ความเป็นมาและพัฒนาการ ของ

เทศบาลนครแม่สอด

เทศบาลนครแม่สอด เป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ประเภทเทศบาลนคร ตั้งอยูํในเขตอ าเภอแมํสอดจังหวัดตาก เป็นเทศบาลนครที่จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2553

ประวัติ เทศบาลนครแม่สอด แตํเดิมเมื่อกํอนปีพุทธศักราช 2480มีฐานะการปกครองท๎องถิ่นโดยขึ้นอยูํกับก านัน ผู๎ใหญํบ๎าน มีที่วําการอ าเภอและมีหนํวยงานของแผนกการตํางๆ คือ แผนกมหาดไทย แผนกที่ดิน แผนกสัสดี แผนกคลังแผนกศึกษาธิการอ าเภอ แผนกสรรพสามิต แผนกสรรพากร แผนกอัยการและมีหนํวยงานที่เป็นเ อกเทศอีก คือ สถานีต ารวจภูธร ไปรษณีย์ ศาลจังหวัดแมํสอดตรวจคนเข๎าเมืองจังหวัด ปุาไม๎ สหกรณ์ ดํานทําออก และสถานีวิทยุอุตุนิยมตํอมามีประชากรแนํนหนา มีจ านวนพลเมืองในท๎องถิ่นสมัยนั้นประมาณ 12,000 คนเศษจึงได๎มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะจัดตั้งขึ้นเป็นเทศบาลต าบลเมื่อวันที่30เดือนกันยายนพุทธศักราช 2480โดยอาณาเขตในสมัยนั้น มีเนื้อท่ี 480ตารางกิโลเมตรมีจ านวนหมูํบ๎าน 27 หมูํบ๎าน ครั้นตํอมาโดยคณะเทศมนตรีและด๎วยความเห็นชอบของอ าเภอและจังหวัดได๎พิจารณาเห็นวําเขตเทศบาลกว๎างขวางมากเกินไปไมํสามารถที่จะปกครองดูแลท านุบ ารุงได๎ทั่วถึงจึ งพิจารณาขอเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลให๎เล็กลง เพ่ือเหมาะสมกับก าลังเงิน รายได๎ของท๎องถิ่นที่จะท าการปกครองดูแลและท านุบ ารุงท๎องถิ่นได๎ทั่วถึงจึงได๎มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล เสียใหมํ เมื่อปีพุทธศักราช 2492 โดยได๎ท าการตัดหมูํบ๎านที่อยูํหํางไกลออกไปจาก 27 หมูํบ๎านซึ่งลดเขตพ้ืนที่การปกครองเป็น 27.2 ตารางกิโลเมตรและเม่ือวันที่ 9 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2544 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเทศบาลเมืองแม่สอดและเม่ือวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553ได๎มีประกาศกระทรวงมหาดไทยวํา เทศบาลเมืองแมํสอด มีราษฎรตั้งแตํ 50,000 คน ทั้งมีรายได๎ควรแกํการที่จะปฏิบัติหน๎าที่ตามที่ก าหนดไว๎ใน พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ. 2496 และเข๎าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.เทศบาล มาตรา 11 แหํง พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ. 2496 แก๎ไขเพ่ิมเติม ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2496 สมควรให้เปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาล"นครแม่สอด"ตามเจตนารมณ์ของทอ๎งถิ่น ในการเปลี่ยนแปลงยกฐานะจากเทศบาลต าบลแม่สอด เทศบาลเมืองแม่สอดและเทศบาลนครแม่สอดเกิดขึ ้น ในสมัยที ่นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ เป็นนายกเทศมนตรีและเทศบาลนครแม่สอดก าลังด าเนินการยกฐานะเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”เพื่อพัฒนาสู่การเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด อีกไม่กี่ปีข้างหน้า

1.ความเป็นมาและพัฒนาการของเทศบาลนครแม่สอด

ความเป็นมาของร่างกฎหมายและระเบียบในการจัดตัง้เขตเศรษฐกจิพิเศษแม่สอด

ความเป็นมาของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบรหิารราชการนครแมส่อด พ.ศ. ....... และระเบียบในการจดัตัง้เขตเศรษฐกิจพเิศษแมส่อด

ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๔๗ โดยมี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ได๎มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ให๎ ๓ อ าเภอ ฝั่งตะวันตกของจังหวัดตาก ประกอบด๎วย อ าเภอแมํสอด อ าเภอแมํระมาด และอ าเภอพบพระ เพ่ือรองรับการขยายตัวทางด๎านเศรษฐกิจ การค๎าชายแดนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และการทํองเที่ยว เพ่ือเป็นการเตรียมความพร๎อมการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ และเป็นประตูสูํอันดามันตามเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ East West Economic Corridor และได๎อนุมัติโครงการหลายโครงการตามข๎อเสนอของกระทรวง 23 กรม โดยมีส านักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติ ดังนี้ คือ

1. สิทธิพิเศษของการลงทุน 2. สนับสนุนงบประมาณ เชํน ......... 3. จัดท ารํางกฎหมายวําด๎วยเขตเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนั้นยังมอบหมายให๎ทํานมีชัย ฤชุพันธ์ ไปจัดรํางกฎหมายรํางพระราชบัญญัติการจัดเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ตํอมามี การปรับปรุ งกฎหมายและระเบี ยบในการจั ดตั้ ง เขตเศรษฐกิจอ าเภอแมํสอดอยํ างตํอเนื่ อง โดย จังหวัดตาก ได๎จ๎างสถาบันที่ปรึกษาเพ่ือพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.) โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดตั้งเขตปกครองพิเศษ(ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด”) โดยน าแนวทางรํางกฎหมายพระราชบัญญัติการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ(เดิม) มาเป็นแนวทางในการจัดท ารํางกฎหมายและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคสํวน ภาครัฐ ภาคเอกชน ท๎องถิ่น ประชาสังคม ทุกภาคสํวนเห็นด๎วย ตํอมารํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .......... ได๎ผํานการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่26 เมษายน 2554 และ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย(ในฐานะประธานคณะกรรมการการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น) ได๎น าเรื่องเสนอคณะกรรมการการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น เห็นชอบ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ตํอมา ฯพณฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได๎มีการประชุม ครม.สั ญจรที่จังหวัดเชียงใหมํ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555 และประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ได๎หยิบยกเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมาอีกและมีแนวทางให๎มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแหํงประเทศไทย โดยมอบให๎คณะกรรมการกฤษฎีกากระทรวงการคลัง/กระทรวงพาณิชย์/สศช.และหนํวยงานที่เกี่ยวข๎อง โดยมีการนัดการประชุมเพ่ือพิจารณาด าเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2554 และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เกี่ยวกับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2555 ณ ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีรายละเอียดดังนี้

สรุปเฉพาะข้อสังเกตและข้อเสนอที่ส าคัญ

อ. มีชัย ฤชุพันธุ์ กล่าวว่า ได๎มีการศึกษารําง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .... และคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ ๑ ได๎พิจารณาตรวจรํางและเห็นชอบรําง พรบ.ฯแล๎ว ถ๎านครแมํสอดมีความพร๎อมก็สามารถจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบขององค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น (อปท.) ได๎ทันที แตํไมํใชํเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ท ากันในประเทศจีน และหาก สศช. เห็นวํา จะด าเนินการเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยการออกระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี ก็ให๎ด าเนินการผลักดันให๎นครแมํสอดจัดตั้งเป็น อปท. รูปแบบพิเศษ เพราะในรํางกฎหมายดังกลําวได๎เขียนให๎นครแมํสอดมีอ านาจหน๎าที่ที่จ าเป็นเกี่ยวกับการค๎าชายแดนเพ่ิมมากขึ้นอยูํแล๎ว เมื่อมีความพร๎อมและได๎รับความยินยอมจากสํวนราชการเจ๎าของอ านาจ รวมทั้งได๎รับความเห็นชอบจาก ครม. ก็จะมีอ านาจที่จ าเป็นเพ่ิมมากขึ้นและลดข๎อจ ากัดลง

อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการสถาบันพระปกเกล้ากลําววํา หากมีการรํางกฎหมายนครแมํสอดไว๎แล๎ว วิธีที่สามารถด าเนินการได๎อีกวิธีหนึ่ง คือ หารายชื่อประชาชนซึ่งเห็นด๎วยกับรํางกฎหมายดังกลําว ๑๐,๐๐๐ คน แล๎วเสนอรํางกฎหมายดังกลําวให๎สภาผู๎แทนราษฎรเพ่ือพิจารณาตํอไป

อ. สุรพล นิติไกรพจน์จากการประชุม ครม. ที่ จ.เชียงใหมํและจ.อุดรธานี มีมติมอบให๎ สคก. รํวมกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังพิจารณาเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศไทยซึ่งมีมูลเหตุมาจากการพิจารณาเรื่องรําง พ.ร.บ. นครแมํสอดฯ และไมํใชํการพิจารณาเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด ควรศึกษาเรื่องการจัดตั้งนครแมํสอดเป็น อปท. รูปแบบพิเศษด๎วยเพ่ือให๎เป็นการตอบโจทย์ของ ครม. วํา หลักการในการจัดตั้งนครแมํสอดเป็น อปท. รูปแบบพิเศษ นั้น ไมํขัดแย๎งตํอหลักการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ แตํเป็นการด าเนินการที่สอดคล๎องและสนับสนุนกัน โดยควรด าเนินการจัดตั้ง อปท. รูปแบบพิเศษนครแมํสอดเพ่ือเป็นการน ารํองเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส าหรับรูปแบบของเขตเศรษฐกิจพิเศษอยํางเต็มรูปแบบต๎องมีการพิจารณาและหารูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งจะพิจารณาจากการปรับปรุงและพัฒนารําง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการนครแมํสอดฯ ก็ได๎ ทั้งนี้การจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษนครแมํสอดจะเป็นประโยชน์ตํอนครแมํสอดและประเทศตํอไป

อ.บวรศักดิ์ฯ เสนอวํา การด าเนินการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ควรด าเนินการดังนี้ 1.ผลักดันรําง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ... ให๎น ามาทดลองใช๎ในพ้ืนที่ เนื่องจากมีกฎหมายอยูํแล๎ว 2.ให๎กระทรวงการคลัง และหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องด าเนินการตามที่ ม.ร.ว ปรีดิยาธร เทวกุล เสนอ เพ่ือเป็นปัจจัยแหํง

ความส าเร็จในการด าเนินการเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยใช๎ Model ของนครแมํสอด เป็นการน ารํองดังนี้ 2.1 ให๎พ้ืนที่ที่เป็น อปท. รูปแบบพิเศษนครแมํสอด ได๎รับสิทธิและประโยชน์ด๎านภาษีอากร ตาม พ.ร.บ.

สํงเสริมการลงทุนสูงสุด 2.2 ให๎ มท. ด าเนินการเกี่ยวกับการอนุญาตให๎แรงงานตํางชาติเข๎ามาท างานในเขตนครแมํสอดโดยไมํต๎องมี

ใบอนุญาต 2.3 ให๎มีการน าสินค๎าเข๎า-สํงออก อยํางเสรี ในเขตพ้ืนที่นครแมํสอดกับสาธารณรัฐแหํงสหภาพพมํา โดยไมํต๎อง

มีการตรวจสินค๎าและไมํมีการเก็บภาษี ทั้งนี้ให๎มีการตรวจเฉพาะสินค๎าต๎องห๎ามเทํานั้นเนื่องจากในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ประเทศไทยจะเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนASEAN Economic Community(AEC) ซึ่งประเทศตํางๆ ในอาเซียนจะเป็นเขตการค๎าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) และไมํมีการเก็บภาษีสินค๎าน าเข๎า-สํงออกอยูํแล๎ว

2.4 ควรมีมาตรการให๎แรงงานพมําเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยอยํางเสรี 2.5 สํวนราชการที่เกี่ยวข๎องควรมีการปรับตัวอยํางเรํงดํวน เพ่ือรองรับ AEC เนื่องจากประเทศไทยมีเวลากํอน

เข๎าเป็น AEC เพียง ๓ ปีเทํานั้น 2.6 เมื่อสามารถจัดตั้งนครแมํสอดแล๎ว อาจมีการขยายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพ่ือการลงทุนเป็น ๓-๕ อ าเภอใน

จังหวัดตาก และควรมีการขยายผลกับ อปท. อ่ืนๆ ที่มีศักยภาพด๎านตํางๆ ด๎วย 3.ออกระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี โดยใช๎รํางระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ... เป็นต๎นแบบ และให๎มีการ

แตํงตั้งคณะกรรมการประสานงานเรื่องตํางๆ ที่นครแมํสอดไมํสามารถด าเนินการได๎ ให๎สามารถด าเนินการได๎ และน าไปปรับใช๎กับ แมํสาย และ สะเดา ซึ่งจะมีการจัดตั้ง อปท. รูปแบบพิเศษตํอไป โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จะประกอบด๎วยผู๎แทนหนํวยงานตํางๆ ที่เกี่ยวข๎อง รวมทั้งผู๎แทนของสภาความมั่นคงแหํงชาติ และ ปปส. ด๎วยก็ได๎

4.ในชั้นนี้เห็นวํา ยังไมํควรออกกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษอยํางเต็มรูปแบบ

ทีป่ระชุมไมํได๎มีมติ แตํ สคก. จะท าหนังสือเสนอตํอ ครม. เพ่ือพิจารณาตํอไป และในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอวํารําง

พรบ.ระเบียบบริหารราชการนครแหลมฉบัง พ.ศ. ......... ตามที่ส านักปลัดส านักนายกรัฐมนตรีเสนอมีหลักการเชํนเดียวกับรําง พรบ.ระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ...... ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให๎กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นไปพิจารณารํวมกัน ซึ่งรําง พรบ.ทั้งสองฉบับมีหลักการให๎โอนอ านาจบางประการของรัฐ เชํน การจัดเก็บภาษีหรือคําธรรมเนียมบางประเภทให๎ อปท. ด าเนินการแทน และโดยที่ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได๎รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให๎พิจารณาเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และได๎หารือรํวมกับ

ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติและกระทรวงการคลังแล๎วเห็นวํา การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษควรก าหนดหนํวยงานบริหารในรูปแบบ one stop service โดยไมํโอนอ านาจตํางๆของรัฐไปด าเนินการแทนจะเหมาะสมกวํา โดยก าหนดเป็นระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยูํระหวํางการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน รัฐมนตรีวําการกระทรวงกลาโหมเสนอวํา การด าเนินการเกี่ยวกับคนตํางด๎าวอาจมีความเกี่ยวข๎องกับความมั่นคง ต๎องบูรณาการในภาพรวมทั้งประเทศเห็นควรให๎รัฐด าเนินการเอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล๎วลงมติ

1. มอบหมายให๎คณะกรรมการกฤษฎีกา ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติและกระทรวงการคลังรับไปพิจารณาเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยให๎รับความคิดเห็นจากรัฐมนตรีวําการกระทรวงกลาโหมไปพิจารณา แล๎วเสนอผลการพิจารณาตํอไป

2. มอบหมายให๎กระทรวงมหาดไทยรับรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแหลมฉบัง พ.ศ. ........ ไปพิจารณาหารือรํวมกับสํวนราชการที่เกี่ยวข๎องให๎สอดคล๎องกับการจัดตั้งเจตเศรษฐกิจพิเศษ กํอนเสนอรําง พรบ.ระเบียบบริหารราชการแหลมฉบังและรําง พรบ.ระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ..... ให๎คณะรัฐมนตรีพิจารณา

3. มอบหมายให๎กระทรวงการคลังรับความเห็นของส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี

4. หากมีรํางพระราชบัญญัติที่มีการบริหารจัดการ อปท.ในพ้ืนที่ที่มีลักษณะพิเศษทางด๎านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล๎อม ซึ่งแตกตํางจาก อปท.ทั่วไป ให๎สํวนราชการผู๎รับผิดชอบหารือรํวมกับสํวนราชการที่เกี่ยวข๎อง โดยให๎สอดคล๎องกับแนวทางการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีอยูํระหวํางการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกากํอนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตํอไป

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2556 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร๎อมคณะได๎ลงพ้ืนที่ตรวจราชการอ าเภอแมํสอด มีนโยบาย “ให๎พัฒนาปรับปรุงสิ่งที่มีอยูํคูํขนานกับการพัฒนาสิ่งใหมํ” ซึ่งจากการขยายตัวของการค๎าขายชายแดนที่มีมูลคําเกือบ 40,000 ล๎านบาท และคาดวําปี ๒๕๕๘ เมื่อเข๎าสูํประชาคมอาเซียน มูลคําการค๎าขายชายแดนแมํสอด – เมียวดี จะมีมูลคํามากกวํา 100,000 ล๎านบาท ในขณะที่สภาพสะพานมิตรภาพไทย-พมําแหํงที่ 1 และดํานพรมแดนแมํสอด ซึ่งในปัจจุบันไมํสามารถรองรับความเจริญเติบโตและอ านวยความสะดวกให๎แกํนักลงทุน นักธุรกิจทั้งไทยและตํางประเทศได๎ จึงต๎องมีการพัฒนาและปรับปรุง ในขณะที่การกํอสร๎างสะพานมิตรภาพไทย-พมําแหํงที่ 2 ที่มากกวํา 6 ปี ที่ยังไมํได๎สร๎าง ประกอบกับมีปัญหาเรื่องการใช๎ประโยชน์ในที่ดิน5,603 ไรํ 56 ตารางวา ที่ยังไมํมีเจ๎าภาพเข๎าไปด าเนินการที่ชัดเจน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได๎มอบหมายให๎รัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู๎รับผิดชอบติดตามโครงการพัฒนาพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ เพ่ือรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมํสอด” และการน าเข๎าสูํประชาคมอาเซียนและรํวมประชุมเพ่ือรับฟังความคิดเห็นของหนํวยงานภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคมในพ้ืนที่ โดยมีแนวทาง เชํน โครงการพัฒนารองรับ เชํนถนน 4 เลน ตาก-แมํสอดการปรับปรุงสนามบินแมํสอดการสร๎างเส๎นทางรถไฟและขุดเจาะอุโมงค์ เชื่อมตํอระบบคมนาคมของเส๎นทาง EWEC เชื่อมไปยังจังหวัดพิษณุโลกไปถึงขอนแกํน และจังหวัดในภาคอีสาน เข๎าสูํประเทศลาวและเวียดนาม เนื่องจากฝุายปกครองเห็นวําแมํสอด เป็นจุดส าคัญนอกเหนือจากการเป็นเมืองเศรษฐกิจการค๎าชายแดนในกลุํม AECแล๎ว เราจะต๎องสร๎างแมํสอด ให๎เป็นศูนย์กลางของ อาเซียน-อินเดียและจีน จึงต๎องเรํงวางยุทธศาสตร์สร๎างนครแมํสอด เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให๎เสร็จสิ้นโดยเร็ว การเรํงรัด ออกรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ“นครแมํสอด” พ.ศ......ควบคูํการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ,โครงการสร๎างสนามกีฬานานาชาติ-การปรับปรุงดํานพรมแดนแมํสอด ให๎สมกับศักยภาพของเมืองประตู AEC-การขยายสนามบินแมํสอด ,การขยายเส๎นทาง 4 เลนชํองทางการจราจร รองรับการเชื่อมโยงเส๎นทาง EWEC จัดตั้งเขตการค๎าการลงทุนรํวมแมํสอด-เมียวดี ของพมํา พร๎อมคณะกรรมการ 2 ประเทศเพ่ือก าหนดรูปแบบ และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจรํวม ,จัดตั้งคณะกรรมการเป็นเจ๎าภาพด าเนินการอยํางตํอเนื่อง เพ่ือพัฒนาพ้ืนที่14,000 ไรํให๎เป็นรูปธรรม ,เรํงกํอสร๎างโครงสร๎างพ้ืนฐานที่จ าเป็นรองรับการสร๎างความเชื่อมโยงระหวํางกันในอาเซียน หรือ ASEAN Connectivity เพ่ือความชัดเจน คือ สร๎างสะพานมิตรภาพไทย-พมําแหํงที่ 2 และถนนเชื่อมโยง บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จหรือ one stop service ของสํวนราชการ และหนํวยงานตํางๆเรํงให๎มีการส ารวจ ออกแบบ เพ่ือพัฒนาถนนสายอ าเภอเมืองตาก- อ าเภอแมํสอดให๎เป็นทางสมัยใหมํ มีการเจาะอุโมงค์ และท าสะพานเชื่อมเพ่ือยํน

ระยะทาง ผลักดันให๎มีเที่ยวบินเชื่อมโยงกรุงเทพฯ- แมํสอด- ยํางกุ๎ง , กรุงเทพฯ-แมํสอด-เมาะละแหมํง และให๎รัฐบาลเจรจาให๎มีการทํองเที่ยวเชื่อมโยงระหวํางชายแดนไทย-พมําโดยใช๎หนังสือผํานแดน ตามข๎อตกลงไทย-พมําวําด๎วยเรื่องการข๎ามแดนปี 2540 โดยเปิดให๎คนไทยสามารถไปได๎ถึงเมืองเมาะละแหมํง และคนพมําเข๎าถึง จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 7 วัน เพ่ือสํงเสริมการทํองเที่ยวระหวํางประเทศ

แ ล ะ ก า ร ป ร ะ ชุ ม ค ร ม . สั ญ จ ร ที่ จั ง ห วั ด อุ ต ร ดิ ต ถ์ เ มื่ อ วั น ที่ 2 1 ม ก ร า ค ม 2 5 5 6 โ ด ย ฯพณฯนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ประชุมมีมติเห็นชอบรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ..... โดยให๎มีการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดเป็นแหํงแรกของประเทศไทย และให๎นครแมํสอดเป็นหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีการเสนอผํานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได๎มอบหมายให๎รัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย ฯพณฯ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นผู๎รับผิดชอบติดตามโครงการพัฒนาพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ เพ่ือรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” และการน าเข๎าสูํประชาคมอาเซียน (AEC)และเป็นพื้นที่น ารํองในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศไทยและในขั้นตอนตํอไป ครม. จะต๎องน ารํางระเบียบดังกลําวเสนอให๎กับคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง (ครั้งที่ 2) กํอนน าเสนอ ครม. เพ่ือให๎นายกรัฐมนตรีลงนามบังคับใช๎ระเบียบนี้ ตํอมารัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ได๎เป็นประธานการประชุม เรื่องติดตามโครงการพัฒนาพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ เพ่ือรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” และการน าเข๎าสูํประชาคมอาเซียน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ห๎องประชุมโรงแรมเซ็นทารา อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ได๎มอบหมายให๎กระทรวงมหาดไทยประสานส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ติดตามรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... และในห๎วงระหวํางที่รอรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีวําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ........ จะประกาศใช๎ ให๎กระทรวงมหาดไทยด าเนินการในสํวนที่เกี่ยวข๎องในรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแ มํสอด พ.ศ. ........ เพ่ือเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีลงนามน าเข๎าวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในโอกาสตํอไป และมีด าริให๎แตํละหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องที่เข๎ารํวมประชุม ได๎สรุปประเด็นปัญหาข๎อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคตํอการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดและประเด็นตํางๆที่เกี่ยวข๎องกับการแก๎ปัญหาระยะเรํงดํวนในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด น าสํงจังหวัดภายใน 2 สัปดาห์ โดยมอบหมายให๎นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู๎ชํวยรัฐมนตรีประจ ากระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบควบคุม ก ากับ ดูแล ติดตาม โครงการพัฒนาพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556ผู๎ชํวยรัฐมนตรีประจ ากระทรวงมหาดไทย นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการติดตามและประสานงานการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” ครั้งที่ 1/2556 ณ ห๎องประชุมกรรมาธิการ หมายเลข 3601 อาคารรัฐสภา 3 ชั้น 6 ได๎รับมอบหมายจากรัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย ให๎รับผิดชอบควบคุมก ากับดูแลติดตามโครงการพัฒนาพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ

วันที่ 20 กุมภาพันธ ์2556จังหวัดตาก ได๎ตั้งคณะกรรมการเรํงรัดติดตามการแก๎ไขปัญหาระยะเรํงดํวนของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ค าสั่งจังหวัดตาก ที่ 298/2556 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 และได๎มีการประชุมคณะกรรมการเรํงรัดติดตามการแก๎ไขปัญหาระยะเรํงดํวนของการจดัตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ณ ห๎องประชุมตากสินมหาราช (ชั้น 5) ศาลากลางจังหวดัตาก วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู๎แทนราษฎร พร๎อมคณะ ได๎เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน๎าในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด เพ่ือรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ณ ที่วําการอ าเภอแมํสอด ได๎มีมติในเรื่องความจ าเป็นระยะเรํงดํวนด๎านโครงสร๎างพ้ืนฐานใน ปี 2557-2558 จะเปิดประตูสูํอาเซียน วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 รัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร พร๎อมคณะ ได๎เดินทางมาก ากับติดตามการปฏิบัติราชการและการแก๎ไขปัญหาภัยแล๎ง ที่จังหวัดตาก และได๎มีนโยบายให๎จังหวัดเรํงทบทวนแผนงานโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตาก และกลุํมจังหวัดภาคเหนือตอนลําง 1 ให๎สอดคล๎องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

วันที่ 15 มีนาคม 2556 นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร๎อมคณะ ได๎เดินทางมาศึกษาดูงานเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจการค๎าและการลงทุนของประเทศไทยกับสหภาพเมียนมาร์ ณ ห๎องประชุมโกเมน เทศบาลนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก

วันที่ 18 มีนาคม 2556 จังหวัดตาก ได๎ประชุมหารือแนวทางในการจัดท าแผนพัฒนาพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแมํสอดณ ห๎องประชุมตากสินมหาราช (ชัน้ 5) ศาลากลางจังหวัดตาก วันที่ 26 มีนาคม 2556 จังหวัดตาก ได๎รับการสนับสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลนครแมํสอด จ านวน 1 ล๎านบาท และได๎ประชุมเพ่ือก าหนดขอบเขตงานศึกษาและออกแบบกํอสร๎างศูนย์ One Stop Service ณ บริเวณหนองน้ าสาธารณะต๎นผึ้ง ณ ห๎องประชุมโกเมน เทศบาลนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด จังหวัดตา ร่างพระราชบัญญัตริะเบียบบริหารราชการนครแมส่อด พ.ศ. .......

เรื่องเดิม 1. ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี(สปน.)ได๎เสนอรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .......

ที่ได๎รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น(ก.ก.ถ.)แล๎ว เพ่ือด าเนินการ 2. คณะรัฐมนตรีได๎มีมติ (วันที่ 22 มิถุนายน 2553) อนุมัติหลักการรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนคร

แมํสอด พ.ศ. ....... ตามที่ สปน. เสนอ และสํงให๎ ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยให๎รับฟังความเห็นของส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติ ส านักงาน ก.พ.ร. ส านักงานต ารวจแหํงชาติ ส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยและส านักงบประมาณ ไปประกอบการพิจารณา แล๎วสํงให๎คณะกรรมการประสานงานด๎านนิติบัญญัติพิจารณา กํอนเสนอสภาผู๎แทนราษฎรพิจารณา

3. ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ๎งวํา คณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะที่ 1) ได๎ตรวจพิจารณารํางพระราชบัญญัติฯเสร็จแล๎ว โดยน าข๎อสังเกตและความเห็นของหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องมาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ได๎น าหลักการในรํางประมวลก าหมายองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น และรํางพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการสํวนท๎องถิ่น พ.ศ. ...... มาพิจารณาเทียบเคียงเพ่ือแก๎ไขปรับปรุงรํางพระราชบัญญัติฯด๎วย เพ่ือมิให๎นครแมํสอดเกิดความลักลั่นกับองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นอ่ืนเมื่อกฎหมายวําด๎วยองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นมีผลบังคับใช๎

4. สปน. ยืนยันให๎ความเห็นชอบรํางพระราชบัญญัติดังกลําวที่ ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1) ตรวจพิจารณาแล๎ว

5. คณะรัฐมนตรีได๎มีมติ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ) รับทราบและเห็นชอบรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .... และให๎สํงให๎คณะกรรมการประสานงานสภาผู๎แทนราษฎรพิจารณาแล๎วเสนอสภาผู๎แทนราษฎรพิจารณา

6. โดยที่ได๎มีการยุบสภาผู๎แทนราษฎร ส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงได๎สํงคืนรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .. คืน เพ่ือให๎ สปน. พิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง สปน.เสนอวําได๎เสนอรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอดให๎ ก.ก.ถ. พิจารณาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 และได๎รับความเห็นชอบรํางพระราชบัญญัติดังกลาํวให๎คณะรัฐมนตรีพิจารณาให๎ความเห็นชอบเพ่ือสํงให๎รัฐสภาพิจารณาตํอไป

เหตุผลและความจ าเป็นในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ เพ่ือเป็นการรองรับแนวนโยบายด๎านการบริหารราชการแผํนดินตามมาตรา 78(3)ของรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักร

ไทย โดยเฉพาะนโยบายด๎านการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นให๎สามารถพ่ึงตนเองและตัดสินใจในกิจการของท๎องถิ่นเองได๎ รวมทั้งพัฒนาจังหวัดที่มีความพร๎อมให๎เป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นขนาดใหญํ ประกอบการมาตรา 284 วรรคเก๎า ซึ่งบัญญัติให๎จัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษที่มีโครงสร๎างการบริหารที่แตกตํางจากองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นทัว่ไปได๎ภายใต๎เงื่อนไขที่วําคณะผู๎บริหารท๎องถิ่นหรือผู๎บริหารท๎องถิ่นต๎องมาจากการเลือกตั้ง จึงสมควรสนับสนุนให๎พื้นที่ในสํวนของเทศบาลนครแมํสอดและเทศบาลต าบลทําสายลวด จังหวัดตาก ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นประตูเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยงกับประเทศเพ่ือนบ๎าน และสามารถพัฒนาให๎เป็นฐานในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การค๎า และการลงทุนที่สอดคล๎องกับการพัฒนาประเทศ ได๎จัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เพ่ือให๎สามารถจัดบริการสาธารณะที่มีคุณภาพแกํประชาชนและรองรับการเจริญเติบโตของพ้ืนที่ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ

สาระส าคัญของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแม่สอด พ.ศ. .... จัดตั้งนครแมํสอดขึ้นเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษและก าหนดระเบียบบริหารราชการนครแมํสอดไว๎

ดังตํอไปนี้ 1. การจัดตั้งนครแม่สอด ก าหนดให๎จัดตั้งนครแมํสอดขึ้นเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีเขตพ้ืนที่ครอบคลุม

พ้ืนที่ของเทศบาลนครแมํสอดและเทศบาลต าบลทําสายลวดที่มีอยูํในวันกํอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช๎บังคับ โดยภายหลังจากจัดตั้งนครแมํสอดขึ้นแล๎วให๎ยุบเทศบาลทั้งสอง และเขตพ้ืนที่ของนครแมํสอดจะไมํรวมอยูํในเขตองค์การบริหารสํวนจังหวดัตาก

2. การบริหารนครแม่สอด ก าหนดให๎นครแมํสอดมีสภานครแมํสอด และนายกนครแมํสอดซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

และทั้งสองฝุายมีวาระคราวละ 4 ปี โดยสภานครแมํสอดมีสมาชิกจ านวน 36 คน และนายกนครแมํสอดอาจแตํงตั้งรองนายกนครแมํสอดได๎ไมํเกิน 4 คน

นอกจากนี้ยังก าหนดให๎มี “คณะกรรมการที่ปรึกษาพัฒนานโยบายนครแมํสอด”ซึ่งประกอบด๎วยหัวหน๎าสํวนราชการหรือผู๎แทนรัฐวิสาหกิจที่ผู๎วําราชการจังหวัดแตํงตั้งจ านวน 7 คน ผู๎แทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข๎องที่นายกนครแมํสอดแตํงตั้งจ านวน 7 คน และผู๎ทรงคุณวุฒิที่สภานครแมํสอดแตํงตั้งจ านวน 7 คน ท าหน๎าที่ให๎ข๎อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดท าแผนพัฒนานครแมํสอด การด าเนินการตามอ านาจหน๎าที่ การจัดท ารํางข๎อบัญญัติงบประมาณ การแก๎ไขปัญหาแกํนายกนครแมํสอดจะต๎องน าข๎อเสนอแนะหรือความเห็นของคณะกรรมการฯไปค านึงด๎วย

3. อ านาจหน้าที่ของนครแม่สอด นอกจากมีหน๎าที่เชํนเดียวกับเทศบาลนครแล๎ว เมื่อนครแมํสอดมีความพร๎อมและคณะรัฐมนตรีเห็นสมควร

อาจมีการตราพระราชกฤษฎีกาก าหนดให๎นครแมํสอดมีอ านาจหน๎าที่เข๎าไปบริหารจัดการหรือด าเนินการตามกฎหมายวําด๎วยการด าเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข๎องกับการเป็นเมืองการค๎าชายแดนเพ่ิมขึ้นได๎ อาทิ กฎหมายวําด๎วยการสํงเสริมการลงทุน กฎหมายวําด๎วยการท างานของคนตํางด๎าว กฎหมายวําด๎วยคนเข๎าเมือง กฎหมายวําด๎วยธุรกิจน าเที่ยวและมัคคุเทศก์ กฎหมายวําด๎วยการผังเมือง กฎหมายวําด๎วยโรงงาน กฎหมายวําด๎วยการสํงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล๎อม เป็นต๎น

4. รายได้ของนครแม่สอด นครแมํสอดจะมีรายได๎ตามที่กฎหมายก าหนดให๎เป็นรายได๎ของเทศบาลและองค์การบริหารสํวนจังหวัดใน

เขตพ้ืนที่ของนครแมํสอด และอาจมีรายได๎ตามกฎหมายอ่ืนๆ เพ่ิมขึ้นจาก อปท. ทั่วไป รายได๎เพ่ิมเติมจากอ านาจหน๎าที่ในการอนุญาตให๎คนตํางด๎าวที่มีภูมิล าเนาและเป็นคนสัญชาติของประเทศที่มีชายแดนติดกับนครแมํสอดเข๎ามาท างานในเขตพ้ืนที่ได๎เป็นการชั่วคราวหรือตามฤดูกาลเนื่องจากปรากฏข๎อเท็จจริงวําในปัจจุบันมีคนตํางด๎าวที่เข๎ามาท างานในเขตนครแมํสอดในลักษณะเช๎ามาเย็นกลับเป็นปริมาณมาก ซึ่งเป็นผลให๎นครแมํสอดมีภาระหน๎าที่ในการบริหารจัดการกับกลุํมคนตํางด๎าวเหลํานี้ซึ่งต๎องมีคําใช๎จํายเป็นจ านวนสูงมาก เชํน การรักษาความสะอาด การปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม การอนามัยและสิ่งแวดล๎อม คําธรรมเนียมอนุญาตให๎คนตํางด๎าวท างานในนครแมํสอด ฯลฯ ทั้งนี้ตามที่กฎหมายก าหนด นอกจากนครแมํสอดจะมีรายได๎คําธรรมเนียมที่จัดเกบ็รายได๎จากอ านาจหน๎าที่พิเศษที่เพ่ิมขึ้นทุกรายการด๎วย

5.การก ากับดูแล ผู๎วําราชการจังหวัดมีอ านาจหน๎าที่ก ากับดุแลการปฏิบัติราชการของนครแมํสอดและรัฐมนตรีวําการ

กระทรวงมหาดไทยมีอ านาจสั่งเพิกถอนหรือสั่งให๎ระงับการปฏิบัติการใดของนครแมํสอดหรือสั่งการอ่ืนใดได๎ตามที่เห็นสมควร

ตารางการจดัสรรงบประมาณเงินอดุหนุนให้แกอ่งค์กรปกครองส่วนทอ้งถิ่นปีงบประมาณ 2555 และ ปีงบประมาณ 2556

ร่างระเบียบส านกันายกรัฐมนตรี ว่าดว้ยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .......... เรื่องเดิม ส านักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ๎ง สศช.วําส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นชอบรํางระเบียบฯและ

นายกรัฐมนตรีให๎ความเห็นชอบแล๎วในหลักการ แตํให๎ส านักงาน สศช. น ารํางระเบียบฯน าไปพิจารณาในรายละเอียดเพ่ือน าเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตํอมา สศช. ได๎เห็นควรเพ่ิมเติมสาระเพ่ือให๎รํางระเบียบฉบับนี้มีประสิทธิภาพและสามารถท างานอยํางสอดคล๎องมีบูรณาการกับภาคสํวนตํางๆมากขึ้น ดังนี้

1. ให๎หนํวยงานที่จะพัฒนาและรับผิดชอบก ากับดูแลพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแตํละแหํงเป็นผู๎จัดท าแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการแทนส านักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

2. เพ่ือความคลํองตัวในการท างานและเพ่ือบูรณาการท างานกับทุกภาคสํวนโดยการท างานจะต๎องสอดคล๎องกับกฎหมายและระเบียบอ่ืนๆที่เกี่ยวข๎องโดยไมํขัดกัน

หลักการ 1. สนับสนุน อปท.ให๎มีการบริการสาธารณะตอบสนองความต๎องการของประชาชน มีศักยภาพที่มีระบบสาธารณูปโภค

และสาธารณูปการของตนเองในการรองรับการขยายตัวด๎านเศรษฐกิจ 2. ประชาชนและ อปท. ในพ้ืนที่ต๎องมีสํวนรํวมกันท าและต๎องได๎รับความเห็นชอบจากประชาชนและ อปท.ในพ้ืนที่ใน

การพัฒนาพ้ืนที่เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เชํน การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดท าแผนแมํบท เป็นต๎น 3. สํวนกลางและราชการสํวนภูมิภาคให๎การสนับสนุนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษโดยการมอบอ านาจในการอนุมัติ

อนุญาต ปฏิบัติราชการหรือด าเนินการอ่ืนใดหรือมติของ ครม. ที่เกี่ยวข๎องกับการค๎าบริเวณพรมแดนไทยกับประเทศเพ่ือนบ๎านและการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียนในลักษณะแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ คือ ระบบ Asean Single Window (อ าเภอพิเศษแมํสอด)

สาระส าคัญของระเบียบนี้ (สศช.เสนอ) 1. ค านิยามที่ส าคัญ

1.1 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หมายความวํา พ้ืนที่ทั้งหมดหรือบางสํวนของ อปท.แหํงหนึ่ง หรือหลายแหํงที่ได๎รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร๎างพ้ืนฐานที่จ าเป็นตํอการค๎าสินค๎าหรือบริการ หรือการลงทุน เพ่ือรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการค๎าบริเวณพรมแดนและการค๎าเสรีในกรอบอาเซียน รวมทั้งการพัฒนาระบบการบริการแบบ OSS ที่สอดคล๎องกับ “ ASEAN Single Window ”

1.2 การให๎บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ หมายถึง การที่ราชการบริหารสํวนกลางและราชการสํวนภูมิภาค บรรดาอ านาจหน๎าที่การอนุมัติ อนุญาต ปฏิบัติราชการหรือด าเนินการอ่ืนใดตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศหรือค าสั่งใดหรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข๎องกับการค๎าบริเวณพรมแดนระหวํางประเทศไทยกับประเทศเพ่ือนบ๎านและการค๎าภายใต๎กรอบอาเซียน โดยมอบอ านาจให๎แกํเจ๎าหน๎าที่สํวนภูมิภาคเพ่ือให๎สามารถสั่งการ อนุญาต อนุมัติปฏิบัติการ หรือด าเนินการจุดเดียวในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนั้น

1.3 หนํวยงาน หมายความวํา ราชการสํวนท๎องถิ่น ราชการสํวนกลาง ราชการสํวนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจและหนํวยงานอ่ืนๆ

1.4 หนํวยงานรับผิดชอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หมายถึงหนํวยงานที่รับความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรีให๎เป็นผู๎รับผิดชอบและก ากับดูแลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแตํละแหํง

2. องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 1. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ 2. รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ 3. รัฐมนตรีวําการกระทรวงกลาโหม,รัฐมนตรีวําการะทรวงการคลัง,รัฐมนตรีวําการกระทรวงการ

ตํางประเทศ,รัฐมนตรีวํากระทรวงคมนาคม,รัฐมนตรีวําการกระทรวงพาณิชย์,รัฐมนตรีวําการะทรวง

มหาดไทย,รัฐมนตรีวําการกระทรวงอุตสาหกรรม,รัฐมนตรีวําการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

4. ผู้แทนการค้าไทย ประธานสภาหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 5. ผู๎ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแตํงตั้งอีกไมํเกิน 10 คน 6. เลขาธิการ สศช. เป็นกรรมการและเลขานุการและให๎ผู๎อ านวยการส านักเป็นผู๎ชํวยเลขานุการ

3. อ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายมี 10 ข้อ 1. พิจารณาและเสนอแผนแม่บทต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ 2. พิจารณาและให๎ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการที่ส านักงานเสนอ 3. ให๎ความเห็นเกี่ยวกับแผนงานหรือโครงการของหนํวยงานตามที่ส านักงานร๎องขอ 4. ก าหนดแนวทางให๎หนํวยงานถือปฏิบัติเพ่ือให๎การสํงเสริมและพัฒนาการค๎าบริเวณพรมแดนและการค๎า

เสรีภายใต๎กรอบอาเซียนเป็นไปโดยเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 5. ก ากับดูแล ติดตามและประเมินผลการด าเนินงานตามแผนแมํบท ตลอดจนให๎ค าแนะน าแก๎ไขปัญหา

อุปสรรคเพ่ือให๎หนํวยงานด าเนินแผนงานหรือโครงการตามแผนแมํบทและรายงานผลการด าเนินงานตํอคณะรัฐมนตรี

6. แตํงตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะท างานได๎ตามความเหมาะสม 7. สํงเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนและประชาชนให๎มีความรู๎และสํวนรํวมในการด าเนินการให๎เป็นไปตาม

แผนแมํบท 8. เชิญเจ๎าหน๎าที่หนํวยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข๎องมาชี้แจง หรือเรียกเอกสารจากหนํวยงานหรือบุคคลที่

เกี่ยวข๎องเพ่ือประกอบการพิจารณาได๎ตามความจ าเป็น 9. ออกระเบียบ ประกาศ และค าสั่ง เพ่ือปฏิบัติการตามระเบียบนี้ 10. ปฏิบัติการอ่ืนใดเพ่ือให๎เป็นไปตามระเบียบนี้ หรือตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนากรัฐมนตรีมอบหมาย

4. ส านักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเป็นหน่วยงานภายใน สศช. มีอ านาจหน้าที่ 8 ข้อ 1. ศึกษา วิเคราะห์ร่างแผนแม่บทเพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายพิจารณาและให้ความเห็นชอบ 2. ตรวจสอบและวิ เคราะห์แผนงานหรือโครงการและแผนปฏิบัติการของหนํวยงานเพ่ือเสนอ

คณะกรรมการนโยบายพิจารณาและให๎ความเห็นชอบ 3. ประสานการปฏิบัติงานและให๎ค าแนะน าแกํหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องในการจัดท าแผนงานหรือโครงการ

ตํางๆตามแผนแมํบท 4. อ านวยความสะดวกและประสานงานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนมี

ส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นไปตามแผนแม่บท 5. อ านายการ ติดตามผล และประสานงานการบริหาร และการปฏิบัติตามแผนแมํบทรวมทั้งสนับสนุนและ

ให๎ค าแนะน าแกํหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องกับการด าเนินงานเพ่ือให๎เป็นไปตามแผนแมํบท 6. ศึกษา วิเคราะห์ หรือวิจัย ปัญหา อุปสรรคในการพัฒนาพ้ืนที่ และเสนอแนวทางการแก๎ไขปัญหาและ

อุปสรรคดังกลําวตํอคณะกรรมการนโยบาย 7. ขอยืมตัวบุคคล วัสดุ อุปกรณ์และครุภัณฑ์ รวมทั้งการขอใช๎ทรัพย์ของหนํวยงานเพ่ือชํวยเหลือการ

ปฏิบัติงานของส านักงานได๎ตามความจ าเป็น 8. ปฏิบัติงานหรือด าเนินการอ่ืนใดตามที่คณะกรรมการนโยบายหรือประธานกรรมการมอบหมาย

5. หนํวยงานที่รับผิดชอบขอบเขตการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ คือ หนํวยงานที่คณะรัฐมนตรีให๎รับผิดชอบและก ากับดูแล เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแตํละแหํง เป็นผู๎จัดท าแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการของขอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจนั้นๆ เพ่ือให๎การจัดท าแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการมีความรวดเร็วและสอดคล๎องกับความต๎องการของประชาชนในชุมชนท๎องถิ่นแตํละแหํง

6. การด าเนินการตามรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีฯ 6.1 หน่วยงานที่ประสงค์จะรับผิดชอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจัดท าร่างแผนแม่บทและรับฟังความคิดเห็น

ของ อปท.และประชาชนในชุมชนท้องถิ่น (ข้อ 14) 6.2 เสนอรํางแผนแมํบทผํานความเห็นชอบของกระทรวงเจ๎าสังกัดตํอคณะกรรมการนโยบายและคณะรัฐมนตรี

พิจารณาตามล าดับ (ข๎อ 14) 6.3 เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแมํบทเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนั้นๆให๎คณะกรรมการนโยบายก าหนดแนว

ทางการด าเนินการ เพ่ือให๎หนํวยงานปฏิบัติตามแผนแมํบท (ข๎อ 16) 6.4 หนํวยงานเจ๎าของแผนงานหรือโครงการที่ถูกมอบหมายให๎ด าเนินการตามแผนแมํบท จัดท าแผนแมํบท จัดท า

แผนงานโครงการสํงให๎หนํวยงานรับผิดชอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พร๎อมรับฟังความคิดเห็นของ อปท. และประชาชนในพ้ืนที่ (ข๎อ 17)

6.5 หนํวยงานรับผิดชอบขอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจัดท าแผนปฏิบัติการเสนอตํอคณะกรรมการนโยบายและคณะรัฐมนตรีพิจารณา (ข๎อ 17,18)

6.6 เมื่อคณะรัฐมนตรีให๎ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการให๎หนํวยงานเจ๎าของแผนแมํบทหรือโครงการด าเนินการให๎เป็นไปตามเปูาหมาย พร๎อมทั้งให๎มีระบบควบคุม ตรวจสอบ และติดตามความก๎าวหน๎าและสํงรายงานความก๎าวหน๎าของแผนงานหรือโครงการเพ่ือเสนอให๎กับคณะกรรมการนโยบายทราบ (ข๎อ 18,19)

ข้อเสนอ อ าเภอแม่สอดและเทศบาลนครแม่สอด จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดท าแผนแม่บทในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด

เหตุผลในการเร่งออกกฎหมายร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแม่สอด พ.ศ. ...... และร่างระเบียบส านกันายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ...... ****************************************************************************

