34

NYA~ Journal Vol.1

Embed Size (px)

DESCRIPTION

Flying Cat Club's Journal about School life and Knowledges

Citation preview

Page 1: NYA~ Journal Vol.1
Page 2: NYA~ Journal Vol.1
Page 3: NYA~ Journal Vol.1

สวัสดีครับพี่โหลครับอดีตรองประธานนักเรียนประจำาปีการศึกษา

๒๕๕๓,ประธานชุมนุมแมวบินรุ่นที่๑และบรรณาธิการวารสารเนียฉบับนี้ที่

ท่านผู้อ่านถืออยู่(โอยตำาแหน่งมากเหลือเกิน)ในโอกาสที่เราได้พบกันครั้งแรก

พี่ก็ขอแนะนำาอะไรกันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับวารสารฉบับนี้วารสารเนียเป็นสิ่งหนึ่ง

ที่เกิดขึ้นเพียงเพราะ“ความอยากทำา”ของเราชาวสมาชิกชุมนุมแมวบินตาม

ที่หลายๆท่านคงเคยได้ยินว่าทำาอะไรก็ได้ที่ใจอยากทำาคือแมวบินนั่นแหละ

ครับและนี่ก็คือที่มาของชื่อ“เนีย”(ニャー)ซึ่งเป็นเสียงเมี้ยวของแมว

ตามภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง(หรืออาจออกเสียง“เนี้ยว”ก็ได้)

ในเมื่อนี่เป็นปฐมฤกษ์ของเราเราจึงอยากเริ่มต้นจากที่ใกล้ตัวนั่นคือ

โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรีโรงเรียนอันเป็นที่รักและบ้านหลังที่๒

อีกทั้งยังเป็นที่ที่แมวบินถือกำาเนิดขึ้นมานั่นเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะ

เพลิดเพลินไปกับแนวคิดและสาระดีๆที่พวกเราคัดสรรมามอบให้ท่านผู้อ่านทุก

ท่านนะครับ

แล้วพบกันในโอกาสหน้าครับ

ชลากรสถิวัสส์

บรรณาธิการ

EDITOR’S TALK

NYA JOURNAL issue.01 june 2011

• แมวบินมีทวิตเตอร์แล้วขอเชิญชวนทุกท่านร่วม

กันfollow@flyingcatclubเพื่อรับสาระประโยชน์

ดีๆเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมทุกวันและข่าวสาร

ประชาสัมพันธ์กิจกรรมจากชุมนุมแมวบินนะคะ

• เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆสำาหรับหนังสือPocket

Book“ที่รวบรวมแนวทางการจัดกิจกรรมชุมนุมอย่าง

เต็มรูปแบบและเคล็ดลับดีๆที่พี่โหลรวบรวมมาจาก

ประสบการณ์การเป็นประธานชุมนุมที่แตกต่างกัน๓ปี๓

ชุมนุมสามารถยืมอ่านได้ที่ห้องสมุดของโรงเรียนหรือ

ดาวน์โหลดในรูปของไฟล์PDFได้จากเฟซบุ๊คของชุมนุม

แมวบินนะคะ

• ชุมนุมแมวบินออกแอนิเมชันสั้นรณรงค์การ

ประหยัดน้ำาและใช้น้ำาให้คุ้มค่าลองหาชมได้ที่เฟซบุ๊คของ

ชุมนุมแมวบินนะคะ

• หลังจากที่เป็นที่กล่าวขานกันมานานว่าในปีการ

ศึกษา๒๕๕๔ชุมนุมแมวบินจะยังคงอยู่ที่โรงเรียนของเรา

หรือไม่เพราะทั้งพี่โหลพี่มะนาวและพี่ๆที่ดูแลชุมนุม

ต่างก็สำาเร็จการศึกษาไปแล้วแต่ตอนนี้ชุมนุมแมวบินก็มี

ประธานรุ่นที่๒แล้วคือพี่อิม รมย์รวินท์ ทองมาพร้อม

กับพี่เฟรนด์ พรสรวง ใจยา และพี่ต๊อก ธวัชชัย อยู่

ออมสิน เป็นรองประธานชุมนุมคู่หูคู่คิดด้วยหมายความ

ว่าชุมนุมแมวบินก็จะยังคงอยู่กับพี่ๆน้องๆชาวสวน

กุหลาบนนท์ต่อไปในปีนี้แมวบินก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย

นะค้าาา

HOTNEWSUPDATE

@flyingcatclub

/flyingcatclub

Page 4: NYA~ Journal Vol.1

โรงเล่า PG.22

-สวน ... เผด็จศึก

GET A TASTE OF PG.24

-ก๋วยเตี๋ยวหูมทอด สุธานี

MEGA PHONE PG.28

-เพราะอะไร ? เราถึงอยากมาโรงเรียน ?

แมวบิน PG.4

-โลกร้อนแก้ได้ เริ่มจากตัวเรา

FLY TO LEARN LEARN TO FLY PG.8

- เทคนิดเตรียมตัวสอบ จากพี่ๆรุ่น 29

ลุยสวน PG.10

-สถานเชิญธง ลี้กุลเจริญ

MAIN COURSE PG.15

-บทสัมภาษณ์ ปิ๊ก อัญชลี สืบแสงอินทร์

DO-D PG.19

- เดี๋ยวนี้ใครๆก็เรียกอะไรว่า “อัน“

ณ ปัจจุบันขณะ PG.20

-ความคิดอยากจะทำา

WHAT’s ON NYA

MAIN COURSE ; สัมภาษณ์แบบเจาะลึกปิ๊ก-อัญชลีสืบแสงอินทร์

ประธานนักเรียนปี2554หญิงสาวตัวเล็ก(มาก)ผู้แบกรับภาระอันยิ่งใหญ่

ลุยสวน;ข้อมูลประวัติความเป็นมาและหลากเรื่องเล่าของ

“สถานเชิญธงลี้กุลเจริญ”สถานเชิญธงสูงเสียดฟ้าที่พวกเรา

เคารพรัก

Page 5: NYA~ Journal Vol.1
Page 6: NYA~ Journal Vol.1

ปฏิเสธกันไม่ได้แล้วล่ะครับว่าเดี๋ยวนี้อากาศร้อนขึ้น

จริงๆเพียงแค่อยู่ในอาคารเฉยๆก็รู้สึกคล้ายอยู่ในเตาอบ

นี่ยิ่งถ้าเดินในที่กลางแจ้งในตอนกลางวันนั้นยิ่งรู้สึกเหมือน

แสงแดดจะแผดเผาผิวเราให้ไหม้เกรียมเสียซะให้ได้เชื่อหรือ

ไม่ครับว่าอุณหภูมิเพียง๑องศาเซลเซียสที่เพิ่มขึ้นบริเวณเส้น

ศูนย์ซึ่งประเทศไทยของเราตั้งอยู่บริเวณนี้ในเวลาเดียวกันที่

ขั้วโลกนั้นร้อนขึ้นถึง๖องศาเซลเซียสเชียวขนาดโลกร้อนขึ้น

เพียง๑องศาเรายังไหม้กันเสียขนาดนี้แล้วน้ำาแข็งขั้วโลกที่

อยู่ท่ามกลางอุณหภูมิสูงขึ้นถึง๖องศาล่ะจะละลายเร็วขนาด

ไหน

แล้วรู้ไหมครับว่ากระจกสะท้อนรังสีความร้อนจาก

ดวงอาทิตย์ออกไปนอกโลกที่ใหญ่ที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงนี้

คือน้ำาแข็งขั้วโลกนั่นเอง(รวมถึงน้ำาแข็งบนยอดเขาสูงแห่ง

ต่างๆ)สีขาวของพืดน้ำาแข็งนั้นสามารถสะท้อนพลังงาน

ความร้อนกลับออกไปถึง๙๐เปอร์เซ็นต์ขณะเดียวกันที่

ทะเลที่พืดน้ำาแข็งขั้วโลกเหล่านั้นลอยอยู่สามารถดูดซับความ

ร้อนได้ถึง๙๐เปอร์เซ็นต์แน่ะยิ่งไปกว่านั้นการที่น้ำาแข็งขั้ว

โลกกำาลังละลายเป็นน้ำาจืดที่ปะปนในทะเลเป็นเหตุให้กระจก

สะท้อนความร้อนของเราลดขนาดลงกลายเป็นพื้นที่ที่ดูดซับ

ความร้อนที่เพิ่มขึ้น

แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ยังส่งผลร้ายอื่นๆอีกมากมาย

เช่นปริมาณน้ำาจืดนั้นลดลงไม่เพียงพอต่อการบริโภคของ

ประชาการที่อาศัยบริเวณเชิงเขาที่มีธารน้ำาแข็งละลาย(

เพราะน้ำาจืดปะปนกับน้ำาเค็มในทะเลที่ขั้วโลกและวัฏจักร

น้ำาผิดปกติไปจากเดิม),ระดับน้ำาทะเลสูงขึ้นกัดเซาะและ

รุกล้ำาบริเวณที่อาศัยของประชากรตามพื้นที่ต่ำาหรือไม่สูงจาก

ระดับน้ำาทะเลมาก,พืชและสัตว์ปรับตัวกับความผิดปกติของ

ฤดูกาลและความขาดแคลนไม่ได้ก็พากันสูญพันธุ์ฯลฯทุก

อย่างล้วนเกิดขึ้นจากมนุษย์อย่างเราๆนี่เองหนึ่งคนอาจใช้

ไฟฟ้า,น้ำา,น้ำามันหรือพลังงานต่างๆฟุ่มเฟือยคนละนิด

คนละหน่อยแต่แน่นอนว่าหากจำานวนประชากรบนโลกที่

ตอนนี้มีอยู่กว่า๖,๘๐๐ล้านคนใช้พลังงานสิ้นเปลืองพร้อม

กันล่ะ?นั่นก็มากพอที่จะทำาให้ภาวะโลกร้อนนั้นเป็นปัญหา

ใหญ่กันทั่วโลกแล้วล่ะครับเอาล่ะสิแย่ทั้งขึ้นทั้งล่องอย่างนี้

เห็นจะเป็นปัญหาที่เราทุกคนเลี่ยงไม่ได้จริงๆแล้วนะครับ

ไหนๆวารสารNYA~เล่มนี้ก็เป็นฉบับพิเศษเฉพาะ

สำาหรับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรีของเราใน

บทความนี้จึงอยากนำาเสนอวิธีต่างๆที่พวกเราวัยนี้สามารถมี

ส่วนร่วมในการบรรเทาภาวะโลกร้อนระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน

เริ่มตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนจนถึงกลับบ้านกันเลยลองอ่านดูนะ

ครับ

• เดินทางไปโรงเรียนด้วยรถโดยสารประจำาทางเป็น

วิธีพื้นๆที่ช่วยลดมลภาวะได้เป็นอย่างยิ่งลองคิดง่ายๆว่า

หากเราขึ้นรถโดยสารรถของเราก็ยังคงจอดอยู่ที่บ้านโดยไม่

ปล่อยมลพิษแต่หากเราให้คุณพ่อคุณแม่ขับรถส่วนตัวไปส่ง

ที่โรงเรียนบนถนนก็จะมีรถเพิ่มขึ้นอีกคันโดยที่รถโดยสาร

ที่เราสามารถนั่งได้ก็ยังคงแล่นอยู่บนถนนอยู่ดีหรืออย่าง

น้อยๆก็ลองมองหาเพื่อนที่อาศัยในละแวกเดียวกันติดรถไป

โรงเรียนด้วยกันขากลับก็อย่าลืมใช้วิธีเดิมเหมือนขาไปนะ

ครับ

โลกร้อน แก้ได้ เริ่มจากตัวเราเรื่อง:ชลากรสถิวัสส์ประธานชุมนุมแมวบิน(๒๕๕๒-๒๕๕๓)

04

Page 7: NYA~ Journal Vol.1

• ปิดน้ำา–ปิดไฟทันทีที่เลิกใช้หรือทันทีที่เห็นว่า

เปิดค้างอยู่โดยไม่มีคนใช้แม้ว่าโรงเรียนจะเรียกเก็บเงินค่า

สาธารณูปโภคแพงเพียงใดก็โปรดอย่ามีความคิดว่าต้องใช้

ไฟเปิดน้ำาให้คุ้มเลยครับเพราะการใช้พลังงานทุกอย่างล้วน

ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกทั้งสิ้นขณะเดียวกันการเริ่มต้น

ประหยัดพลังงานคนละเล็กคนละน้อยนั้นเมื่อรวมกันหลายๆ

คนแล้วก็เป็นความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่แล้วครับ

• ถ่ายเอกสารด้วยกระดาษใช้แล้วหากไม่รีบร้อน

ลองบอกให้พี่ที่ร้านถ่ายเอกสารช่วยเอากระดาษที่ถ่ายเสีย

แล้วยังเหลือหน้าขาวอยู่อีกด้านหนึ่งมาใช้ดีไหมครับ?ใน

บรรดาอุตสาหกรรมทุกชนิดอุตสาหกรรมผลิตกระดาษนั้น

ปล่อยมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับ๒(รองจากอุตสาหกรรม

ปิโตรเลียม)นอกจากจะช่วยลดมลพิษที่เกิดจากการผลิตและ

ทิ้งกระดาษแล้วยังช่วยชะลอการนำาทรัพยากรป่าไม้ใหม่มาใช้

อีกด้วยนอกจากนี้เศษกระดาษเศษวัสดุจากการทำาโครงงาน

ต่างๆก็สามารถเก็บรวมไว้ชั่งกิโลขายเพื่อเข้าสู่กระบวนการ

รีไซเคิลด้วยนะครับ

• นำาสมุดเก่ามาใช้อาจารย์ทุกท่านไม่ว่าอะไรหากเรา

นำาสมุดของปีที่แล้วที่เพิ่งใช้เขียนไปเพียงไม่กี่หน้าและยังเหลือ

หน้าว่างอีกมากมาใช้ใหม่เพียงหากระดาษหรือสติ๊กเกอร์มา

แปะทับชื่อวิชาที่หน้าปกและเย็บหรือตัดหน้าที่เขียนแล้วออก

ให้เรียบร้อยนอกจากนี้หากเราต้องการจดอะไรสัพเพเหระก็

สามารถเขียนลงในสมุดโน้ตทั่วไปได้เช่นกันเพียงค้นๆจาก

ที่บ้านมาใช้เท่านั้นเท่านี้เราก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อสมุดใหม่มาใช้

