23

อ่านแล้วหายเหนื่อย

Embed Size (px)

DESCRIPTION

"อ่านแล้วหายเหนื่อย" เป็นหนังสือธรรมะ แต่นำมาถ่ายทอดให้เข้ากับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน อาทิ ความทุกข์คือหนึ่งในครูที่ดีที่สุด, ภูมิปัญญาที่ได้จากความสงบสัจธรรมง่ายๆที่จะช่วยผ่อนคลายความทุกข์ให้เบาลง และยังเป็นหนังสือที่แนะนำ การใช้ชีวิตอย่างไรถึงอยู่ได้อย่างไม่มีทุกข์ หากได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะรู้สึกได้เลยว่าอ่านแล้วหายเหนื่อยจริงๆ

Citation preview

Page 1: อ่านแล้วหายเหนื่อย
Page 2: อ่านแล้วหายเหนื่อย

1

หรือว่าแท้จริงแล้วชีวิตเราต้องการคำาว่า

“สมดุล” มากกว่าคำาว่า“มาก”

Page 3: อ่านแล้วหายเหนื่อย

ปูปรุงอ่านแล้ว...หายเหนื่อย

กรุงเทพฯ : ใยไหม, 2554. 162 หน้า.1. ธรรมะกับชีวิตประจำาวัน. I. ชื่อเรื่อง. 294.3144

ISBN : 978-974-491-651-8

ราคา 145 บาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร : อภิสิทธิ์ กัมพลาวลีกรรมการที่ปรึกษา : บรรจง กัมพลาวลี / กรรมการผู้จัดการ : วรวรรณ ธานีรัตน์

ผู้จัดการฝ่ายบัญชี-การเงิน : ภัทรียา กัมพลาวลี / ผู้จัดการฝ่ายขาย : จริยา ไชยทองบรรณาธิการอำานวยการ : อุศนา สมัยกลาง / เลขากองบรรณาธิการ : ธิดารัตน์ มั่นแร่

ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการสร้างสรรค์ : ศิษฏา ดาราวลี / ออกแบบปก : นรกมล สุขศรีอินทร์กราฟิกดีไซน์เนอร์ : ศิษฏา ดาราวลี / ภาพประกอบ : lingjaidee

ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย : นเรศ อินทวารี

จัดจำาหน่ายโดย : บริษัท วาย เอ็ม ครีเอทีฟ จำากัด251/1 ถ.แฮปปี้แลนด์ คลองจั่น บางกะปิ กทม. 10240

โทรศัพท์ 0-2734-3450 (อัตโนมัติ) โทรสาร 0-2734-3414www.ymcreative.co.th

ต้องการสั่งซื้อจำานวนมากเพื่อมอบเป็นของขวัญกรุณาติดต่อ ฝ่ายขาย โทรศัพท์ : 0-2734-3450 (อัตโนมัติ) ต่อ 211, 212

สำานักพิมพ์ใยไหม คำานึงถึงคุณภาพของสินค้าที่ส่งมอบให้แก่ผู้อ่านหากท่านพบว่าหนังสือชำารุด หรือเสียหายอันเกิดจากการผลิต

เรายินดีเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่โดยไม่มีเงื่อนไข ผ่านร้านหนังสือที่ท่านซื้อ หรือติดต่อโดยตรงที่สนพ.

สงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาและภาพประกอบ ตามพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2537ห้ามมิให้ผู้ใดทำาการคัดลอก ดัดแปลง จัดพิมพ์หรือทำาซำ้า

ไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม โดยมิได้รับการอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษรจากสนพ.

ปูปรุงพิมพ์ครั้งที่ 1: มีนาคม 2554

สำานักพิมพ์

Page 4: อ่านแล้วหายเหนื่อย

มันคือหนังสือที่เขียนขึ้นในวันที่ชีวิตด้านในของฉันผ่อนคลายลงมากแล้ว

แม้ชีวิตด้านนอกจะยังคงต้องดำาเนินดิ้นรนต่อสู้ ไปตามปกติ

Page 5: อ่านแล้วหายเหนื่อย

4

“อ่านแล้วหายเหนื่อย”