ตามที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได๎ลงพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก เมื่อ วันที่ 20 มกราคม 2556 และเป็นประธานการประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ..... โดยให๎มีการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดเป็นแหํงแรกของประเทศไทย และให๎นครแมํสอดเป็นหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีการเสนอผํานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได๎มอบหมายให๎รัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย ฯพณฯ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นผู๎รับผิดชอบติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่อ าเภอแมํสอดที่ต๎องเรํงด าเนินการ เพ่ือรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” และการน าเข๎าสูํประชาคมอาเซียน (AEC) เพ่ือเป็นการเตรียมความพร๎อมในการด าเนินการให๎เป็นไปตามรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีวําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ... เมื่อมีผลบังคับใช๎แล๎วให๎เป็นไปด๎วยความถูกต๎อง รวดเร็ว และเป็นรูปธรรม จึงเห็นควรที่จะเรํงด าเนินการออกกฎหมาย รํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .... ให๎มีผลบังคับใช๎โดยเรํงดํวน เนื่องจากเหตุผลและความจ าเป็น ดังนี้ 1. เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย มาตรา 78(3) บัญญัติให๎รัฐต๎องด าเนินการตามแนวนโยบายด๎านการบริหารราชการแผํนดิน โดยเฉพาะนโยบายด๎านการกระจายอ านาจให๎แกํองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นให๎สามารถพ่ึงตนเองได๎และตัดสินใจในกิจการของท๎องถิ่นเองได๎ รวมทั้งพัฒนาจังหวัดที่มีความพร๎อมให๎เป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นขนาดใหญํ ประกอบกับ มาตรา 289 วรรคเก๎า ซึ่งบัญญัติให๎จัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษที่มีโครงสร๎างการบริหารที่แตกตํางจากองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นทั่วไปได๎ภายใต๎เงื่อนไขที่วําคณะผู๎บริหารท๎องถิ่นหรือผู๎บริหารท๎องถิ่นต๎องมาจากการเลือกตั้ง จึงสมควรสนับสนุนให๎พื้นที่ในสํวนของเทศบาลนครแมํสอดและเทศบาลทําสายลวด จังหวัดตาก ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นประตูเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยงกับประเทศเพ่ือนบ๎าน และสามารถพัฒนาให๎เป็นฐานในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การค๎า และการลงทุนที่สอดคล๎องกับการพัฒนาประเทศ ได๎จัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เพ่ือให๎สามารถจัดบริการสาธารณะที่มีคุณภาพแกํประชาชนและรองรับการเจริญเติบโตของพ้ืนที่ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ 2.รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขึ้นเพ่ือสํงเสริมการค๎าและการลงทุนของประเทศ โดยใช๎ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด๎านคมนาคมขนสํงของภูมิภาคอาเซียนและข๎อตกลงการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียน และนโยบายสนับสนุนการด าเนินงานขององค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นให๎มีระบบที่มีประสิทธิภาพ โปรํงใส และสามารถให๎บริการสาธารณะตอบสนองความต๎องการของประชาชนได๎ตามความคาดหวัง ประกอบกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศอยํางชัดเจนวําจะจัดตั้งเขตพิเศษ โดยให๎นครแมํสอดเป็นแหํงแรกที่จะจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจแมํสอด อีกทั้งกระทรวงมหาดไทย โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล๎วเห็นวํา รํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ... มีเนื้อหาในการสํงเสริมและสนับสนุนให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาพ้ืนที่ของตนขึ้นเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่มีระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ บริการสาธารณะขั้นพ้ืนฐานและสภาพแวดล๎อมที่เหมาะสมและจ าเป็นตํอการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการค๎าบริเวณพรมแดนและการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียนได๎อยํางรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล๎องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักการการพัฒนายั่งยืน และหลักการมีสํวนรํวมของประชาชนและองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จึงเห็นควรให๎ความเห็นชอบในหลักการ ดังนั้น เพ่ือให๎การด าเนินการตามนโยบายดังกลําวเป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ จึงมีความจ าเป็นต๎องมีกลไกลขับเคลื่อนการสํงเสริมและสนับสนุนให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่มีศักยภาพโดยเฉพาะการปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมํสอด” สามารถพัฒนาพ้ืนที่ข้ึนเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่มีระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ บริการสาธารณะขั้นพ้ืนฐาน และสภาพแวดล๎อมที่เหมาะสมและจ าเป็นตํอการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการค๎าบริเวณพรมแดนและการค๎าเสรีได๎กรอบอาเซียน

3. รํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ...ก าหนดบทนิยามค าวํา “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ”หมายความวํา พ้ืนที่ทั้งหมดหรือบางสํวนขององค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นหนึ่งหรือหลายแหํงที่ได๎รับสนับสนุนจากรัฐในการพัฒนาโครงสร๎างพ้ืนฐานที่จ าเป็นตํอการค๎าสินค๎าหรือบริการ หรือการลงทุนเพ่ือรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการค๎าบริเวณพรมแดนและการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียน รวมทั้งการพัฒนาระบบการให๎บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จที่สอดคล๎องกับระบบ ASEAN Single Window

สภาพพ้ืนที่ของเทศบาลนครแมํสอดในปัจจุบัน ไมํมีพ้ืนที่ติดตํอบริเวณพรมแดน จึงจ าเป็นต๎อง จัดตั้งนครแมํสอดขึ้นเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ให๎มีเขตพ้ืนที่ครอบคลุมพ้ืนที่ของเทศบาลนครแมํสอดและเทศบาลต าบลทําสายลวด ตามรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ... 4. รํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ... มาตรา 78 บัญญัติให๎มีอ านาจพิเศษ เมื่อนครแมํสอดมีความพร๎อมและคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะตราพระราชกฤษฎีกาก าหนดให๎นครแมํสอดมีอ านาจหน๎าที่ตามกฎหมายวําด๎วย การสํงเสริมการลงทุนการท างานของคนตํางด๎าวการประกอบธุรกิจของคนตํางด๎าว, คนเข๎าเมือง, ธุรกิจน าเที่ยวและมัคคุเทศก,์ การสํงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล๎อม, การผังเมือง, โรงงาน, การจราจรทางบก, การขนสํงทางบกในสํวนที่ไมํเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์ จะท าให๎หนํวยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ในพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดและท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” ได๎เกิดการบูรณาการรํวมกันแบบเบ็ดเสร็จในลักษณะ one stop service ซึ่งจะท าให๎การบริหารจัดการในพ้ืนที่เกิดความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการได๎อยํางสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

5. รายได๎จากการจัดเก็บคําธรรมเนียมจากการอนุมัติ อนุญาต หรือพิจารณาของเทศบาล นครแมํสอดตามอ านาจพิเศษ ซึ่งได๎กลําวไว๎ในข๎อ 4 และรายได๎ตามหมวด 6 แหํง รําง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ... มีจ านวนมากเพียงพอที่นครแมํสอดจะด าเนินการจัดท าบริการสาธารณะพ้ืนฐาน เพ่ือตอบสนองความจ าเป็นของชุมชนเป็นการแบํงเบาภาระคําใช๎จํายของรัฐบาลในการด าเนินการ และพร๎อมรองรับการจัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอยํางเต็มรูปแบบตํอไป

6. หนํวยงานรับผิดชอบเขตเศรษฐกิจพิเศษ หมายถึง หนํวยงาน(ราชการสํวนกลาง,ราชการสํวนภูมิภาค, ราชการสํวนท๎องถิ่น,รัฐวิสาหกิจและหนํวยงานอ่ืนของรัฐ) ที่ได๎รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให๎เป็นผู๎รับผิดชอบและก ากับดูแลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแตํละแหํง เป็นผู๎จัดท ารํางแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนั้นๆ เพ่ือให๎การจัดท าแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการ มีความรวดเร็วและสอดคล๎องกับความต๎องการของประชาชนในชุมชนท๎องถิ่นแตํละแหํง

เทศบาลนครแมํสอดมีความประสงค์จะรับผิดชอบเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด จึงได๎จัดจ๎างบริษัทที่ปรึกษา โครงการจัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่เทศบาลนครแมํสอดและพ้ืนที่ใกล๎เคียง เพ่ือรองรับการเป็นองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการน าเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) โดยการแนะน าและเห็นชอบจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติ 7 เป็นแรงจูงใจให๎กลุํมนักลงทุนที่จะเข๎ามาลงทุนในพ้ืนที่ เนื่องจากนักลงทุนให๎ความส าคัญเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้เป็นอยํางมาก จะเป็นการกระตุ๎นท าให๎เกิดการแขํงขันการลงทุนในพ้ืนที่ให๎มีความสามารถในการแขํงขันการตลาดภายนอกได๎ 8. ในการประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด โดยเห็นชอบรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ..... จากหลักการของรํางระเบียบดังกลําว เป็นการกระจายอ านาจในลักษณะการปกครองรูปแบบใหมํ โดยให๎สํวนกลางท างานกับท๎องถิ่นโดยตรงในทุกมิติ เชํนการปกครอง การจัดท าแผนแมํบท(แผนปฏิบัติการ) การมอบอ านาจ หน๎าที่ การจัดสรรงบประมาณ ตลอดจนการออกกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข๎องให๎กับสํวนท๎องถิ่นและสํวนภูมิภาคที่อยูํในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด เพ่ือให๎เกิดความคลํองตัว รวดเร็ว มีเอกภาพ ตอบสนองความต๎องการของประชาชน ความคลํองตัวของนักลงทุน ในลักษณะ OSS (One Stop Service) จะเห็นได๎วําหลักการบริหารจัดการแบบรัฐบาลสูํท๎องถิ่นโดยตรง ซึ่งมีอยูํหลายประเทศท่ีประสานงานโดยตรงกับรัฐบาล เชํน จีน ญี่ปุุน เกาหลี เป็นต๎น ท าให๎ประชาชนและประเทศชาติได๎รับประโยชน์อยํางมหาศาล โดยเฉพาะความสนใจจากนักลงทุนจากตํางประเทศ และคิดวําการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดจะเป็นตัวอยําง(Model) ของประเทศไทย เพ่ือเตรียมความพร๎อมของพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแมํสอด สูํประชาคมอาเซียน และการค๎าเสรีในปี 2558

9. ตามนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได๎มีการประกาศจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดเป็นแหํงแรกของประเทศไทย และให๎นครแมํสอดเป็นหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีการเสนอผํานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดและนครแมํสอด จะต๎องท างานรํวมกันแบบบูรณาการ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด 10. จากรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ... เมื่อก าหนดพ้ืนที่ใดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแล๎ว มีความจ าเป็นต๎องมีการจัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เนื่องจากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพ่ือสํงเสริมการค๎าและการลงทุนของประเทศ โดยใช๎ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด๎านคมนาคมขนสํงของภูมิภาคอาเซียนและข๎อตกลงการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียน สํวนการจัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพ่ือให๎สามารถจัดบริการสาธารณะที่มีคุณภาพแกํประชาชน และรองรับการเจริญเติบโตของพ้ืนที่ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาการบริหารจัดการของท๎องถิ่นให๎มีระบบที่มีประสิทธิภาพ โปรํงใส ดังนั้น การจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ กับองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ จึงมีวัตถุประสงค์ท่ีแตกตํางกันและไมํเป็นการซ้ าซ๎อนแตํอยํางใด

11. การเป็นพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจะสํงผลดีตํอองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ดังนี้ 11.1 เป็นการสนับสนุนให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่อยูํในพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ มีการพัฒนาที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะในด๎านโครงสร๎างพ้ืนฐาน 11.2 เพ่ิมรายได๎ให๎กับองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน คําธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน ภาษีธุรกิจเฉพาะ ส าหรับการก าหนดพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ควรก าหนดให๎ครอบคลุมพ้ืนที่ด าเนินการ ตามแผนงาน/โครงการ ที่ก าหนดไว๎ในแผนแมํบท และควรให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่เกี่ยวข๎องเข๎าไปมีสํวนรํวมในการด าเนินงานในการจัดตั้งเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในทุกขั้นตอน และเข๎าไปมีสํวนรํวมในการเป็นคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในกรณรีํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .... ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13มีนาคม 2555 ได๎มอบหมายให๎กระทรวงมหาดไทยรับรํางพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. .... ไปพิจารณา โดยให๎หารือรํวมกับสํวนราชการที่เกี่ยวข๎องให๎สอดคล๎องกันกับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ กํอนเสนอรํางพระราชบัญญัติดังกลําวให๎คณะรัฐมนตรีพิจารณา

ดังนั้น ทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด และองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด”จะต๎องขับเคลื่อนไปพร๎อมกัน ซึ่งจะท าให๎เกิดการบริหารจัดการและพัฒนาท๎องถิ่นการลงทุน การค๎าขายชายแดน มีเอกภาพ เพ่ือให๎เกิดการพัฒนาท๎องถิ่นและประเทศชาติด าเนินการได๎อยํางตํอเนื่อง แบบมีคุณภาพทั้งประชาชนเยาวชน และประเทศไทย

ประเดน็ที่ส าคัญของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมส่อด / ทอ้งถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมส่อด” 1. เรํงรัดการออกกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข๎องกับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดและท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ 2. การบรหิารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน)

2.1 ที่ดินเอกชน 2.2 ที่ดินของทางราชการ

3. การจัดท าแผนแมํบท 15 ลา๎นบาทและงบประมาณของเทศบาลนครแมํสอดในการออกแบบสะพานแหํงที่ 1 ปรับปรุงภูมิทัศน์ดํานพรมแดน อาคาร ONE STOP SERVICE และขยายผิวจราจรบริเวณดํานพรมแดนงบประมาณ

1 ล๎านบาท 4. โครงการตามแผนแมํบทและแผนปฏิบัติการ 3 ระยะ

4.1 โครงการเรํงดวํน - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวขอ๎ง - โครงสร๎างพ้ืนฐาน,สะพาน,สนามบิน ฯลฯ

4.2 โครงการระยะปานกลางและระยะยาว

ประเดน็ที่ขอรับการสนับสนุนและผลักดันในการรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด 1. เรํงรัดระเบียบและกฎหมายที่เกีย่วข๎อง เชํน

1.1 ราํงระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีวําดว๎ยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ....... 1.2 รํางพระราชบัญญัติระเบียบบรหิารราชการนครแมสํอด พ.ศ. .......... 1.3 การบริหารจัดการแรงงานตํางดา๎วเป็นแรงงานอาเซียนสูรํะบบสากล 1.4 การมอบหมายอ านาจหน๎าที่การอนุมัติ อนุญาต การถํายโอนภารกิจ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข๎อง

อ านาจของรัฐมนตรี อธิบด ี กระทรวง ทบวง กรม สูํ อ าเภอ สํวนราชการภูมภิาคและสวํนทอ๎งถิ่นในพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแมํสอด เพ่ือให๎เกิดการบรหิารจัดการแบบเบ็ดเสร็จในลักษณะรวดเร็ว ถูกต๎อง มีเอกภาพ ลักษณะ ONE STOP SERVICE เพ่ือบริการให๎กับนักลงทุนทั้งในประเทศและตํางประเทศ

1.5 การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข๎องกับการค๎าการลงทุนและนิคมอุตสาหกรรมบริเวณชายแดนแมํสอด 2. การบริหารจัดการอสงัหาริมทรพัย์ (ที่ดิน)

2.1 ที่ดินของทางราชการ เชํน ที่ดินราชพัสดุ ปาุสงวน ปุาปลกู ปุา มติ ครม. 2.2 ที่ดินของเอกชน เชํน ที่ดนิที่มีเอกสารสิทธ ์เป็น น.ส. 3 หรือ โฉนดที่ดิน 2.3 อ่ืนๆ

3. การจัดท าแผนแมํบท ตามข๎อเสนอของท๎องถิ่นและสํวนภูมิภาคในพ้ืนที่ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ อ าเภอแมํสอด โดยให๎เทศบาลนครแมสํอดและอ าเภอแมํสอด เป็นผูร๎ับผิดชอบ แผนแมํบท โดยให ๎สศช. เป็นกรรมการที่ปรึกษา 3.1 โครงการเรํงดวํน 8 โครงการเป็นโครงการเพ่ือรองรับเป็นองค์กรปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เขตเศรษฐกิจพิเศษและน าเข๎าสูํประชาคมอาเซียน โดยมีโครงการพัฒนาที่ต๎องเรํงด าเนนิการ ดังนี ้ 1.การบังคับใช๎กฎหมาย

1.1. รํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วาํด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ... 1.2 รํางพระราชบัญญัตริะเบียบบริหารราชการนครแมํสอด พ.ศ. ......

2. โครงการกํอสร๎างสะพานคูํขนาน สะพานมิตรภาพไทย-พมํา แหํงที่ 1 พร๎อมทั้งปรับปรุง ดํานพรมแดน ลานจอดรถและศนูย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ

3. โครงการปรบัปรุงขยายสนามบินนครแมํสอด 4. โครงการแก๎ไขปัญหาน้ าทํวมในเขตเทศบาลนครแมํสอด 5. โครงการปรบัปรุงศูนย์การทอํงเที่ยวและสํงเสริมสนิค๎าOTOP อ.แมํสอด จ.ตาก

6. เรํงรัดการใช๎พ้ืนที่ปุาสงวนแหํงชาติ 3,000 ไรํ (บริเวณด๎านข๎างมหาวิทยาลัยราชภฎั ก าแพงเพชร อ.แมํสอด จ.ตาก) 7. โครงการปรับปรงุผังเมืองรวมนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด อ าเภอแมํระมาด อ าเภอพบพระ 8. โครงการของสํวนราชการและภาคเอกชนในพ้ืนที่

3.2 โครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาในทุกสํวนราชการในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด 57,000 ล๎านบาท เป็นแผนงานโครงการภาคราชการ เอกชน และประชาสังคม ในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก เตรียมความพร๎อมรองรับการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด – ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมํสอด”สูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเป็นประตูสูํอันดามัน ตามเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ East West Economic Corridor ดังนี้ 1. โครงการพัฒนาโครงขํายถนนในผังเมืองรวมเมืองแมํสอด เพ่ือรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2. โครงการกํอสร๎างปรับปรุงขยายการประปาสํวนภูมิภาคสาขาแมํสอดอ.แมํสอด(ระยะที ่1) 3. โครงการกํอสร๎างปรับปรุงขยายการประปาสํวนภูมิภาคสาขาแมํสอด อ.แมํสอด (ระยะที่ 2) 4. โครงการระบบเคเบิ้ลใต๎ดินในเขตนครแมํสอด อ.แมํสอด จ.ตาก 5. โครงการปรับปรุงสภาพแวดล๎อมระเบียบระบบจ าหนํายในเขตชุมชนหนาแนนํ อ.แมํสอด 6. โครงการเชื่อมโยงสายสงํแรงสูง 115KV อ.สามเงา – อ.บ๎านตาก – อ.แมํระมาด 7. โครงการเชื่อมโยงระบบจ าหนาํย 22KV บ๎านวังผาอ.แมํระมาด– บ๎านวาเลย์อ.พบพระ(แนว

ตะเข็บชายแดน 8. โครงการกํอสร๎างสถานีไฟฟูาแรงสูง พ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษ อ.แมสํอด 50MVA 115/22KV 9. โครงการเชื่อมโยงสายสงํแรงสูง 115 KV อ.แมํระมาด - พ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษ อ.แมสํอด 10. โครงการกํอสร๎างสถานีไฟฟูาแรงสูง พบพระ อ.พบพระ 50MVA 115/22 KV 11. โครงการเชื่อมโยงสายสงํแรงสูง 115 KV อ.แมํสอด – อ.พบพระ จ.ตาก 12. โครงการขยายครวัเรือนไมํมีไฟฟูาใช๎ อ.ทําสองยาง อ.แมํระมาด อ.แมํสอด อ.พบพระ และ อ.

อ๎ุมผาง จ.ตาก 13. โครงการกํอสร๎างและปรบัปรุงการพัฒนาเพ่ือรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตั้งแตวํงเวียน

เข๎าแมํสอด(แยกอ๎ุมผาง)ถึงสะพานมิตรภาพไทย- พมําและในเขตเทศบาล 14. โครงการการกํอสร๎างบริเวณดํานพรมแดนไทย-พมํา(แหํงที่1) 15. โครงการขุดเจาะอุโมงค์ถนนสายเอเชีย(ตาก-แมํสอด) 16. โครงการปรับปรุงทําอากาศยานแมํสอด 17. โครงการปรับปรุงศูนย์การทํองเที่ยวและสํงเสริมสินค๎าโอท็อปจังหวัดตาก 18. โครงการระบบปูองกันน้ าทํวม 19. โครงการกํอสร๎างอาคารศาลาวําการนครแมํสอดพร๎อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ(บริเวณสนาม

ฟุตบอลข๎างเทศบาล) 20. โครงการแก๎ไขปัญหาสิ่งแวดล๎อม (ขยะ น้ าเสีย น้ าทํวม) 21. โครงการกํอสร๎างและปรับปรุงถนน วางทํอระบายน้ า ฟุตบาท ทางเท๎า และไฟสาธารณะ 22. โครงการคลินิกชุมชนอาคารที่พักผู๎ปุวย 30 เตยีง ครุภัณฑ์การแพทย์ รถยนต์และอุปกรณ์ 23. โครงการอาคารเรยีน อาคารเอนกประสงค์ ลานกีฬา สนามเดก็เลํน ศูนย ์ICT และอ่ืนๆศูนย์

เรียนรูโ๎รงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติฯ 24. โครงการสนามกีฬา 5 อ าเภอชายแดน สนามฟุตบอล สนามฟุตซอล อาคารโรงยิม 25. สระวํายน้ า ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา สนามเทนนิส แบดมินตัน สนามกีฬาภายในโรงเรียน

อาคารที่พักนักกีฬา 26. โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์การเรียนรู๎ อาคารเรียนภายในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติฯ 27. โครงการจัดตั้งศูนย์ปูองกันภัยฝุายพลเรือนนครแมํสอด

28. โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาต ิ อาคารเรียน อาคารเอนกประสงค์ ครุภัณฑ์ ICT 29. การขอใช๎พ้ืนที่ปุาสงวนแหํงชาตกิวํา 3,000 ไร ํบริเวณด๎านข๎างมหาวิทยาลัยราชภัฎ

ก าแพงเพชรแมํสอด ตั้งเป็นศูนย์ราชการแหํงใหมํรองรับการพัฒนาพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแมํสอด 30. โครงการกํอสร๎างโรงพยาบาลชุมชนนครแมํสอด 31. โครงการกํอสร๎างถนนเลียบคลองชลประทาน งานไฟฟูาเสาโซเดยีม งานเสา คสล.กันโค๎งพร๎อม

สัญญาณไฟจาราจรพลังงานแสงอาทิตย์ และงานทาสีตีเส๎นแบํงชํองจราจร 32. โครงการกํอสร๎างอาคารหอสมุดเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุา ฯ 4

ชั้น จ านวน 1 หลัง 33. โครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวฒันธรรมระหวํางประเทศ 34. โครงการสร๎างความเข๎มแข็งเตรยีมคนสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 35. การตั้งศูนย์การเรียนรู๎อาเซียนศึกษาประจ าอ าเภอ 36. โครงการกํอสร๎างอาคารเรือนพักนอกในพ้ืนที่ยากล าบากและถิน่ทุรกันดาร 37. โครงการสร๎างห๎องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อ าเภอแมํสอด (พร๎อมตกแตํง) 38. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลแมํสอด 39. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลแมํปะ 40. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลแมํกาษา 41. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลแมํตาว 42. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลทําสายลวด 43. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลพะวอ 44. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลมหาวัน 45. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลพระธาตุผาแดง 46. โครงการสร๎างอาคาร กศน.ต าบล พร๎อมอุปกรณ์ สื่อการสอน ต าบลแมํละเมา 47. โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติแมสํอด อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก 48. โครงการกํอสร๎างอาคารปฏิบัตกิาร การโรงแรม 49. โครงการกํอสร๎างอาคารปฏิบัตกิารศูนย์วิทยบริการและด๎านเทคโนโลย ี 50. โครงการปรับปรุงระบบไฟฟูา 51. โครงการปรับปรุงถนนภายในวทิยาลัย 52. โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ าภายในวิทยาลัย 53. โครงการกํอสร๎างอาคารอ านวยการและห๎องประชุมพร๎อมอุปกรณ ์54. โครงการปรับปรุงระบบบ าบดัน้ าเสียขนาดใหญํรองรับโรงพยาบาลขนาด 500-1,000 เตียง 55. โครงกํอสร๎างอาคารผู๎ปวุยนอก อาคาร ค.ส.ล. 8 ชั้น พร๎อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร(รวม

โครงสร๎างแผนํดินไหว) แบบมาตรฐานกองแบบแผน กระทรวงสาธารณสุข 56. โครงกํอสร๎างอาคารจอดรถ อาคาร ค.ส.ล. 10 ชั้น (รวมโครงสร๎างแผํนดินไหว) 57. ครุภัณฑ์การแพทย์เพ่ือตรวจวินจิฉัย 58. ครุภัณฑ์การแพทย์เพ่ือการรักษาพยาบาล 59. ครุภัณฑ์เพ่ือสนับสนุนบริการรกัษาพยาบาล 60. โครงการติดตั้งระบบโทรทัศนว์งจรปิดและจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบข๎อมูลบุคคลและ

ยานพาหนะ 61. โครงการอํางเก็บน้ าห๎วยแมํสอดตอนบน จงัหวัดตา

“หากมีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมส่อดแล้ว จ าเป็นตอ้งมอีงค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมส่อด”หรอืไม่ ?

เป็นการซ้ าซอ้นกันหรือไม่ ? 1. จากรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ... เมื่อก าหนดพ้ืนที่ใดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแล๎ว มีความจ าเป็นต๎องมีการจัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ เนื่องจากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพ่ือสํงเสริมการค๎าและการลงทุนของประเทศ โดยใช๎ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด๎านคมนาคมขนสํงของภูมิภาคอาเซียนและข๎อตกลงการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียน สํวนการจัดตั้งองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพ่ือให๎สามารถจัดบริการสาธารณะที่มีคุณภาพแกํประชาชน และรองรับการเจริญเติบโตของพ้ืนที่ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาการบริหารจัดการของท๎องถิ่นให๎มีระบบที่มีประสิทธิภาพ โปรํงใส

ดังนั้น การจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด กับองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมํสอด” จึงมีวัตถุประสงค์ท่ีแตกตํางกันและไมํเป็นการซ้ าซ๎อนแตํอยํางใด

2. การเป็นพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจะสํงผลดีตํอองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ดังนี้ 2.1 เป็นการสนับสนุนให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่อยูํในพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ มีการพัฒนาที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะในด๎านโครงสร๎างพ้ืนฐาน 2.2 เพ่ิมรายได๎ให๎กับองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน คําธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน ภาษีธุรกิจเฉพาะ ส าหรับการก าหนดพ้ืนที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ควรก าหนดให๎ครอบคลุมพ้ืนที่ด าเนินการ ตามแผนงาน/โครงการ ที่ก าหนดไว๎ในแผนแมํบท และควรให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่เกี่ยวข๎องเข๎าไปมีสํวนรํวมในการด าเนินงานในการจัดตั้งเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในทุกขั้นตอน และเข๎าไปมีสํวนรํวมในการเป็นคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

3. จากหลักการของรํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ....เป็นการกระจายอ านาจในลักษณะการปกครองรูปแบบใหมํ เป็นอ าเภอพิเศษและท๎องถิ่นพิเศษ โดยให๎สํวนกลางท างานกับท๎องถิ่นโดยตรงในทุกมิติ เชํนการปกครอง การจัดท าแผนแมํบท(แผนปฏิบัติการ) การมอบอ านาจ หน๎าที่ การจัดสรรงบประมาณ ตลอดจนการออกกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข๎องให๎กับสํวนท๎องถิ่น และสํวนภูมิภาคที่อยูํในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด เพ่ือให๎เกิดความคลํองตัว รวดเร็ว มีเอกภาพ ตอบสนองความต๎องการของประชาชน และนักลงทุน ในลักษณะ OSS (One Stop Service) จะเห็นได๎วําหลักการบริหารจัดการแบบรัฐบาลสูํท๎องถิ่นโดยตรง ซึ่งมีอยูํหลายประเทศที่ประสานงานโดยตรงกับรัฐบาล เชํน จีน ญี่ปุุน เกาหลี เป็นต๎น ท าให๎ประชาชนและประเทศชาติได๎รับประโยชน์อยํางมหาศาล โดยเฉพาะความสนใจจากนักลงทุนจากตํางประเทศ และแนวคิดในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดจะเป็นตัวอยําง(Model) ของประเทศไทย เพ่ือเตรียมความพร๎อมของพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแมํสอด” สูํประชาคมอาเซียนและการค๎าเสรีในปี 2558

4. รํางระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี วําด๎วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ......เป็นการสํงเสริมและสนับสนุนให๎องค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาพ้ืนที่ของตนเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่มีระบบสาธารณูปโภค สาธารณปูการ บริการสาธารณะขั้นพ้ืนฐานและสภาพแวดล๎อมที่เหมาะสมและจ าเป็นตํอการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการค๎าบริเวณพรมแดน และการค๎าเสรีภายใต๎กรอบอาเซียนได๎อยํางรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล๎องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักการการพัฒนายั่งยืน

5. ตามนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อวันที่ 21มกราคม2556 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได๎มีการประกาศจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดเป็นแหํงแรกของประเทศไทย และให๎นครแมํสอดเป็นหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่จะมกีารเสนอผํานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดและนครแมํสอด จะต๎องท างานรํวมกันแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด

แนวทางการบริหารแรงงานอาเซียน นครแม่สอด

แนวทางการบริหารจัดการแรงงานอาเซียน โดย นครแม่สอด.....

ปัจจุบันการใช๎แรงงานอาเซียนได๎กลายเป็นสํวนหนึ่งของโครงสร๎างตลาดแรงงานที่บางอุตสาหกรรม ยังจ าเป็นต๎องใช๎ มีการขออนุญาตน าเข๎า ทั้งนี้ประเทศไทยใช๎แรงงานอาเซียนระดับลํางมากกวําร๎อยละ5 หรือมากกวํา 2 ล๎านคน ในลักษณะของงานที่ สกปรก ยากล าบาก และอันตรายโดยมีจ านวนผู๎ที่ท างานผิดกฎหมายมากกวําถูกกฎหมาย ซึ่งไมํสํงผลดีตํอการก ากับดูแล การคุ๎มครองให๎เป็นไปตามกฎหมาย

การบริหารจัดการแรงงานอาเซียนอยํางไร๎ทิศทางขาดการเอาใจใสํจากผู๎มีอ านาจที่เกี่ยวข๎อง อาจจะสํงผลดีทางด๎านเศรษฐกิจที่จ๎างแรงงานราคาถูก แตจํะถูกหักล๎างด๎วยผลเสียต๎นทุนสงัคมด๎านสาธารณสุขด๎านความมั่นคงมนุษย์ และในที่สุดกลายเป็นท าลายความมั่นคงของประเทศ ผลที่เกิดจึงอาจได๎ไมํคุ๎มเสีย เมื่อ 1 - 2 ปีที่ผํานมาเราอาจละเลยเรื่องการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนอยํางชัดเจน เห็นได๎จากจ านวนแรงงานอาเซียน ถูกกฎหมายที่หายไปจากระบบราว 30 % หรือเกือบ 400,000 คน จากจ านวนที่มีการจดทะเบียนแรงงานอาเซียนครั้งหลังสุดที่มียอดขึ้นทะเบียนราว 1.3 ล๎านคน แตํในปี 2554 ลดลงเหลือราว 900,000 คน ซึ่งแรงงานเหลํานี้ไมํได๎กลับประเทศแตํกลับอยูํอยํางผิดกฎหมายพอเป็นลักษณะนี้มักจะใช๎วิธีแก๎ปัญหาโดยการเปิดให๎มีการจดทะเบียนใหมํเพ่ือต๎องการให๎แรงงานเข๎าสูํระบบอยํางถูกกฎหมาย ที่ผํานมายังไมํมีนโยบายการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนที่ชัดเจนและตํอเนื่องเลยซึ่งหนํวยงานที่มีหน๎าที่รับผิดชอบยังขาดกลไกที่จะบริหารจัดการให๎เกิดประสิทธิภาพได๎จึงเกิดปัญหาและใช๎วิธีแก๎ปัญหาแบบซ้ าซาก หนํวยงานที่มีหน๎าที่รับผิดชอบไมํให๎ความสนใจอยํางจริงจังตํอข๎อมูลในการบริหารแรงงานอาเซียน โดยไมํได๎ท าการศึกษา/ส ารวจอยํางชัดเจนเกี่ยวกับความต๎องการใช๎แรงงานที่แท๎จริง ซึ่งความชัดเจนของจ านวนแรงงานที่คนไทยท าอยูํกับสํวนที่ต๎องการเพ่ิมจากแรงงานตํางชาติ ในภาพรวมนั้นยังเกี่ยวข๎องกับการเปิดเสรีอาเซียนที่คาดวําจะมีการเคลื่อนย๎ายแรงงานเสรีเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล๎อยํางแนํนอน แนวทางการเตรียมความพร๎อมด๎านแรงงานเพ่ือรองรับการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดระบบเพ่ือรองรับการเคลื่อนย๎ายแรงงานเสรีมากขึ้นไมํวําจะเป็นเรื่องอาชีพที่สงวนไว๎ส าหรับคนไทยหรืออาชีพใดที่จะเปิดให๎แรงงานตํางชาติท าได๎ และสิ่งที่ต๎องท าโดยเรํงดํวนคือ

1. การบริหารจัดการแรงงานอาเซียนให๎มีประสิทธิภาพ เชํน การตั้งศูนย์ฝึกอาชีพแรงงานในพ้ืนที่ นครแมํสอด ให๎นครแมํสอดมีหน๎าที่ประสานงานกับผู๎ประกอบการโดยตรงเกี่ยวกับความต๎องการด๎านแรงงาน และประเภทงานที่ท า แล๎วด าเนินการฝึกอาชีพให๎แรงงานสามารถเข๎าไปท างานในสถานประกอบการได๎เลย

2. การสร๎างแรงจูงใจให๎แรงงานกลับเข๎ามาอยูํในพื้นที่ จะต๎องดูแลสิทธิของแรงงานอาเซียนให๎ครบถ๎วน เชํน คําจ๎าง/คําตอบแทน การศึกษา การรักษาพยาบาล การประกันสังคม ฯลฯ

3. การจัดท าบัตรแรงงาน โดยนครแมํสอด 4. การจัดตั้งศูนย์ One Stop Service ให๎บริการผู๎ประกอบการ แรงงาน และนักลงทุนแบบครบวงจร

ข้อเสนอ

การบริหารจัดการโครงสร้าง อ านาจหน้าที่ของนครแม่สอด (รูปแบบการปกครองพิเศษ) ด้านการบริหารจัดการแรงงานอาเซียน เป้าหมาย เพ่ือให๎การบริหารจัดการแรงงานอาเซียนหลบหนี้เข๎าเมืองภายในพ้ืนที่การบริหารจัดการนครแมํสอด

เป็นไปอยํางมีระบบและเกิดประโยชน์ และความสมดุลทั้งทางด๎านความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ การลงทุน สิทธิมนุษย์ชน และความสัมพันธ์ระหวํางประเทศ วัตถุประสงค์

1. เพ่ือบริหารจัดการ แรงงานอาเซียนหลบหนี้เข๎าเมืองในพ้ืนที่ชายแดนอยํางเป็นระบบ สามารถควบคุมได๎ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว โดยมีฐานข๎อมูลและทะเบียนประวัติที่ชัดเจน และเป็นจริงตลอดเวลา

2. เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร๎อย ลดปัญหาสังคมในด๎านตํางๆ และปัญหาเกี่ยวกับสัญชาติ 3. ท าให๎เกิดความชัดเจนในการด าเนินนโยบายการจัดระบบแรงงานอาเซียนหลบหนีเข๎าเมือง และบังคับใช๎

กฎหมายที่ชัดเจนเชื่อถือได๎ ท าให๎แรงงานอาเซียนเข๎าสูํระบบการควบคุม 4. เกิดประโยชน์ ทางด๎านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สาธารณสุข และสิทธิมนุษยชน 5. เพ่ือเป็นแนวทาง หรือมาตรการที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการจัดตั้งเขตการลงทุน และอุตสาหกรรมชายแดน

นครแมํสอด รองรับการย๎ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่ใช๎แรงงานอาเซียนมาสูํพ้ืนที่ชายแดนนครแมํสอด เพื่องํายตํอการควบคุมดูแลในอนาคต การก าหนดโครงสร้างการบริหาร และเทคนิคการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนบริเวณชายแดนในพื้นที่นครแม่สอด

1. จัดตั้งศูนย์กลางข๎อมูล และทะเบียนประวัติแรงงานอาเซียนในพ้ืนที่ชายแดนตาก โดยเฉพาะนครแมํสอด 2. จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอด (องค์ประกอบของตัวแทน ภาครัฐ ภาคเอกชน

ที่เกี่ยวข๎อง เชํน สภาอุตสาหกรรม , หอการค๎า , นายจ๎าง , ลูกจ๎าง และกลุํมตํางๆ) คณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแม่สอด เป็นผู้มีอ านาจก าหนดรูปแบบการจ้าง , ระยะเวลาการจ้าง , ประเภทกิจการ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับ พรบ.และกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ ก าหนดรูปแบบการจ้างดังนี้

1. ก าหนดให๎แรงงานอาเซียนท างานได๎เป็นกรณีพิเศษ และได๎รับสิทธิพิเศษเฉพาะในพ้ืนที่การบริหารจัดการของนครแมํสอดเทํานั้น

2. ก าหนดให๎แรงงานอาเซียนเข๎ามาท างานได๎โดยผํานการจัดท าข๎อมูล และทะเบียนประวัติจากศูนย์กลางข๎อมูล และทะเบียนแรงงานอาเซียนที่ตั้งขึ้นโดยนครแมํสอด

3. ก าหนดอาชีพ และประเภทกิจการ และโควต๎าการจ๎างแรงงานอาเซียนแตํละสาขาอาชีพในภาพรวม 4. อนุญาตให๎แรงงานอาเซียนเข๎ามาท างาน เป็นการชั่วคราว หรือตามฤดูกาล ของแตํละกิจการตามท่ีคณะ

กรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอดก าหนด 5. อนุญาตให๎นายจ๎างจดทะเบียนจ๎างแรงงานอาเซียนได๎ตลอดเวลา เฉพาะในพ้ืนที่บริหารจัดการของนครแมํ

สอด เพ่ือให๎แรงงานอาเซียนหลบหนี้เข๎าเมืองปรับเปลี่ยนเป็นแรงงานถูกต๎องตามกฎหมาย และสามารถท างานได๎ตามที่ก าหนด

6. ก าหนดให๎แรงงานอาเซียนจะต๎องตรวจโรคทุกปี โดยโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน 7. ก าหนดให๎แรงงานอาเซียนจะต๎องท าบัตรประกันสุขภาพ กรณีเป็นรายปี หรือ (กรณีราย3 เดือน

6 เดือน หรือ 1 ปี แล๎วแตํความต๎องการของแรงงานอาเซียน) (คําใช๎จํายที่เกิดขึ้นจะต๎องจัดสรรให๎นครแมํสอด 40 % เพ่ือบริหารจัดการแรงงานอาเซียน โดยกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอด เป็นผู๎บริหารจัดการงบประมาณดังกลําว

8. ก าหนดให๎เก็บคําธรรมเนียมใบอนุญาตท างานของแรงงานอาเซียนตาม พรบ. การท างานของคนตํางด๎าว (รายปีๆ ละ ............ บาท , ราย......เดือน ............. บาท, ราย....เดือน ............ บาท) และคําธรรมเนียมค าขอ.............บาท (คําใช๎จํายที่เกิดขึ้นจะต๎องจัดสรรให๎นครแมํสอด ........... % เพ่ือบริหารจัดการแรงงานอาเซียน โดยคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอด เป็นผู๎บริหารจัดการงบประมาณดังกลําว)

9. นครแมํสอดเรียกเก็บคําธรรมเนียมจากแรงงานอาเซียนในการเข๎ามาอยูํอาศัย เพ่ือเป็นคําใช๎จํายในการบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคตํางๆ ของนครแมํสอด รายละ...........บาทตํอคนตํอปี(หรือขึ้นอยูํกับคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอดเป็นผู๎ก าหนด)

10. นครแมํสอดเรียกเก็บคําธรรมเนียมจากนายจ๎าง ในการจ๎างแรงงานอาเซียนตํอคน ............... บาทตํอปี ขึ้นอยูํกับประเภทกิจการ (หรือขึ้นอยูํกับคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอดเป็นผู๎ก าหนด)

11. การบริหารจัดการด๎านอ่ืนๆ เพ่ือไมํให๎เกิดผลกระทบตํอสังคม ความมั่นคง เศรษฐกิจ สาธารณสุข และสิทธิมนุษยชน โดยให๎อ านาจคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานอาเซียนนครแมํสอดเป็นผู๎ก าหนดนโยบายและรูปแบบการด าเนินการ รวมทั้งบริหารจัดการงบประมาณที่ได๎รับ เพ่ือให๎การบริหารจัดการแรงงานอาเซียนเป็นไปอยํางมีระบบ และเกิดประโยชน์สูงสุดในทุกด๎าน

ประโยชน์ที่ได้รบั จากการเป็น

เขตเศรษฐกิจพิเศษแมส่อด ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนครแม่สอด

ประโยชนท์ี่ได้รับจากการเปน็เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนครแม่สอด

ตามแนวคิดและด าริของ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และคณะรัฐมนตรีโดย พรรคไทยรักไทยเป็นแกนน ารัฐบาล ในวาระที่มาประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547ณ โรงแรมเซ็นทารา แมํสอดฮิลล์ อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ด๎วยวิสัยทัศน์ที่กว๎างไกลจึงเล็งเห็นถึงการเจริญเติบโตอยํางรวดเร็ว แบบก้าวกระโดด ของเมืองแมํสอดทั้งทาง ด๎านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยเฉพาะอยํางยิ่งด๎านการค๎าชายแดน การทํองเที่ยว การเกษตร และเมืองอุตสาหกรรม คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนขึ้น ใน 3อ าเภอซีกตะวันตกของจังหวัดตาก ประกอบด๎วยอ าเภอแมํสอด อ าเภอพบพระ และอ าเภอแมํระมาด

ด๎วยศักยภาพและความพร๎อม ของแมํสอด ผนวกกับความต๎องการของประชาชนในพ้ืนที่ ในชํวงเวลาเดียวกันนี้ก็มีการขับเคลื่อนของภาคการเมือง โดยมีผู๎น าท๎องถิ่นที่มีความมุํงมั่น ตั้งใจจริงและเล็งเห็นประโยชน์มหาศาลที่จะตามมาเพ่ือให๎ประชาชนในพ้ืนที่ 5 อ าเภอชายแดน กินอ่ิม นอนอํุน มีทุนท ากิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงลุกขึ้นผลักดันแมํสอดให๎เป็น องค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ นครแม่สอด นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้วันที่ความฝันเป็นจริงเมื่อรัฐบาลพรรคเพ่ือไทยเข๎ามาบริหารประเทศ โดยมีนโยบายส าคัญๆ ทั้งด๎านการตํางประเทศ ด๎านเศรษฐกิจ ด๎านการเมือง การกระจายอ านาจ และ เข๎าใจในบริบทด๎านการค๎าชายแดนอยํางถํองแท๎ เพ่ือเชื่อมโยงเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 นี้ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า สอดคล๎องกับความต๎องการของประชาชนในพ้ืนที่ทุกภาคสํวนทั้งภาครัฐและเอกชนที่รํวมกันผลักดัน เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน องค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และจังหวัดแม่สอด ให๎เกิดขึ้นอยํางเป็นรูปธรรม ซึ่งในขณะนี้ประเทศพมํา มีทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (MYAWADEE TRADE ZONE ) และจังหวัดเมียวดี

ประชาชนได้รับ การจัดเก็บภาษีรายได๎ ภาษีศุลกากร ภาษีแรงงาน ภาษีรถและพาหนะ ฯลฯ เมื่อเก็บภาษีดังกลําวได๎

จะน ามาพัฒนาท๎องถิ่นพิเศษโดยการบริหารจัดการตัวเอง ได๎รับการการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ทีคุณภาพมากขึ้น ถนนหนทาง ไฟฟูา ประปา การปูองกันภัย

ตํางๆ จะเกิดขึ้นอยํางรวดเร็วฉับไวมีงบประมาณที่พัฒนาและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคของตัวเองแบบทั่วทุกพ้ืนที่ ประชาชนจะได๎รับการดูแลด๎านสาธารณสุขและการพยาบาลอยํางมีคุณภาพและได๎รับการพัฒนาด๎าน

การแพทย์ที่ทันสมัย ทันตํอการรักษาโรคตํางๆและจะมีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น มีแพทย์และพยาบาลและเจ๎าหน๎าที่ฝุายตํางๆมาเสริมการท างานดูแลประชาชนจากงบประมาณที่เกินพอรวมทั้งจัดสร๎างโรงพยาบาลชุมชนของคนท๎องถิ่นเองและการยกระดับคลินิกชุมชนเป็นโรงพยาบาลชุมชน

ด๎านการศึกษาของบุตรหลาน จะเพ่ิมทวีขึ้น ทั้งทางด๎านบุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษา ที่เพ่ิมขึ้น รวมไปถึงในระดับมหาวิทยาลัยโดยได๎มีการเตรียมการรองรับไว๎ในระดับหนึ่งแล๎ว เชํนโครงการอุทยานการเรียนรู๎วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล๎อมทีปังกรรัศมีโชติ โรงเรียนเทศบาล 5 (แผนกมัธยม)การจัดตั้งโพธิวชิชาลัยมหาวิทยาลัยศรนีครินทรว์ิโรฒตาก สถานที่ตั้งอ าเภอแมํสอดซึ่งอยูํระหวํางด าเนินการและโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติโดยมีการเรียนฟรี อยํางมีคุณภาพยกระดับและเพ่ิมขีดความสามารถทางการศึกษา

การกีฬา มีการพัฒนาและยกระดับการแขํงขันกีฬาจากท๎องถิ่นพิเศษไปสูํ ระดับเขต ระดั บภาค ระดับประเทศจนถึงระดับนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันผู๎บริหารเทศบาลเมืองแมํสอด ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลกํอสร๎างสนามกีฬามาตรฐาน ฟุตบอล เซปักตะกร๎อ บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฯลฯ รวมทั้งลูํวิ่งยางตาตั้ม สระวํายน้ า ไฟฟูาสนาม ท าให๎เกิดการพัฒนาทักษะและเทคนิคของการกีฬาเพ่ิมมากขึ้น ด๎านสิ่งแวดล๎อม มีการสร๎างระบบปูองกันน้ าทํวม ระบบก าจัดขยะ สิ่งปฎิกูล ระบบบ าบัดน้ าเสียน้ าเนําที่แก๎ไขแบบเบ็ดเสร็จ มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และทัศนียภาพบ๎านเรือนของประชาชน ให๎สวยงาม มีการปลูกต๎นไม๎รอบเมือง เพ่ือรักษาสิ่งแวดล๎อม

