!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ใบงานการทดลองการใช้เครื่อง Opt ica l Power Mete r และ Opt ica l L i gh t Source

ยี่ห้อ Anr i t su รุ่น CMA5

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ข้อควรระวังก่อนทําการทดลอง

1. หลีกเลี่ยงการมองแสงในสาย Fiber Optic และ แหล่งกําเนิดแสง (Output Connector) อาจทําให้ตาบอดได้ หน้าสัมผัส

2. แหล่งกําเนิดแสง ควรสะอาดปราศจาก ฝุ่น น้ํามัน หรือสิ่งสกปรก อื่นๆ ควรปิดฝาครอบ (Output

Connector) เมื่อไม่ใช้งาน

ลักษณะ และ ปุ่มกด ของเครื่อง Fiber Optic Light Source Operating Controls

รูปที่ 1 Fiber Optic Light Source Operating Controls

1. ขั้วต่อเอาท์พุท Light Source (Output Connector (Laser Aperture))

2. ขั้วต่อแหล่งจ่ายไฟภายนอก (External AC Power Jack)

3. LED แสดงผลการทํางาน (Active Wavelength and Mode Indicators)

4. ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง (On / Off Key)

5. ปุ่มเลือก (CW/MOD Key)

6. ปุ่มปิดเครื่องอัตโนมัติ (Auto Off Key)

7.ปุ่มเลือก Wavelength ( λ (Wavelength) Key)

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ลักษณะ และ ปุ่มกด ของเครื่อง Fiber Optic Power Meter Operating Controls

รูปที่ 2 Fiber Optic Power Meter Operating Controls

1. ขั้วต่ออินพุท Power Meter (Fiber Optic Input)

2. ขั้วต่อแหล่งจ่ายไฟภายนอก (External AC Power Jack)

3. จอแสดงผลแบบ LCD (Liquid Crystal Display (LCD))

4. LED แสดงการต่อแหล่งจ่ายไฟภายนอก (Ext. Power)

5. ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง (On/Off Key)

6. ปุ่มปิดเครื่องอัตโนมัติ (Auto Off Key)

7. ปุ่มเลือก Wavelength ( λ (Wavelength) Key)

8. dBm/W Key คือ ปุ่มสําหรับเลือก absolute power (dBm) หรือ Relative Power (dB)

กดปุ่มค้างไว้จนปรากฏ “HELD” บนหน้าจอจะเปลี่ยนเป็น µW

9. Zero Key คือ ปุ่มสําหรับ Set ค่า Zero ให้กับเครื่อง Power Meter

10. Ref Key คือ ปุ่มสําหรับบันทึก ค่า Power Reference ไว้ใน memory กดปุ่มนี้ค้างไว้จนปรากฏ “HELD”

บนหน้าจอทําการจัดเก็บค่านี้ใน memory ให้เป็นค่า Power Reference

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

การใช้งานอุปกรณ์ Optic Power Meter , Optic Light Source

การทดลองที่ 1 การวัดค่า Reference Power ของสาย Optic Fiber ด้วย Optic Power Meter

วิธีการทดลอง

1. ต่อสาย Patch Cord เข้ากับ Output Connector ของเครื่อง Optic Light Source และ Optic

Input ของเครื่อง Optic Power Meter

Optic Power MeterOptic Light Source

Patch Cord

รูปที่ 1 แสดงการต่อสาย Patch Cord

2. ตั้งค่าเครื่อง Optic Light Source โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm, และเลือกการ MOD

แบบ CW

3. ตั้งค่าเครื่อง Optic Power Meter โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm

4. กดปุ่ม On ทั้งสองเครื่อง บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 1

5. กดปุ่ม CW/ MOD เลือก 270Hz, 1 kHz และ 2 kHz ตามลําดับ บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 1

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ตารางที 1 ค่า Reference Power ของสาย Fiber Optic ที่วัดได้จาก Optic Power Meter

Wavelength ( nm ) Modulation Reference Power ( dBm )

1550

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

การทดลองที่ 2 การวัดค่า Reference Power ของสาย Optic Power Meter โดยตั้งค่า Wavelength

ที่ 1310 nm

วิธีการทดลอง

ทําการทดลองเหมือน การทดลองที่ 1 โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1310 nm บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 2

ตารางที่ 2 ค่า Reference Power ของสาย Patch Cord ที่วัดได้จาก Optic Power Meter

Wavelength ( nm ) Modulation Reference Power ( dBm )

1310

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

การทดลองที่ 3 การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยการคํานวณ

วิธีการทดลอง

1. ต่อจากใบงานที่1 ทําการต่อสาย Patch Cord ด้านที่ต่ออยู่กับ Optic Power Meter ออก และทําการต่อ สาย Fiber ที่ต้องการวัดค่า Loss เข้าไป (Fiber Under Test) ดังรูปที่ 2

2. ตั้งค่าเครื่อง Fiber Optic Light Source โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm, และเลือกการ MOD

แบบ CW

3. ตั้งค่าเครื่อง Fiber Optic Power Meter โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm

4. กดปุ่ม On ทั้งสองเครื่อง บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 3

5. กดปุ่ม CW/ MOD เลือก 270Hz, 1 kHz และ 2 kHz ตามลําดับ บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 3

6. ทําการเปลี่ยน Wavelength เป็น 1310 nm, และเลือกการ MOD แบบ CW, 270Hz, 1 kHz และ 2

kHz

บันทึกผลการทดลองลงในตารางที่ 4

Fiber Under Test

Patch Cord

Optic Light SourceOptic Power Meter

รูปที่ 2 แสดงการต่อสาย Patch Cord เพื่อหาค่า Loss ของสาย Fiber ( Fiber Under Test )

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ตารางที 3 การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยการคํานวณ Wavelength 1550 nm

Re fe rence Power (dBm) – Power (dBm) = Loss (dB )

Wavelength (

nm )

Modulation Reference Power (

dBm )

ค่าที่ได้จากตารางที่ 1

Power (dBm)

ค่าที่ได้จากการวัด Loss(dB)

1550

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

ตารางที 4 การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยการคํานวณ Wavelength 1310 nm

Re fe rence Power (dBm) – Power (dBm) = Loss (dB )

Wavelength (

nm )

Modulation Reference Power (

dBm )

ค่าที่ได้จากตารางที่ 2

Power (dBm)

ค่าที่ได้จากการวัด Loss(dB)

1310

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

การทดลองที่ 4 การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยการคํานวน และการวัด Loss ของสาย Fiber Optic

โดยใช้โหมด Ref

1. ต่อสาย Patch Cord เข้ากับ Output Connector ของเครื่อง Fiber Optic Light Source และ Fiber Optic

Input ของเครื่อง Fiber Optic Power Meter ดังแสดงในรูป

Optic Power MeterOptic Light Source

Patch Cord

2. ตั้งค่าเครื่อง Fiber Optic Light Source โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm, และเลือกการ MOD

แบบ CW

3. ตั้งค่าเครื่อง Fiber Optic Power Meter โดยตั้งค่า Wavelength ที่ 1550 nm

4. กดปุ่ม On ทั้งสองเครื่อง

5. กดปุ่ม Ref Key ที่เครื่อง Fiber Optic Power Meter เพื่อทําการบันทึก ค่า Power Reference

ไว้ใน memory กดปุ่มนี้ค้างไว้จนปรากฏ “HELD” บนหน้าจอ ทําการบันทึกค่า Power Reference

ในตารางท ี5

6. หลังจาก บันทึกค่า Power Reference ลงในเครื่อง Fiber Optic Power Meter แล้วถอดสาย สาย Patch Cord ออกจากเครื่อง Fiber Optic Power Meter ออก และทําการต่อสาย Fiber ที่ต้องการ วัดค่า Loss เข้าไป (Fiber Under Test)

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ดังรูป Fiber Under Test

Patch Cord

Optic Light SourceOptic Power Meter

7. เครื่อง Fiber Optic Power Meter จะทําการคํานวณค่า Loss ในสายอัตโนมัติ ทําการบันทึกค่า

Loss (dB) ในตารางท ี5

8. ทําตั่งแต่ขั้นตอนที่ 1 ถึง – ขั้นตอนที่ 7 โดยการเปลี่ยนค่า MOD เป็น 270Hz, 1 kHz และ 2 kHz

ทําการบันทึกค่า Loss (dB) ในตารางท ี5

9. ทําตั่งแต่ขั้นตอนที่ 1 ถึง – ขั้นตอนที่ 8 โดยการเปลี่ยนค่า Wavelength เป็น 1310 nm

ทําการบันทึกค่า Loss (dB) ในตารางท ี6

ตารางที 5 การวัดคา่ Loss ของสาย Fiber Optic โดยใช้โหมด RefWavelength 1550 nm

Wavelength ( nm ) Modulation Reference Power (

dBm )

Loss(dB)

1550

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ตารางที 6 ค่า การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยใช้โหมด Ref1310 Wavelength nm

Wavelength ( nm ) Modulation Reference Power (

dBm )

Loss(dB)

1310

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

การทดลองที่ 5 การใช้อุปกรณ์ Fusion Splice และ Cleaver

วิธีการทดลอง

1. ตัดสาย Optic Fiber Cable ที่ทําการวัด Loss แล้ว นํามาทําการ splice

โดยตัดจากปลายสายด้านใดด้านหนึ่งที่ ความยาวมากกว่า 2 เมตร

2. ทําการปอกสายด้วย Stripper ปอกสายชั้นนอกสุด ยาวประมาณ 30 mm และ ตัดเส้นใยสังเคราะห์ออก

และปอกสายชั้น Coating ออก ประมาณ 16 mm และ ใส่ Fiber Protection Sleeve

3. ปอกสายชั้น Cladding ออก (เป็นชั้นเคลือบสาย Fiber Optic เปลือย บาง ๆ) และ ใช้แอลกอฮอล์ 100% เช็ดทําความสะอาด

4. ทําการตัด Fiber Optic เปลือยด้วย Optical fiber Cleaver โดยทําการเปิดฝาครอบใหญ่ด้านบน Top clamp

clever เปิดฝาครอบ

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

เล็ก Coating clamp lid และ เปิดฝาครอบที่ใส่เศษสาย Fiber Optic เลื่อนส่วนใบมีดมาด้านหน้า (ดันเข้าหาตัว) วางสาย Fiber Optic เปลือย บนร่องตัว V และใสสาย Fiber Optic เปลือย อยู่บนแท่นรองยางทั้งสอง จัดให้เป็นแนวตรง

5. ปิด Coating clamp lid และ Top clamp lever และ ปิดฝาครอบที่ใส่เศษสาย Fiber Optic

ลงมาแต่ไม่ต้องกด ผลักส่วนใบมีด(ไปด้านหน้า) เพื่อที่จะตัดสาย Fiber Optic ฝาครอบที่ใส่เศษสาย Fiber Optic จะปิดอัตโนมัติ เปิด Top clamp clever และ Coating clamp lid ดัง รูปที่ 3

6. ส่วนสาย Fiber Optic อีกเส้นทําตามขั้นตอนที่ 1 ถึง ขั้นตอนที่ 5 แต่ไม่ต้องใส่ Fiber Protection Sleeve

รูปที่ 3 การตัด Fiber Optic เปลือย ด้วย Optical fiber Cleaver

7. ทําการ Splice สาย Fiber Optic ทั้งสองเส้นที่ตัดไวด้วยเครื่อง Optical fiber Fusion Splice

เปิดฝาครอบป้องกัน Hood และยกที่

กดสาย Fiber Optic ขึ้นวางสาย Fiber Optic บนร่องตัว V และปลายสาย Fiber Optic ไม่เกินจุดเชื่อมของ Electrode

16 mm

! !

Top clamp clever !

Coating clamp lid! ส่วนของใบ

���

ร่องตัว V

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

รูปที่ 4 การวางสาย Fiber Optic บนร่องตัว V ของเครื่อง Optical Fiber Fusion Splice

8. ปิดที่กดสาย Fiber Coating clamp lid สาย Fiber Optic ลง นําสาย Fiber Optic อีกเส้นมาวางตามขั้นตอนที่ 7 ปิดฝาครอบป้องกัน Hood

รูปที่ 5 แสดงการปิดที่กดสาย Fiber Coating clamp lid

9. ก่อนการเชื่อมต่อสาย Fiber Optic ควรทําการทดสอบ Arc test ก่อน เช่นการเชื่อมต่อแบบ SM Standard

สําหรับการเลือกใช้ Fusion Control แบบ Auto Fusion เครื่องจะมีการวิเคราะห์ Arc อัตโนมัติแล้วจึงไม่ต้องทํา Arc test

ในการเชื่อมต่อแบบ Auto Fusion

กดสาย Fiber

Coating clamp lid!