“ชีวิตเราเกิดมาดิ้นรนแสวงหาเพื่อสิ่งใดอยู่?”ฉันมักตั้งคำาถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งเมื่อมีเหตุ หรือปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วพาลทำาให้เกิดความรู้สึกสงสัย ไม่เข้าใจว่าอารมณ์ที่เกิดจากปัญหานั้นมันเป็นเพราะตัวเราที่ชอบวางตัวต้านทานแรงอารมณ์ หรือเป็นเพราะพายุลมแรงจากคนรอบข้างถาโถมเข้ามาปะทะใจกายของเรากันแน่ เมื่อคำาถามเหล่านั้นไม่ได้เกิดการคลี่คลายปัญหาทุกอย่างจึงวิ่งวนอยู่ในความรู้สึกขุ่นมัวอยู่ในอารมณ์วนไปวนมา จนนานเข้าก็กลายเป็นตะกอนโคลนตมที่ทับถมอยู่ในใจอย่างไม่มีทางล้างออกไปได้บ่อยครั้งเข้าความมัวหมองในอารมณ์ก็ยิ่งทวีมากขึ้นทำาให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะต้านทานแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

Page 6: อ่านแล้วหายเหนื่อย

5

ฉันพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาเมื่อรู้สึกตัวว่าเรากำาลังตกเป็นทาสของอารมณ์ความรู้สึก ความอยากได้อยากมี อยากเป็น ซึ่งนั่นคือส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำาให้เราต้องแสวงหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังพยายามเรียนรู้ ทำาความเข้าใจวิธีขจัดอารมณ์ของตัวเอง เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้นอกจากตัวของเราเอง รู้จักเรียนรู้ที่จะยอมรับในบางเรื่องรู้จักปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตไม่ให้ตึงจนเกินไปบ้าง

หนังสือเล่มนี้ “อ่านแล้วหายเหนื่อย” งานเขียนจาก “ปูปรุง”จึงเป็นหนังสืออีกเล่มที่ฉันเลือกใช้เป็นทางออกของความเหนื่อยล้าที่ฉันมี ด้วยภาษา ถ้อยคำา ที่เธอเลือกใช้สื่อสาร ปลอบโยน และแบ่งปันสามารถทำาให้ฉันดับอารมณ์ร้อนในช่วงเวลาที่สับสนได้เมื่อเริ่มอ่านในช่วงเวลาที่ไม่นานนัก ทำาให้ฉันพร้อมที่จะเผชิญและอยู่ได้กับทุกปัญหาเพื่อที่จะทำาให้ชีวิตนี้เหนื่อยน้อยลงได้

ขอเป็นอีกหนึ่งกำาลังใจ...ให้คุณมีพลังสู้ต่อไปค่ะอุศนา สมัยกลาง

Page 7: อ่านแล้วหายเหนื่อย

6

มีใครบางคนเคยสอนฉันว่าถ้าเราค่อยๆ เขี่ยความทุกข์ออกไปทีละชิ้น...ทีละชิ้นเราจะมองเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ในทุกๆ ประสบการณ์ชีวิตทันที

คำาสอนนี้เริ่มเข้าถึงตัวฉันเองก็ต่อเมื่อเริ่มต้นที่จะมองชีวิตแบบศึกษาเรียนรู้มากกว่าเอาเป็นเอาตาย หรือจริงจังแบบเก่าก่อนวั น ดี คื น ดี...ที่ชีวิตเราปลดเงื่อนไข และลดความคาดหวังบางสิ่งบางอย่างลงไปไม่ช้าไม่นาน สิ่งที่เกินกว่าหวังเอาไว้ก็กลับปรากฏขึ้นในชีวิตราวกับปาฏิหาริย์

ขณะเดียวกันความอึดอัดคับข้องที่เคยสั่นคลอนจิตใจแม้จะยังมาป้วนเปี้ยนเหมือนเดิมอยู่ก็จริงแ ต่ แ ป ล ก ต ร ง ที่...มันไม่สามารถทำาร้ายเราได้เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว

ทั้งหมดนี้...เขียนขึ้นเพื่อจะบอกและเป็นกำาลังใจให้กับทุกชีวิตว่าแม้การใช้ชีวิตจะไม่ใช่เรื่องสนุก แต่ในชีวิตก็มีเรื่องสนุกและน่าสนใจอยู่เสมอบางวันที่คุณอาจยิ้มไม่ออก คุณก็ไม่จำาเป็นต้องฝืนยิ้มแต่คุณก็ควรเรียนรู้วิธีที่จะทำาให้วันอื่นๆ สามารถกลับมายิ้มได้อีก เช่นเดียวกันกับวันนี้ที่คุณอาจยิ้มกว้าง รู้สึกมีความสุขมากกว่าวันไหนๆ

Page 8: อ่านแล้วหายเหนื่อย

7

คุณก็ควรบอกตัวเองไว้ว่า ไม่ช้านานทุกสิ่งย่อมมีวันเสื่อมคลายเป็นธรรมดาไม่มีใครสามารถเก็บกักความสุขเอาไว้กับตัวเองได้แบบถาวรและก็ไม่มีความทุกข์ใดๆ ที่จะอยู่กับเราแบบถาวรเช่นกัน

เพียงเข้าใจสัจธรรมและไม่ฝืนกฎเกณฑ์ของธรรมชาติธรรมชาติก็จะสร้างความชัดเจนให้กับชีวิตได้เอง

“อ่านแล้วหายเหนื่อย” อยากชวนหลายๆ ชีวิตที่ยังต้องวิ่งวุ่นกับสุข ทุกข์ การงาน ผู้คน และความรักได้หยุดพัก มาเรียนรู้สัจธรรมง่ายๆ เพื่อละลายตะกอนความทุกข์...และถักทอความสุขให้กลับคืนมาด้วยกัน

มันคือหนังสือที่เขียนขึ้นในวันที่ชีวิตด้านในของฉันผ่อนคลายลงมากแล้วแม้ชีวิตด้านนอกจะยังคงต้องดำาเนิน ดิ้นรนต่อสู้ไปตามปกติ ทั้งหมด...เหมือนเป็นบทบันทึกชีวิต ที่อยากเชื่อมโยงว่าโลกภายนอกจะเป็นเช่นไรนั้น ย่อมเป็นผลมาจากโลกด้านในที่ทำางานร่วมกัน สามารถเกื้อหนุนกันได้

หวังว่าสาระความคิดที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้ จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยที่สำาคัญฉันคงจะดีใจมากถ้าได้รู้ว่า ไม่เพียงแต่คุณที่อ่านแล้ว….หายเหนื่อย แต่คุณยังสามารถมองเห็นความงดงามของชีวิตและยิ้มกับชีวิตได้เสมอ...แม้จะยังต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่ก็ตาม

...ขอบคุณสำาหรับเพื่อนเก่าที่ติดตามอ่านความคิดและยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทุกคนค่ะ

‘ปูปรุง’[email protected]

Page 9: อ่านแล้วหายเหนื่อย

8

Contents

• “คงที่”กับ“คงทน” 10

• จงแปรรูปความฝันด้วยความเข้าใจ 14

• บางช่วงของชีวิตจำาเป็นต้องการเวลา“สักพักหนึ่ง” 20

• ชีวิตเราควรมีมิตรมากกว่ามีศัตรู 28

• คนใกล้...ที่เรามักทำาหล่นหายไปจากชีวิต 36

• รักที่แท้นั้น...ย่อมสวยงามและไม่ฉาบฉวย 42

• มองทุกสิ่ง...แล้วน้อมเข้ามาสู่ใจ 48

• ใช้ชีวิต...แบบเปิดหนังสือหน้าถัดไปได้ 56

• ความล้มเหลว...ใช่ว่าจะมีเพียงมิติเดียว 62

• เมื่อหยุด...ฟังเสียงเงียบงันในใจตนเอง 66

• เป็นสุขได้เพราะค้นหา“จุดพอใจ”ของตัวเองเจอ 72

• แค่เทียนเล่มหนึ่ง...ที่กำาลังเผาไหม้ 78

• Lifeisn’tfair,butit’sstillgood 82

Page 10: อ่านแล้วหายเหนื่อย

9

• ภูมิปัญญาที่ได้จากความสงบ 86

• ความรักคือความทุกข์ที่สวยงาม 92

• “ปล่อยวาง”ไม่ใช่การยอมแพ้ 100

• จงชื่นชมในความเป็นปกติของชีวิต 106

• คนบางคน...อาจเข้ามา

เพื่อสอนและวัดใจเราว่า...ยังมีความศรัทธา

ต่อชีวิตและความดีงามมากน้อยแค่ไหน 114

• ความทุกข์คือหนึ่งในครูที่ดีที่สุด 120

• อย่ามัวเสียเวลา...ถามหาความยุติธรรมกับโลกเลย 126

• ยิ้มแต่พอดี...ร้องไห้พอประมาณ 130

• ถ้าไม่คาดเดาว่ามีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ...

เราก็จะไม่ผิดหวัง 136

• เหยือกน้ำาเต็มได้...เพราะน้ำาที่เติมทีละหยด 142

• อนาคต...มาจากปัจจุบัน...ที่เรียนรู้อดีตแล้วอย่างเข้าใจ 148

• อย่างไร...ถึงหายเหนื่อย 152

Page 11: อ่านแล้วหายเหนื่อย

คงที่…กับ คงทน10

Page 12: อ่านแล้วหายเหนื่อย

คงที่…กับ คงทน11

ดอกไม.้..ไม่อาจผลิบานได้ตลอดไป ข้าวของเครื่องใช้...ไม่สามารถคง “ความใหม่” ไปได้ตลอด ดวงจันทร์ ดวงตะวัน...ไม่อาจส่องแสงทะลุผ่านวาระที่ไม่ใช่ของตัวเองหรือแม้แต่สายนำ้า...ก็ไม่เคยไหลย้อนกลับมาที่เก่าสักครั้ง

ธรรมชาติได้ซุกซ่อนสัจธรรมการใช้ชีวิตเอาไว้มากมายเมื่อเราได้เห็นทุกสิ่งดังที่กล่าวมาข้างต้นเรากลับไม่เคยรู้สึกทุกข์หรือเศร้าเสียใจ กับความไม่คงที่ของมัน แต่ทำาไม กับสิ่งที่เรียกว่า “ความสัมพันธ์ในคนสองคน”เรากลับยอมรับมันไม่ได้...เมื่อมีความแปรเปลี่ยนเกิดขึ้น?

Page 13: อ่านแล้วหายเหนื่อย

12

ในความไม่คงที่แน่นอน แม้บางครั้งจะไม่น่าพอใจแต่มันก็เป็นความปกติของทุกสรรพสิ่งในความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความรักก็เช่นกันแม้จะเป็นสิ่งสวยงามแต่ก็อาจกลายเป็นความน่ากลัวได้เสมอหากเราไม่เข้าใจมันดีพอ

ถ้าเราไม่คาดหวังว่าความรักจะต้องคงที่เช่นเดียวกับที่เราไม่เคยคาดหวังว่าทุกสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจะต้องเป็นเช่นนั้นไปตลอดเราก็จะอยู่กับความรัก ความสัมพันธ์อย่างมีความสุขมากขึ้น

Page 14: อ่านแล้วหายเหนื่อย

13

สำาหรับคุณและฉัน...เราคงไม่ได้มีหน้าที่ไปห้ามดอกไม้ ไม่ให้ร่วงโรยตามกาลเวลาแต่เรามีหน้าที่ที่จะดูแล จัดหาสภาพแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมเพื่อให้เจ้าดอกไม้นั้นได้เบ่งบานยาวนานเท่าที่จะเป็นไปได้ข้าวของเครื่องใช้ก็เช่นกัน...เราก็คงมีหน้าท่ีใช้มันอย่างระมัดระวัง รักษาความคงทนให้กับมันเท่าน้ัน และความรัก- -ก็คงไม่ต่างกัน แม้ไม่อาจห้ามความไม่คงที่แต่เราก็สามารถสร้างหัวใจให้กลมกลืนไม่หว่ันไหวในความไม่คงท่ีน้ันได้...ด้วยการพยายามทะนุถนอมความรักให้คงทน ยาวนานด้วยความเข้าใจ ด้วยการให้อภัย และด้วยความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อกัน.

Page 15: อ่านแล้วหายเหนื่อย

14

จงแปรรูปความฝ�น ด�วยความเข�าใจ

Page 16: อ่านแล้วหายเหนื่อย

15

กิจกรรมยามว่าง อย่างหนึ่งที่ฉันชอบทำาเสมอคือ การท่องโลกใบเล็กในคอมพิวเตอร์วันหนึ่ง...ขณะที่ฉันได้เข้าไปที่ blog ของน้องสาวที่สนิทคนหนึ่งได้เห็นและแอบติดตามเรื่องราวความฝันของน้องคนนี้มาตลอดและวันนั้นเอง...ก็ได้รู้ว่า ความฝันบางส่วนของชีวิตน้องคนนี้กำาลังเปลี่ยนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆคือ การผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ที่จังหวัดบ้านเกิดของเธอเห็นแล้วเกิดความคิด 2 อย่างอย่างแรกคืออิ่มใจร่วมไปกับโปรเจ็กต์นี้ของเขาพร้อมกับพบความจริงว่าความฝันที่จะสามารถแปรรูปได้จริงนั้นต้องเกิดจากความมานะพยายาม ผสมกับความมุ่งมั่นตั้งใจจริง

Page 17: อ่านแล้วหายเหนื่อย

16

แต่เท่านั้น...ก็ยังไม่อาจรับประกันได้ว่าจะพอเพราะถ้าหากขาดคนสนับสนุน ขาดคนเสริมสร้างแรงใจแรงกายแล้วก็ใช่ว่าความฝันนั้นจะปั้นได้อย่างใจง่ายๆน้องคนนี้ น่าอิจฉาตรงที่มีคนแวดล้อมที่ดีมีคนข้างกายที่ช่วยเสริม และเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันทุกอย่างที่ว่ายาก มันก็ดูเหมือนว่าไม่ยากจนเกินไป

อย่างที่สองที่คิดคือ เวลาท่ีความฝันเปล่ียนเป็นความจริงแล้วหลายคร้ัง...มันก็ไม่ได้หอมหวานเหมือนอย่างท่ีเคยจินตนาการเอาไว้เพราะมันมักจะมีด่านโหดๆ ที่เป็นเรื่องจริงดาหน้าเข้ามาทดสอบให้เราได้ตรวจเช็กอยู่เสมอว่า เราได้มาถูกทางจริงหรือเปล่า?หลายคนผ่าน...แต่ก็ข้ามไม่พ้นด่านที่เจ็บปวดตรงนี้

Page 18: อ่านแล้วหายเหนื่อย

17

ฉันเองก็รู้สึกสนใจและพลอยอยากติดตาม “Story” ของน้องคนนี้ต่อไปละครฉากนี้ที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าเราจะไม่สามารถรับรู้แง่มุมอีกหลายด้านของชีวิตเขาทั้งหมดแต่เราก็อดตื่นเต้นไม่ได้กับฉากต่อๆไปที่กำาลังจะตามมา...

ระยะเวลาหนึ่งปีกว่า ที่ฉันติดตามข่าวคราว พร้อมทั้งเอาใจช่วยได้เห็นรูปถ่ายเริ่มแรกของร้านขาย “สินค้าทำามือ”ตั้งแต่ฝาผนังยังว่างเปล่า ก่อนได้รับการตกแต่งได้เห็นสินค้าน่ารักๆ ที่ทยอยจัดวางในร้าน และรับรู้เรื่องราวของสิ่งที่เรียกว่า “ธุรกิจ”จากการอัพเดทข้อมูลชีวิตลงใน blog ของเธออย่างสมำ่าเสมอ

Page 19: อ่านแล้วหายเหนื่อย

18

เวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจว่า...แม้ธุรกิจเล็กๆ ของเธอ จะสามารถหล่อเลี้ยงความฝันให้เติบโตได้ แต่มันจะหล่อเลี้ยง ชีวิตประจำาวันจริงๆ ได้แน่หรือ?ที่สำาคัญ ความฝัน กลับกลายเป็นเหมือนภาระที่เธอต้องรับผิดชอบ มีปัญหาที่เธอไม่สามารถละเลย ต้องแก้ไขจัดการ ทุกขั้นตอนเพราะคำาว่า “กำาไร” และ “ขาดทุน” ของร้านที่ไม่อาจมองข้ามได้ทำาให้งานที่เธอทำาเพราะความรักกลายเป็นงานที่เธอต้องทำาให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตได้จริงๆ ด้วยนั่นจึงทำาให้เกิดความเครียดตามมา และเวลาท่ีเคยมีให้กับคนในครอบครัวก็น้อยลงท้ังปริมาณและคุณภาพรวมทั้งงานดั้งเดิมที่ทำาอยู่ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยเช่นกัน

Page 20: อ่านแล้วหายเหนื่อย

19

จนกระทั่งล่าสุด...เธอตัดสินใจยอมแพ้และพร้อมเปลี่ยนแปลงชีวิตอีกครั้งกลับมาสู่ทางเลือกที่สมดุลและสอดคล้องกับชีวิตมากกว่าแทนการดันทุรังทำาตามใจตัวเองอย่างเดียว

ปัจจุบัน...ร้านที่มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายไล่หลังตลอดเวลาก็ปิดตัวลงและเธอยังคงใช้ “สมอง” เป็นต้นทุนแทน ด้วยการเขียนหนังสือและรับจ้างแปลงานอิสระ

Page 21: อ่านแล้วหายเหนื่อย

20

อาจมีบางครั้งในชีวิตเราที่ความฝันสวยงาม...อาจเปลี่ยนเป็นความจริงที่ไม่สวยงามและบางครั้งก็อาจสร้างบาดแผลแต่เราก็ไม่ควรหยุดที่จะมีความฝันใหม่ๆ ตราบที่ยังหายใจได้อยู่ เพราะความฝันเป็นสิ่งที่สามารถขับเคลื่อนชีวิตเราข ณ ะ เ ดี ย ว กั น...ก็เป็นสิ่งที่ทำาให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจคำาว่า “ชีวิต” เพิ่มขึ้นด้วยไ ม่ ใ ช่ ห รื อ...

Page 22: อ่านแล้วหายเหนื่อย

21

Page 23: อ่านแล้วหายเหนื่อย