Upload
others
View
2
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ว า ท ศาสตร ์R e t h o r i c a l Speech
สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแ์ละสงัคมศาสตร ์มหาวิทยาลยัราชภฏับา้นสมเดจ็เจ้าพระยา
โดยอาจารยอ์นุสรา ดีไหว้
การพดูคืออะไร
การพดู คือ
การถ่ายทอดความรู ้ ความคิด ความรูสึ้ก หรอืความต้องการ ของผูพ้ดู เพ่ือส่ือความหมาย
ไปยงัผูฟั้ง ด้วยถ้อยค า น ้าเสียง และอากปักิริยา
วาทศาสตรคื์ออะไร
วาทศาสตร ์ หมายถึง วิชาท่ีว่าด้วยศิลปะในการใช้ถ้อยค า ส านวนโวหารให้ประทบัใจ
วาทศาสตร ์ หมายถึง วิชาท่ีศึกษาพฤติกรรมของมนุษย ์ทางการส่ือสารความคิดและความรู้สึก โดยการใช้สญัลกัษณ์ต่างๆ
เช่น ภาษา เสียง กิริยาท่าทาง และบคุลิกของผูพ้ดู เป็นวิชาท่ีศึกษาเก่ียวกบัการพดูซ่ึงผูเ้รียนจะต้องเรียนรู้เก่ียวกบัศาสตร์
และศิลปะของวิชาการพดู
แนวคิดพืน้ฐานเก่ียวกบัการพดู ทุกคนพดูได้แต่อาจพดูดีไมเ่ท่ากนั
นกัพดูทีด่ไีม่จ าเป็นตอ้งมีพรสวรรค์เสมอไป
การพดูเป็นทัง้ศาสตร์และศลิป์
การฝึกพดูสามารถพฒันาได ้
ชนิดของการพดู การพดูท่ีแบ่งตามจดุมุ่งหมาย
•พดูเพ่ือให้ความรู้ •พดูเพ่ือจงูใจหรือโน้มน้าวใจ •พดูเพ่ือจรรโลงใจ
การพดูท่ีแบ่งตามวิธีการพดู
•การพดูโดยไม่มีการเตรียมล่วงหน้า
•การพดูโดยการอ่านต้นฉบบัท่ีเตรียมมา
•การพดูโดยการท่องจ าเน้ือหา •การพดูโดยจ าโครงเรื่อง
การประเมินผลการพดู ล าดบัท่ี
เกณฑก์ารพิจารณา
1 บคุลิกภาพและการแสดงออก
2 การเลือกเรื่องและเน้ือหา
3 การเรียบเรียง
4 การใช้ภาษา
5 การใช้เสียง
6 การใช้สายตาและสีหน้า
7 การใช้ท่าทางประกอบการพดู
2. การวิเคราะหผ์ูฟั้ง จ านวนผู้ฟัง
เพศของผู้ฟัง
วยัของผู้ฟัง
ระดบัการศึกษาของผู้ฟัง
อาชีพของผู้ฟัง
ภมิูหลงัทางสงัคมและฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ฟัง
เจตคติของผู้ฟัง
3. การเลือกเรื่องและเตรียมการพดู
การฝึกพดู
การสรปุ
เน้ือหา ค าน า
อารมัภบท
การประเมิน ผลการพดู
การขึน้เวที
การทกัทาย ผูฟั้ง
การเตรียม การพดู
การเลือกเรื่อง
3.1 การเลือกเรื่อง
เลือกเรื่องท่ีผู้พดู มีความรู้ ความถนัด หรือความสนใจ หรือสามารถค้นคว้าได้
เลือกเรื่องท่ีคาดว่าผู้ฟังสนใจ เหมาะแก่กาลเทศะและโอกาสในการพดูครัง้นัน้ๆ
เลือกเรื่องท่ีมีสาระประโยชน์ มีความทนัสมยั ควรค่าแก่การฟัง
จดุมุ่งหมาย : เพื่อเตรียมและน าผูฟั้งเข้าสู่เรื่อง / เพื่อจงูใจคนฟัง / กระตุ้นให้เหน็ประโยชน์จากการฟัง / เข้าใจเรื่องท่ีจะฟังต่อไป
ขึน้ต้นด้วย : ค าถาม/การกระตุ้นให้สงสยัหรืออยากรู้/การเล่าเรื่องสนุกสนาน น่าสนใจ/ การสร้างอารมณ์ขนั/ การอ้างวาทะบุคคลท่ีมีช่ือเสียง/ บทกวี ค าคม ส านวน สภุาษิต ค าพงัเพย หรือเพลง/ ตวัอย่างแปลกๆ / การช้ีให้ผูฟั้งเหน็ประโยชน์ท่ีจะได้รบั/ ข้อเทจ็จริงท่ีท าให้ผูฟั้งต้องตะลึง/ การใช้วตัถเุป็นเป้าสายตา
3.4. ค าน า หรือ อารมัภบท
3.4 ค าน า หรือ อารมัภบท (ต่อ) ส่ิงท่ีควรหลีกเล่ียงใน
การอารมัภบท
ไม่กล่าวออกตวัว่า พดูไม่เก่ง ไม่มีความรู้ หรือไม่ได้เตรียมตวัมา
ไม่พดูเย่ินเย้อ วกวน หรือออกนอกเรื่อง
ค ำน ำทีดี่ไม่ควรยำวเกิน 1 ใน 10 ของเวลำทีใ่ช้พดู
ไม่ต้องแนะน าตวัซ า้อีก เพราะบางครัง้พิธีกร