แล้วครับ(รวมถึงนำาปกพลาสติกจากสมุดเล่มเก่ามาห่อใหม่)

ยิ่งคนที่ยังไม่ถูกใจสมุดลายใหม่ที่ออกมาในแต่ละปีและยังชื่น

ชอบความขลังของลายเก่าอยู่วิธีนี้เหมาะมากๆเลยล่ะครับ

• รับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารมีนักเรียน

หลายคนพยายามหลีกเลี่ยงความคับคั่งเนืองแน่นในโรงอาหาร

โดยการให้ร้านบรรจุอาหารลงในถุงหรือกล่องโฟมเพื่อไปรับ

ประทานที่อื่นอยากบอกให้ทราบว่าบรรจุภัณฑ์ที่เปื้อนคราบ

อาหารนั้นเป็นขยะมูลฝอยที่ทั้งย่อยสลายยากและยังหมักหมม

เกิดเป็นเชื้อโรคด้วยดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการรับประทาน

อาหารในพาชนะของโรงเรียนนั่นแหละครับหากไม่อยากแย่ง

ชิงที่นั่งในโรงอาหารลองถือจานถือแก้วเดินหามุมดีๆสักที่

และรับประทานกับเพื่อนในบรรยากาศใหม่ๆก็ไม่เลวเลยนะ

ครับ

• รับประทานอาหารให้หมดเศษอาหารที่เหลือนั้นเมื่อ

ถูกนำาไปทิ้งแล้วในช่วงของกระบวนการย่อยสลายนั้นมันจะ

ปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สามารถดูดซับความ

ร้อนได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า๒๐เท่าดังนั้น

ซื้ออาหารมาแต่พอดีและรับประทานอาหารให้หมดนะครับ

การเริ่มต้นคนละเล็กคนละน้อยเมื่อรวมกันหลาย ๆ คนแล้วก็เป็น..ความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่

05

Page 8: NYA~ Journal Vol.1

• ออกนอกห้องเรียนบ้างในคาบว่างๆหากจะ

อ่านหนังสือหรือทำาโครงงานทำากิจกรรมต่างๆลองเปลี่ยน

บรรยากาศออกจากห้องเรียนที่อุดอู้ไปหาที่ที่สว่างและ

อากาศถ่ายเทกันไหมครับ?เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราช่วยประหยัด

ไฟนอกจากนี้บรรยากาศรอบตัวเราจะช่วยให้เราตื่นตัวและ

ไม่ง่วงด้วยครับ

• ใช้บริการห้องสมุดหากอยากอ่านหนังสือหรือ

นิตยสารอะไรลองเข้าห้องสมุดและนั่งอ่านหรือยืมมาอ่านดู

ประหยัดเงินช่วยลดการบริโภคกระดาษและลดขยะบรรจุ

ภัณฑ์ด้วยนะครับ

• บนบาทปราศจากธูปการบนบาทขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ต่างๆให้บรรลุปรารถนาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เคียงคู่กับบ้าน

เมืองของเราไม่เว้นแม้แต่ที่โรงเรียนแต่หากเราได้มาเห็น

บรรยากาศของวันสอบเข้าเป็นนักเรียนโรงเรียนของเราที่มีผู้

ปกครองและนักเรียนหลายพันคนหลั่งไหล่กันเข้ามาขอพรสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ประจำาโรงเรียนภาพที่ประจักษ์ก็คือหมอกควัน

คละคลุ้งจากก้านธูปหลายร้อยดอกที่ผู้ใดเดินผ่านก็ต้องไอต้อง

สำาลักไม่ใช่เพียงกลิ่นที่แรงไม่ดีต่อสุขภาพเท่านั้นการเผา

ไหม้ในการธูปนั้นก็ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

หากอยากจะขออะไรในคราวหน้าดอกกุหลาบเพียง๒–๓

ดอกก็เพียงพอแล้วครับ

• นำาแก้วส่วนตัวมาใช้และปฏิเสธถุงพลาสติกหลังจาก

เลิกเรียนและเดินทางกลับบ้านนักเรียนอย่างเราๆส่วนใหญ่

ก็มักจะแวะร้านขนมข้างทางหาอะไรรองท้องเป็นประจำาหาก

เราจะซื้ออาหารเสียบไม้และเดินรับประทานทันทีเพียงแค่ถือ

เดินรับประทานเฉยๆโดยไม่ต้องใส่ถุงควบคู่กับการใช้แก้ว

น้ำาส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มก็สามารถลดขยะพลาสติกได้ถึงวัน

ละ๒–๔ชิ้น(ถุงบรรจุอาหาร,ถุงหูหิ้ว,แก้วพลาสติก,

หลอด)กว่าพลาสติกจะย่อยสลายนี่ใช้เวลาถึง๓๔๕ปีเชียว

นะครับแถมยังไม่ได้ย่อยสลายโดยสมบูรณ์อีกอนุภาคของ

พลาสติกจะแทรกซึมในแพลงก์ตอนและอินทรีวัตถุต่างๆและ

เริ่มลุกลามเป็นภัยในห่วงโซ่อาหารหรือถ้าจำาเป็นอย่างน้อย

ๆก็นำาถุงหูหิ้วมาใช้ซ้ำาจนกว่าจะใช้ไม่ได้ลดขยะพลาสติกเท่า

นี้ก็ช่วยโลกได้มหาศาลแล้วครับ

• ซื้อน้ำากล่องนมกล่องมาอย่าเพิ่งทิ้งปัจจุบันมี

หลายโครงการขององค์กรสาธารณะที่รับบริจาคกล่องเครื่อง

ดื่มเมื่อนำามาแปรรูปเป็นวัสดุภัณฑ์และสิ่งของต่างๆเพื่อ

สาธารณประโยชน์เมื่อดื่มเครื่องดื่มกล่องหมดแล้วเก็บไว้

เพื่อนำาไปล้างทำาความสะอาดจากนั้นก็รวบรวมเพื่อนำาไป

บริจาคตามจุดรับต่างๆที่องค์กรเหล่านั้นตั้งไว้เท่านี้เราก็ทั้ง

ช่วยไม่ให้เกิดขยะและช่วยส่งเสริมกระบวนการรีไซเคิลแล้วล่ะ

ครับ

• ไม่เถลไถลหลังจากเลิกเรียนแล้วหากไม่ได้มี

โอกาสพิเศษอะไรก็ควรลดการไปเดินห้างสรรพสินค้าฆ่าเวลา

ก่อนกลับบ้านนะครับเพราะนอกจากจะเป็นโอกาสให้เรา

สร้างขยะมากขึ้นแล้วยังทำาให้เราเผลอผลาญทรัพย์ไปโดยไม่รู้

ตัวกลับบ้านเพื่อใช้เวลาทำากิจกรรมกับครอบครัวและรับ

ประทานอาหารที่บ้านกันเถอะครับ

เริ่มต้นเพียงจิตสำานึกของเราเท่านั้น เปลี่ยนความคิดเพื่อเปลี่ยนโลกของเรากันเถอะครับ

