View
31
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Citation preview
แผนที่เดินดิน คืออะไร?
แผนท่ีเดินดินนอกจากจะเปนเคร่ืองมือท่ีใชในการศึกษาเรียนรูและเขาถึงชุมชนอยางมีสวนรวมในเชิงบวก ไดอยางมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลแลวยังใชเปนเคร่ืองมือสรางสัมพันธภาพระหวาง ผูคน กลุมคน หนวยงานองคกรตางๆ ในทองถ่ิน ท่ีมีสวนรวมในการพัฒนาโดยใชจุดแข็งของชุมชนเปนตัวตั้ง โดยเปดโอกาสใหสมาชิกของชุมชนในทองถ่ินและกลุมคน ตลอดจนหนวยงานองคกรตางๆ จากภายนอก มีสวนรวมในการพัฒนา ในลักษณะพหุภาคีอีกดวย
เร่ิมตั้งแต การทําความรูจักกันคุนเคย การแบงปนขอมูล ศึกษาแนวคิด วิธีการทํางานและชวยเหลือกันและกัน
เราจะเห็นเสนสายความสัมพันธในชุมชนท่ีเชื่อมโยงจากกลุมทํางานกลุมเดียวกัน และจากกลุมทํางานกลุมหนึ่งไปยังอีกกลุมหนึ่งในลักษณะ เครือขาย เปนสายสัมพันธในแนวราบท่ีตางฝายตางเปนอิสระตอกัน และสามารถเชื่อมโยงกันไดแบบเพื่อน มิตรสหาย ผูสนใจในเร่ืองเดียวกัน
เคร่ืองมือชนิดนี้มีประโยชนในการศึกษาเรียนรูและเขาถึงชุมชนในเชิงบวก กลาวคือ แทนท่ีผูศึกษาจะมองชุมชนในแบบดั้งเดิมวา มีความโงเขลา เจ็บปวย ยากจน ความขาดแคลน วางเปลามีความจําเปนหรือมีแตปญหาอยางไรบางสําหรับหาจังหวะและโอกาสเขาไปทํางานในฐานะนักพัฒนา กลับพลิกมุมมอง 360 องศา มามองในมุมใหม นั่นคือมองวา ท่ีชุมชนสามารถยืนหยัดอยูไดมาชานานเพราะสมาชิกของชุมชนมีความสามารถ ทักษะ พรสวรรค หรือประสบการณไมอยางใดก็อยางหนึ่ง ท่ีทําใหสามารถอยูรวมกันไดระดับหนึ่ง การสั่งสมประสบการณรวมกันของผูคนท่ีผานวันอันทารุณ หรือวันแหงความโสมนัส มีปฏิบัติการท้ังแบบปจเจกหรือรวมกันกับผูอื่น มีบทเรียนทําใหเกิดปญญาปฏิบัติสืบทอดกันมารุนแลวรุนเลา กลายเปนภูมิปญญาทองถ่ินท่ีมีประโยชนท้ังตอตนเองและคนรอบขาง ซึ่งแสดงออกไดในเร่ืองตาง ๆอาทิ การดูแลรักษาตนเอง ครอบครัวและผูคนบานใกลเรือนเคียง การอยูรวมกันแบบชนเผา การลาสัตว การทํามาหาเล้ียงชีพ การละเลนใหเกิดสัมพันธภาพท่ีดีตอกัน และความหรรษาราเริง มีศิลปะและวิทยาการในทางวิศวกรรม สถาปตยกรรม ปฏิมากรรม หัตถกรรม ตลอดจนถึงนาฏกรรม กอเกิด
ความยืนยงและความภาคภูมิใจในอัตลักษณของชุมชนท้ังสิ้น หากชุมชนนั้นศึกษาคนควา สืบทอดท่ีดีตอ ๆกันมาตามยุคสมัยและตอยอดใหดีย่ิงขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นไมเพียงแตทําใหสมาชิกชุมชนอยูอยางเอาตัวรอดไปวันหนึ่ง ๆ แตหมายถึงความมีอารยะของชุมชนนั้น ท่ีจะยืนหยัดอยูอยางมีความหมาย และสมาชิกชองชุมชนก็ภาคภูมิใจ ท่ีไดเกิดมาในชุมชนของตนเอง
แผนท่ีเดินดินจึงเปนประโยชนตอการคนหาสินทรัพยชุมชน ทุนทางสังคมท่ีเชื่อมโยงกับยุทธศาสตรการพัฒนาในระดับทองถ่ินถึงในระดับชาติไดอยางสอดคลองและเหมาะสม
แนวทางการพัฒนาชุมชน แบบ เปลี่ยนมุมมอง 360 องศา
จากเดิมท่ีใชจุดออนและภัยคุกคามเปนฐาน มาเปน การใชจุดแย็นและโอกาสดีเปนฐาน
เร่ิมจากการศึกษา เรียนรูชุมชนในเชิงบวก …….
