoing) ผู้��เร�ยนจ้ะต�อิงม�อิ�สระในการเลั&อิกตดส�นใจ้แลัะต�อิงท#างานร�วิมกน (Participation) เพ&'อิให�การเร�ยนการสอินตรงกบควิามถนดควิามสนใจ้แลัะควิามสามารถขอิงผู้��เร�ยน

Page 53: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4) โรงเร�ยน ท#าหน�าท�'เป็"นแบบจ้#าลัอิงสงคม โดยเฉพาะแบบจ้#าลัอิงท�'ด�งามขอิงช�วิ�ตแลัะป็ระสบการณ์�ในสงคม โดยการจ้ดป็ระสบการณ์�ให�เหมาะสมกบวิ6ฒ�ภัาวิะขอิงผู้��เร�ยนในแต�ลัะกลั6�ม 5) กระบวินการเร�ยนการสอิน เป็"นการสอินท�'ย*ดเด0กเป็"นศ์�นย�กลัาง(Child centered) โดยให�ผู้��เร�ยนม�บทบาทมากท�'ส6ด การเร�ยนเป็"นเร&'อิงการกระท#า (Doing)มากกวิ�าร�� (Knowing) การเร�ยนการสอินจ้*งให�ผู้��เร�ยนลังม&อิกระท#าเพ&'อิให�เก�ดป็ระสบการณ์�แลัะการเร�ยนร�� การกระท#าท#าให�สามารถแก�ป็.ญหาได� คร�ต�อิงจ้ดป็ระสบการณ์�แลัะส�'งแวิดลั�อิมท�'เอิ&5อิอิ#านวิยให�ผู้��เร�ยนเก�ดการเร�ยนร��ด�วิยตนเอิง การเร�ยนการสอินใช�วิ�ธิ�การแก�ป็.ญหาแบบวิ�ทยาศ์าสตร� (Problem solving)

Page 54: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.4 ป็รชญาการศ์*กษาป็ฏ�ร�ป็น�ยม (Reconstructionism)

Page 55: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.4.1 แนวิควิามค�ดพ&5นฐาน ป็รชญาการศ์*กษาป็ฏ�ร�ป็น�ยมม�แนวิควิามค�ดท�'พฒนามาจ้ากป็รชญาพ�พฒนาการน�ยม หร&อิ ป็ฏ�บต�น�ยม ซึ่*'งม�ควิามเช&'อิวิ�า ควิามร�� ควิามจ้ร�ง เป็"นส�'งท�'เป็ลั�'ยนแป็ลังอิย��เสมอิ

Page 56: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.4.2 แนวิค�ดทางการศ์*กษา เน&'อิงจ้าการศ์*กษาม�ควิามสมพนธิ�กบสงคมอิย�างแยกไม�อิอิก การศ์*กษาจ้*งควิรน#าสงคมไป็ส��สภัาพท�'ด�ท�'ส6ด การศ์*กษาต�อิงท#าให�ผู้��เร�ยนเข�าใจ้แลัะ ม6�งม'นท�'จ้ะสร�างสงคมอิ6ดมคต�ข*5นมาให�เหมาะสมกบพ&5นฐานทางวิฒนธิรรมแลัะภัาวิะทางเศ์รษฐก�จ้ขอิงโลักย6คใหม�

Page 57: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ก. จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษา การศ์*กษาจ้ะต�อิงม6�งม'นท�'จ้ะสร�างสรรค�ระบบสงคมข*5นมาใหม�จ้ากพ&5นฐานเด�มท�'ม�อิย�� แลัะสงคมใหม�ท�'สร�างข*5นน5นจ้ะต�อิงอิย��บนรากฐานขอิงป็ระชาธิ�ป็ไตย การศ์*กษาจ้ะต�อิงส�งเสร�มการพฒนาสงคม ให�ผู้��เร�ยนน#าควิามร��ไป็พฒนาสงคมโดยตรง

Page 58: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข. อิงค�ป็ระกอิบขอิงการศ์*กษา1) หลักส�ตร เน&5อิหาวิ�ชาท�'น#ามาบรรจ้6ไวิ�ในหลักส�ตร จ้ะเก�'ยวิกบป็.ญหาแลัะสภัาพขอิงสงคมเป็"นส�วินใหญ�จ้ะเน�นวิ�ชาสงคมศ์*กษา เช�น กระบวินการทางสงคมการด#ารงช�วิ�ตในสงคม สภัาพเศ์รษฐก�จ้แลัะการเม&อิง วิ�ทยาศ์าสตร�ในช�วิ�ตป็ระจ้#าวิน ศ์�ลัป็ะในช�วิ�ตป็ระจ้#าวิน ส�'งเหลั�าน�5จ้ะท#าให�ม�ควิามเข�าใจ้ในกลัไกขอิงสงคม แลัะสามารถหาแนวิทางในการสร�างข*5นมาสงคมใหม�

Page 59: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2) คร� ท#าหน�าท�'รวิบรวิม สร6ป็ วิ�เคราะห�ป็.ญหาขอิงสงคมแลั�วิเสนอิแนวิทางให�ผู้��เร�ยนแก�ป็.ญหาขอิงสงคม คร�จ้ะต�อิงให�ผู้��เร�ยนท6กคนใส�วินร�วิมในการค�ดพ�จ้ารณ์าในการแก�ป็.ญหาต�างๆแลัะเห0นควิามจ้#าเป็"นท�'จ้ะต�อิงสร�างสรรค�สงคมข*5นมาใหม� แลัะเช&'อิม'นวิ�าจ้ะกระท#าได�โดยวิ�ถ�ทางแห�งป็ระชาธิ�ป็ไตย

Page 60: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3) ผู้��เร�ยน ป็รชญาน�5เช&'อิวิ�า ผู้��เร�ยนค&อิผู้��ท�'ม�ควิามสามารถในการวิ�เคราะห�ป็.ญหาสงคม แลัะมรควิามย6ต�ธิรรมดงน5น ผู้��เร�ยนจ้ะได�รบการป็ลั�กฝึ.งให�ตระหนกในป็.ญหาสงคมเร�ยนร��วิ�ธิ�การท#างานร�วิมกน

Page 61: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4) โรงเร�ยน ตามป็รชญาการศ์*กษาป็ฏ�ร�ป็น�ยมโรงเร�ยนจ้ะม�บทบาทต�อิสงคมโดยตรง โดยม�ส�วินในการรบร��ป็.ญหาขอิงสงคม ร�วิมกนแก�ป็.ญหาขอิงสงคม รวิมท5งสร�างสงคมใหม�ท�'เหมาะสม ด�งาม โรงเร�ยนจ้ะต�อิงใฝึCหาวิ�า อินาคตขอิงสงคมจ้ะเป็"นเช�นไร แลั�วิน#าทางให�ผู้��เร�ยนไป็พบกบสงคมใหม�

Page 62: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

5) กระบวินการเร�ยนการสอิน ม�ลักษณ์ะคลั�ายกบป็รชญาการศ์*กษาพ�พฒนาการน�ยม ค&อิ ให�ผู้��เร�ยนเร�ยนร��ด�วิยตนเอิง แลัะลังม&อิกระท#าเอิง สามารถมอิงเห0นป็.ญหาแลัะเข�าใจ้เร&'อิงราวิต�างๆ ด�วินตนเอิง โดยใช�วิ�ธิ�การต�างๆ หลัายวิ�ธิ� เช�นวิ�ธิ�การทางวิ�ทยาศ์าสตร� (Scientificmethod) วิ�ธิ�การโครงสร�าง (Project method) แลัะวิ�ธิ�การแก�ป็.ญหา (Problem solving)เป็"นเคร&'อิงม&อิ

Page 63: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.5 ป็รชญาการศ์*กษาอิตถ�ภัาวิน�ยม (Existentialism)

Page 64: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.5.1 แนวิควิามค�ดพ&5นฐาน ป็รชญาน�5ม�ควิามสนใจ้แลัะควิามเช&'อิในเร&'อิงเก�'ยวิกบการม�ช�วิ�ตอิย��จ้ร�งขอิงมน6ษย� มน6ษย�จ้ะต�อิงเข�าใจ้แลัะร��จ้กตนเอิง มน6ษย�ท6กคนม�ควิามส#าคญแลัะม�ลักษณ์ะเด�นเฉพาะตนเอิง ท6กคนม�เสร�ภัาพท�'จ้ะเลั&อิกตดส�นใจ้ในการกระท#าส�'งใดๆแต�จ้ะต�อิงรบผู้�ดชอิบต�อิการกระท#าน5น ป็รชญาอิตถ�ภัาวิน�ยมน�5ยกย�อิงมน6ษย�เหน&อิส�'งอิ&'นใด ส�งเสร�มให�มน6ษย�ม�ควิามเป็"นตวิขอิงตวิเอิงแต�ก0ต�อิงไม�มอิงข�ามเสร�ภัาพขอิงอิ&'น หมายถ*งจ้ะต�อิงเป็"นผู้��ใช�เสร�ภัาพบนควิามรบผู้�ดชอิบ เพ&'อิให�เก�ดแระโยชน�ต�อิส�วินรวิม

Page 65: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

3.5.2 แนวิควิามค�ดทางการศ์*กษา ป็รชญาอิตถ�ภัาวิน�ยมส�งเสร�มให�มน6ษย�แต�ลัะคนร��จ้กพ�จ้ารณ์าตดส�นสภัาพแลัะเจ้ตจ้#านงท�'ม�ควิามหมายต�อิการด#ารงช�วิ�ต การศ์*กษาจ้ะต�อิงให�อิ�สระแก�ผู้��เร�ยนท�'จ้ะเลั&อิกสรรส�'งต�างๆได�อิย�างเสร� ม�ควิามรบผู้�ดชอิบต�อิตนเอิงแลัะสงคม