06

Page 9: NYA~ Journal Vol.1

เห็นไหมครับว่าทุกอย่างนั้นเป็นวิธีที่ง่ายเหลือเกิน

และแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรจากวิถีชีวิตประจำาวันของ

เราเลยประโยชน์ที่เกิดขึ้นนั้นมากมายมหาศาลหากเราทุก

คนร่วมใจร่วมกันเริ่มต้นก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน

สมัยนี้ประเด็นปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นเป็นที่ตื่นตัวแล้วทั่ว

โลกแม้แต่ประเทศที่เรายังติดมุมมองว่ามีการพัฒนาน้อยก็ได้

เปลี่ยนแปลงตนเองกันแล้วเช่นประเทศจีนมีการสั่งห้าม

ใช้ถุงพลาสติกหรือประเทศลาวเริ่มมีการติดตั้งแผงพลังงาน

แสงอาทิตย์และพลังงานทางเลือกอื่นๆสำาหรับหน่วยงาน

ราชการต่างๆหากแต่เรายังคงเพิกเฉยนอกจากจะไม่

เป็นการช่วยโลกแก้ปัญหาแล้วยังเป็นช่องโหว่ให้ประเทศอื่น

ๆแซงหน้าหรือดูหมิ่นเอาได้นะครับ

ปัจจุบันมีหลายองค์กรน้อยใหญ่มากมายออกมาร

ณรงค์และสนับสนุนข้อมูลหนทางต่างๆในการยับยั้งวิกฤติ

โลกร้อนแต่ทุกอย่างจะดีขึ้นหรือยังคงแย่ลงเหมือนเดิมเริ่ม

ต้นเพียงจิตสำานึกของเราเท่านั้นเปลี่ยนความคิดเพื่อ

เปลี่ยนโลกของเรากันเถอะครับ

เริ่มต้นเพียงจิตสำานึกของเราเท่านั้น เปลี่ยนความคิดเพื่อเปลี่ยนโลกของเรากันเถอะครับ

การประหยัดน้ำาเป็นส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน

เพราะว่ากว่าที่เราจะได้น้ำาสะอาดๆมาใช้นั้นต้องใช้พลังงาน

มากมายไปกับขั้นตอนในการผลิต

วันนี้ผมจะพูดถึงเวลาแปรงฟันเราไม่ควรที่จะเปิด

น้ำาทิ้งไว้แบบว่าเปิดน้ำาบ้วนปากก่อนหยิบแปรงขึ้นมาใส่ยา

สีฟันแปรงๆๆๆๆเสร็จแล้วก็บ้วนปากอีกทีละค่อยปิดน้ำาถ้า

ทำาแบบนี้จะทำาให้เปลืองน้ำาไปโดยเปล่าประโยชน์กว่าน้ำาจะ

ได้ออกมาจากก๊อกบ้านเรานั้นต้องผ่านกรรมวิธีมากมายเพื่อ

ทำาให้น้ำาสะอาดพอที่จะใช้ได้สิ้นเปลืองพลังงานไปมากมาย

แต่เรากลับเปิดทิ้งซะงั้นทางที่ดีเวลาแปรงฟันเราควรจะหา

แก้วหรือขันมารองน้ำาจากก๊อกไว้ไม่ควรเปิดน้ำาทิ้งไว้บางคน

อาจจะบอกว่ามันแปบเดียวเองไม่เปลืองเท่าไหร่หรอกท่านรู้

ไหมว่าค่าเฉลี่ยการไหลของก๊อกน้ำาในประเทศเรานั้นประมาณ

9ลิตร/นาทีถ้าเปิดทิ้งไว้3นาทีจะเท่ากับน้ำาอัดลม83

กระป๋องเลยทีเดียวหรือเท่ากับ27ลิตรเชียวนะ

เพราะฉะนั้นเวลาแปรงฟันก็ควรปิดน้ำาไว้ด้วยนะ

ครับช่วยกันประหยัดน้ำาลดภาวะโลกร้อนเวลาแปรงฟัน

เรื่องง่ายๆที่เราก็ช่วยโลกได้

07

Page 10: NYA~ Journal Vol.1

FLY TO LEARN ถ้าพูดถึงชีวิตมัธยมศึกษาแล้วหลายคนคงจะให้นิยามว่า

เป็นบันไดสู่ชีวิตมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล่านักเรียน

กลายมาเป็นพี่ม.ปลายนอกจากจะต้องทุ่มเทกับกิจกรรมของ

โรงเรียนอย่างสุดเหวี่ยงแล้วยังต้องเอาใจใส่การเรียนอย่างมากอีก

ด้วยเพราะใครๆต่างก็อยากเข้าสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงหรือ

ที่ที่ตนเองใฝ่ฝัน

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นั้นพี่ๆหลายคนก็จะทุ่มเททั้งแรง

กายแรงใจและเวลากับการเรียนและกวดวิชามากๆลองดูกันไหม

คะว่าพี่ๆรุ่น๒๙ที่เพิ่งผ่านสมรภูมิสอบเข้าสถาบันอุดมศึกษามา

เมื่อต้นปีนี้เองเขามีหลักในการเตรียมตัวสอบกันอย่างไร?

