39
ทำไม ต้อง นมแม่ ... พญ.ปวีณำ พังสุวรรณ โรงพยำบำลทองแสนขัน อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์

Breastfeeding paeng(revised)

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: Breastfeeding paeng(revised)

ท ำไม

ตอ้ง

นมแม.่..พญ.ปวณีำ พงัสุวรรณ โรงพยำบำลทองแสนขนั อ.ทองแสนขนั จ.อุตรดิตถ์

Page 2: Breastfeeding paeng(revised)

ต่อมน ้ำนมเพ่ิมจ ำนวนและขยำยขนำดใหญ่ขึ้ น

มนุษยเ์ป็นสตัว ์เล้ียงลกูดว้ยน ้ำนม

Page 3: Breastfeeding paeng(revised)

สมัผสั

สบสำยตำ

ไออุน่จำกแม่

ปลอดภยั

Page 4: Breastfeeding paeng(revised)

The 2009 Reproductive Health Survey

โดยส ำนกังำนสถติิแห่งชำติ

Page 5: Breastfeeding paeng(revised)
Page 6: Breastfeeding paeng(revised)

เพรำะเหตใุด จึงไม่เล้ียงลกูดว้ยนมแม่?

ที่มำ : The 2009 Reproductive Health Survey โดยส ำนกังำนสถติิแห่งชำติ

Page 7: Breastfeeding paeng(revised)

ท ำควำมเขำ้ใจกบั “นมแม”่ ใหดี้กวำ่ท่ีเคย

แลว้จะเสียใจ ถำ้ไม่ไดใ้หล้กูกินนมแม่

Page 8: Breastfeeding paeng(revised)

องคก์ำรอนำมยัโลก (WHO) แนะน ำ

ถำ้ไมม่ีขอ้หำ้ม มำรดำสำมำรถใหน้มบุตรไดท้นัทีหลงัคลอด

ใหน้มแมอ่ยำ่งเดียวโดยไม่เสริมน ้ำหรืออำหำรอื่นๆ จนอำยุ 6 เดือน

จำกน้ันใหน้มแม่ร่วมกบัอำหำรเสริมตำมวยั ไดจ้นถึงอำยุ 2 ปี

Page 9: Breastfeeding paeng(revised)
Page 10: Breastfeeding paeng(revised)

ทำรก

มำรดำ

ลดตกเลือดหลงัคลอด

ลดควำมเสี่ยงมะเร็งเตำ้นม

มะเร็งรงัไข่ และโรคกระดกูพรุน

น ้ำหนกัลดเร็ว

ปลอดภยั

สำรอำหำรครบถว้น

ยอ่ยงำ่ย ถ่ำยคลอ่ง กระตุน้ล ำไส้

ช่วยดำ้นพฒันำกำรทำงสมองและสำยตำ

ช่วยลดโอกำสตดิเช้ือ

ช่วยลดโอกำสเกิดโรคภมิูแพแ้ละโรคอว้น

พฤตกิรรมและอำรมณ์

Page 11: Breastfeeding paeng(revised)

นมแม.่..ส่วนผสมท่ีลงตวั (Dynamic mixture)

สดัส่วนขององคป์ระกอบในน ้ำนมแม่

แตกต่ำงกนัตำมอำยุครรภ ์(คลอดก่อนก ำหนด, คลอดครบก ำหนด)

แตกต่ำงกนัในแต่ละชว่งเวลำกำรดดู (Foremilk, hindmilk)

แตกต่ำงกนัตำมช่วงอำยุของลกู (Colostrum, Transitional milk, mature

milk)

Page 12: Breastfeeding paeng(revised)
Page 13: Breastfeeding paeng(revised)
Page 14: Breastfeeding paeng(revised)
Page 15: Breastfeeding paeng(revised)

ส่วนประกอบใน น ้ำนมแม่

สำรอำหำร (Nutrients)

สำรตำ้นกำรติดเช้ือ (Anti-infective agents)

สำรตำ้นอนุมลูอิสระ (Antioxidants)

เอนไซม ์สำรช่วยยอ่ยและท ำลำยเชื้ อโรค (Enzymes)