ท๎องถิ่นพิเศษจะมีการลงทุนของภาคธุรกิจและการทํองเที่ยวสํงผลประโยชน์โดยตรงถึงประชาชนในพ้ืนที่เกิดการจ๎างงาน กระจายรายได๎ มีงานท า บตุรหลานที่จบการศึกษามามีงานรองรับทุกสาขาอาชีพ ประชาชนได๎รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต มีชีวิตที่เป็นสุข เรียกวํา อยูํดี กินดี มีสุขภาพอนามัยดี มีการรักษาพยาบาลที่ดีทันสมัยมีรายได๎จากการประกอบอาชีพเพ่ิมขึ้น มีงานท า มีอาชีพ

โดยผูบ๎ริหารท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ จะท างานแบบ คิดรวํมกับประชาชนในท๎องถิ่น และน าไปสูํการปฏิบัติทั้งระบบที่รวดเรว็และมีงบประมาณพอเพียงในการบริหารจัดการท างานดูแลประชาชน ได๎ทั่วถึง และกระจายการบริหารงานไปทั่วทุกพ้ืนที่แบบถึงหน๎าประตูบ๎าน

เอกชนได้รบั การปกครองแบบรูปแบบพิเศษท าให๎เศรษฐกิจเติบโตเพราะมีกฎหมายพิเศษที่จะให๎สิทธิประโยชน์ตํอนัก

ลงทุนมีการเข๎ามาลงทุนของภาคธุรกิจ ท าให๎ภาคเอกชนมีความมั่นใจ นักธุรกิจและนักลงทุนจะหันมาให๎ความสนใจกับเศรษฐกิจเมืองใหมํที“่นครแมํสอด” เกิดการจ๎างงานการกระจายรายได๎สูํชุมชนการด าเนินธุรกิจที่ตํอเนื่องและเชื่อมโยงระหวํางกลุํมนักธุรกิจ เอกชน ลูกจ๎าง สูํประชาชนในชุมชน การพัฒนาที่ตามมาหลายด๎านทั้งเศรษฐกิจการค๎าคุณภาพชีวิตการสร๎างงานและพัฒนารายได๎ รวมไปถึงความมั่นใจของนักลงทุน นักธุรกิจ ภาคเอกชนตํางๆโดยคาดวําจะเกิดการลงทุนเพ่ิมขึ้นใน“นครแมํสอด”ท าให๎มีการพัฒนาพ้ืนที่พัฒนาคนพัฒนางานพัฒนาเศรษฐกิจรวมทั้งการพัฒนาการค๎าและความสัมพันธ์กับประเทศเพ่ือนบ๎าน(พมํา) การเป็น “นครแมํสอด” ในทางการพัฒนาแล๎วก็มีฐานะ ไมํตํางอะไรกับ จังหวัดเมียวดี ของพมํา “นครแมํสอด” คือนครแหํงศูนย์กลางการค๎า เส๎นทางประตูการค๎าศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียนที่ส าคัญจุดหนึ่งบนระเบียงเศรษฐกิจEWEC เป็นเหตุผลที่จะสร๎างความเจริญเติบโต ให๎กับ“นครแมํสอด”ทั้งระบบและเชื่อมั่นวําภายใน 1-2 ปีนี้“นครแมํสอด” จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอยํางรวดเร็วเป็นนครลักษณะพิเศษชายแดนที่จะสร๎างมูลคําทางเศรษฐกิจให๎กับประเทศไทยอยํางมหาศาล

ประเทศชาติได้รับ 1.เพ่ิมมูลคําการค๎าชายแดนการทํองเที่ยวเนื่องจากนักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวตํางชาติและนักลงทุน มีความ

มั่นใจ ที่ต๎องการเข๎ามาลงทุนท าธุรกิจในท๎องถิ่นพิเศษ เพราะค าวําท๎องถิ่นพิเศษ ยํอมมีความพิเศษในการพัฒนาและการด าเนินกิจกรรมที่มีความเป็นพิเศษในตัวเองอยูํแล๎ว 2.กํอให๎เกิดรายได๎ทั้งในภาพการลงทุนและภาคของประชาชนในท๎องถิ่นพิเศษ มีการกระจายรายได๎และเงินไปสูํประชาชนในท๎องถิ่นพิเศษ ทุกพ้ืนที่ เกิดรายได๎ในการเก็บภาษีอากร มาพัฒนาท๎องถิ่นและประเทศชาติเพ่ิมทวีคูณขึ้นอีกเทําตัว

3.ประเทศได๎รับการพัฒนาที่เป็นการตํอเนื่องจากท๎องถิ่นพิเศษด๎านเทคโนโลยีสาธารณูปโภคการค๎า การลงทุน ที่จะขยายฐานทางเศรษฐกิจ เป็นการพัฒนาที่ควบคูํกับรัฐบาล 4. มีขีดความสามารถในการแขํงขันด๎านเศรษฐกิจ ด๎านอุตสาหกรรม ด๎านการทํองเที่ยว สูํมาตรฐานสากล 5. สามารถแก๎ไขปัญหาการค๎าขายชายแดน การทํองเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม ประชากรแฝง การหลบหนีเข๎าเมืองโดยผิดก าหมาย และสินค๎าหนีภาษ ี 6. สนองตอบการปรับโครงสร๎างเศรษฐกิจไทย

สนองโครงการตามแนวพระราชด าริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (1) โครงการ 3 ทศวรรษในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิน่ทรุกันดาร (2) โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลยันานาชาติอ าเภอแม่สอด (3) โครงการรักษ์ป่ารักษ์น้ าและฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ในพืน้ที่ทรงงานฯ (4) องค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนครแม่สอด

หมายเหตุ โครงการที่ (1) เป็นโครงการในพระราชด าริฯ ส าหรับโครงการที่ (2), (3) ,(4) อยู่ในขั้นตอนขอพระราชทานราชานุญาต

สิทธิพิเศษของผู้ประกอบการหรืออาศัยอยู่ในท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ”นครแม่สอด” 1. สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดนิหรืออสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนตํางชาต ิ 2. สิทธิในการน าแรงงานอาเซียนเข๎ามาและอยูํอาศัยในราชอาณาจักร 3. สิทธิในการน าเงินหรือสํงเงินออกไปนอกราชอาณาจักร 4. สิทธิในการได๎รับการยกเว๎นธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวําด๎วยการลงทุน 5. สิทธิในการถือครองหรือเปิดบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราตํางประเทศกับสถาบันการเงิน 6. สิทธิที่จะได๎รับการเว๎นหรือลดหยํอนภาษีอากร 7. สิทธิพิเศษตามที่กฎหมายก าหนดโดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกา

ส าหรับสทิธิในการได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรนั้นมีขอบเขตดังนี ้ 1. สิทธิในการหักคําใช๎จํายกํอนเสียภาษีเงินได๎บุคคลธรรมดา นอกเหนือจากที่ก าหนดไว๎ใน ประมวลรัษฎากร 2. ได๎รับการลดหยํอนอัตราภาษเีงินได๎บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล 3. ได๎รับการลดหยํอนอัตราภาษมีูลคําเพ่ิม 4. ได๎รับการลดหยํอนหรือยกเวน๎คําธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวําดว๎ยการลงทุน อากรขาเขา๎และ ภาษีสรรพสามิต ทั้งนี้ตามจ านวนอัตราและเงื่อนไขก าหนดในพระราชกฤษฎกี

การแสดงสิทธิประโยชนใ์นเขตเศรษฐกจิชายแดนจังหวัดตาก

ประเด็น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การน ามาใช้ในเขตเศรษฐกจิชายแดนจงัหวัดตาก

BOI กนอ. ศุลกากร 1. สิทธปิระโยชน์ภาษ ี-ยกเว๎นและลดหยํอนภาษเีงินได๎นิติบคุคลทั้งทางตรงและทางอ๎อม

ม.31 1.ยกเว๎นภาษีเงินได๎ 12 ปี ม.31

2.น าขาดทนุไปหักออกจากก าไรสุทธภิายหลังไดร๎ับการยกเว๎นภาษเีงินไดม๎ีก าหนด 10

ปี นับจากวันพ๎นก าหนดระยะเวลายกเว๎นภาษเีงินได๎นติิบุคคล ม.34 3.ไมํน าเงินปันผลมารวมค านวณเพื่อเสยีภาษี 12 ป ี ม.35 4.ลดหยํอนภาษีส าหรบัก าไรสทุธิท่ีได๎จากการลงทุนในอัตราร๎อยละ 50 ของอัตราปกติ

เป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่พ๎นก าหนดระยะเวลายกเว๎นภาษเีงินได๎นิติบคุคล ม.35 5. หักคาํขนสํง/ประปา/ไฟฟาูของจ านวนเงินที่เสียไปเป็นคําใช๎จาํย 2 เทํา 15 ปี ม.35 6. หักคาํตดิตั้งหรือกอํสร๎างสิ่งอ านวยความสะดวกจากก าไรสุทธริวมทั้งสิน้ไมํเกินเงิน

ที่ลงทุนไปแล๎ว -ยกเว๎นอากรขาเข๎า

ม.28 ม.36

ม.97 เบญจ ม.97 อฎัฐ

7. ยกเว๎นอากรขาเขา๎เครือ่งจักร วตัถุดิบและวัสดุจ าเป็นทีต่๎องน าเข๎าจากตํางประเทศส าหรับการผลติในเขตประกอบการ และยกเวน๎อากรขาเข๎า ส าหรบัของที่น าเข๎ามาเพื่อสํงกลับออกไป และหากน าเข๎าของในประเทศ ใหย๎กเว๎นอากรหรือคนืเงินอากรเชํนเดี่ยวกับการสํงออกนอกประเทศ

- ยกเว๎นอากรขาออก

ม.36

ม.97 เบญจ ม.97 นว

8. ยกเว๎นอากรขาออกส าหรบัสิ่งทีผ่ลิตสํงออกและหากสํงออกหรือจ าหนํายในประเทศใหด๎ าเนินการเหมือนเปน็การน าเข๎าสิ่งของมาในประเทศ

-ยกเว๎นภาษีอ่ืน ๆ (สรรพสามติ ภาษีสุรา คาํธรรมเนียม ภาษีมลูคาํเพิ่ม)

ม.97 ฉ/ประมวลรัษฎากรและพรบ.สรรพสามติ

9. ยกเว๎นภาษีมลูคําเพิม่ และภาษสีรรพสามติ ทั้งขาเขา๎และขาออกส าหรับเครือ่งจักร,อุปกรณ ์,เครื่องมือ และเครื่องใช๎ ทีจ่ าเปน็ต๎องใช๎ในการผลติสินคา๎และของที่ใช๎ในการสร๎างประกอบหรือติดตั้งเปน็โรงงาน หรืออาคารในเขตอตุสาหกรรมและยกเว๎นภาษสีุรา การปิดแสตมป์และคาํธรรมเนยีมดังกลําวส าหรบัการน าเข๎าและการผลิตของที่กระท าในเขต เศรษฐกจิชายแดน

2.สิทธปิระโยชน์ไม่ใชภ่าษ ี-การน าเข๎า-สํงออกเงินตราตํางประเทศ

ม.37

ม.47

10.อนญุาตให๎มกีารน าเข๎า-สํงออกเงินตราตํางประเทศ

-การแจ๎ง/ขออนุญาตประกอบกิจการ

ม.24

11.ผูป๎ระกอบการไมํต๎องแจ๎ง/ขออนญุาตประกอบกิจการโรงงานที่กรมโรงานแตํสามารถกระท าได๎ในเขตเศรษฐกจิชายแดน

-น าเขา๎ชํางฝมีือและให๎คนตาํงดา๎วเข๎าท างาน

ม.25 ม.26

ม.45 ม.46

12. น าเข๎าชํางฝีมือและผู๎ช านาญ/บคุคลในอปุการะและให๎คนตาํงด๎าวเขา๎มาท างานได ๎

-การถือกรมสิทธิ์ที่ดินของเอกชน

ม.27 ม.44 13. ผูป๎ระกอบอตุสาหกรรมทั้งที่เปน็คนไทยและคนตํางดา๎ว อาจได๎รับอนญุาตให๎ถือกรรมสิทธิ์ท่ีดนิตามทีค่ณะกรรมการเขตเศรษฐกจิชายแดนเห็นสมควร

3.ด้านแรงงงานและความมั่นคง

14. ก าหนดมาตรการผอํนปรนการใช๎แรงงานตํางด๎าว (ที่ไม่ใชช่่างฝีมอื)ในเขตเศรษฐกจิชายแดนให๎ครอบคลมุหลักเกณฑ์การควบคมุการใช๎แรงงาน ระยะเวลาให๎เขา๎เมือง พื้นทีอ่ยูํอาศัย การอนญุาตใหท๎ างาน ก าหนดอตัราคาํจ๎างขัน้ต่ าทีเ่หมาะสม (โดยคณะกรรมการเขตเศรษฐกจิชายแดน)

* สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในเขตเศรษฐกิจชายแดนให้ครอบคลุมสถานประกอบการและกิจการต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ก่อนหน้าประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดน

การวิเคราะหส์ภาวการณ์ด้านการตลาดส าหรับเขตเศรษฐกิจชายแดนจงัหวัดตาก

จุดแข็ง (Strengths :S) จุดอ่อน(Weakness : W) โอกาส(Opportunities : O) ข้อจ ากัด(Threats : T) 1.จังหวดัตากเป็นจังหวดัที่มีมูลคาํการสํงออกบรเิวณชายแดนระหวาํงไทยกบัพมาํมากทีส่ดุ และมีมลูคาํการคา๎ชายแดนเพิม่ขึ้นอยาํงตํอเนื่อง 2. มีความพรอ๎มของหนํวยงานราชการตาํง ๆ ที่เอื้อตํอการคา๎ชายแดน 3. มีจดุผาํนแดนถาวรแมสํอด-เมยีวดี ต าบลทาํสายลวด และมีสะพานมติรภาพไทย-พมํา 4.มีสิ่งอ านวยความสะดวกบริการขัน้พื้นฐานที่คํอนขา๎งพร๎อม 5. มีองคก์รภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการเงินใหบ๎รกิารแกํภาคเอกชน 6. ยุทธศาสตรข์องจังหวดัตากสนับสนุนประตูการคา๎ชายแดน 7. จังหวดัตากมสีาขาทางเศรษฐกจิที่ส าคญัมหีลากหลาย 8.ที่ตั้งของจังหวดัตากอยูปํลายแนวเศรษฐกจิตะวันออกและตะวนัตก(East West Economic Corridor) 9. เปน็พื้นที่ชายแดนและอยูใํกล๎แหลํงวตัถุดบิและทรัพยากรธรรมชาติทั้งในไทยและพมาํ 10.มีแรงานมากและเพียงพอตํอภาคอุตสาหกรรม 11.มีแหลํงทํองเที่ยวทางธรรมชาติทีส่วยงามและม ีช่ือเสยีง 12.เปน็แหลํงลงทุนทีส่ าคญัแหงํหนึ่งของภาคเหนือ

1. ปญัหาทางสังคม 2. ระบบโครงสรา๎งพื้นฐานยังมีคํอนข๎างจ ากัด 3. แรงงานไมํมีคณุภาพ มีทักษะน๎อย และขาดการพัฒนาอยาํงตํอเนื่องและจริงจังรวมทั้งแรงงานบางประเภทที่เป็นแรงงานตาํงดา๎วผิดกฎหมาย 4ทรัพยากรมนุษย์ยังมีระดับการศึกษาอยูํในเกณฑ์ต่ า 5. การจดัการด๎านการตลาด การผลติ และแปรรูปสินคา๎เกษตรไมํมีประสทิธิภาพ รวมทั้งขาดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการเกษตร 6. จังหวดัตากเปน็จังหวดัชายแดนด๎านทิศตะวันตก มีพื้นที่ตดิกับพมํา ซึ่งไมสํามารถหลีกหนีปญัหาด๎านคามมั่นคง

1. พมาํอยูํทํามกลางกลุํมประเทศอาเซยีน และมีพรมแดนตดิตํอกบัจีน อินเดีย บังคลาเทศ ท าใหไ๎ทยสามารถอาศยัสหภาพพมาํเปน็ประตรูะบายสินคา๎ไปยัง จนี อินเดยีและบังคลาเทศ 2. สหภาพพมําเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณไ์ปด๎วทรัพยากรธรรมชาติและวตัถุดิบทีห่ลากหลาย 3. รัฐบาลและพมํามนีโยบายหรอืมาตรการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนรํวมกัน 4. นโยบายของภาครฐัในเรื่องตําง ๆ เชํน การสํงเสริมใหไ๎ทยเป็นศูนย์กลางการคา๎ขายกับประเทศเพื่อนบา๎น สํงเสริม OTOP สูํสากล 5.มโีอกาสใช๎ ทรัพยากรธรรมชาต ิแรงงานราคาถูก และรํวมทุนกับประเทศเพื่อนบา๎นและใช๎สิทธิพิเศษ GPS รํวมกัน 6. มโีอกาสเช่ือมโยงทางธุรกจิกับกลุมํอินโดจนี อาเซยีน เอเซยีตะวนัออก และเอเชียใต๎ซึ่งรวมกนัเป็นตลาดการคา๎ทีส่ าคญัโดยมีประชากรรวมกันสูงถึง2,000 ลา๎นคน 7. นโยบายตาํง ๆ ของรฐับาล

1. กฎระเบียบการค๎าของสหภาพพมําที่มีการเปลีย่นแปลงบํอย และไมมํีนโยบายการคา๎การลงทุนที่ชัดเจน 2. ปญัหาการเมืองในสหภาพพมํา 3. สหภาพพมําถกูคว่ าบาตรทางเศรษฐกจิจากประเทศพัฒนาแล๎วหลายประเทศ 4. ขั้นตอนการปฏบิัติพิธีการศุลกากรกับสหภาพพมํา 5. ความตกลงทางการค๎าชายแดนกับสหภาพพมํายังไมํมผีลบังคับใช๎ 6.ความพร๎อมของธรุกรรมเงินตรา/ระบบการเงินของสถาบันการเงินกับสหภาพพมาํ 7. ทําเรือเมาะละแหมํงที่อยูํใกล๎แมํสอด ไมสํามารถรองรับเรอืเดินสมุทรได ๎8. ระบบการคมนาคมในเส๎นทางการขนสํงในประเทศพมาํไมเํอื้อตํอระบบการขนสํง 9. รูปแบบการคา๎ยังอยูนํอกระบบคํอนข๎างมาก 10.ขาดความสมัพันธ์ท่ีมัน่คงระหวํางประเทศ 11.สนิค๎าจากจีนและสนิค๎าจากประเทศอื่นทีส่ํงเขา๎มาสูตํลาดอินโดจีน

โครงการจัดท าแผนแม่บท

(Master Plan) เพื่อรองรับการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบพเิศษนครแม่สอด

และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกจิอาเซียน AEC

โครงการจัดท าแผนแม่บท (Master Plan)การพัฒนาพื้นที่เทศบาลนครแม่สอด เพื่อรองรับการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เขตเศรษฐกิจพิเศษ

และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) หลักการและเหตุผล

พ้ืนที่ชายแดนแมํสอด เป็นพ้ืนที่เศรษฐกิจที่มีความส าคัญแหํงหนึ่งในประเทศไทยในเรื่องการค๎า เนื่องจากเป็นอ าเภอที่อยูํติดชายแดน และเป็นที่ตั้งจุดผํานแดนถาวรดํานพรมแดนแมํสอด เชื่อมโยงกับเมืองเมียวดีรัฐกะเหรี่ยงของสหภาพพมํา และมีที่ตั้งอยูํบนแนวเส๎นทางเศรษฐกิจที่ส าคัญในระดับนานาชาติ คือระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ซึ่งถูกผลักดันโดยกรอบความมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุํมแมํน้ าโขง (GMS-EC: Greater Mekong Subregion Economic Cooperation)และกรอบยุทธศาสตร์ความรํวมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ๎าพระยา-แมํโขง (ACMECS: Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy)อีกทั้งตัวเทศบาลนครแมํสอดเองก็มีศักยภาพสูงในด๎านการค๎า การบริการ อุตสาหกรรมสิ่งทอและอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มีการทํองเที่ยวทางนิเวศและวัฒนธรรมที่โดดเดํน

การพัฒนาพ้ืนทีช่ายแดนแมํสอดและพ้ืนที่ใกล๎เคียงให๎เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ได๎ผํานมติคณะรัฐมนตรี วันที่19 ตุลาคม 2547เพ่ือให๎แมํสอดเป็นเมืองเศรษฐกิจ-การค๎าชายแดน เพราะมีศักยภาพและความพร๎อมของเมืองสูงทั้งทางด๎านเศรษฐกิจ-การลงทุนภาคอุตสาหกรรม-ภาคเกษตร และการทํองเที่ยว และได๎รับการสนับสนุนจากทุกภาคสํวนในพ้ืนที่รํวมกันผลักดันอยํางเต็มที่ โดยจะเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดี (Myawady Trade Zone) ของสหภาพพมํา ซึ่งตั้งอยูํหํางออกไปเพียง 10กิโลเมตร และมีมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6ตุลาคม 2552และ 19 ตุลาคม 2552ให๎เรํงรัดการด าเนินโครงการสร๎างเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งศูนย์บริการน าเข๎า-สํงออก เบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และศูนย์โลจิสติกส์รวมทั้งคลังสินค๎า (Logistics Park) ในพ้ืนที่บริเวณชายแดนไทย-พมํา อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก และให๎เรํงรัดการกํอสร๎างสะพานมิตรภาพ ไทย-พมํา แหํงที่ ๒ เพ่ือรองรับปริมาณการขนสํงสินค๎าที่เพ่ิมมากขึ้นตามเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ตลอดจนมีความคืบหน๎าในการจัดตั้ง องค์กรปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” ซึ่งเตรียมน าเสนอตํอคณะรัฐมนตรี และที่ส าคัญที่สุดคือการกํอตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558ซึ่งจะกํอให๎เกิดความเปลี่ยนแปลงในด๎านเศรษฐกิจ การค๎า และการลงทุนระหวํางประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นอยํางสูง