นอกจากนี้แล้วพี่กานต์ก็ยังได้พูดคุยกับเพื่อนๆและ

ได้คำาตอบดีๆมามากมายน้องๆเชื่อไหมคะว่าพี่ๆส่วนใหญ่

ต่างก็เป็นพวกไม่ชอบอ่านหนังสือแทบทั้นนั้นยิ่งให้อ่านเป็น

ชั่วโมงๆก็จะพากันสลบเหมือดหน้าตำาราเป็นทิวแถวพี่ๆจึง

เน้นการเรียนภายในห้องเรียนเป็นหลักคือตั้งใจเรียนและ

ทำาความเข้าใจกับเนื้อหาที่เรียนภายในห้องเรียนนั้นเลยและ

เรียนกวดวิชาเสริมในส่วนที่เรายังไม่เข้าใจหรือต้องการเน้นหนัก

เพิ่มขึ้นเท่านั้นกลับบ้านก็หมั่นทำาการบ้านให้ครบถ้วนและส่ง

ตามกำาหนดนำาข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของปีก่อนๆมาทำา

เพื่อให้เราได้รู้แนวข้อสอบอ่านทบทวนที่เรียนมาสักนิด(ยิ่ง

ตั้งใจเรียนในห้องยิ่งเข้าใจง่ายและจำาได้เร็ว)และเวลาส่วนตัว

ที่เหลือก็ใช้พักผ่อนตามอัธยาศัยหรือทำากิจกรรมที่แต่ละคนชื่น

ชอบคะแนนเท่านี้ก็มีทั้งพื้นฐานความรู้ที่แข็งแรงไปใช้สอบมี

เกรดดีๆไว้ยื่นคะแนนเผลอๆติดมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องลุ้น

กับการสอบเข้าในระบบกลางเสียด้วยซ้ำาและไม่ต้องเครียดหรือ

ทุ่มเทเวลาชีวิตไปกับโรงเรียนกวดวิชาอีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้วน้องๆคงอยากจะให้ความสำาคัญในการ

เรียนที่โรงเรียนมากขึ้นแล้วใช่มั้ยล่ะคะ?พี่กานต์ก็มีเคล็ดลับ

ดีๆจากพี่หนูดีวนิษาเรซนักวิจัยด้านการทำางานของสมอง

พี่เต้ย-คณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ส่วนตัวพี่เองนะคับน้องๆพี่เป็นคนชอบเรียนพิเศษนะแล้วเวลาเรียนแต่ละครั้งพี่จะตั้งใจเป็นพิเศษด้วย

เมื่อเรียนเสร็จก็พยายามทำามายแมพเป็นของตัวเองด้วยนะเวลากลับมาอ่านจะได้ไม่ลืมส่วนเรื่องเรียนใน

ห้องก็แล้วแต่น้องๆนะคับขอแค่อย่าให้เกรดออกมาดูไม่ดีก็ใช้ได้แล้วนะพี่ว่า

จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดและเป็นตัวอย่างนักเรียนรู้ที่ดีที่ดีที่

น่านำามาเป็นแบบอย่างมากๆลองดูกันนะคะว่าอัจฉริยะด้าน

การเรียนรู้อย่างพี่หนูดีเขามีคำาแนะนำาอย่างไร

• ตื่นตัวเข้าไว้พวกเราคงเข้าใจกันดีนะคะว่าเวลาง่วง

นั้นมันยากแค่ไหนที่จะสกัดแต่ละคำาพูดของอาจารย์ให้เรา

เข้าใจหรือเวลาที่กลัดกลุ้มกระวนกระวายหรือรีบร้อนก็ทำาให้

เราเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนกันดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือต้องไม่นิ่ง

เกินไปหรือแอคทีฟเกินไปตื่นตัวที่จะรับรู้และเรียนรู้ทาน

ของอร่อยๆและทำาจิตใจให้แจ่มใสก่อนเข้าเรียนถ้ารู้สึกง่วง

08

Page 11: NYA~ Journal Vol.1

LEARN TO FLY

พี่อัพ-คณะเศรษฐศาสตร์สาขาธุรกิจการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

พี่มาร์ช-คณะวิทยาศาสตร์สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทำาข้อสอบเก่าเยอะๆ

อย่าเอาแต่เก็บตัวอ่านหนังสือหลายคนอ่านจนเครียดจนบ้าผ่อนคลายบ้างเล่น

เกมส์เล่นเฟซบุ๊คก็ได้แต่แบ่งเวลาให้เป็น

ตั้งใจเรียนในห้องพออ่านทวนก็ง่ายแล่้วครับ

จดจำาความรู้ที่เรียนตอนม.ปลายสงสัยตรงไหนไปหาคำาตอบมาให้ได้

ก็หยิบน้ำาเปล่าขึ้นมาดื่มสักหน่อยและอย่าไม่กระหืดกระหอบ

เข้าห้องเรียนหรือห้องสอบสายเพราะจะทำาให้เราเสียเวลาไป

กับการตั้งสมาธิใหม่

• ใช้สมุดไม่มีเส้นในการจดบันทึกในห้องเรียนจะช่วย

ให้เราเขียนสิ่งต่างๆได้อย่างมีอิสระมากขึ้นการจดบันทึก

ด้วยแผนผังความคิด(MindMapping)จะทำาให้เราจดจำาและ

ทบทวนได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งหากมีเนื้อหาอะไรที่ต้องการ

เพิ่มเติมก็สามารถจดแทรกลงไปได้โดยสะดวกยิ่งถ้าใช้ปากกา

สีสันสดใสหรือปากกาด้ามเก่งที่เราชอบยิ่งช่วยให้เราบันทึกบท

เรียนได้อย่างเพลิดเพลินอย่างก่าเดิมอีกค่ะ

• หาวิธีจดจำาในแบบของเราอาจจะเป็นการวาดรูป

ตลกๆเอาประโยคในบทเรียนมาเรียงต่อกันเป็นเพลงหรือ

บทกลอนโหวกเหวกโวยวายท่องสูตรต่างๆหรือไปทบทวน

บทเรียนในมุมเหมาะๆหรือสถานที่ที่เราโปรดปรานก็ได้ขอ

เพียงให้เป็นวิธีที่เราชอบแล้วนั่นจะช่วยให้เราจำาอะไรได้ง่าย

และสนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ

• คุยเรื่องเรียนกับเพื่อนนอกจากจะเป็นการใช้เวลา

อย่างเกิดประโยชน์แล้วเราอาจได้แลกเปลี่ยนวิธีจดจำาเนื้อหา

แบบสนุกๆหรือเทคนิกในการเรียนกับอาจารย์แต่ละท่าน

ก็ได้ยิ่งถ้าติวด้วยกัน(โดยไม่มีใครพาออกนอกเรื่องนอกทะเล)

ก็ยิ่งช่วยให้เราจำาสิ่งต่างๆได้ง่ายและมากกว่าเดิมแต่ถ้าเกิด

มีอะไรไม่เข้าใจเหมือนกันอย่าช่วยกันเดานะคะไปสอบถาม

อาจารย์ให้ได้คำาตอบที่แน่นอนดีกว่าพากันเข้าใจผิดๆ

นี่เป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้นนะคะยังมีวิธีพัฒนาการ

เรียนรู้และการเตรียมสอบของเราอีกมากมายแต่ที่สำาคัญที่สุด

คือน้องๆต้องรู้จักความพอดีการฝืนเรียนมากเกินไปนั้นอาจ

ทำาให้เราเสียสุขภาพหรือไม่ได้จดจำาอะไรเพิ่มเติมก็ได้การพัก

ผ่อนและกิจกรรมอื่นๆเราก็ควรให้ความสำาคัญเช่นกันเรียน

เหนื่อยก็พักเสียบ้างชาร์จแบตกันสักนิดจะได้มีแรงเรียนกันต่อ

ไปยังไงล่ะคะ/

09

พี่โซดา-คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พี่โปร-คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมหาวิทยาลัยมหิดล

Page 12: NYA~ Journal Vol.1

10

Page 13: NYA~ Journal Vol.1
Page 14: NYA~ Journal Vol.1

12

Page 15: NYA~ Journal Vol.1
Page 16: NYA~ Journal Vol.1
Page 17: NYA~ Journal Vol.1

15

Page 18: NYA~ Journal Vol.1

คนเรา เกิดมาเพียงครั้งเดียว ควรจะได้ลองกินทุกอย่างบนโลก

Page 19: NYA~ Journal Vol.1

17

Page 20: NYA~ Journal Vol.1
Page 21: NYA~ Journal Vol.1

เคยสังเกตกันไหมคะว่าเดี๋ยวนี้ใครๆก็ติดปากเรียก

ทุกอย่างว่า“อัน”ไปเสียหมดไม่ว่าคนสัตว์สิ่งของจะมี

ลักษณะนามอยู่แล้วหรือไม่ก็ตามถ้าเป็นการเขียนอาจพบไม่

บ่อยเท่าไหร่แต่ระยะหลังพี่กานต์ได้ยินคนพูดโดยใช้คำานี้ใน

ความหมายที่ผิดบ่อยมากอย่างเช่น

“เราชื่อจอยนะส่วนอันนี้จุ๋มอันนี้ก็แจน”

(แนะนำาตัวเพื่อนโดยเรียกเพื่อนว่าอัน)

“ส่วนอันนี้เป็นผลงานของนักเรียนที่ไปแสดงผลงานใน

ปีการศึกษาที่ผ่านมา”(นำาเสนองานโดยเรียกว่าอัน)

“อันนี้น่ารักไหม?น่ารักเหมือนเจ้าของเลยเนอะ”

(เรียกสุนัขว่าอัน)

นอกจากจะเป็นการใช้คำาอย่างผิดความหมายแล้วยัง

เป็นการผิดมารยาทอีกด้วยหากคนที่เราพูดด้วยเป็นผู้ใหญ่ที่

อาวุโสกว่าเราซึ่งบางครั้งมีคนเผลอใช้คำาว่าไอ้นี่ไอ้นั่นเสียด้วย

ซ้ำา(และพี่กานต์ก็เคยได้ยินมาบ่อยไม่แพ้กันทั้งเด็กและผู้ใหญ่)

ความจริงแล้วในกรณีที่เรากำาลังเอ่ยถึงใครหรือแนะนำาตัวใคร

ก็ตามในขณะที่พูดกับผู้อาวุโสหากบุคคลที่เรากล่าวถึงเป็น

ผู้ใหญ่กว่าเราหรือผู้มีตำาแหน่งสูงกว่าเราควรเรียกแทนบุคคล

เหล่านั้นว่า“ท่าน”เช่นท่านนี้เป็นอาจารย์ที่นักเรียนเคารพรัก

เป็นอย่างมากหรือถ้ากล่าวถึงบุคคลที่อยู่ในระดับเดียวกับเรา

หรืออายุน้อยกว่าเราก็สามารถใช้คำาว่า“คน”แทนก็ได้เช่น

น้องคนนี้มีผลการเรียนดีและสร้างชื่อเสียงแก่โรงเรียนมาโดย

ตลอดหากไม่แน่ใจว่าจะใช้คำาใดกับใครดีก็สามารถใช้ทางนี้

ทางฝ่ายนี้หรือจะใช้ชื่อกลุ่มบุคคลหรือคณะแทนตนเองเลยก็ได้

นะคะเช่นทางนี้/พวกเรา/ในนามของตัวแทนห้องม.๓/๗

ก็ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน

ต่อจากบุคคลเราก็มาพูดถึงสัตว์และสิ่งของบ้างซึ่งก็

ไม่ได้ยากอะไรเลยเพียงแต่เราควรศึกษาการใช้ลักษณะนามให้

ถูกต้องกับสิ่งที่เรากล่าวถึงเท่านั้นแต่ถ้าในบางสถานการณ์ที่

เราไม่รู้จริงๆว่าควรเรียกแทนสิ่งที่เรากล่าวถึงอยู่ว่าอะไรลอง

ใช้คำาอื่นๆอย่างต่อมาที่ท่านเห็นอยู่นี้ทางด้านนี้ในส่วนนี้ทาง

เดี๋ยวนี้ ใคร ๆ ก็เรียกอะไรว่า “อันนี้”

พี่โหลของพวกเราก็เป็นหนึ่งในหนุ่มDO-Dที่เก่งใน

เรื่องของการพูดมักได้เป็นพิธีกรในงานกิจกรรมต่างๆรวมถึง

นำาเสนอและบรรยายในหลายๆโอกาสจนหลายๆคนเรียกเขาว่า

“นักปราศรัยตัวพ่อ“เห็นมั้ยคะว่าการพูดที่ดีก็สามารถทำาให้เรา

DO-Dได้

DO-Dทำาดี .. ก็

19

นี้หรือสั้นๆง่ายๆอย่างนี่เฉยๆก็ได้ขอเพียงแต่เราอย่าพูดคำา

ว่า“อัน”จนติดปากก็เป็นพอเมื่อใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและ

เหมาะสมแล้วทีนี้เมื่อเราได้นำาเสนองานหรือพูดต่อหน้าผู้คน

นอกจากจะทำาให้ดูดีแล้วก็จะดูเป็นผู้เชี่ยวชาญและมั่นใจมากขึ้น

เป็นเท่าตัวเลยล่ะค่ะ

Page 22: NYA~ Journal Vol.1

ความคิดอยากจะทำา สิ่งที่มีพลังอำานาจมากที่สุดในโลกใบนี้คือความคิด

และหนึ่งในความคิดที่ผมรู้สึกว่ามีพลังอำานาจอยู่ในระดับต้นๆ

ของบรรดาความคิดเลยก็คือความคิดอยากจะทำาซึ่งความ

หมายมันก็ตรงตัวคือความที่อยากจะทำาอะไรซักอย่างเราอาจ

จะเคยได้ยินคำาว่าความคิดริเริ่มแต่ความคิดอยากจะทำาจะ

ต่างออกไปเพราะความอยากจะทำาอาจไม่ได้หมายความว่า

เราต้องริเริ่มด้วยแค่เราอยากจะทำาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจ

จะสงสัยแล้วว่าแค่อยากจะมันจะมีพลังอะไรขนาดนั้นได้ใน

โลกนี้มีทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่มากมายเกิดขึ้นเพราะความอยาก