แนะน าไว้เรียบร้อยแล้ว
3.6 สรปุ
จบโดยสรปุความ : การเรียกร้อง ชกัชวน หรือกระตุ้นให้ผูฟั้งปฏิบติัตาม/ ฝากข้อคิด / ท้ิงท้ายด้วยค าถาม / บทกวี ค าคม ส านวน สภุาษิต ค าพงัเพย หรือ
เพลง
ส่ิงท่ีควรหลีกเล่ียง : สรปุเย่ินเย้อ ยืดยาว / จบไม่ลง / จบลงเฉยๆ / สรปุไม่เข้ากบัเน้ือหาท่ีพดู / สรปุด้วยการขอโทษ
ขออภยั
3.7 การฝึกพดู อ่านออกเสียงบทร่างให้เหมือนการพดูหลายๆครัง้
ขณะพดูควรสงัเกตว่าตนเองออกเสียงถกูต้องชดัเจน และเป็นธรรมชาติหรือสอดคล้องกบัเร่ืองท่ีพดูหรือไม ่
เมื่อผู้พดูพอจะจ าเรื่องได้แล้ว ทดลองยืนพดูหน้ากระจก หรือให้คนสนิทสนมคุ้นเคยฟัง
ขณะฝึกพดูควรจบัเวลาในการพดูว่าพอดีกบัเวลาท่ีได้รบัมอบหมายหรือไม่
หากผู้พดูจ าเน้ือหาไม่แม่นย าหรือไม่มัน่ใจ ควรจดเฉพาะหวัข้อตามล าดบัท่ีได้เตรียมไว้ลงกระดาษขนาดพอเหมาะ (3x5น้ิว)
**ควรฝึกซ้อมบ่อยๆ***
3.8 การขึน้เวที O ลกุขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย O เมื่อไปถึงท่ียืนพดู ให้หยดุยืนสกัครู่ รอให้เสียงปรบมือต้อนรบัซาลง แล้วจึงพดู
ตามท่ีได้ฝึกซ้อมมา โดยเร่ิมจากการทกัทายผู้ฟัง ค าน า เน้ือเร่ือง และสรปุ O ขณะพดูต้องสบตาผู้ฟังอย่างทัว่ถึง มีสีหน้าย้ิมแย้มแจ่มใส แสดงความเป็นมิตรกบั
ผู้ฟัง O ขณะอยู่บนเวทีควรหลีกเล่ียงกิริยาอาการท่ีไม่พึงประสงค ์เช่น การขยบัแว่น
บ่อยๆ เสยผมตลอดเวลา เกาศีรษะ ขยบักางเกง ขยบัเนกไท ดึงเส้ือผ้าให้เข้าท่ี เลียริมฝีปาก กะพริบตาถ่ีๆ ล้วง แคะ แกะ เกา ฯลฯ
O ขณะพดูถ้าผู้ฟังหวัเราะหรือปรบมอืแสดงความพอใจ ควรหยดุรอให้เสียงนัน้ซาลงแล้วจึงพดูต่อ
O ขณะพดูควรสงัเกตปฏิกิริยาผู้ฟังด้วย
3.9 การประเมินผลการพดู
ประโยชน์ของการประเมินการพดู
• ช่วยให้ผู้พดูปรบัปรงุแก้ไขและพฒันาการพดูให้ดีย่ิงขึ้น • ฝึกเป็นผู้มีใจกว้าง ยอมรบัฟังเหตผุลและค าวิจารณ์ของผู้อ่ืน
• ฝึกให้ผู้วิจารณ์เป็นนักฟังท่ีดี โดยตัง้ใจฟัง รู้จกัสงัเกต วิเคราะห ์และประเมินผล • ผู้วิจารณ์สามารถน ามาปรบัใช้กบัการพดูของตนเองได้
3.9 การประเมินผลการพดู (ต่อ)
หน้าท่ีของผู้วิจารณ์
ตัง้ใจฟังการพดูตัง้แต่ต้นจนจบ พร้อมบนัทึกข้อติชมไว้คร่าวๆ
วิจารณ์ด้วยเหตผุล ด้วย
หลกัเกณฑข์องการวิจารณ์และ
การใช้วิจารณญาณในการวิจารณ์
วิจารณ์ด้วยความเท่ียงธรรม ด้วยค าพดูท่ีสภุาพและ
สร้างสรรค ์
หน้าท่ีของผู้ถกูวิจารณ์
ใจกว้าง ยอมรบัฟังค าวิจารณ์ ไม่โกรธ ไม่ท้อถอย
น าข้อติชมไปปรบัปรงุแก้ไข
เพ่ือพฒันาการพดูในครัง้ต่อ
3.9 การประเมินผลการพดู (ต่อ)
• ท่าทีและการปรบัตวัโดยทัว่ไป • ค าน าและสรปุ เหมาะสมกบัเน้ือหา เวลา น่าสนใจ และ
ประทบัใจหรือไม่ • เน้ือหาสาระตรงตามจดุประสงคท่ี์ตัง้ไว้หรือไม่ • การจดัล าดบัเรื่อง • การใช้ภาษา • น ้าเสียงการใช้อวจันภาษาประกอบการพดู
หวัข้อการประเมิน
หนังสืออ้างอิง O นงลกัษณ์ สทุธวิฒันพนัธ.์ (๒๕๔๖). กลยุทธก์ารพดูใหป้ระสบ
ความส าเรจ็. กรงุเทพฯ : สนุกอ่าน.
O วศิลัยศ์ยา รดุดษิฐ.์ (๒๕๔๘). วาทวทิยาส าหรบัคร.ู กรงุเทพฯ : คณะครศุาสตร ์จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลยั.
O สมจติ ชวิปรชีา. (๒๕๓๕). วาทวทิยา. กรงุเทพฯ : ส านกัพมิพ์ แหง่จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลยั.