Upload
supaksorn-tatongjai
View
862
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
#include ......... <stdio.h>
void main()
{
statement;
………………………….;
}
1
โครงสร้างภาษาซี
Main () function ส่วนฟังกช์นัหลกั ทุก ๆ โปรแกรมจะต้องมี โปรแกรมเร่ิมท ำงำนจำกค ำสัง่แรกถดัจำก
main() แต่ละประโยคต้องจบด้วย ; เร่ิมต้นด้วย main() ตำมด้วย { และจบด้วย }
2
3
statement • ก าหนดค่าคงที่ต่างๆ
เช่น a = 0; b = 500;
• การก าหนดตัวแปรต่างๆ
เช่น int a,b; float a,b;
• ค าส่ังการท างานของโปรแกรม
เช่น printf(“My name is”);
ชนิดตัวแปร Int = จ ำนวนเต็ม + , -
float = เลขทศนิยม
char = ตัวอักษร
bool = ค่ำลอจิก ถูก/ผิด
การก าหนดชนดิขอ้มลูทีจ่ะใชใ้นโปรแกรมซึง่ตวัแปรหรอืขอ้มลูตา่ง ๆ น ัน้จะตอ้งถกูประกาศในสว่นนีก้อ่น จงึจะสามารถน าไปใช้
ในโปรแกรมได ้ เชน่ เป็นการก าหนดวา่ตวัแปร stdno เป็นขอ้มลูชนดิจ านวนเต็ม หรอื interger ซึง่อาจไดแ้กค่า่ 0,4,-1,-3,…. เป็นตน้ เป็นการก าหนดวา่ตวัแปร score เป็นขอ้มลูชนดิเลขมจีดุ ทศนยิม (floating point)ซึง่อาจมคีา่ 0.23, 1.34 เป็นตน้
ประกาศตวัแปร
int stdno;
float score;
กำรแสดงผลและรบัค่ำข้อมลูเข้ำ
6
ฟังกช์นัแสดงผลข้อมลู 1. printf()
2. putchar()
3. puts()
1. ฟังกช์นั printf(); เป็นฟังกช์นัในกำรพิมพข้์อควำมต่ำง ๆ ออกทำง
จอภำพ ต้องท ำกำร #include “stdio.h” รปูแบบ
7
printf(“ข้อความ รหัส”,ตัวแปร);
ฟังกช์นั printf : ตวัอย่ำง
8
printf(“Computer Programming 1”);
printf(“Computer\nProgramming 1”);
printf(“Result is %f”,area);
printf(“Result is\n%f”,area);
#include “stdio.h” void main() { printf(“Hello World”); //พิมพค์ ำว่ำ Hello World ออกมำ }
9
Hello World
#include “stdio.h” void main()
{ printf(“Hello\n”); printf(“World”); }
10
Hello
World
#include “stdio.h” void main() { printf(“Hello\n”); printf(“World\n”); }
11
Hello
World
ฟังกช์นั printf : รหสัแบก็สแลช
12
รหสัแบ็กสแลช อกัขระ
\a bell (กระดิง่ )
\b backspace
\t แท็บตามแนวนอน
\n ขึน้บรรทดัใหม ่
\v แท็บตามแนวต ัง้
\f ขึน้หนา้ใหม ่
\r ปดัแคร ่
\” อญัประกาศ
\’ อะโพสโตรฟิ
\? เครือ่งหมายค าถาม
\\ แบ็กสแลช
\0 นลั
ฟังกช์นั printf : รหสัควบคมุกำรพิมพ ์
13
2. ฟังกช์นั putchar() เป นฟ งก ชนัท่ีมีกำรแสดงผลทำงจอภำพครัง้ละ
1 ตวัอกัษร ต้องท ำกำร #include “stdio.h” รปูแบบ
14
putchar(variable);
ฟังกช์นั putchar : ตวัอย่ำง
15
#include “stdio.h”
void main ( ) {
char s;
s = ‘A’;
putchar(s);
}
A
3. ฟังกช์นั puts() เป นฟ งก ชนัท่ีมีกำรแสดงผลทำงจอภำพ ใช้เมื่อต องกำรแสดงผลของข อมูลท่ีเป นตวัอกัษร
ควำมยำวมำกกว ำ 1 ตวั variable หมำยถึง ข อมูลท่ีต องกำรแสดงผล จะต
