Upload
others
View
3
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ปฏิบตัิการ Microsoft Excel ครั �งที� 2
2
การคาํนวณใน Microsoft Excel
1. การคาํนวณโดยใช้สตูร (Formula)
2. การคาํนวณโดยใช้ฟังกช์ั �น(Function)
3
ฟังกช์ั �น คือ สตูรสาํเรจ็รปูที�โปรแกรม
Microsoft Excel สร้างไว้ใช้สาํหรบัการคาํนวณ
เพื�อช่วยให้ผูใ้ช้ทาํงานได้สะดวกและรวดเรว็
การคาํนวณโดยใช้ฟังกช์ั �น
4
โครงสรา้งของฟังกช์ั �น
ฟังกช์ั �นมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
1. ชื�อของฟังกช์ั �น เช่น SUM, AVERAGE, SQRT
2. วงเลบ็ ( ) ในทกุฟังกช์ั �นต้องมีวงเลบ็ต่อท้าย
เช่น SUM ( ), AVERAGE( ), SQRT( )
5
3. อารก์ิวเมนต ์ คือ ส่วนของข้อมลูที�ฟังกช์ั �นจะนําไปใช้ในการประมวลผล แต่ละฟังกช์ั �นจะต้องการอารก์ิวเมนตท์ี�แตกต่างกนั เช่น SUM(A1:A20) , ROUND(A1,0)
โครงสรา้งของฟังกช์ั �น (ต่อ)
6
ตวัอย่างฟังกช์ั �น
� ฟังกช์ั �นทางการเงิน (Financial)
� ฟังกช์ั �นแบบตรรก (Logical)
� ฟังกช์ั �นข้อความ (Text)
� ฟังกช์ั �นเกี�ยวกบัวนัที�และเวลา (Date & Time)� ฟังกช์ั �นทางคณิตศาสตรแ์ละตรีโกณมิติ (Math & Trig)
� ฟังกช์ั �นทางสถิติ (Statistics)
7
ตวัอย่างการใช้งานฟังกช์ั �น
8
ฟังกช์ั �น IF
ให้ค่าผลลพัธต์ามเงื�อนไขว่าเป็นจริง หรือเทจ็รปูแบบ
IF(เงื�อนไข,ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นจริง,ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นเทจ็) ตวัอย่าง
=IF(b5=10, “TRUE”, “FALSE”)=IF(A1>A3, “0”, “1”)=IF(A1>A3, 0, 1)
9
ฟังกช์ั �น AND
ตรวจสอบว่าทกุอารก์ิวเมนตเ์ป็นจริงหรือไม่เป็นจริงเมื�อทกุเงื�อนไขเป็นจริงรปูแบบ
AND(เงื�อนไข1, เงื�อนไข2,…) ตวัอย่าง
=AND(B5=10, A3 =5)=AND(A1>A3,A1<A4,A1>=10)
10
ฟังกช์ั �น OR
ตรวจสอบว่ามีอารก์ิวเมนตท์ี�เป็นจริงบา้งหรือไม่เป็นจริงเมื�อมีเงื�อนไขเป็นจริงอย่างน้อย 1 เงื�อนไขรปูแบบ
OR(เงื�อนไข1, เงื�อนไข2,…) ตวัอย่าง
=OR(B5=10, A3 =5)=OR(A1>A3,A1<A4,A1>=10)
11
ฟังกช์ั �น IF , AND , OR
=IF(b5=10, “TRUE”, “FALSE”)
=IF(AND(b5=10 , c5>=2000) , “TRUE”, “FALSE”)
=IF(A1>A3, 0, 1)
=IF(AND(A1>A3 , B1>B3) , C1*2 , C1*5)
=IF(d4=‘f’, “หญิง”, “ชาย”)
=IF(OR(d4=‘f’ , d4=‘F’) , “หญิง”, “ชาย”)
12
ฟังกช์ั �น COUNT
นับจาํนวนเซลลใ์นช่วงที�มีตวัเลขรปูแบบ
COUNT(ช่วงของข้อมลู)ตวัอย่าง
=COUNT(A1:A5) =COUNT(A1,A3)
13
ฟังกช์ั �น ROUND
• ปัดเศษจาํนวนให้เป็นจาํนวนที�มีตาํแหน่งทศนิยมตามกาํหนดรปูแบบ
ROUND (ข้อมลู,จาํนวนหลกัทศนิยม)ตวัอย่าง
=ROUND(12.1234 , 2)=ROUND(12.1289,2) =ROUND(A1,3)
14
ฟังกช์ั �น ROUNDUP
• ปัดเศษจาํนวนขึ�นรปูแบบ
ROUNDUP (ข้อมลู,จาํนวนหลกัทศนิยม)ตวัอย่าง
=ROUNDUP(12.1234 , 2)=ROUNDUP(12.1289,2) =ROUNDUP(A1,3)
15
ฟังกช์ั �น ROUNDDOWN
• ปัดเศษจาํนวนลงรปูแบบ
ROUNDDOWN (ข้อมลู,จาํนวนหลกัทศนิยม)ตวัอย่าง
=ROUNDDOWN(12.1234 , 2)=ROUNDDOWN(12.1289,2) =ROUNDDOWN(A1,3)
16
ข้อผิดพลาดที�เกิดจากการคาํนวณ
#### เกิดจากตวัเลขในเซลลย์าวกว่าขนาดของเซลล์
#VALUE! เกิดจากการใช้สตูรผิดไวยากรณ์ เช่น นําตวัเลขไปบวกกบัตวัอกัษร
#NAME? สตูรไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร เช่น A1+แมวโดยคาํว่าแมวไม่ได้เกี�ยวข้องใน Sheet นั �น
17
#N/A เกิดขึ�นเมื�อกรอกตวัแปรผิดประเภท เช่นฟังกช์ั �นต้องการข้อมลูเซลลเ์ดียว แต่เราใส่ไปหลาย ๆ เซลล์
#REF! เกิดขึ�นเมื�อโปรแกรมไม่สามารถค้นหาตาํแหน่งอ้างอิงเซลลท์ี�ใช้สตูรได้ มกัพบในการอ้างอิงเซลลข์้าม Sheet หรือสมดุงาน
ข้อผิดพลาดที�เกิดจากการคาํนวณ (ต่อ)
18
#NULL เกิดขึ�นกรณีที�กาํหนดพื�นที�เซลลส์องเซลล์โดยไม่มี ส่วนใดต่อกนั แต่ลืมแยกเซลล์ด้วยเครื�องหมาย เช่น
SUM(A1:B2 C2:D5)ที�ถกูต้องเขียนเป็น
SUM(A1:B2,C2:D5)
ข้อผิดพลาดที�เกิดจากการคาํนวณ (ต่อ)
การวางแบบพิเศษ (Paste Special)
19
การวางแบบพิเศษสามารถเลือกไดว้า่ตอ้งการเพียงผลลพัธ์ในรูปแบบใดบา้งที#จะวางมายงัตาํแหน่งที#ตอ้งการ
• ทั�งหมด (All) : คดัลอกคุณสมบตัิจากตน้ฉบบัมาทั-งหมด• สูตร (Formulas) : คดัลอกเฉพาะสูตร• ค่า (Values) : คดัลอกเฉพาะค่าของขอ้มูลโดยไม่คดัลอกสูตรมาดว้ย• รูปแบบ (Format) : คดัลอกเฉพาะรูปแบบเซลล์
• เพื#อตรึงแถว หรือคอลมัน์ใหแ้สดงผลคงที#เพื#อง่ายต่อการทาํงานกบัขอ้มูลจาํนวนมาก ทาํได ้3 แบบคือ
• ตรึงแนว (Freeze Panes) คือ การตรึงแนวแถวบน และคอลมัน์ทางซา้ยมือของเซลที#เลือกไว้
• ตรึงแถวบนสุด (Freeze Top Row) คือ การตรึงแถวบนสุด แถวที# 1 ของ Worksheet
• ตรึงคอลมัน์แรก (Freeze Fisrt Column) คือ การตรึงคอลมัน์แรก หรือคอลมัน์ A ของ Worksheet
20
การตรงึ Worksheet (Freeze Panes)
การตรึง worksheet
21
1. เลือกแทบ็มุมมอง (View)2. เลือกเครื#องมือตรึงแนว (Freeze Panes)
ยกเลิกการตรึง worksheet
22
1. เลือกแทบ็มุมมอง (View)2. เลือกเครื#องมือตรึงแนว (Freeze Panes)3. เลือกยกเลิกตรึงแนว (Unfreeze Panes)
23
การจดัแต่งตวัเลข, วนัที�, เวลา
• เลือกคาํสั#งจาก Home tab � Number
เลือกรูปแบบตวัเลขเลือกรูปแบบตวัเลข
ใส่ , เพื#อคั#นตวัเลขหลกัพนัใส่ , เพื#อคั#นตวัเลขหลกัพนั
เพิ#ม/ลด ตาํแหน่งทศนิยม
24
การจดัแต่งตวัเลข, วนัที�, เวลา (ต่อ)
• หรือ คลกิขวาที>เซลล์ที>ต้องการ เลอืกจัดรูปแบบเซลล์ (Format cells)
กลุ่มของรูปแบบ
รูปแบบของตัวเลขในกรณทีี>เป็นค่าลบ
จํานวนจุดทศนิยม
25
การจดัตาํแหน่งข้อมลูในเซลล์
เลือกคาํสั#งจากแทบ็ Home (หนา้แรก) > กลุ่มการจดัแนว
1. เลื#อนตวัชี-ตาํแหน่งเซลลไ์ปยงัตาํแหน่งเซลลท์ี#ตอ้งการจดัแต่ง
2.
ตดัขอ้ความตดัขอ้ความ
กดเลือกเพื#อจดัขอ้ความใหอ้ยูใ่นแนวทแยงหรือแนวอื#นๆกดเลือกเพื#อจดัขอ้ความใหอ้ยูใ่นแนวทแยงหรือแนวอื#นๆ
26
การจดัตาํแหน่งข้อมลูในเซลล ์(ต่อ)
ตาํแหน่งการจดัวางข้อมลูในแนวนอน - ซ้าย/กลาง/ขวาตาํแหน่งการจดัวางข้อมลูในแนวตั �ง - บน/กลาง/ล่าง
ทิศของการวางข้อมลูแบบนอน หรือแบบเฉียง หรือแบบตั �ง
27
ขยาย-ลดความกว้างของคอลมัน์/แถว
• กดปุ่มของเมาส์คา้งไว ้แลว้ลากเมาส์โดย• ดึงเมาส์ออก จะเป็นการขยาย
ออก• ดึงเมาส์เขา้ จะเป็นการลดความ
กวา้ง
28
สรา้งแผนภมูิ
1. กาํหนดช่วงข้อมลูที�ต้องการสรา้งกราฟ (กรณีเลือกข้อมลูบางส่วนไม่ต่อเนื�องกนัมาทาํกราฟให้กด ctrl+ปุ่ มซ้ายบนเมาส)์
2. เลือกเมนูคาํสั �ง แทรก (Insert)
3. เลือกรูปแบบกราฟที#ตอ้งการ
29
สรา้งแผนภมูิ
30
การแก้ไขกราฟ
• คลิกที�กราฟ > เลือกแทบ็ Design (ออกแบบ) • เลือกลกัษณะแผนภมูิ (Chart Styles) เพื�อกาํหนดรปูรา่ง สี ลกัษณะของกราฟ
31
เลือกขอ้มูลที#ตอ้งการนาํมากาํหนดเป็นแกน X, Yดูผลจากภาพตวัอยา่ง
การแก้ไขกราฟ
• คลิกที�กราฟ > เลือกแทบ็ Design (ออกแบบ) • เลือกสลบัแถว/คอลมัน์ (Switch Row/Column)
32
การแก้ไขกราฟ
• เลือกเค้าโครงแผนภมูิ (Chart Layouts) เพื�อกาํหนดรายละเอียดในการแสดงข้อมลู เช่น แสดงชื�อแผนภมูิ ชื�อแกน X ชื�อแกน Y
ASSIGNMENT
• Download ไดท้ี# ftp://172.25.1.5/sectionxx/disk1/Lab7-Instructions.pdf
เมื#อ xx เป็นหมายเลข section เช่น 03 เป็นตน้