ริเร่ิมจากชาวบาน รวมกอสานกับชุมชน
เรียนรูจากใจคนรับรูคน คิดอะไร
รองรับความตองการไมหักหาญซ่ึงนํ้าใจ
ประชามิใชไพร พึงกาวไปคูเคียงกัน
เร่ิมจากท่ีเขารูไมลบหลูหรือเหยียดหยัน
รวมคิดจิตผูกพัน รวมสรางสรรคสิ่งมุงหมาย
เสริมสรางจากขางใน กําลังใจไมคลอนคลาย
ชีวีมีความหมาย เราลิขิตชะตาเรา
มาเถิดพ่ีนองขารวมฟนฝาท้ังหนักเบา
กําลังเปนชองเรายิ่งออกแรงยิ่งแข็งขัน
บทบาทของชาติใหมราษฎรรัฐไทยไปดวยกัน
ดวยหวังตางมุงมั่นพัฒนาประชาสังคม
จากน้ันรวมกันจัดทําแผนท่ีเดินดินโดยกระบวนการ.....
ริเร่ิมจากรากหญาหาชาวบาน เรียนรูความคิดอาน ผลงาน วัตรปฏิบัติท่ีดี
เรียนรูจากท่ีเขามี จากคุณความดี ความงาม ดวยความเคารพ
ชวยใหเขาไดคนพบ สิ่งหวังประสพ พานพบ ความใฝฝนอันยิ่งใหญ
รวมกันเสริมสรางทางสายใหม ระเบิดจากภายใน รวมใจ บุกบั่นประสานผล
สรางจากฐานคิดจิตเปนกุศล ศักดิ์ศรีของความเปนคน กอเกิดชุมชนเขมแข็ง
.................................................................................................................................
แลวใชทุนทางสังคม และสินทรัพยชุมชนท่ีคนพบรวมกัน ผลุดพรายนวัตกรรมสังคมควบคุมและเปลี่ยนแปลงชุมชนของตนเอง
คุณลักษณะท่ีดีของแผนท่ีเดินดิน
• แสดงโลกของชาวบาน วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน• แสดงถึงศักยภาพของชุมชน สินทรัพยชุมชน ทุนทางสังคม• เปนเคร่ืองมือศึกษาชุมชนในเชิงบวก• มีความเปนพลวัตสามารถเปลี่ยนไปไดตามบริบท• บอกถึงความเปนเครือขายการทํางานของชาวบานในชุมชน• แสดงวิสัยทัศนของชุมชนในการพัฒนารวมกัน• มันสามารถตอเติมเสริมแตงไดตามกลเวลาและวตัถุประสงคการใชงาน
• ใชวัสดุท่ีหาไดในพ้ืนท่ีมาประกอบหรือประดับใหเขาใจไดงายเชนเมล็ดพันธพืช ผลไมใบไม ฯลฯ
• ในบางขณะมันสามารถพูดไดเมื่อมองอยางพินิจ โดยไมตองอธิบาย และอธิบายเพ่ิมเติมไดงาย
แผนที่เดินดินเกีย่วของกับวิจัยเพ่ือทองถ่ินอยางไร?