จะทำาอะไรซักอย่างของมนุษย์เช่นกินข้าวหมดแต่ไม่อยากทิ้ง

มนุษย์เลยอยากจะทำาอะไรที่เอาไว้เก็บกับข้าวได้แล้วก็กลาย

มาเป็นตู้เย็นในปัจจุบันไปถึงเรื่องใหญ่ๆเช่นสงครามบนโลก

นี้กี่ครั้งแล้วที่เกิดจากการที่มนุษย์คนนึงแค่อยากจะเป็นใหญ่

และรู้หรือไม่ว่าอดอล์ฟฮิตเลอร์ถล่มกรุงเวียนนาประเทศ

ออสเตรียจนราบในสงครามโลกครั้งที่2เพียงเพราะว่าสมัยวัย

รุ่นฮิตเลอร์อยากจะเรียนศิลปะเลยมาสมัครเรียนศิลปะที่นี่แต่

เค้าไม่รับนี่คือพลังอำานาจของความอยากจะทำา

วารสารเนียเล่มแรกนี้ก็เหมือนชุมนุมแมวบินคือ

มันเกิดมาจากความคิดอยากจะทำาวันนึงในห้องกน.ผมกับ

โหลหยิบวารสารไร้ราวของรุ่นน้องชุมนุมสำานักพิมพ์ขึ้นมา

แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจว่านี่คือคนที่เป็นรุ่นน้องเราแท้ทั้งๆที่

ความพร้อมก็น้อยกว่าและในวารสารนั้นก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่

มากมายทำาไมเราที่เรียนยันจบแล้วยังไม่เคยมีความคิดอะไร

แบบนั้นเลยผมเกิดความรู้สึกชื่นชมวารสารไร้ราวเล่มแรกนั้น

มากมันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของความคิดที่ถูกลงมือทำาแม้ว่า

ในความเป็นจริงมันจะต่างกับวารสารที่ผมคิดจะให้มันออกมา

เป็นอยุ่มากก็ตามที

ความคิด ริเริ่ม อย่างที่บอกว่าความคิดอยากจะทำาค่อนข้างจะต่าง

กับความคิดริเริ่มคือเราไม่ใช่คนที่เริ่มแต่อยากจะทำาหลัง

ปิดวารสารไร้ราวเล่มนั้นเราก็หยิบสมุดเก่าๆขึ้นมาแล้วเริ่ม

วางแผนทันทีผมมองว่าหนังสือประเภทวารสารหรือนิตยสาร

ในปัจจุบันยังไม่เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่เช่นแพรวดิฉันก็จะไป

ทางของผู้หญิงวัยทำางานหรือadayที่ผมชอบก็ยังอยู่ใน

กลุ่มของวัยรุ่นมหาลัยแล้วเป็นส่วนใหญ่ที่เหลือก็เป็นวารสาร

ณ ปัจจุบันขณะ..

ที่แยกไปในแต่ละเรื่องเช่นรถฟุตบอลปลาฯลฯถามว่าแล้ว

เด็กล่ะ?เด็กอ่านอะไร?วารสารเด็กในปัจจุบันมีค่อนข้าง

น้อยและที่เนื้อหามีสาระยิ่งแทบไม่มีส่วนใหญ่จะเป็นพวก

การ์ตูนซะมากกว่าเราเริ่มลงปากกาในสมุดเก่าๆนั้นว่าอะไรที่

เราอยากให้วารสารของเรามีและอะไรที่ไม่จำาเป็นต้องมีเล่นๆ

ดูไปๆมาๆพวกเราก็ลงมือทำาจริงๆเพียงเพราะว่าพวกเรา

“อยากจะทำา”

ความคิด กับความเป็นจริง แต่ความอยากจะทำาก็ไม่ได้ใกล้กับความเป็นจริงนัก

การทำาวารสารไม่ใช่เรื่องง่ายๆผมทดลองใช้โปรแกรมInDe-

signเป็นครั้งแรกโดยไม่เคยเรียนมาก่อนแค่เปิดวิดิโอวิธีใช้

ผ่านYouTubeดูเอาสี่ห้าตอนแล้วก็คลำาๆทางเอาเองขลุกกับ

มันไม่หลับไม่นอนไม่เล่นเกมอยู่หนึ่งสัปดาห์ก็เสร็จเรียบร้อย

แต่ในความหมายของผมมันยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่และคิดว่า

ลองหาเวลาส่วนตัวจริงๆถามตัวเองดูว่า เราอยากจะทำาอะไร ถ้ารู้แล้วก็ไม่ต้องรอพ่อใครมาตัดริบบิ้น ลงมือทำาเลย

ความคิด อยากจะทำามหัศจรรย์แห่งพลังอำานาจของความคิดที่สร้างทุกสิ่งขึ้นมาบนโลกใบนี้และจุดเริ่มต้นก่อนจะเป็นวารสารเนียเล่มนี้