สำรส่งเสริมภมูิคุม้กนัของร่ำงกำย (Nucleotides)

ฮอรโ์มนและสำรกระตุน้กำรเจริญเติบโต (Hormones and

growth factors)

Page 16: Breastfeeding paeng(revised)

สารอาหาร ใน น ้ำนมแม่

โปรตีน

ไขมนั

คำรโ์บไฮเดรต

วติำมินและแร่ธำตุ

Page 17: Breastfeeding paeng(revised)

โปรตนี ใน นมแม่

70/30

โปรตีนเวย์ (alphalactalbumin) --> ยอ่ยงำ่ย

อลั ฟำ แล็ค ตำ บู มิน ♫..♪..

Page 18: Breastfeeding paeng(revised)

โปรตนี ใน นมแม่

แมค่ลอดก่อนก ำหนด โปรตีนสงูกวำ่

หวัน ้ำนม มีโปรตีนสงู และมีอตัรำส่วนเวยโ์ปรตีนสงูกวำ่

สำรกระตุน้ภมูคุิม้กนัในล ำไส ้(IgA, Secretary IgA)

ทำรกจะสรำ้งภมูิคุม้กนัน้ีไดเ้องตั้งแต่อำยุ 4 เดือน สรำ้งสมบรูณ์ 1-2 ปี

โปรตนี ใน นมววั

อตัรำส่วนโปรตีนเคซีนสงู ยอ่ยยำก

โปรตีนเวย์ คือ beta-lactalbumin เป็นสำรท่ีท ำใหเ้กิดภำวะแพน้มววั

(Cow’s milk allergy)

ไม่มีสำรกระตุน้ภูมิคุม้กนัในล ำไส้

Page 19: Breastfeeding paeng(revised)
Page 20: Breastfeeding paeng(revised)

โปรตีน ใน นมแม่ทวัรีน

ประสำทตำ จอตำ

กำรดดูซึมไขมนั

สงัเครำะหไ์ขมนั

ส ำหรบัสมอง

คำรนิ์ทีน

นิวคลีโอไทด์

ชว่ยระบบภุมิคุม้กนั

เพิ่มกำรดดูซึมธำตุเหล็ก

ซ่อมแซมเยือ่บุล ำไส้

จุลินทรียสุ์ขภำพ

Page 21: Breastfeeding paeng(revised)

ไขมนั ใน นมแม่

ใชเ้ป็นพลงังำน

องคป์ระกอบหลกัคือ ไตรกรีเซอไรด์ ยอ่ยและดดูซึมงำ่ยกวำ่ไขมนัจำกนมววั

อุดมดว้ยกรดไขมนัชนิดสำยกลำงและยำว โดยเฉพำะสำยยำวและไมอ่ิ่มตวั

จ ำเป็นต่อกำรพฒันำสมอง ไดแ้ก่

กรดไขมนัไลโนเลอิก แอลฟ่ำไลโนเลนิก อำรำชิโดนิก และ DHA

หวัน ้ำนม (colostrum) ไขมนันอ้ยกวำ่น ้ำนมปกติ (mature milk)

น ้ำนมส่วนหลงั(hindmilk) ไขมนัมำกกวำ่น ้ำนมส่วนหนำ้(foremilk) 5

เท่ำ

Page 22: Breastfeeding paeng(revised)
Page 23: Breastfeeding paeng(revised)

คำรโ์บไฮเดรต ใน นมแม่

น ้ำตำลแล็กโทส

แล็กโทส ยอ่ยเป็น กำแลคโตส และกลโูคส

กำแลคโตส เป็นส่วนส ำคญัของกำแลคโตไลปิด และสำรซีรีโบรไซด ์ซ่ึงเป็น

สำระส ำคญัท่ีใชใ้น กำรพฒันำสมอง

น ้ำตำลโอลิโกแซคคำไรด์ (Oligosaccharide)

ควำมส ำคญัในปกป้องทำรกโดยจบักบัแบคทีเรีย ซ่ึงชว่ยป้องกนัแบคทีเรียเกำะติด

กบัเยือ่บุล ำไส้

มีมำกกวำ่ 100 ชนิด สงูกวำ่นมววั 100 เท่ำ

Page 24: Breastfeeding paeng(revised)