ในพื้นท่ีตางๆ ท่ีมีการปรับเปล่ียนวิถีชีวิตมาจาก อดีต จนถึงปจจุบัน ซึ่งลวนผูกพันกับลักษณะการเปล่ียนแปลงทางกายภาพของเมืองและชุมชนตางๆ แทบท้ังสิ้น
ประกอบกับการพัฒนาประเทศในชวงท่ีผานมา ไดมุงเนน และใหความสําคญักับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมอยาง รวดเร็ว ทําใหรากฐานเดิมท่ีเคยมีเคยเปนในอดีตออนแอลง
โดยเฉพาะ ดานเกษตร ขณะท่ีลัทธิบริโภคนิยมก็ขยายตัวขึ้น แตก็มิอาจปฎิเสธไดวาพัฒนาการและความเปล่ียนแปลงของเมืองและชนบทมีความ สัมพันธกัน เก่ียวของกัน มาตลอด ในทุกๆดาน โดยเฉพาะในยุคท่ีการสื่อสารไรพรมแดนเชนปจจุบัน ภาวการณท่ีเกิดขึ้น
จึงมีความจําเปนอยางย่ิงท่ีคนทํางานทางสังคมอยางเชน คนทํางานวิจัยทองถ่ิน พี่เล้ียง นักวิจัยเจาหนาท่ีสวนงานตางๆ และนักวิจัยทองถ่ิน รวมถึงตัวชุมชนเอง จะตองมีเคร่ืองมือในการทํางาน ท่ีจะนําไปสูการเสริมสรางพลังชุมชน ใหชุมชนดํารงอยูอยางมีเสถียรภาพในสภาพท่ีการเปล่ียนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา
การดําเนินโครงการใดๆก็ตามในทองถ่ินการคนหาทุนทางสังคมของพื้นท่ีมีความสําคัญ มาก ในฐานะท่ีทุนทางสังคมเปรียบเสมือนเข็มทิศในการวางตําแหนง ของโครงการไดอยางถูกจังหวะและโอกาส รวมท้ังเปนเสมือนการชวยทําใหเปาหมายของโครงการมีความชัดเจนมากขึ้น แผนท่ีเดินดินสามารถเปนเคร่ืองมือในการเชื่อมโยง สถานการณทางสังคม เชื่อมโยงความสัมพันธของคน กลุมคน องคกรตางๆ เพื่อสรางกระบวนการเรียนรู สรางการมีสวนรวม และนําไปสูการ
ขับเคล่ือนสังคมของชุมชนเอง ซึ่งเปนฐานในการปฏิบัติงานท่ีเชื่อมโยงกับงานวิจัยเพื่อทองถ่ินในพื้นท่ีไดเปนอยางดี
หากจะถามตอวา เราไดอะไรหากทําแผนท่ีเดินดิน ? ก็ตองมองไปท่ีกระบวนการในการทําแผนท่ีนั้น ตั้งอยูบนหลักการคนหา “ทุน”ผานความสัมพันธของผูคนและ เชื่อมโยงสถานการณในพื้นท่ีไปสู การวิเคราะหกระบวนการเรียนรู การมีสวนรวมของชุมชน พลังทางสังคม ทุนทางสังคมและการขับเคล่ือนสังคมในพื้นท่ี โดยผานการ แลกเปล่ียนเรียนรูขอมูลขาวสารท่ีผูมีสวนเก่ียวของจะนําไปใชประโยชนรวมกัน ซึ่งกอใหเกิดการเห็นตัวตน การมองเห็นศักยภาพเกิดความสัมพันธใหมท่ีไววางใจกัน เห็นโอกาสในการสรางคนใหเกิดจิตสํานึก สรางความตื่นตัวในการรวมมือกันทํางานแบบมีสวนรวม เกิดกลไกการจัดการทางสังคมรวมถึงการปรับเปล่ียน วิธีคิดและ กระบวนทัศนในการมองโลกมองชีวิตดวย ซึ่งสิ่งตางๆ เหลานี้เปนเปาหมายของการทํางานวิจัยเพื่อทองถ่ินท้ังสิ้น