เพ่ือเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยํางรวดเร็ว และรุนแรง ซึ่งจะสํงผลกระทบตํอพ้ืนที่เป็นอยํางมาก จึงควรต๎องมีการจัดท าแผนแมํบท (Master Plan) การพัฒนาพ้ืนที่เทศบาลนครแมํสอด เพ่ือเป็นกรอบในการพัฒนาพ้ืนที่เมืองและโครงสร๎างพ้ืนฐานของพ้ืนที่แมํสอดและเป็นการเตรียมความพร๎อมรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยที่ผํานมามีการศึกษา และจัดท าโครงการที่เกี่ยวข๎องกับการพัฒนาพ้ืนที่ชายแดนแมํสอดเป็นจ านวนมาก จากหลายๆ หนํวยงาน แตํยังขาดการบูรณาการ และจัดท าแผนงานและโครงการอยํางเป็นระบบเพ่ือให๎สอดคล๎องกับทิศทางในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะสํงผลตํอการพัฒนาพ้ืนที่ชายแดนในฐานะที่มีบทบาทและหน๎าที่เป็นประตูสูํการค๎าชายแดนตามแนวพรมแดนด๎านตะวันตกของประเทศกับประเทศสหภาพพมํา และเตรียมความพร๎อมในด๎านตําง ๆ โดยเฉพาะด๎านการพัฒนาเมืองและโครงสร๎างพ้ืนฐานเพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลงที่มาจากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่มุํงเน๎นการสร๎างตลาดการค๎าใหมํจากฐานเศรษฐกิจการค๎าชุมชนชายแดนโดยการด าเนินงานโครงการต๎องเน๎นให๎สามารถพัฒนาตามแผนแมํบท (Plan and Implementation) เพ่ือให๎เกิดการพัฒนาพ้ืนที่อยํางมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นประโยชน์ตํอทุก ๆ ฝุายที่เกี่ยวข๎อง โดยเฉพาะประชาชนในพ้ืนที่ รวมถึงการพัฒนาความรํวมมือกับประเทศเพ่ือนบ๎าน ซึ่งจะทวีความส าคัญขึ้นมากจากการกํอตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือจัดท าแผนแมํบทให๎เป็นกรอบการพัฒนาพ้ืนที่โดยรวม ชี้น าแนวทางการพัฒนาพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอยํางเป็นระบบบนพ้ืนฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนและความต๎องการของประชาชน 2. เพ่ือจัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่ให๎มีความสอดคล๎องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาในระดับนานาชาติ ระดับชาติ และระดับอนุภาคกลุํมจังหวัด การก าหนดวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และเปูาหมายในการพัฒนาพ้ืนที่ พร๎อมแนวทางการพัฒนา มาตรการก ากับและสํงเสริมให๎เกิดการพัฒนา

3. เพ่ือจัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่ให๎มีความชัดเจนบนพ้ืนฐานศักยภาพข๎อเท็จจริงของพ้ืนที่ และมีความเป็นไปได๎จริงที่จะท าให๎การพัฒนาได๎เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลตามยุทธศาสตร์การพัฒนา 4. เพ่ือศึกษาและวิเคราะห์ข๎อมูลรายสาขา ทั้งเชิงพ้ืนที่ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ ที่จะน าไปสูํการบูรณาการผลการวิเคราะห์ข๎อมูลในการจัดท าแผนแมํบทด๎วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์(GIS) รวมถึงการเสนอแนะรูปแบบการด าเนินภารกิจหน๎าที่ของนครแมํสอดในฐานะองค์กรปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ 5. เพ่ือก าหนดแผนงานและโครงการพัฒนาพ้ืนที่ตามแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ พร๎อมจัดล าดับความส าคัญตามระยะของแผนการพัฒนาพ้ืนที่ให๎สอดรับกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๘ และท าการออกแบบเบื้องต๎น (Conceptual Design) ของโครงการส าคัญเรํงดํวนในพ้ืนที่ พร๎อมทั้งจัดท าแผนงานและประมาณราคาโครงการเพ่ือน าผลที่ได๎ด าเนินการในขั้นตํอไป พื้นที่ศึกษา พ้ืนที่ศึกษาหลักครอบคลุมเขตเทศบาลนครแมํสอด และพ้ืนที่ใกล๎เคียงที่จะสํงผลกระทบตํอเทศบาลนครแมํสอดในอนาคต

ขอบเขตการศึกษา 1. ศึกษา ทบทวน รายงาน ผลการศึกษาและข๎อมูลด๎านนโยบาย/ โครงการ/ยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนพัฒนา แนวทาง แผนงาน/โครงการที่ส าคัญๆ ในทุกระดับที่สํงผลตํอการพัฒนาพ้ืนที่ ตลอดจนศึกษา ทบทวน กฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข๎องกับพ้ืนที่โครงการ 2. ศึกษา ส ารวจ สัมภาษณ์ ประมวลผลข๎อมูลจากผู๎น าท๎องถิ่น ประชาคม และผู๎มีสํวนได๎สํวนเสียในพ้ืนที่โครงการ ข๎อมูลประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชุมชนและท๎องถิ่น รวมทั้งเอกลักษณ์วัฒนธรรมของท๎องถิ่น ตลอดจนการมีสํวนรํวมที่เกี่ยวข๎องกับโครงการ เพ่ือเป็นข๎อมูลส าคัญในการก าหนดแนวทางพัฒนาพ้ืนที่ 3. ศึกษา ส ารวจ จัดเก็บ รวบรวม ประมวลผล และวิเคราะห์ข๎อมูลรายสาขา โดยศึกษาถึงสถานการณ์อดีต ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลง แนวโน๎ม และทิศทางการพัฒนาที่สํงผลตํอการพัฒนาพ้ืนที่ รวมถึงจัดท าระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์(GIS)ซึ่งประกอบด๎วยข๎อมูลตํางๆ ดังนี้ 1)ด๎านกายภาพ ได๎แกํ สภาพภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ธรณีสัณฐาน ธรณีวิทยา ปฐพีวิทยา อุทกวิทยา 2)ด๎านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล๎อม ได๎แกํ ทรัพยากรปุาไม๎ ทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ า ทรัพยากรชีวภาพ พ้ืนที่ลุํมน้ าและชั้นคุณภาพลุํมน้ า พ้ืนที่ชุํมน้ า 3)ด๎านประชากร และแรงงาน ได๎แกํ จ านวนประชากร ครัวเรือน ประชากรแฝง ขนาดครัวเรือน โครงสร๎างประชากร สัดสํวน การกระจายตัว ความหนาแนํน การเปลี่ยนแปลง และการคาดประมาณในอนาคต 4)ด๎านระบบเมืองและการตั้งถิ่นฐานของชุมชน ได๎แกํ กระบวนการเป็นเมือง บทบาท ศูนย์กลางเมืองระดับตํางๆ เขตอิทธิพล ความเชื่อมโยง การพ่ึงพาของเมือง และกลุํมเมือง ปัญหาของเมือง ล าดับความส าคัญของเมืองในปัจจุบันและอนาคต 5) ด๎านการใช๎ประโยชน์ที่ดิน ได๎แกํ สภาพการใช๎ประโยชน์ที่ดินปัจจุบัน ศักยภาพสภาพปัญหา และข๎อจ ากัดในการใช๎ประโยชน์ที่ดิน 6)ด๎านเศรษฐกิจ ได๎แกํ สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์มวลรวม โครงสร๎างเศรษฐกิจ การค๎าการลงทุน การค๎าชายแดนเชื่อมตํอกับประเทศเพ่ือนบ๎าน บทบาทและฐานเศรษฐกิจที่ส าคัญในพ้ืนที่ 7)ด๎านคมนาคมขนสํงและโลจิสติกส์ ได๎แกํ ลักษณะโครงขํายของระบบคมนาคมและขนสํงทางบก ทางน้ าและทางอากาศ ระบบโลจิสติกส์และโครงการพัฒนาด๎านโครงขํายคมนาคมและขนสํงและโลจิสติกส์ที่สํงผลกระทบตํอโครงการ

8)ด๎านโครงสร๎างพ้ืนฐาน ได๎แกํ ไฟฟูา ประปา การจัดการน้ าเสีย และการจัดการขยะมูลฝอย เป็นต๎น 9)ด๎านการศึกษา ได๎แกํสถานการณ์การศึกษา การบริการด๎านการศึกษาในระดับตํางๆ คุณภาพการศึกษา บทบาท และความส าคัญ การเป็นศูนย์กลางการศึกษา เขตอิทธิพลของพ้ืนที่การศึกษา

10)ด๎านการสาธารณสุข การบริการสาธารณสุขในระดับตํางๆ คุณภาพด๎านการสาธารณสุข บทบาท และความส าคัญ เขตอิทธิพล การเป็นศูนย์กลางสาธารณสุข 11) ด๎านสังคมและวัฒนธรรม ได๎แกํ สถานการณ์และแนวโน๎มทางด๎านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต เอกลักษณ์ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และผลกระทบของการพัฒนาที่มีตํอการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต 12) ด๎านกฎหมายและองค์กร ได๎แกํ กฎหมายตําง ๆ ที่เกี่ยวข๎อง และการเสนอแนะรูปแบบการด าเนินภารกิจหน๎าที่ของนครแมํสอดในฐานะองค์กรปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ 4. วิเคราะห์ข๎อมูลเชิงพ้ืนที่และบูรณาการผลการวิเคราะห์ลงสูํพ้ืนที่กายภาพ โดยการใช๎ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์(GIS) ท าการวิเคราะห์ด๎วยวิธี Sieve Analysis การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอํอน โอกาสและข๎อจ ากัด (SWOT Analysis) และวิธีการอ่ืนๆ ที่มีความเหมาะสม ซึ่งสามารถระบุถึงปัญหา ข๎อจ ากัด ศักยภาพ โอกาส และทิศทางการพัฒนา 5. ศึกษาพ้ืนที่ต๎นแบบจากตํางประเทศ (Best Practice) เพ่ือประกอบการจัดท าแนวคิดการพัฒนาพ้ืนที่และเป็นต๎นแบบของการจัดท าแผนแมํบทพัฒนาพ้ืนที่นครแมํสอดเพ่ือรองรับการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) 6. จัดท าแนวคิดการพัฒนาพ้ืนที่ในเขตเทศบาลนครแมํสอด และพ้ืนที่ใกล๎เคียงที่จะสํงผลกระทบตํอเทศบาลนครแมํสอดที่เหมาะสม เพ่ือให๎สอดคล๎องกับการรองรับการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)

7. การจัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่ซึ่งต๎องครอบคลุมเนื้อหาสาระส าคัญ และประกอบไปด๎วยประเด็นดังตํอไปนี้ 1)วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ ยุทธศาสตร์การพัฒนา และเปูาหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาแตํละด๎าน (Strategic

Targets) 2)จัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่โดยรวมที่สะท๎อนวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ ยุทธศาสตร์ และเปูาหมายที่ก าหนด 3)มีแนวทางการพัฒนา และสํงเสริมให๎เกิดการพัฒนาตามแผนแมํบท

8. การน าแผนแมํบทฯไปสูํการปฏิบัติ 1) การจัดท าแผนงาน / โครงการ โดยแบํงออกเป็น ๓ ระยะ ดังนี้

(1) ระยะเรํงดํวน ได๎แกํ โครงการที่มีความจ าเป็นต๎องการพัฒนาหรือปรับปรุงในระยะเรํงดํวน พร๎อมเสนอแนวคิดการออกแบบเบื้องต๎น (Conceptual Design) ซึ่งประกอบด๎วย ผังบริเวณ (Lay Out)ทัศนียภาพ (Perspective) และงบประมาณเบื้องต๎นของโครงการ จ านวนไมํน๎อยกวํา 10 โครงการ ในชํวงระยะเวลา 1-5 ปี มูลคําโครงการไมํน๎อยกวํา 2,000ล๎านบาท

(2) ระยะปานกลาง ได๎แกํ การพัฒนาตํอเนื่องจากระยะเรํงดํวน ในชํวงระยะเวลา 6-10 ปี (3) ระยะยาว ได๎แกํ การพัฒนาในชํวงระยะเวลาที่มากกวํา 10 ปีขึ้นไป

การจัดท าระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) 1. การจัดท าฐานข๎อมูลด๎วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์(GIS) จะต๎องครอบคลุมขั้นตอนการด าเนินงานตํางๆ

ได๎แกํ การน าเข๎า การจัดเก็บ การประมวลผล การวิเคราะห์และการซ๎อนทับข๎อมูล การผลิตแผนที่และแผนผัง เป็นต๎น 2. ขอบเขตพ้ืนที่ด าเนินการจัดท าระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์(GIS) จะต๎องจัดท าข๎อมูลที่ครอบคลุมตามขอบเขตพ้ืนที่

ศึกษา โดยต๎องมีรายละเอียดของชั้นข๎อมูล และประเภทข๎อมูลที่ระบุตามวิธีการศึกษา และต๎องเป็นข๎อมูลที่ถูกต๎องทันสมัยลําสุด 3. การจัดท าและน าเข๎าข๎อมูลจากหนํวยงานอ่ืนๆ ต๎องปรับปรุงให๎เป็นข๎อมูลที่ทันสมัยลําสุด ทั้งนี้ชั้นข๎อมูลแตํละชั้นจะต๎องสามารถเรียกใช๎และซ๎อนทับกันได๎กับข๎อมูล GIS ของการจัดท าแผนแมํบท

4. การจัดท าข๎อมูลในระบบ GIS ต๎องอยูํในรูปแบบ Shapefileหรือ Geodatabaseบน ArcGIS หรือรูปแบบอื่นที่สามารถเรียกอํานได๎ เพ่ือสามารถน าข๎อมูลมาวิเคราะห์ตํอเนื่องได๎ การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

การด าเนินการจัดท าแผนแมํบท จะต๎องจัดให๎มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพ่ือระดมความคิดเห็นจากหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องทั้งภาคประชาชนภาครัฐ เอกชนองค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา ผู๎ทรงคุณวุฒิ ผู๎แทนท๎องถิ่นหรือองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ตลอดจนผู๎น ากลุํมอาชีพและกลุํมอ่ืนๆ ที่มีบทบาทตํอการพัฒนาพ้ืนที่ โดยทั้งนี้จะต๎องจัดให๎มี

การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอยํางน๎อย 2 ครั้ง พร๎อมทั้งสรุปผลการประชุมตลอดกระบวนการวางแผนแมํบท เพ่ือให๎เกิดการมีสํวนรํวมในการวิเคราะห์ข๎อมูลด๎านตําง ๆ การวางแผนแมํบทได๎อยํางมีประสิทธิภาพ และทราบถึงความต๎องการ นโยบาย และโครงการพัฒนาพ้ืนที่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนปัญหาที่ต๎องการแก๎ไข จากผู๎มีสํวนเกี่ยวข๎องอยํางชัดเจน ระยะเวลาด าเนินการ ระยะเวลาด าเนินการ 300 วัน นับแตํวันลงนามในสัญญาจ๎างและได๎รับหนังสือให๎เริ่มปฏิบัติงาน ถึงวันที่รายงานการศึกษาฉบับสุดท๎าย และเงื่อนไขอ่ืนๆได๎ผํานความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจการจ๎าง โดยไมํรวมระยะเวลาในการพิจารณาตรวจรับรายงานในแตํละฉบับ การเสนอผลงาน 1. รายงานการศึกษาขั้นต้น (Inception Report)ที่ปรึกษาจะสํงรายงานการศึกษาขั้นต๎น โดยระบุขอบเขตการด าเนินการโครงการ วิธีการศึกษาและด าเนินการแผนการศึกษาทั้งโครงการ ที่แสดงให๎เห็นวําจะสามารถท าให๎ได๎มาซึ่งผลผลิตของการศึกษาตามที่ได๎ระบุไว๎ข๎างต๎น ทั้งนี้จะมีข๎อมูลแผนที่แสดงสภาพทั่วไปของพ้ืนที่ และข๎อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์แสดงภาพรวมของพ้ืนที่ รวมถึงการศึกษาทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาที่เกี่ยวข๎อง จ านวน 10 เลํม (พร๎อม Digital File) ภายในเวลา 60 วัน นับจากวันเริ่มปฏิบัติงาน 2. รายงานการศึกษาฉบับกลาง(Interim Report)ที่ปรึกษาจะสํงรายงานการศึกษาฉบับกลาง โดยมีข๎อมูลจากการส ารวจ รวบรวม และประมวลผล ผลการวิเคราะห์ข๎อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่แสดงให๎เห็นถึงการประเมินความเหมาะสมของพ้ืนที่ถึงจุดแข็ง จุดอํอน โอกาสและข๎อจ ากัดของพ้ืนที่ซึ่งสามารถระบุถึงปัญหา ข๎อจ ากัด ศักยภาพ โอกาส และทิศทางการพัฒนาพร๎อมทั้งการสรุปประเด็นที่ได๎จากการวิเคราะห์และประเมินผลในการวางแผนแมํบทพร๎อมทั้งปรับปรุงเนื้อหาการศึกษาจากรายงานการศึกษาขั้นต๎น จ านวน 10 เลํม (พร๎อม Digital File) ภายในเวลา 150 วัน นับจากวันเริ่มปฏิบัติงาน

3. ร่างรายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์(Draft Final Report) ที่ปรึกษาจะสํงรํางรายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์ ที่ครอบคลุมเนื้อหาสาระในเรื่องการจัดท าแผนแมํบทการพัฒนาพ้ืนที่ พร๎อมทั้งปรับปรุงเนื้อหาการศึกษาจากรายงานการศึกษาฉบับกลาง จ านวน 10 เลํม (พร๎อม Digital File) ภายในเวลา 240 วัน นับจากวันเริ่มปฏิบัติงาน 4. รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์(Final Report)ที่ปรึกษาจะสํงรายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์ ที่ครอบคลุมเนื้อหาสาระในเรื่องการน าแผนแมํบทฯไปสูํการปฏิบัติและครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดตามขอบเขตการด าเนินงานที่ก าหนด และได๎ปรับปรุงแก๎ไขตามมติของคณะกรรมการฯ เรียบร๎อยแล๎ว พร๎อมแบบแนวคิดการออกแบบเบื้องต๎น (Conceptual Design) ขนาด A3จ านวน 10 เลํม (พร๎อม Digital File) และรายงานสรุปส าหรับผู๎บริหาร จ านวน 50 เลํม พร๎อม Digital File) ภายใน 300 วัน นับจากวันเริ่มปฏิบัติงาน

การเตรียมแผนปฏิบัติการรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด

และ ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนครแม่สอด

การเตรียมแผนปฏิบัติการรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดและท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ“นครแม่สอด”

จากนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันให๎เกิดการปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ”นครแมํสอด” และการสนับสนุนพ้ืนที่ติดกับนครแมํสอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ตามมติ ครม. วันที่ 19 ต.ค. 47 , มติ ครม. วันที่ 6 ต.ค. 52 , มติ ครม. วันที่ 19ต.ค. 53, มติ ครม. วันที่ 22 มิ.ย. 53 ,มติ ครม. วันที่ 3 พ.ค. 54 , มติ ครม. วันที่ 15 ม.ค. 55 , มติ ครม. วันที่ 22 ก.พ. 55 , มติ ครม. วันที่ 13 มี.ค. 55 และ มติ ครม. 21 ม.ค. 56 หากพิจารณาในหลักการจะได๎มีการเตรียมความพร๎อม วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์การพัฒนา”นครแมํสอด” ทั้ง 6 ด๎าน และการเตรียมแผนปฏิบัติการรองรับท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” ภารกิจ อ านาจหน๎าที่ ต๎องสอดคล๎องกับงบประมาณการคลัง โดย 1. พิจารณาในเชิงหลักการ 1.1 ในกรณีท๎องถิ่นธรรมดา (เทศบาลนครแมํสอด –เทศบาลต าบลทําสายลวด) 1.2 ในกรณีเป็นพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน อ าเภอแมํสอด 1.3 ในกรณีการยกฐานะเป็นนครแมํสอดท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ 2. ภารกิจของนครแม่สอดในฐานะเป็น อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 2.1 กลุํมภารกิจที่เกิดขึ้นจากความจ าเป็นในพ้ืนที่ 2.2 กลุํมภารกิจที่เกิดขึ้นจากการรับมอบหมาย 2.3 กลุํมภารกิจในเชิงยุทธศาสตร์ เป็นนโยบายของรัฐบาล

ดังนั้น เพ่ือเป็นการเตรียมความพร๎อมในการก๎าวสูํการเปลี่ยนแปลงการปกครองท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” เพ่ือให๎สามารถจัดบริการสาธารณะที่มีคุณภาพแกํประชาชน และรองรับการเจริญเติบโตของพ้ืนที่ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเสริมศักยภาพ และความพร๎อมในการเป็นประตูเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับประเทศเพ่ือนบ๎านและสามารถพัฒนาให๎เป็นฐานในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การค๎า และการลงทุน ที่สอดคล๎องกับการพัฒนาประเทศตํอไปได๎ ดังปรากฏโครงการตามแผนปฏิบัติการรองรับท๎องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแมํสอด” โครงการตามแผนปฏบิัตกิารรองรับทอ้งถิน่รูปแบบพเิศษ “นครแม่สอด”

1. โครงการปรับปรุงสะพานไทย – พมํา 2. โครงการกํอสร๎างตลาดชุมชนริมเมย 3. โครงการกํอสร๎างยุํงข๎าว โรงสีขา๎ว 10 พ้ืนที่ 4. โครงการกํอสร๎างอาคารชุมชน 20 พ้ืนที่ 5. โครงการกํอสร๎างคลินิกชุมชน 2 แหํง 6. โครงการกํอสร๎างมหาวิทยาลยันานาชาติ อ.แมํสอด 7. โครงการปรับปรุงสนามบินแมํสอด 8. โครงการกํอสร๎างนิคมอุตสาหกรรม “นครแมํสอด” 9. โครงการกํอสร๎างระบบขยะ 10. โครงการปรับปรุงขยายระบบไฟฟูาในพ้ืนที่นครแมํสอด 11. โครงการกํอสร๎างโรงเรยีนเทศบาล 6 (ริมเมย ตอนลาํง) โรงเรียนนครแมํสอด (ตอนบน) 12. โครงการกํอสร๎างลานกีฬา นครแมํสอด (ตอนบน) 13. โครงการพัฒนาแหลํงทํองเที่ยวนครแมํสอด

โครงการเร่งด่วนต่างๆ

14. โครงการอุดหนุน กรรมการชุมชน แมํบ๎าน อสม. ผู๎สงูอายุ เพ่ือสํงเสริมอาชีพ 15. โครงการกํอสร๎างศูนย์สวัสดิการ และนันทนาการผูส๎ูงอายุนครแมํสอด ตอนบน, ตอนลําง 16. โครงการสนับสนุนกิจกรรมของก านัน ผู๎ใหญํบ๎าน กรรมการหมูํบ๎านและชุด ชรบ. ในพ้ืนที่นครแมํสอด 17. โครงการกํอสร๎างระบบประปา 18. โครงการกํอสร๎างระบบรวบรวมน้ าเสีย 19. โครงการกํอสร๎างระบบปูองกันน้ าทํวม ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 20. โครงการกํอสร๎างระบบปูองกันน้ าทํวมนครแมํสอด (ตอนบน) 21. โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์นครแมํสอด ตอนบน , ตอนลําง 22. โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์นครแมํสอด (คลองสวย หว๎ยใส) 23. โครงการกํอสร๎างหอคอยนครแมํสอด 24. โครงการกํอสร๎างสนามกีฬา “นครแมํสอด”สนามกีฬา 5 อ าเภอชายแดน (นานาชาติ) 25. โครงการกํอสร๎างถนนพร๎อมวางทํอระบายน้ า ขยายผิวจราจร นครแมํสอด ตอนบน, ตอนลําง 26. โครงการปรับปรุงขยายเขตประปาในพ้ืนที่นครแมํสอด 27. โครงการของหอการค๎าและสภาอุตสาหกรรมจงัหวัดตาก 28. โครงการของอ าเภอและสวํนราชการ 29. โครงการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวติของผู๎สูงอายุ ปรบัปรุงเงินคําตอบแทน (เงินเดือน) สวัสดิการจากเดิม 500

บาทตํอเดือน เป็น 1,000 บาทตํอเดือน 30. โครงการกํอสร๎างถนนลอยฟูาและเจาะอุโมงค ์31. โครงการกํอสร๎างรถไฟ สาย แมสํอด – ตาก – พิษณุโลก 32. โครงการกํอสร๎างเมืองจ าลอง เชํน UNSEEN THAILAND 33. โครงการกํอสร๎างศูนย์สํงเสริมสนิค๎าปลอดภาษี 34. โครงการรักษ์ปุารักษ์น้ าและฟ้ืนฟูระบบนิเวศปุาไม๎ในพ้ืนที่ทรงงานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