องเป น ข อมลูชนิดตวัอกัษรควำมยำวตัง้แต 1 ตวัอกัษร
รปูแบบ
16
puts(variable);
ฟังกช์นั puts : ตวัอย่ำง
17
#include “stdio.h”
#include<string.h>
void main ( ) {
char str[30];
str = “C Programming”;
strcpy(str,”C programming”);
puts(str);
printf(“\nOutput = %s\n”,str);
}
C Programming
ฟังกช์นั clrscr();
18
เป็นฟังกช์นัในเคลียรจ์อภำพ ต้องท ำกำร #include “conio.h” รปูแบบ
#include <conio.h>
void main()
{
clrscr();
............... }
กำรแสดงผลและรบัค่ำข้อมลูเข้ำ
19
ฟังกช์นัรบัข้อมลูเข้ำ 1. scanf()
2. getchar()
3. getch(), getche()
4. gets()
1. ฟังกช์นั scanf() เป็นฟังกช์นัในกำรอ่ำนค่ำจำกกำรกดคียบ์อรด์ไป
เกบ็ในตวัแปรท่ีก ำหนด หลงัจำกกด Enter ข อมลูจะถกูเกบ็ไว ในตวั
แปร และเคอร เซอร จะขึน้บรรทดัใหม่ ต้องท ำกำร include “stdio.h” รปูแบบ
20
scanf(“Control String”,arg1,arg2,arg3,..);
21
scanf(“%d%f”,&a,&b);
%d%f a,b
22 30 a b …22 30….
Input Stream int a; float b; scanf(“%d%f”,&a,&b);
ฟังกช์นั Scanf : ตวัอย่ำง
22
int num; scanf(“%d”,&num); printf(“the value in num variable is %d”,num);
char str[80]; printf(“Enter a string : ”); scanf(“%s”,str); printf(“Here ‘s your string : %s”, str);
#include < stdio.h > void main ( ) { int years; printf (“How long have you been here? ”); scanf (“%d”, &years); printf (“You’ve been here for %d years.”, years); printf (“\tReally?”); }
23
How long have you been here? 20
You’ve been here for 20 years. Really?
2. ฟังกช์นั getchar() เป็นฟังกช์นัใช ส ำหรบัป อนตวัอกัษรผ ำนทำงแป
นพิมพ โดยจะรบัตวัอกัษร 1 ตวัเท ำนัน้ และแสดงตวัอกัษรบนจอภำพ
เมื่อโปรแกรมท ำงำนถึงค ำสัง่น้ี จะหยดุเพื่อให ปอนตวัอกัษร 1 ตวั หลงัจำกกด Enter ตวัอกัษรป อนจะถกูเกบ็ไว ในตวัแปร ซ่ึงเป นชนิดตวัอกัษร และเคอร เซอร จะขึน้บรรทดัใหม
รปูแบบ
24
ch = getchar();
ฟังกช์นั getchar : ตวัอย่ำง
25
#include “stdio.h”
void main ( ) {
char ch;
ch = getchar();
printf(“The Character you typed is %c\n”, ch);
}
d
The Character you typed is d
เป นฟ งก ชนัในกำรรบัข อมูล 1 อกัษรโดยจะปรำกฎตวัอกัษรให เหน็ในกำรป อนข อมูล และไม ต องกด Enter
รปูแบบ
3. ฟังกช์นั getch(),getche() เป นฟ งก ชนัในกำรรบัข อมูล 1 อกัษรโดยไม
ปรำกฎอกัษรให เหน็ในกำรป อนข อมูล และไม ต องกด Enter
รปูแบบ
26
ch = getch();
ch = getche();
ตอ้งก ำหนด #include<conio.h>
ฟังกช์นั getch : ตวัอย่ำง
27
#include “stdio.h”
#include “conio.h”
void main ( ) {
char ch;
ch = getch();
printf(“The Character you typed is %c\n”, ch);