รูปแบบวิธีการจัดทําแผนท่ีเดินดินนั้นไมมีวิธีการและรูปแบบตายตัว ขึ้นอยูกับทุนท่ีมีอยูของผูท่ีสนใจจะใชเคร่ืองมือแผนท่ีเดินดิน ในการมาเสริมกระบวนการทํางาน
ถาหากมองกลับเขามาท่ีคนทํางานวิจัยเพื่อทองถ่ิน พี่เล้ียงนักวิจัยในพื้นท่ี ก็คงจะตองเร่ิมจากทีมวิจัยท่ีคุนเคยกันอยูแลวหรือชุมชนท่ีใกลชิดกับทีมงาน หนวยงานองคกรท่ีเก่ียวของสัมพันธกันอยูเดิม แลวสรางวงแลกเปล่ียนความคิดเห็น การเรียนรูการจัดทําและการใชประโยชนจากแผนท่ีทางสังคมของชุมชน องคกร หนวยงานตางๆ เหลานั้น
แตหากไมมีพื้นท่ีหรือไมมีความสัมพันธใดๆกับชมุชนอยูเลย ก็คงตองเร่ิมจาก การคนหาขอมูลเบ้ืองตนของพื้นท่ีปฏิบัติการ วามีผูคน กลุมคน หนวยงาน องคกรตางๆ วา มีใคร องคกรไหน ทําอะไร กับใคร ท่ีไหน อยางไร กันบาง
ซึ่งการคนหาขอมูลเบ้ืองตนเหลานี้อาจใชการลงพื้นท่ีไปพูดคุยกับแกนนําใน กลุมตางๆ เพื่อทําความรูจัก สรางความสัมพันธ สรางความไววางใจกัน ซึ่งจะทําใหเห็นตัวคนท่ีจะชักชวนมาพูดคุยกันตอไป รวมถึงไดเสนสายสัมพันธ ของคน กลุมคน หนวยงานองคกรดวย
หลังจากนั้นอาจจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรูเพื่อสรางการมีสวนรวม แลกเปล่ียนความคิดเห็นในการรวมกันกําหนดเรียนรูการจัดทําและ การใชประโยชน จากแผนท่ีเดินดินในระดับพื้นท่ี
ปฏิบัติการ ซึ่งจะกอใหเกิดวัฒนธรรมการเรียนรู เห็นทุนทางสังคมรวมกันและเกิดพลังทางสังคมขึ้นได
ในสวนของวิธีการ จําเปนตองกําหนดรูปแบบในการนําแผนท่ีเดินดินไปใช ตั้งแตวัตถุประสงคเปาหมายการนําไปใช เชน ใครทํา ทําอยางไร เคร่ืองมือ แหลงขอมูล ผูมีสวนรวม ใครเปนผูใชนําเสนอในรูปแบบไหน เปนตน
สิ่งสําคัญในการจัดทําแผนท่ีเดินดินท่ีจะกอใหเกิดการเรียนรูท่ีดีไดนั้น ผูดําเนินการจะตองใหความสําคัญในประเด็นหลักๆ เชน การสรางความสัมพันธแนวราบ อาทิ การใชความสัมพันธแบบพี่นอง ญาติสนิท เพื่อน ฯลฯ หรือสรางการมีสวนรวมโดยประสานภาคีทํางานในพื้นท่ี การสรางความไววางใจกันในการทํางาน รวมท้ังการมองสิ่งตางๆ อยางองครวมและเห็นประโยชนรวมกัน