Page 66: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

a.จ้6ดม6�งหมายขอิงการศ์*กษา การศ์*กษาจ้ะต�อิงท#าให�ผู้��เร�ยนม�

ควิามเข�าใจ้ตนเอิง วิ�าม�ควิามต�อิงการอิย�างไร แลั�วิพฒนาตนเอิงไป็ตามควิามต�อิงการอิย�างอิ�สระ รบผู้�ดชอิบในส�'งท�'เลั&อิก นอิกจ้ากน�5ยงม6�งให�ผู้��เร�ยนเป็"นผู้6�ม�วิ�นยในตนเอิง (Self discipline)

Page 67: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ข. องคประกอบัของการศึ�กษา1) หล�กสำ*ตร ไม่�ก�าหนิดตายต�วิ แต�

ต,องเป3นิหล�กสำ*ตรท��ชำ�วิยให,ผู้*,เร�ยนิเข,าใจัตนิเองได,ด�ข��นิ เนิ��อหาของหล�กสำ*ตรจัะเนิ,นิทางสำาขาม่นิ0ษยศึาสำตร (Humanities) เชำ�นิ ศึ�ลปะ ปร�ชำญาวิรรณคด� ประวิ�ต�ศึาสำตร การเข�ยนิ การละคร จั�ตรกรรม่ ศึ�ลปะประด�ษฐ

Page 68: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

2) คร� ม�บทบาทคลั�ายกบป็รชญาพ�พฒนาการน�ยม ท#าหน�าท�'คอิยกระต6�นหร&อิเร�าให�ผู้��เร�ยนต&'นตวิ ให�เข�าใจ้ตนเอิง สามารถใช�ควิามถนดแลัะควิามสามารถเฉพาะตวิอิอิกมาให�เป็"นป็ระโยชนให�มากท�'ส6ด

3) ผู้��เร�ยน ถ&อิวิ�าผู้��เร�ยนเป็"นผู้��ท�'ส#าคญท�'ส6ดในกระบวินการศ์*กษาแลัะเช&'อิวิ�าผู้��เร�ยนเป็"นผู้��ท�'ม�ควิามค�ด ม�ควิามสามารถในตนเอิงม�เสร�ภัาพอิย�างแท�จ้ร�ง เป็"นผู้��ท�เลั&อิกแนวิทางท�'จ้ะพฒนาตนเอิงด�วิยตนเอิง

Page 69: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

4)โรงเร�ยน ต�อิงสร�างบรรยากาศ์แห�งเสร�ภัาพท5งในแลัะนอิกห�อิงเร�ยนแลัะจ้ดส�'งแวิดลั�อิมให�ผู้��เร�ยนเก�ดควิามพอิใจ้ท�'จ้ะเร�ยน สร�างคนให�เป็"นตวิขอิงตนเอิง ค&อิให�นกเร�ยนเลั&อิกอิย�างอิ�สระ ส�วินแนวิทางในด�านจ้ร�ยธิรรม ทางโรงเร�ยนจ้ะไม�ก#าหนดตายตวิแต�จ้ะให�ผู้��เร�ยนได�เลั&อิกแนวิทางขอิงตนเอิง

Page 70: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

5) กระบวินการเร�ยนการสอิน เน�นการกระต6�นให�ผู้��เร�ยนเป็"นตวิขอิงตวิเอิงมากท�'ส6ด ให�ผู้��เร�ยนพบควิามเป็"นจ้ร�งด�วิยตวิเอิง เป็Dดโอิกาสให�ผู้��เร�ยนเลั&อิกเร�ยนด�วิยตนเอิงขอิงเขาเอิง การเร�ยนจ้ะต�อิงเร�ยนร��จ้ากส�'งภัายในก�อิน หมายถ*งจ้ะต�อิงให�ผู้��เร�ยนร��วิ�าตนเอิงพอิใจ้อิะไรม�ควิามต�อิงการอิะไรอิย�างแท�จ้ร�ง แลั�วิเลั&อิกเร�ยนในส�'งท�'พอิใจ้หร&อิต�อิงการ

Page 71: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

สร6ป็ ป็รชญาพ&5นฐาน เป็"นป็รชญาท�'เป็"นรากฐานในการก#าเน�ด ป็รชญาการศ์*กษา

Page 72: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่

ป็รชญาการศ์*กษาท5ง 5 ลัทธิ�ดงกลั�าวิ แต�ลัะป็รชญาจ้ะม�แนวิทางในการน#าไป็ส��การป็ฏ�บต�ท�'แตกต�างกน การน#าไป็ป็ฏ�บต�เพ&'อิให�เก�ดป็ระโยชน�ต�อิการศ์*กษา จ้ะต�อิงพ�จ้ารณ์าวิ�าแนวิทางใด จ้*งจ้ะด�ท�'ส6ด

Page 73: มหาวิทยาลัยราช ภัฏ เชียงใหม่