นําสายใยแก้วนําแสงอีกเส้นมาวางตามขั้นตอน ���!

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

10. ที่ Menu Fusion ให้เลือกแบบ SM Standard และ Heater program ให้เลือก 60 mm

รูปที่ 6 แสดง การเลือกแบบ SM Standard และ Heater program

11. กดปุ่ม Arc หน้าจอจะแสดง Arc Test Fusion

12. กดปุ่ม SET เครื่องจะเริ่มทําการ Arc Test (สาย Fiber Optic จะไม่ถูกเชื่อม เพราะไม่มีการเคลื่อนย้ายสาย Fiber Optic ในการทํา Arc Test)

13. ทําการ Auto Splice โดยการกดปุ่ม SET เพื่อเริ่มทําการ Auto Splice

รูปที่ 7 แสดงการกดปุ่ม Start เพื่อทําการ Splice

14. เครื่องทําการตรวจสอบพื้นผิว และ ฝุ่นละอองที่ปลายสาย Fiber Optic และทําการ Arc

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

15. การ Splice เป็นผลสําเร็จ หน้าจอแสดงค่า Loss ตรวจสอบพื้นผิวและฝุ่นละอองของปลายสาย Fiber Optic บันทึกผลลงในตารางที่ 3

รูปที่ 8 แสดงค่า Loss ตรวจสอบพื้นผิวและฝุ่นละอองของปลายสาย Fiber Optic

16. นําสาย Fiber Optic ออกจากเครื่อง เลื่อน Protection sleeve มาคลุมที่จุดเชื่อมต่อและวาง Protection

sleeve ใน Heater ปิดฝาครอบเตาอบและที่ล็อกสาย Fiber Optic

รูปที่ 9 แสดงการเตรียมการอบ Protection sleeve ใน Heater

17. กดปุ่ม HEAT key เริ่มทําให้ Protection sleeve ร้อนและไฟ LED HEAT สีแดงจะสว่าง

ขึ้นเมื่อทําการอบเสร็จ จะมีเสียงดังขึ้น ไฟ LED HEAT จะดับลงอัตโนมัติ

ที่ล็อกสาย Fiber

Optic

��������!

ฝาครอบเตาอบ

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ตารางที่ 6 ค่า Loss ที่ได้จากการ Fusion Splice

Loss ที่เกิดจากการ Fusion Splice

18. นําสาย Fiber Optic ที่ทําการ Splice มาทําการทดสอบ Loss อีกครั้ง ตามการทดลองที่ 4 (การวัดค่า Loss ของสาย Fiber Optic โดยใช้โหมด Ref) บันทึกผลลงในตารางที่ 7

ตารางที 7 ค่า Loss ของสาย Fiber Optic หลังจากทําการ Splice วัดได้จาก Fiber Optic Power Meter

Wavelength ( nm ) Modulation Loss ( dB )

1550

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz

19. นําผลการทดลองที่ได้จากตารางที่ 6 และ 7 มาคํานวณหา Loss (อัตราการลดทอน) ของสายที่เกิดจากการ Fusion Splice = (ค่า Loss ของสาย Fiber Optic หลังจากทําการ Splice - ค่า Loss ของสาย Fiber Optic

ก่อนทําการ Splice) ลงในตารางที่ 8

!

© 2013 MARIGOLD TECHNOLOGIES CO., LTD.

Tel: +66(2) 962-0918 Fax: +66(2) 962-0919!

ตารางที่ 8 คํานวณหา Loss (อัตราการลดทอน) ของสายที่เกิดจากการ Fusion Splice

Wavelength

( nm )

Modulation ค่า Loss ของสาย Fiber Optic

ก่อนทําการ Splice

ค่า Loss ของสาย Fiber

Optic หลังจากทําการ Splice

Loss ที่เกิดจากการ Fusion Splice

1550

CW

270 Hz

1 KHz

2 KHz