}
The Character you typed is d
4. ฟังกช์นั gets() เป นฟ งก ชนัในกำรรบัข อมลูชนิดสตริงก
หรือข อควำมซ่ึงป อนทำงแป นพิมพ เมื่อโปรแกรมท ำงำนถึงค ำสัง่น้ี จะหยดุเพื่อให ป
อน ข อควำม หลงัจำกกด Enter ข อควำมทัง้หมดจะถกู
เกบ็ไว ในตวัแปรท่ีเป นอำร เรย สตริงก และเคอร เซอร จะขึน้บรรทดัใหม
รปูแบบ
28
gets(variable);
ฟังกช์นั gets : ตวัอย่ำง
29
#include “stdio.h”
void main ( ) {
char str[51];
gets(str);
printf(“The Message you typed is %s\n”, str);
}
test
The Message you typed is test
เครือ่งหมายทีใ่ชค้ านวณในภาษาซเีรยีกวา่ ตวัด าเนนิการ (Operator) มดีงันี ้
เครือ่งหมายทีใ่ชค้ านวณในภาษาซ ี
ตวัด ำเนนิกำร ควำมหมำย ตวัอยำ่ง ผลลพัธ ์
+ กำรบวก 6 + 8 14
- กำรลบ 7 – 5 2
* กำรคณู 3 * 4 12
/ กำรหำร 8/2 4
- ลบ (ยนูำรเีครือ่งหมำยลบ) -5 -5
% โมดลูสั
(หำเศษเหลอืจำกกำรหำร)
7 % 2 1
4 % 2 0
ท าไดโ้ดยระบชุนดิทีต่อ้งการเปลีย่นภายใน เครือ่งหมาย ( ) แลว้วางหนา้ตวัแปรหรอืขอ้มลู ทีต่อ้งการเปลีย่นแปลงชนดิ ตวัอยา่ง ถา้ในโปรแกรมภาษาซมีกีารประกาศ ตวัแปรเป็น ตอ้งการเปลีย่นตวัแปร float ไปเป็น integer ท าไดด้งันี ้
การเปลีย่นชนดิของขอ้มลู
float money;
(int) money;
นพิจนก์ าหนดคา่ (Assignment expression) เครือ่งหมายทีใ่ชก้ าหนดคา่คอื = โดยเป็นการ ก าหนดคา่ทางขวาของเครือ่งหมาย ใหก้บัตวัแปร ทีอ่ยูท่างซา้ย เชน่
นพิจนก์ าหนดคา่
j = 7+2;
k = k + 4;
หรอื
นพิจนก์ าหนดคา่
สญัลกัษณ ์ ความหมาย
> มากกวา่
< นอ้ยกวา่
>= มากกวา่หรอืเทา่กบั
<= นอ้ยกวา่หรอืเทา่กบั
== เทา่กบั
!= ไมเ่ทา่กบั
ความแตกตา่งของเครือ่งหมาย = และ == o เครือ่งหมาย = เป็นตวัก าหนดคา่ o เครือ่งหมาย == เป็นเครือ่งหมายเปรยีบเทยีบ
ตวัอยา่งเชน่ หมายถงึ เป็นการก าหนดคา่ใหก้บัตวัแปร point ใหม้คีา่เทา่กบั 44 หมายถงึ เป็นการตรวจสอบวา่คา่ point มคีา่เทา่กบั 44 หรอืไม ่
นพิจนก์ าหนดคา่
point = 44;
point == 44;
เครือ่งหมายและนพิจนเ์ปรยีบเทยีบแบบ ตรรกศาสตร ์ && หมายถงึ และ (and) | | หมายถงึ หรอื (or) ! หมายถงึ ไม ่ (not) ตวัอยา่งเชน่ จะไดค้า่ความจรงิเป็นจรงิก็ตอ่เมือ่ a และ b เป็นจรงิท ัง้คู ่ จะไดค้า่ความจรงิเป็นเท็จก็ตอ่เมือ่ a และ b เป็นเท็จท ัง้คู ่
เครือ่งหมายและนพิจนแ์บบตรรกศาสตร ์
a && b
a || b
สามารถใชเ้ครือ่งหมายตอ่ไปนีแ้ทนการเพิม่หรอื ลดคา่ของตวัแปร ++ เป็นการเพิม่คา่ใหก้บัตวัแปรทลีะ 1 -- เป็นการลดคา่ตวัแปรทลีะ 1 ตวัอยา่งเชน่ ++n เป็นการเพิม่คา่ n อกี 1 --n เป็นการลดคา่ n ลง 1 ความแตกตา่งระหวา่ง n++ และ ++n เชน่ n = 5; x = n++; จะไดค้า่ x เทา่กบั 5 แลว้คา่ n เทา่กบั 6 แตถ่า้ x = ++n; จะไดค้า่ x เทา่กบั 6
การเพิม่คา่และลดคา่ตวัแปร