สยามบรมราชกุมารี 35. โครงการกํอสร๎างศูนย์อัญมณีแหํงเอเชีย 36. ศูนย์สินค๎า “ภูฟูา” 37. โครงการกํอสร๎างโรงพยาบาลชมุชน 38. โครงการจัดตั้งจังหวัดแมํสอด 39. โครงการกํอสร๎างศูนย์สามวัย สานสายใยรัก

ความสนใจของนักลงทุน ในประเทศและต่างประเทศ

การพบปะหารือกับ

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ประธานหอการค้าจังหวัดเมียวดี และกลุ่มนักธุรกิจ จังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า

วันอาทิตย์ท่ี 2 กันยายน 2555ณ ที่ท าการจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนม่าร์ เม่ือวันอาทิตย์ท่ี 2 กันยายน 2555 ณ ที่ท าการจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมําร์ ตามที่ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได๎มอบหมายให๎นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแมํสอด ไปประสานงานกับหนํวยงานภาคราชการ และภาคเอกชน ในพ้ืนที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมําร์ ซึ่งมีพ้ืนที่ชายแดนติดกับประเทศไทยทางด๎านอ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก เพ่ือหารือแนวทางการพัฒนาแมํสอด-เมียวดี ส าหรับใช๎เป็นข๎อมูลในเบื้องต๎นที่จะประสานงานกับทางรัฐบาลไทยในการเข๎าไปชํวยเหลือ และพัฒนาพ้ืนที่รํวมกันกับทางพมํา โดยข๎าพเจ๎าได๎น าคณะซึ่งประกอบด๎วย ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดตาก ปลัดเทศบาลต าบลทําสายลวด ตัวแทนสมาพันธ์สื่ออาเซียน ตัวแทนสมาชิกสภาเทศบาลนครแมํสอด และตัวแทนข๎าราชการในพ้ืนที่แมํสอด ได๎เข๎าพบกับผู๎วําราชการจังหวัดเมียวดี ประธานหอการค๎าจังหวัดเมียวดี และนายอ าเภอเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ โดยสรุปประเด็นหารือได๎ดังนี้

1. เรียกร๎องให๎ประเทศไทยเรํงรัดด าเนินการกํอสร๎างถนนที่เชื่อมตํอจากดํานพรมแดนแมํสอด-เมียวดี ไปยังจังหวัดยํางกุ๎ง ให๎แล๎วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากในปัจจุบันมีรถบรรทุกสินค๎าใช๎เส๎นทางนี้ในการขนสํงสินค๎าเป็นจ านวนมาก ซึ่งสภาพในปัจจุบันการขนสํงสินค๎ายังเป็นแบบไปวันมาวัน เพราะสภาพถนนช ารุดเสียหายอยํางมาก โดยเฉพาะเส๎นทางดังกลําวเป็นเส๎นทางที่มีความส าคัญสามารถเชื่อมตํอออกไปยังชายฝั่งทะเลของพมําได๎อีกด๎วย จึงต๎องการให๎รัฐบาลไทยชํวยเรํงรัดไปยังผู๎รับเหมากํอสร๎างทางดังกลําวคือบริษัท สี่แสงการโยธา ให๎เรํงด าเนินการ เนื่องจากระยะเวลาได๎ลํวงเลยมานานมากแล๎ว

2. ทางฝั่งไทยควรเรํงด าเนินการปรับปรุงสะพานที่ช ารุดเสียหายให๎สามารถกลับมาใช๎งานได๎ดีตามเดิม และให๎ขยายชํองทางการจราจรบนสะพานมิตรภาพไทย-พมํา จาก 2 ชํองทางจราจร ขยายให๎เป็น 4 ชํองทางจราจร รวมไปถึงขยายดํานพรมแดนแมํสอด- เมียวดี ทั้งสองฝั่งให๎สามารถมีพ้ืนที่รองรับการพัฒนาด๎านการค๎าขายชายแดน ด๎านการทํองเที่ยว รองรับการพัฒนาเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ EWEC ประตูสูํอันดามัน และรองรับ AEC ในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันดํานพรมแดนทั้งสองแหํงดังกลําวมีขนาดเล็กเกินไป

3. ให๎มีการปรับปรุง และขยายสนามบินแมํสอด ให๎สามารถบินตรงไปยังเมืองยํางกุ๎ง ของพมํา ประเทศในกลุํมอาเซียน และอ่ืนๆ ได๎ ยกระดับให๎เป็นสนามบินนานาชาติ

4. ความต๎องการด๎านสาธารณสุข โดยเฉพาะในเรื่องของโรงพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไมํทันสมัย เนื่องจากสภาพในปัจจุบันประชาชนชาวพมําเป็นจ านวนมากต๎องข๎ามมารักษาที่โรงพยาบาลแมํสอด

5. ความต๎องการทางด๎านการศึกษา ควรจะมีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาระหวํางไทยกับพมํา แบบเป็นทางการ โดยให๎ท๎องถิ่นเจ๎าของพ้ืนที่เข๎ามามีสํวนรํวม

วันที่ 12 กันยายน 2555 ณ ห้องประชุมโกเมน ส านักงานเทศบาลนครแม่สอด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 เวลา 14.00 น. ณ ห๎องประชุมโกเมน ส านักงานเทศบาลนครแมํสอด อ าเภอแมํ

สอด จังหวัดตากทางคณะนักธุรกิจจากเมียวดี ได๎เข๎าพบนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแมํสอด เพ่ือหารือในการพัฒนาด๎านการค๎า การศึกษา และด๎านอ่ืนๆ รวํมกัน โดยมีประเด็นที่ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต๎องการทราบข๎อมูลเพ่ิมเติมจากทางเมืองเมียวดี 4 ประเด็น ดงันี้

1) ทางเมียวดีต๎องการได๎อุสาหกรรมประเภทไหนเข๎าไปลงทุน ต๎องการได๎เร็วแคํไหนและอยํางละเทําไร (เพ่ือทางฝุายไทยจะน าข๎อมูลมาชํวยนักลงทุนไทยที่ตรงกับความต๎องการ)คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา ต๎องการอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ๎า สินค๎าอุปโภค-บริโภค วัสดุกํอสร๎าง

2) ต๎องการพัฒนาด๎านการทํองเที่ยวรํวมกับฝั่งไทยหรือไมํ ถ๎าต๎องการจะเป็นรูปแบบไหน ตั้งเปูาไว๎กี่คนตํอปี (เพ่ือทางฝุายไทยจะได๎ก าหนดแผนด๎านการค๎าการทํองเที่ยวให๎สอดรับกับแผนของเมียวดี) คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา สถานการณ์ด๎านการทํองเที่ยวทางฝั่งเมียวดี มีนักทํองเที่ยวน๎อยมาก เนื่องจากไมํมีแผนที่ชัดเจน สภาพของเมืองไมํมีความเป็นระเบียบเรียบร๎อย สภาพถนนทางฝั่งเมียวดีช ารุด เป็นหลุมเป็นบํอเป็นสํวนมาก จึงต๎องการให๎มีเที่ยวบิน แมํสอด – เมาะละแหมํง แมํสอด – ยํางกุ๎ง เพ่ือให๎นักทํองเที่ยวสามารถเดินทางได๎โดยสะดวก

3) เมียวดีวางแผนการผลิตด๎านการเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมไว๎อยํางไร ในด๎านนี้เรามีโรงงานแปรรูปผลผลิตเกษตรที่มีความพร๎อมแล๎ว ด๎วยข๎อมูลการผลิตที่ฝั่งไทยมีอยูํ เมียวดีต๎องการผลิตอะไรเพ่ือน ามาแปรรูปฝั่งไทย จ านวนเทําไร และต๎องการให๎ไทยเข๎าไปตั้งโรงงานแปรรูปอะไรในฝั่งเมียวดี

คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา ด๎านการเกษตรฝั่งเมียวดีมีน๎อยมากหากเข๎าไปตั้งโรงงานแปรรูปจะไมํคุ๎ม แตํทางฝั่งเมียวดีมีพ้ืนที่ที่จะสามารถท าการเพาะปลูกอีกมาก จึงต๎องการให๎ทางฝั่งไทยน าพันธุ์พืชเข๎าไปปลูกทางฝั่งเมียวดี แล๎วน าผลผลิตเข๎ามาขายและแปรรูปฝั่งไทย

4) ประมาณการวําแรงงานที่จะเข๎าไปท างานในเขตนิคมอุตสาหกรรมมีประเภทไหนบ๎าง อยํางละเทําไร คุณวุฒิเป็นอยํางไร และคิดวํานําจะมีแรงงานย๎ายกลับมาจากไทยประมาณเทําไรในแตํละประเภทที่ต๎องการ คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา แรงงานได๎เข๎ามาท างานในประเทศไทยเป็นสวํนมาก เป็นแรงงานที่ไมํมีความรู๎ สาเหตุที่แรงงานเข๎ามาท างานในประเทศไทยเนื่องจากได๎คําตอบแทนมากกวํา นอกจากนี้ยังได๎หารือกันในประเด็นอ่ืนๆ ดังนี้ 1) เรื่องการกํอสร๎างถนนฝั่งเมียวดีที่ทางรัฐบาลไทยได๎ให๎งบประมาณสนับสนุนยังไมํแล๎วเสร็จ คณะนักธุรกิจจากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา เนื่องจากชํวงนี้เป็นชํวงฤดูฝน การกํอสร๎างเป็นไปด๎วยความล าบาก ทราบวําจะเริ่มด าเนินการในเดือยพฤศจิกายนนี้ เรื่องนี้ทาง ส.ส.ของเมียวดีได๎น าเรื่องสอบถามในสภาของเมียนมําร์แล๎ว ได๎รับค าตอบจากรัฐบาลวํา จะด าเนินการให๎แล๎วเสร็จภายในสัญญา 2) เรื่องการศึกษา คณะนักธุรกิจจากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา อยากให๎นักเรียนฝั่งเมียวดีเข๎ามาทัศนศึกษาอุทยานการเรียนรู๎ “ทีปังกร รัศมีโชติ” ซึ่งทางนายกเทศมนตรีนครแมํสอดยินดีต๎อนรับ และเสนอวําอยากให๎มีการแลกเปลี่ยนครู – นักเรียน เพ่ือเรียนรู๎ซึ่งกันและกัน จะท าให๎ในอนาคตการติดตํอกันในด๎านตํางๆ จะเป็นไปด๎วยความสะดวก ซึ่งทางฝั่งเมียวดีจะได๎น าเรื่องนี้ไปหารือกับกระทรวงศึกษาธิการของเมียนมาร์ตํอไป 3) เรื่องการจัดการขยะ น้ าเสีย และการสาธารณูปโภค คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา ฝั่งเมียวดีไมํมีระบบการก าจัดขยะ ต๎องทิ้งเรี่ยราด รวมทั้งทิ้งลงในแมํน้ าเมย ไมํมีระบบการระบายน้ า ไมํมีประปา ไมํมีไฟฟูา ต๎องการให๎นักวิชาการเข๎าไปศึกษาและจัดการขยะ 4) คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา ข๎าราชการในพ้ืนที่เมียวดีไมํมีอ านาจในการตัดสินใจด าเนินการในเรื่องตํางๆ ต๎องสอบถามและขอความเห็นชอบจากรัฐบาลกลาง การด าเนินการในเรื่องตํางๆ จึงเป็นไปด๎วยความลําช๎า 5) คณะนักธุรกิจ จากเมืองเมียวดีแจ๎งวํา ฝั่งเมียวดีมีประชากรประมาณสองแสนคนอาศัยอยูํในตัวเมืองเมียวดี ประมาณหนึ่งแสนคน และรอบนอกประมาณหนึ่งแส

วันที่ 28 กันยายน 2555ณส านักงานพัฒนาจังหวัดเมียวดี เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555 นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแมํสอดพร๎อมคณะผู๎บริหารเทศบาล

นครแมํสอดรํวมด๎วย นายสรรพสิริ อรชัยพันธ์ลาภ สมาชิกสภาเทศบาลต าบลทําสายลวด พร๎อมคณะได๎เดินทางเข๎าพบนายอู ตานอํู (U Than Oo) สมาชิกสภาผู๎แทนราษฎรจังหวัดเมียวดี ของสหภาพพมํา ที่ส านักงานพัฒนาจังหวัดเมียวดี โดยมีกลุํมนักธุรกิจและผู๎แทนภาคประชาชนของจังหวัดเมียวดีให๎การต๎อนรับและรํวมพบปะหารือกัน ทั้งนี้ เพ่ือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ในระดับท๎องถิ่นของทั้งสองพ้ืนที่ เชื่อมโยงไปสูํการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนแมํสอด-เมียวดี รํวมกันเพ่ือรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558และการเป็นประตูสูํอันดามัน ตามเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ EWEC โดยมีประเด็นการหารือ ดังนี้

1) ความรํวมมือการพัฒนาการค๎าชายแดนแมํสอด – เมียวดี ในระยะเรํงดํวน จะต๎องเรํงปรับปรุงซํอมสะพานมิตรภาพไทย-พมํา ให๎รถบรรทุกสามารถวิ่งผํานไปมาได๎และขอให๎เรํงด าเนินการกํอสร๎างเส๎นทางแมํสอด-เมียวดี-กอกาเรก และเมืองชั้นในของพมํา เพ่ือสํงเสริมการค๎าขายของทั้งสองประเทศ พร๎อมทั้งขยายสนามบินให๎สามารถรองรับเที่ยวบินแมํสอด-กรุงรํางกุ๎งของพมําได๎ เพ่ือรองรับนักธุรกิจที่จะเข๎ามาลงทุน รวมไปถึงการทํองเที่ยวในอนาคต ซึ่งทางเมียวดี ได๎มีการด าเนินการเปิดใช๎พ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (เมียวดี เทรดโซน) รองรับไว๎แล๎ว ในเบื้องต๎นทางการพมําทราบวําจะมีการทดลองบินของสายการบินนกแอร์ จากแมํสอด-เมาะละแหมํง ของพมํา ซึ่งจะใช๎ระยะเวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งทางการพมําต๎องการให๎เปิดเส๎นทางการบินอยํางถาวรพร๎อมทั้งขยายเส๎นทางบินอ่ืนๆ ของพมําเพ่ิมอีกด๎วย

ส าหรับสะพานแหํงที่สอง ทางการพมํายังไมํทราบวําทางการไทยมีความชัดเจนหรือยังวําจะสร๎างตรงจุดไหน/เมื่อไร 2) ความรํวมมือในการสํงเสริมการศึกษาให๎นักเรียนและเยาวชนไทย-พมํา ทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา

และในระดับอุดมศึกษา ซึ่งทางคณะสมาชิกสภาผู๎แทนราษฎรจังหวัดเมียวดีของสหภาพพมําได๎ให๎ความสนใจในเรื่องของมหาวิทยาลัยนานาชาติเป็นอยํางมาก เนื่องจากทางพมําให๎ความส าคัญในด๎านการสํงเสริมการศึกษาเพ่ือเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งสอดคล๎องกับการขับเคลื่อนของหนํวยงานภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ที่ผลักดันโครงการมหาวิทยาลัยนานชาติ ให๎เข๎าสูํโครงการตามแนวพระราชด าริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3) ความรํวมมือด๎านวัฒนธรรมประเพณี การเรียนรู๎ภาษา เนื่องจากแมํสอด-เมียวดี เป็นบ๎านพ่ีเมืองน๎อง มีการค๎าขายและไปมาหาสูํกันมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน มีวัฒนธรรมประเพณีที่คล๎ายคลึงกัน จึงเห็นควรให๎มีการสํงเสริมความรํวมมือทางด๎านวัฒนธรรม ประเพณี และภาษา ซึ่งอาจท าโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกันในสองพ้ืนที่ เป็นต๎น

4) การสร๎างอาชีพ จ๎างงาน ให๎ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ มีรายได๎เพ่ิมมากขึ้น พ้ืนที่เศรษฐกิจแมํสอด-เมียวดี จะต๎องมีการพัฒนาทุกๆ ด๎าน ให๎สอดรับกับการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นทั้งสองพ้ืนที่จะต๎องพัฒนาไปพร๎อมๆ กัน ให๎ประชาชนของทั้งสองพ้ืนที่มีงานท า มีรายได๎เพ่ิมมากขึ้น แรงงานก็จะสามารถควบคุมให๎อยูํในพ้ืนที่ได๎ ไมํต๎องเดินทางเข๎าไปท างานในกรุงเทพฯ

5) การสนับสนุนการน าเข๎าสินค๎าของไทยสูํพมํา เพราะชาวพมํามีความต๎องการสินค๎าของไทยมากกวําของจีน เนื่องจากสินค๎าไทยมีคุณภาพที่ดีกวํา

6)การพัฒนานครแมํสอด-เมียวดี ให๎เป็นเมืองคูํแฝดทางด๎านเศรษฐกิจ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ปี 2558 และการเป็นประตูสูํอันดามัน ตามเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจ EWEC

ส าหรับการหารือในครั้งนี้ ทางคณะผู๎บริหารท๎องถิ่นจากแมํสอดจะได๎น าประเด็นการพัฒนาน าเรียน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ดร.โอฬาร ไชยประวัติ และผู๎เกี่ยวข๎อง เพ่ือน าเรียนนายกรัฐมนตรีในโอกาสตํอไป ในสํวนของสมาชิกสภาผู๎แทนราษฎรจังหวัดเมียวดี ของสหภาพพมํา ก็จะน าประเด็นการหารือดังกลําวเข๎าที่ประชุมสภาผู๎แทนของพมํา เพ่ือให๎นายกรัฐมนตรีของพมําได๎หารือกับนายกรัฐมนตรีของไทยด๎วยเชํนกัน

ข้อสังเกต ด๎านการลงทุน ของกลุํมนักลงทุนทั้งในและนอกพ้ืนที่ มีดังนี้ 1.กลุํมนักธุรกิจในพ้ืนที่บางกลุํม ต๎องการเข๎าไปตั้งสถานประกอบการที่ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ เนื่องจาก

แรงงานหางําย และผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลเรื่องคําจ๎างแรงงาน 2.ส าหรับกลุํมนักลงทุนในพื้นที่บางกลุํม และนอกพ้ืนที่ รวมถึงนักลงทุนตํางชาติ ต๎องการเข๎ามาลงทุนในพื้นที่

เศรษฐกิจแมํสอด เนื่องจากมองวําแมํสอดมีศักยภาพ มีแรงงานเพียงพอ มีความมั่นคงปลอดภัยกวําทางฝั่งเมียวดี

รมว.เศรษฐกิจ ญี่ปุ่น ชี้นครแม่สอดเป็นพื้นที่น่าสนใจชักชวนนักธุรกิจเข้ามาลงทุน ระบุมีศักยภาพและอนาคตไกล จากการเป็นโมเดลเขตเศรษฐกิจของเมืองไทยที่รองรับ AEC

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 Mr.KiminoriIwama(นายคิมิโนริ อิวามํา) รัฐมนตรีวําการกระทรวงเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประเทศญี่ปุุน กลําวในโอกาสที่เดินทางลงพ้ืนที่มาศึกษาลูํทางการค๎า-การลงทุน พ้ืนที่ชายแดนไทย-พมํา ที่ อ.แมํสอด จ.ตาก โดยได๎เข๎าพบและประชุมปรึกษาหารือและขอข๎อมูลกับ ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแมํสอด เพ่ือน าไปสูํการลงทุนประกอบธุรกิจ ด๎านตํางๆของชาวญี่ปุุน วํานครแมํสอด เป็นพ้ืนที่ที่มีความส าคัญและนําสนใจมาก ซึ่งรัฐบาลญี่ปุุนพร๎อมที่ชักชวนให๎พํอค๎า-นักธุรกิจ เดินทางเข๎าลงทุน หากมีความชัดเจนในการจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและการออกระเบียบตํางๆ เนื่องจากมองได๎วํา “นครแมํสอด”เป็นพ้ืนที่มีศักยภาพด๎านตํางๆสูงมาก ทั้งการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโมเดลน ารํองของประเทศไทย รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางภูมิภาคและประตูของกลุํมประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ประกอบกับการที่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่อยูํบนเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจจากตะวันออกสูํตะวันตก East-West Economic Corridor –EWEC โดยหลังเดินทางกลับญี่ปุุนแล๎ว จะมีการเสนอตํอคณะรัฐมนตรีด๎านเศรษฐกิจเพื่อชี้แจงถึงศักยภาพและอนาคตของ “นครแมํสอด” เพ่ือชักชวนให๎เดินทางเข๎ามาลงทุน ซึ่งคาดวําจะมีกลุํมทุนในญี่ปุุนสนใจเข๎ามาประกอบธุรกิจด๎านตํางๆ จ านวนมาก

“ผม ได๎เดินทางมาลงพื้นที่ด๎วยตัวเอง ดูพ้ืนที่ทั้งหมด รวมทั้งได๎พบกับ ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแมํสอด รวมทั้งภาครัฐและเอกชนในพ้ืนที่ ผมได๎ข๎อมูลตํางๆมากมาย ล๎วนเป็นข๎อมูลที่นําสนใจตํอการตัดสินใจเข๎ามาลงทุน ซึ่งผมได๎รับความชัดเจนมากขึ้นในรูปแบบตํางๆของเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตการปกครองท๎องถิ่นพิเศษ “นครแมํสอด” รวมทั้งมาสเตอร์แปลนและโครงการตํางๆ ที่เตรียมการรองรับ เชํน เชํนโครงการกํอสร๎างสะพานมิตรภาพไทย-พมํา ที่จะท าแบบคูํขนานแหํงที่ 1 ข๎ามแมํน้ าเมย แมํสอด-เมียวดี รวมทั้งโครงการกํอสร๎างสะพานมิตรภาพฯแหํงที่ 2 ,โครงการการขยายสนามบินแมํสอดสูํสนามบินนานาชาติ ,โครงการกํอสร๎างศูนย์ราชการแหํงใหมํและศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service นครแมํสอด บนพ้ืนที่ 3,000 ไรํ,โครงการกํอสร๎างเส๎นทางถนน 4 เลน ตาก-แมํสอด และโครงการกํอสร๎างทางดํวน ของการทางพิเศษ โครงการเส๎นทางรถไฟ ตาก-แมํสอดที่จะต๎องมีการขุดเจาะอุโมงค์,การบริหารจัดการแรงงานตํางด๎าว กะเหรี่ยง-พมํา, ซึ่งเราได๎ทราบข๎อมูลและรายละเอียด เกือบทั้งหมด และเราพร๎อมสนับสนุนในแนวทางท่ีเป็นไปได๎ เชํนโครงการการสร๎างถนนทางดํวน-เส๎นทางรถไฟและการขุดเจาะอุโมงค์ เพราะญี่ปุุนมีผู๎ เชี่ยวชาญและช านาญการในเรื่องนี้ ประกอบกับต๎องการเข๎ามาลงทุนกับไทยในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด” Mr.KiminoriIwama กลําว

ข้อมลูนักลงทุนทั้งในประเทศและตา่งประเทศ ปัจจุบันจ านวนโรงงานในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด มีจ านวน 340 โรงงาน ประเภทอุตสาหกรรมได๎แกํ

อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ๎าส าเร็จรูปอุตสาหกรรมแปรรูปสินค๎าเกษตรและพลังงานทดแทนเอทานอล อุตสาหกรรมแปรรูปแรํสังกะสี อุตสาหกรรมแปรรูปสินค๎าการเกษตรอาหารกระป๋อง อุตสาหกรรมผลิตเซรามิค เป็นต๎น นอกจากนี้แมํสอดยังเป็นพ้ืนที่ที่ได๎รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งภายในและนอกประเทศ เชํน (1)คณะนักธุรกิจจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกวํา 20 คนเดินทางมาศึกษาลูํทางการลงทุน ด๎านการค๎า-อุตสาหกรรมและการทํองเที่ยวในพื้นที่ชายแดนไทย-พมํา อ.แมํสอด โดยได๎เข๎ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมและศักยภาพของนครแมํสอด ที่ก าลังจะมีการพัฒนาและจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและการยกฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษ “นครแมํสอด” ที่ห๎องประชุมโกเมนเทศบาลนครแมํสอด จากนั้นได๎เดินทางไปดูดํานการค๎าถาวรเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พมํา (แมํสอด-เมียวดี) –และทําเรือขนสํงสินค๎าริมแมํน้ าเมยรวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมตํางๆและตลาดริมเมย เพ่ือน าไปศึกษากํอนที่จะมีการชวนเชิญกลุํมนักธุรกิจอีกกวํา 50 รายมารํวมลงทุนในนครแมํสอด ซึ่งคาดวําจะมีการเข๎ามาลงทุนนับแสนล๎านบาท (2)คณะนักธุรกิจจากหอการค๎าจังหวัดสมุทรสาคร ได๎เดินทางมาดูงานและศึกษาพ้ืนที่การค๎าขายชายแดนอ าเภอแมํสอด พร๎อมดูงานเรื่องของแรงงานตํางด๎าวเพ่ือน าข๎อมูลไปศึกษาในการที่จะเข๎ามาลงทุนในอ าเภอแมํสอด (3)นายณัฐพลษ์ วิเชียรเลิศ ผู๎วําราชการ จังหวัดกาญจนบุรี พร๎อมคณะท างานด๎านชายแดนและนักธุรกิจกวํา 30 คน ที่เดินทางมาศึกษาแนวทาง-ปัญหาของเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด เพ่ือน าแนวทางไปปรับใช๎ในโครงการเชื่อมกาญจนบุรี - ทวายโปรเจกต์ โดยใช๎โมเดลนครแมํสอด น ารํอง ที่ห๎องประชุมหอการค๎านครแมํสอด (4)MR.DATO JUI MENG รัฐมนตรีชํวยวําการกระทรวงสาธารณสุข และสมาชิกรัฐสภา จากประเทศมาเลเซียพร๎อมคณะสมาชิกรัฐสภา และนักธุรกิจมาเลเซีย กวํา 10 คน เพ่ือศึกษาข๎อมูลยุทธศาสตร์การพัฒนานครแมํสอด และรับทราบสถานการณ์ความคืบหน๎าการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและท๎องถิ่นรูแบบพิเศษนครแมํสอด กํอนที่จะเข๎าสูํการเป็นประเทศรํวมคูํค๎าชายแดนและการสํงเสริมการลงทุนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะการเป็นเมืองหน๎าดํานประตูการค๎าชายแดนบนระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก-ตะวันตก (EWEC)

ทั้งนี้ เพ่ือเตรียมน านักธุรกิจจากประเทศมาเลเซียเดินทางเข๎ามาลงทุนภายหลังการศึกษารายละเอียดและพร๎ อมรํ วมลงทุ นในทุ กธุ รกิ จ รวมทั้ งการสนั บสนุ นด๎ านการค๎ า -การเมื อง ระหวํ าง มาเลเซี ยกั บแมํ สอด รมช.มาเลเซีย-สมาชิกรัฐสภามาเลเซียและนักธุรกิจ ได๎ให๎ความสนใจการพัฒนาแมํสอดเป็นอยํางมากเห็นวําเป็นเมืองเศรษฐกิจที่นําจะมาลงทุน และหากได๎รับการจัดตั้งเป็นท๎องถิ่นพิเศษด๎านการค๎าชายแดน ก็จะมีนักลงทุนจากตํางประเทศในกลุํมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเดินทางมาลงทุนจ านวนมาก ทั้งด๎านการค๎าชายแดน การลงทุนด๎านอัญมณี การจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมตํางๆ รวมไปถึงด๎านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร และธุรกิจด๎านการทํองเที่ยวอีกด๎วย

มตคิณะรัฐมนตรี เมื่อวันที ่21 มกราคม 2556 ในการประชมุ ครม.สญัจรที่จังหวัดอุตรดิตถ์

ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดแห่งแรกของประเทศไทย และให้นครแม่สอดเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด

ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”

อ าเภอพิเศษแม่สอด

แผนแม่บทการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด - งบประมาณ - แผนปฏิบัติการ - บุคคลากร - การบริหารจัดการ

ผังเมอืงรวมสเีชียว โครงการปรับปรุงผังเมืองรวมนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด อ าเภอแมํระมาด และอ าเภอพบพระ

ซึ่งการพัฒนาพ้ืนที่เศรษฐกิจแมํสอดในปัจจุบันไมํสัมพันธ์กับข๎อเท็จจริงกับผังเมืองรวมที่ก าหนด เนื่องจากพ้ืนที่สํวนใหญํ ทั้ง 3 อ าเภอ ยังเป็นพ้ืนที่สีเขียว ทั้งนี้การก าหนดระยะหํางจากจากเขตทางหลวงจากเดิม 6 เมตร เป็น 15 เมตร จากล าห๎วย 6 เมตร เป็น 50 เมตร สํงผลตํอวิถีชีวิตท าให๎เกิดผลกระทบทางลบ ระหวํางภาครัฐกับประชาชนเป็นอยํางมาก

โครงการรกัษ์ป่า รักษ์น้ าและฟื้นฟูระบบนเิวศปา่ไมใ้นพื้นที่ทรงงาน สมเดจ็พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุารี

ปัจจุบันทรัพยากรปุาไม๎ในอ าเภอแมํสอดได๎ลดจ านวนลงอยํางรวดเร็ว พ้ืนที่ปุาไม๎ซึ่งเป็นพื้นที่ต๎นน้ า ที่ส าคัญถูกบุกรุกท าลายกลายสภาพเป็นปุาเสื่อมโทรม โดยเฉพาะปุาต๎นน้ าซึ่งเป็นพ้ืนที่ทรงงานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จากสภาพปัญหาดังกลําวสํงผลกระทบให๎เกิดปัญหาอุทกภัยน้ าปุาไหลหลากเข๎าทํวมบ๎านเรือนในเขตอ าเภอแมํสอดสร๎างความเสียหายตํอชีวิตและทรัพย์สินสร๎างความเดือดร๎อนให๎แกํราษฎรเป็นอยํางมาก

ต ารวจตระเวนชายแดนที่ ๓๔ เทศบาลนครแมํสอด เป็นหนํวยงานในพ้ืนที่ที่ตระหนักถึงความส าคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม๎ และสนับสนุนการฟ้ืนฟูสภาพปุาต๎นน้ าล าธารให๎อุดมสมบูรณ์ตลอดมาดังนั้นเพ่ือเป็นการรักษ์ปุารักษ์น้ าและฟ้ืนฟูระบบนิเวศปุาไม๎ในเขตพ้ืนที่ปุาต๎นน้ าซึ่งเป็นพ้ืนที่ทรงงานอยํางเรํงดํวนจึงได๎จัดท า โครงการรักษ์ปุารักษ์น้ าและฟ้ืนฟูระบบนิเวศปุาไม๎ในพ้ืนที่ทรงงานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อ าเภอแมํสอด จังหวัดตากขึ้น เพ่ือปูองกันและบรรเทาปัญหาการเกิดอุทกภัยและดินถลํม และเพ่ือชํวยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศปูองกันการเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงตํางๆ และเพ่ือให๎ราษฎรเข๎าถึงและสามารถใช๎ประโยชน์จากทรัพยากรปุาไม๎ได๎อยํางยั่งยืนตามแนวพระราชด าริตํอไป

โครงการตดิตั้งกลอ้งวงจรปิด CCTV ครบวงจร เทศบาลนครแมํสอด ได๎ตระหนักถึงความจ าเป็นที่จะต๎องเสริมสร๎าง และพัฒนาการจัดการ

ในการบริหารงานด๎านความปลอดภัยตํอชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักทํองเที่ยว ที่เข๎ามาอยูํในพ้ืนที่ เขตเทศบาลนครแมํสอด โครงการนี้ได๎ด าเนินการเก็บรวบรวมข๎อมูลประกอบการศึกษาออกแบบ และส ารวจถนนพ้ืนที่ทางแยกส าคัญในเขตเทศบาล เพ่ือศึกษาถึงความเหมาะสมและความจ าเป็นที่จะต๎องติดตั้งกล๎องวงจรปิด รวมถึงจ านวนและต าแหนํงที่เหมาะสมส าหรับในแตํละสถานที่ ประกอบกับการส ารวจจุดติดตั้ง ณ พ้ืนที่จริง จึงได๎ข๎อสรุปวําสถานที่ ซึ่งจะควรจะต๎องมีการติดตั้งกล๎องโทรทัศน์วงจรปิด โดยจ านวนกล๎องสามารถปรับลดได๎ตามความจ าเป็น

โครงการเคเบิลทีวเีพื่อการศึกษา เนื่องจากเทศบาลนครแมํสอดเป็นเทศบาลที่มีขนาดพ้ืนที่ 27.2 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ

50,000 คน มีจ านวนบ๎าน 15,000 หลัง พ้ืนที่อ าเภอแมํสอดบางสํวนรวมถึงเขตเทศบาลนครแมํสอดสํวนมากเป็นพ้ืนที่ที่รับสัญญาณโทรทัศน์จากสถานีโทรทัศน์ชํองตํางๆในประเทศไมํชัดเจน บางพ้ืนที่ เป็นพ้ืนที่อับสัญญาณ ท าให๎ประชาชนในเขตเทศบาลไมํสามารถรับ ทราบขําวสารจากทางราชการและสํวนกลางได๎ชัดเจนและตํอเนื่อง

ดังนั้น เพ่ือให๎เกิดประโยชน์สูงสุดแกํประชาชนในด๎านขําวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และประชาชนได๎เข๎าใจนโยบายการบริหารงานของเทศบาล ประชาสัมพันธ์ขําวสารของเทศบาล ทั้งยังเพ่ือสํงเสริมการศึกษา

อุทยานการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ละสิ่งแวดลอ้ม ทีปังกรรัศมีโชต ิ อุทยานการเรียนรู๎วิทยาศาสตรแ์ละสิ่งแวดล๎อม “ทีปังกรรัศมีโชต”ิ เป็นแหลํงเรียนรูน๎อกห๎องเรียนที่อยูํใน

ชุมชนใกลโ๎รงเรียน บริการการเรียนรู๎ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สิ่งแวดล๎อม สู ํท๎องถิ่น เน๎นเด็กและเยาวชนเปน็จุดศูนย์กลาง เชิญทุกทํานเข๎ามาสมัผัสถึงโลกแหํงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลย ีและสิ่งแวดล๎อม ซึ่งได๎รับพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ จากสมเดจ็พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระราชทานนาม “อุทยานการเรียนรูเ๎ฉลิมพระเกียรติ” วํา อุทยานการเรียนรู๎วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล๎อมทีปังกรรัศมีโชต ิ(Dipangkorn Rasmijoti Science and Environment knowledge Park) เมื่อวันที ่9 ธันวาคม พ.ศ.2552

สนามบินนานาชาติ ทําอากาศยานแมํสอด เป็นหนํวยงานที่อยูํในความดูแลของกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม มี

หน๎าที่บริการด๎านการขนสํงทางอากาศ ได๎ประกาศเป็นสนามบินอนุญาตและประกาศเป็นสนามบินศุลกากรเมื่อปี พ.ศ. 2547 (เครื่องบินพาณิชย์ตํางประเทศมาบินขึ้น-ลงได๎)

จากการที่ทําอากาศยานแมํสอด เป็นผู๎ให๎บริการด๎านการขนสํงทางอากาศของจังหวัดตาก โดยมีที่ตั้งอยูํอ าเภอแมํสอด มีพรมแดนติดกับประเทศพมํา เปรียบเหมือนเป็นประตูบ๎าน (ทางอากาศ) ที่จะรองรับโครงสร๎างพ้ืนฐานในด๎านตํางๆ ซึ่งมีความจ าเป็นที่ต๎องพัฒนาเพ่ือรองรับความเจริญของท๎องถิ่นในอนาคต และเพ่ือเป็นการสอดรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

การท่องเทีย่วเชื่อมโยงของ 2 ประเทศ ไทย – พม่า เป็นการทํองเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เดินทางทํองเที่ยวไปยังแหลํงทํองเที่ยวทางโบราณคดี

และประวัติศาสตร์ เพ่ือชื่นชมและเพลิดเพลินในสถานที่ทํองเที่ยวได๎ความรู๎มีความเข๎าใจตํอประวัติศาสตร์และ โบราณคดี ชมงานประเพณีตํางๆ ที่ชาวบ๎านในท๎องถิ่นนั้นๆ จัดขึ้น เพ่ือศึกษาความเชื่อ การยอมรับนับถือ การเคารพพิธีกรรมตํางๆ และได๎รับความรู๎มีความเข๎าใจตํอสภาพสังคมและวัฒนธรรม ของทั้ง 2 ประเทศ คือ ไทยและพมํา

การท่องเทีย่ว 5 อ าเภอชายแดน

ศูนย์บริหารจดัการแรงงานอาเซียน

ปัจจุบันการใช๎แรงงานอาเซียนได๎กลายเป็นสํวนหนึ่งของโครงสร๎างตลาดแรงงานที่บาง อุตสาหกรรมยังจ าเป็นต๎องใช๎ มีการขออนุญาตน าเข๎า ทั้งนี้ประเทศไทยใช๎แรงงานอาเซียนระดับลํางมากกวําร๎อยละ ๕ หรือมากกวํา ๒ ล๎านคน ในลักษณะของงานท่ี สกปรก ยากล าบาก และอันตรายโดยมีจ านวนผู๎ที่ท างานผิดกฎหมายมากกวําถูกกฎหมาย ซึ่งไมํสํงผลดีตํอการก ากับดูแล การคุ๎มครองให๎เป็นไปตามกฎหมาย

แนวทางการเตรียมความพร๎อมด๎านแรงงานเพ่ือรองรับการเข๎าสูํประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดระบบเพ่ือรองรับการเคลื่อนย๎ายแรงงานเสรีมากขึ้นไมวํําจะเป็นเรื่องอาชีพที่สงวนไว๎ส าหรับคนไทยหรืออาชีพใดที่จะเปดิใหแ๎รงงานตํางชาติท าได ๎ และสิง่ทีต่๎องท าโดยเรงํดํวน

ศูนย์อัญมณีแหง่เอเชีย เพ่ือรองรับการขยายตวัทางด๎านเศรษฐกิจของนครแมํสอด และอัตราการเจริญเตบิโตที่มีปริมาณสูงขึ้นอยํางตํอเนื่อง การค๎าขายชายแดนมีการสํงออก – น าเข๎าที่หลากหลาย เพ่ือเป็นการสํงเสริมการทํองเที่ยวของเทศบาลนครแมํสอดให๎เป็นที่รู๎จักอยํางแพรํหลายและเกิดความประทับใจตอํนักทํองเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวตํางชาติที่เดินทางมาเที่ยวในพ้ืนที่เป็นจ านวนมาก เทศบาลจงึได๎จัดท าโครงการศูนย์อัญมณีแหํงเอเชีย ขึ้น

เขตพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (3 อ าเภอ แมส่อด พบพระ แมร่ะมาด) ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอดในอนาคต ภาครัฐควรให๎ความส าคัญและ

ควรมีนโยบายรวมถึงมาตรการสํงเสริมการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมเปูาหมายที่มีศักยภาพสูงสุด 3 อันดับแรก ในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ซึ่งได๎แกํ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ๎าส าเร็จรูป อุตสาหกรรมผักและผลไม๎กระป๋อง และอุตสาหกรรมไม๎และเฟอร์นิเจอร์ พร๎อมทั้ง เรํงศึกษาและหาแนวทางในการเพ่ิมศักยภาพของอุตสาหกรรมเปูาหมายดังกลําวให๎มีขีดความสามารถในการแขํงขันสูงขึ้นและแขํงขันได๎ในตลาดโลก ภาครัฐควรมีมาตรการจูงใจในการดึงดูดนักลงทุนให๎เข๎าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด

โดยอาจจะให๎สิทธิและประโยชน์ด๎านภาษีอากรมากกวําเขตการลงทุน เขต 3 และควรมีการบริหารจัดการแรงงานตํางด๎าวที่เข๎ามาท างานเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมให๎ถูกกฎหมาย โดยควรจะเลือกใช๎นโยบาย ที่มุํงเน๎นความมั่นคงทางการเมือง หรือมุํงเน๎นความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทางใดทางหนึ่งให๎มีมาตรการและแนวทาง ที่ชัดเจน ส าหรับประเภทของอุตสาหกรรมที่ภาครัฐควรให๎การสนับสนุนให๎เกิดการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมํสอด ควรเป็นอุตสาหกรรมประเภทที่ไมํกํอให๎เกิดมลภาวะแกํท๎องถิ่นและไมํกํอให๎เกิดปัญหาด๎านสิ่งแวดล๎อม

โรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรตสิมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี

โรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เดิมชื่อโรงเรียนเทศบาล 5 (แผนกมัธยม) ย๎ายมาจากโรงเรียนเทศบาลวัดมณีไพรสณฑ์ สังกัดเทศบาลนครแมํสอดได๎จัดตั้งขึ้นตามประกาศเทศบาลเมืองแมํสอด ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2551 ให๎สร๎างเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดเทศบาลนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก บนพ้ืนที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ 16 ไรํ 3 งาน 12 ตารางวา ในเขตต าบลแมํปะ อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ตามเอกสารส าคัญส าหรับที่หลวงเลขที่ 33264 ซึ่งแตํเดิมใช๎เป็นที่เพ่ือการเลี้ยงสัตว์ของชาวต าบลแมํปะ สภาองค์การบริหารสํวนต าบลแมํปะจึงมอบที่ดินเพ่ือกํอสร๎างโรงเรียนเทศบาล 5 (แผนกมัธยม) ตามนโยบาย ของนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแมํสอด พร๎อมด๎วยคณะผู๎บริหารและสมาชิกสภาเทศบาล

ในสมัยนั้น โดยจัดให๎มีการเรียนการสอนตามโครงสร๎างโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดการเรียนการสอนในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4 – ม. 6) เป็นโรงเรียนสหศึกษา วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพ่ือให๎บริการการศึกษาในระบบโรงเรียนแกํเด็กและเยาวชนในเขตเทศบาลและใกล๎เคียง มุํงที่จะพัฒนาเด็กและเยาวชน ได๎พัฒนาทั้งด๎านรํางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสตปิัญญา ตามหลักจิตวิทยาพัฒนาการ และเพ่ือรองรับจ านวนนักเรยีนที่เพ่ิมขึ้น และเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาให๎นักเรียนในเขตอ าเภอแมํสอดและอ าเภอใกล๎เคียง

โรงเรียนเปิดท าการเรยีนการสอนครั้งแรก ในปีการศึกษา 2553 ได๎รับอนุมัติจากกรมสํงเสริมการปกครองท๎องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ให๎เปิดขยายการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานของเทศบาลนครแมํสอด และให๎เปิดท าการสอนในระดับมัธยมศึกษา เทศบาลนครแมํสอด อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก ได๎ขอพระราชทานชื่อโรงเรียนเทศบาล 5 (แผนกมัธยม) เพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสครบรอบ 3 ทศวรรษ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และบัดนี้ส านักราชเลขาธิการราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แจ๎งมาวํา ได๎น าความกราบบังคมทูลทราบฝุาละอองพระบาทแล๎ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ พระราชทานชื่อโรงเรียน "โรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"

มหาวทิยาลัยนานาชาติ กํอสร๎างมหาวิทยาลัยนานาชาติ ในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอด จังหวัดตาก เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาส

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพ้ืนที่อ าเภอแมํสอดตลอดระยะเวลาสามทศวรรษ ทรงมุํงเน๎นให๎เด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยใช๎การศึกษาเป็นหลักในการท างานพัฒนา และขอพระราชทานชื่อมหาวิทยาลัย

ด๎วยคณะนักวิจัยในโครงการวิจัยเพ่ือจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติ ณ อ าเภอแมํสอด ซึ่งได๎รับการสนับสนุนทุนวิ จั ยขั้ นต๎ นจากกองทุนสนับสนุนการวิ จั ย (สกว. ) ประกอบด๎ วยนั กวิ จั ยจาก ๘ มหาวิทยาลั ย ได๎ แกํ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา มหาวิทยาลัยสงขลา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะนักวิจัยเดินทางมาจัดเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติแมํสอด คณะบุคคลที่เข๎ารํวมแสดงความคิดเห็นประกอบด๎วย นายอ าเภอแมํสอด ผู๎น าองค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นในอ าเภอแมํสอด หัวหน๎าสํวนราชการของเทศบาลนครแมํสอด โดยคณะนักวิจัยได๎ศึกษารวบรวมข๎อมูลและวิเคราะห์เหตุปัจจัยที่จะท าให๎การจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติแหํงแรกในอาณาบริเวณชายแดนไทย-พมําเป็นไปได๎ การวิจัยเพ่ือจัดตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติ ณ อ าเภอแมํสอด ศึกษาเหตุปัจจัยที่จะท าให๎สามารถตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติแหํงแรกในพ้ืนที่ชายแดน ไทย-พมํา จากการศึกษาเบื้องต๎นที่แมํสอดมีความเหมาะสมอยํางน๎อยที่สุด 2 ประการ

1. โอกาสของความรุํงเรืองทางเศรษฐกิจในพ้ืนที่ แมํสอด – เมียวดี – เมาะละแหมํง / เขตเศรษฐกิจ ชายแดนตามแนว East West Economic Corridor และเป็นพ้ืนที่ตามโครงการพัฒนาความรํวมมือทางเศรษฐกิจในอนุภาคลุํมแมํน้ าโขง 6 ประเทศ คือ ไทย พมํา ลาว เขมร เวียดนาม และจีน

2. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมแตํได๎รับผลกระทบจากสงครามและระบบเผด็จการทหารพมําของทั้งประเทศไทยและพมํา เพ่ือให๎เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั้งยืนบนฐานะของการศึกษา / การผลิตคนรุํนใหมํ และการเติบโตขององค์ความรู๎ที่จะเอ้ืออ านวยตํอการสร๎างสันติสุขในอาณาบริเวณชายแดน ไทย – พมํา และภูมิภาคในระยะยาวโดยการท างานแบบ สรรค์สร๎าง ควบไปกับงาน สมานฉันท์ และยังรวมถึงเยาวชนในประเทศเพ่ือนบ๎านโดยเฉพาะ พมํา

มีความต๎องการตํอยอดการเรียนของท๎องถิ่น ปัจจุบันมีระดับ ม.1 – ม. 6 ต๎องการมีมหาวิทยาลัยรองรับตํอการศึกษาที่ระดับสูงขึ้น

- มีนักเรียน / นิสิตนักศึกษา จ านวนมากที่จบระดับ ม.6 ที่จะไปศึกษาตํอกวํา 20,000 คน ในพ้ืนที่การศึกษา เขต 1 และเขต 2 จ านวน……..คน รวมทั้งนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดเทศบาล และนักศึกษาในจังหวัดใกล๎เคียง - มีนักเรียน / นิสิตนักศึกษา จากประเทศพมํา สํวนหนึ่งมีความสนใจที่จะเรียนตํอในระดับมหาวิทยาลัย - ท า MOU. กับเทศบาลนครแมํสอดในการรํวมกันจัดสร๎างมหาวิทยาลัยนานาชาติ ( ธรรมศาสตร์ อ าเภอแมํสอด ) โดยเทศบาลนครแมํสอดมีความพร๎อมในเรื่อง ที่ดิน อาคารสถานที่