คำรโ์บไฮเดรต ใน นมแม่

Page 25: Breastfeeding paeng(revised)
Page 26: Breastfeeding paeng(revised)

วติำมินและแร่ธำตุ ใน นมแม่

วติำมิน A D E K C B6 : สำรตำ้นอนุมลูอิสระ

แร่ธำตุ : เหล็ก 0.3-0.5 มก./100cc ดดูซึมได ้50%

แคลเซียม 25-30 มก./100cc ดดูซึมได ้40-70%

Page 27: Breastfeeding paeng(revised)

สำรตำ้นกำรติดเชื้ อ

Antimicrobial factors

เชน่lysozymes (สมบรูณเ์มื่อ1-2 ปี)

IgA (สมบรูณเ์มื่อ1-2 ปี)

lactoferrin

Page 28: Breastfeeding paeng(revised)

ฮอรโ์มนและสำรกระตุน้กำรเจริญเติบโต ใน นมแม่

ส่วนท่ีเกี่ยวกบักำรเติบโต (maturation) เชน่

Epidermal growth factor, nerve growth factor,

insulin-like growth factor, transforming growth

factor, cytokines, immunomodulator

สำรชว่ยระบบกำรยอ่ยและฮอรโ์มนต่ำงๆ เชน่

Bile salt Stimulated Lipase (BSSL),

เอนไซม ์

ฮอรโ์มนต่ำงๆ ไดแ้ก่ Insulin growth factor, Thyroxine,

hyrotropin-releasing hormone, Cortisol

Page 29: Breastfeeding paeng(revised)

นมแม่ป้องกนัโรคภูมิแพ้

ทำรกท่ีกินนมผสมมโีอกำสเป็นโรคภมูแิพม้ำกกวำ่ทำรกกินนมแม ่2-7 เท่ำ

ทำรกอำยุ 6 เดือนแรก

มีขอ้จ ำกดัในกำรยอ่ยสลำยโปรตีนแปลกปลอม

เยือ่บุทำงเดินอำหำรยงัไมแ่ข็งแรง และยงัมีชอ่งวำ่งระหวำ่งเซลลก์วำ้งกวำ่ปกติ

น ้ำยอ่ยอำหำรยงัไม่เพียงพอ

สำรภมูิคุม้กนั ท่ีจะคอยดกัจบัของแปลกปลอม ยงัมีไมพ่อ

Page 30: Breastfeeding paeng(revised)
Page 31: Breastfeeding paeng(revised)

น ้ำนมไม่พอ?

น ้ำนมไหลน้อย?ลกูไม่อ่ิม?

Page 32: Breastfeeding paeng(revised)

ยิง่ลกูดูดนม

ยิง่สรำ้งน ้ำนม

น ้ำนมยิง่ไหล

Page 33: Breastfeeding paeng(revised)

คำถำเรียกน ้ำนม

ดดูเร็ว

ดดูครั้งละ 30 นำที

ดดูบ่อย

อยำ่งนอ้ยทุก 2 ชัว่โมง

ดดูถกูวธีิ

คำบลึกถึงลำนนม

Page 34: Breastfeeding paeng(revised)

วธีิบอกแม่วำ่ “หนูกินนมอ่ิมแลว้”

ปล่อยหวันมแมอ่อกจำกปำกเอง

นอนหลบัไดดี้ ไมง่อแง ต่ืนขึ้ นมำกินนมทุก 2-3 ชัว่โมง

น ้ำหนักลกูเพ่ิมขึ้ น

ปัสสำวะ 6-8 ครั้ง/วนั และอุจจำระ 3-4 ครั้ง/วนั

Page 35: Breastfeeding paeng(revised)

มุมนมแม่

สถำนพยำบำลใกลบ้ำ้น

หำกมีปัญหำเกี่ยวกบักำรใหน้มบุตร

ติดต่อ....

Page 36: Breastfeeding paeng(revised)

หำกคุณแม่

ตอ้งไปท ำงำนนอกบำ้น ....

Page 37: Breastfeeding paeng(revised)
Page 38: Breastfeeding paeng(revised)
Page 39: Breastfeeding paeng(revised)