20

Page 23: NYA~ Journal Vol.1

ของดวงทายนิสัยและยังมีอีกหลายคอนเท้นต์ที่สามารถพูด

ว่าไร้สาระได้เต็มปากเต็มคำาหลังการตัดนู่นนี่ทิ้ไปทำาให้เราได้

วารสารเล่มนี้ออกมาโดยมีความหนาแค่ประมาณสิบแผ่นแต่

เนื้อหาสาระอัดแน่นไม่แพ้ตำาราเล่มหนาๆแรกๆเราก็กังวลว่า

มันอาจจะหนักเกินไปรึเปล่าในเมื่อเราตั้งใจจะทำาเป็นวารสาร

ที่ให้เด็กอ่านแท้ๆแต่ดันมีคอนเท้นต์เครียดๆปนอยู่มากแต่

ความคิดอยากจะทำาของพวกเราก็กระซิบข้างหูเราว่าจะสนใจ

ทำาไมไม่ได้ตั้งใจขายเอากำาไรซะหน่อยแค่อยากทำาเท่านั้นเอง

โดยส่วนตัวผมคิดว่าในโลกปัจจุบันสื่อที่ให้สาระมัน

น้อยลงทุกวันๆนะอินเตอร์เน็ตก็มีแต่อะไรไม่รู้ในทีวีก็มีแต่

ละครคนตบกันการ์ตูนดีๆก็ค่อยๆเลือนหายไปทีละนิดฉะนั้น

การจะมีหนังสือที่อัดไว้ด้วยสาระที่หนักแน่นแต่มีลักษณะเป็น

เล่มเล็กๆอ่านง่ายๆซักเล่มให้เด็กได้อ่านเดือนละครั้งคงจะเป็น

เรื่องดีทีเดียว

ยังต้องการการปรับปรุงอีกมาก

เราเริ่มต้นการวางธีมของวารสารที่เราจะทำาว่ามันคือ

วารสารที่เอาไว้ให้เด็กๆวัยมัธยมได้อ่านแต่ถ้าผู้ใหญ่มาอ่านก็

ไม่เป็นไรแถมยิ่งดีซะอีกจึงเกิดเป็นแกนกลางของวารสารเล่ม

นี้คือ“วารสารที่เด็กที่กำาลังจะเป็นผู้ใหญ่ทำาให้ทั้งเด็กที่อยาก

จะเป็นผู้ใหญ่และผู้ใหญ่ที่เคยเป็นเด็กได้อ่าน“

เราเปิดนิตยสารศึกษาอยู่หลายปกและเริ่มตัดหลายๆ

อย่างที่ไร้สาระและไม่ได้จำาเป็นกับชีวิตมัธยมเท่าไหร่เช่นเรื่อง

ถูกความอยากจะทำา ทำาร้าย โลกนี้ยังมีคนมากมายที่โดนพลังของความอยาก

จะทำาเล่นงานเคยมั้ยครับเวลาเราอยากจะทำาอะไรซักอย่าง

แต่ไม่ได้ทำาแล้วเราจะรู้สึกหงุดหงิดๆอารมณ์เสียวีนแตก

โวยวายเพราะเราไม่สามารถปลดปล่อยความอยากจะทำา

อะไรซักอย่างของเราได้สุดท้ายมันก็จะหายไปกลายเป็น

คาร์บอนไดออกไซด์ไหลออกมาพร้อมกับลมหายใจของเราแค่

นั้นนั่นคืออาการของคนที่ถูกความอยากจะทำาทำาร้ายเด็ก

มันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของ

ความคิดที่ถูกลงมือทำา

วารสารเนียเล่มนี้ผมไม่รู้ว่าสามารถ

สอนอะไรคนอ่านได้บ้างแต่ที่แน่ๆมันสอนให้

ผมรู้ว่าคนเราถ้าได้ทำาอะไรที่ตัวเองอยากจะ

ทำาจากใจจริงแล้วมันจะไม่เหนื่อยเลยผมทำา

แบบเป็นบ้าเป็นหลังแล้วก็ลืมหิวข้าวลืมนอน

เพราะว่ามันสนุกมากสนุกที่จะได้จัดภาพได้พิมพ์ได้ตกแต่งให้สวยงามได้ค้นหาข้อมูลจากที่ต่างๆได้

สัมภาษณ์คนอื่นๆนานแล้วที่ไม่ได้ทำางานที่สนุกแบบนี้วินาที

ที่ผมเริ่มพิมพ์คอลัมน์นี้คือตอนที่ผมจัดหน้าเสร็จเกือบครึ่งเล่ม

แล้วและแม่เรียกไปกินข้าวซึ่งแปลกที่ผมไม่รู้สึกหิวเท่าอยาก

จะทำาต่อผมถึงอยากบอกเล่าความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับ“ความ

คิดอยากจะทำา”ตรงๆมาแล้วว่ามันสุดยอดจริงๆ

คนเราถ้าได้ทำาอะไรที่ตัวเองอยากจะทำาจากใจจริงแล้ว มันจะไม่เหนื่อยเลย

สมัยนี้มีความคิดดีๆและสร้างสรรค์มากมาย

แต่ถูกผู้ใหญ่กดไว้ไม่ให้ได้แสดงออกปิดกั้น

ความคิดอยากจะทำาของเด็กโดยเอาเหตุผล

ที่ฟังเข้าใจยากๆมาอ้างกับเด็กสุดท้ายเด็ก

คนนั้นก็ถูกทำาร้ายโดยความคิดอยากจะทำาที่

ไม่ถูกปลดปล่อยมีเด็กมากมายเลือกจะหนีความเจ็บปวดของ

การไม่ได้ปลดปล่อยความคิดอยากจะทำาของตัวเองด้วยการ

เลือกเดินไปในทางที่ผิดพึ่งยาเสพติดคบเพื่อนไม่ดีเป็นเด็กมี

ปัญหาแล้วผู้ใหญ่เองนั่นแหละที่จะมานั่งปวดหัวกัน

“ความอยากจะทำา”เป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่และ

มีพลังอำานาจจริงแต่ที่สุดแล้วมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไร

ถ้าความคิดนั้นไม่ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยการได้”ลงมือ

ทำา”ลองหาเวลาส่วนตัวจริงๆถามตัวเองดูว่าเราอยากจะทำา

อะไรถ้ารู้แล้วก็ไม่ต้องรอพ่อใครมาตัดริบบิ้นลงมือทำาเลยแต่

อย่าลืมว่าความอยากจะทำาของเราจะต้องไม่ไปทำาร้ายหรือ

เบียดเบียนใครและจะดีที่สุดถ้าความอยากจะทำาของเรา

ไม่ใช่แค่ความอยากจะทำาเพื่อตัวเองแต่เป็นความอยากจะทำา

เพื่อสิ่งอื่นๆรอบตัวเรา

รีบอยากจะทำาแล้วลงมือทำาซะถ้าสายไปโลกแตกขึ้น

มาอดทำาแล้วล่ะก็อย่าว่าแต่จะต้องใช้ชีวิตต่อไปแบบไร้ค่าเลย

แค่โอกาสจะเสียดาย..ยังไม่ม๊เลย

ณปัจจุบันขณะ

21

Page 24: NYA~ Journal Vol.1

Thelongestdaythelongestday

Thiswillbethelongestday

Filledwithhopesandfilledwithfears

Filledwithbloodandsweatandtears

Manymenthemightythousands

Manymentovictory

Marchingonrightintobattle

Inthelongestdayinhistory

ซึ่งสิ่งที่เสริมบทเพลงนี้ให้มีพลังมากขึ้นไปนอกจาก

เนื้อร้องที่มีความหมายปลุกใจให้เข้มแข็งแล้วก็คือน้ำาเสียงที่

ทรงพลังของสุดยอดนักร้องของยุคนั้นอย่างPAULANKAผู้

ขับร้องถ่ายทอดบทเพลงนี้ซึ่งสมัยนี้เด็กๆอาจจะไม่รู้จักแล้ว

แต่ถ้าถามคนรุ่นคุณพ่อและคุณแม่พี่เชื่อว่าท่านจะต้องรู้จัก

แน่นอน

ทำานองของเจ้าเพลงTHELONGESTDAYนี้ยังถูก

ใช้เป็นเป็นเพลงปลุกใจที่วงดุริยางค์ทหารหลายวงใช้บรรเลง

ในโอกาสสำาคัญต่างๆรวมถึงก่อนการออกรบด้วยเพลงนี้

มีการแปลงเนื้อไทยเป็นหลายเวอร์ชั่นมากเช่น“วันแห่ง

ชัยชนะ”เพลงเชียร์ของคณะศึกษาศาสตร์ศรีนครินทรวิโรฒ

ประสานมิตรหรือเพลง“วันเผด็จศึก”เพลงเชียร์ของโรงเรียน

ปรินส์รอแยลส์วิทยาลัยอีกด้วย

THE LONGEST DAYเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่า

วีรกรรมอันห้าวหาญของทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในการยก

พลขึ้นบกที่ชายหาดนอร์มังดีประเทศฝรั่งเศสในวันที่6

มิถุนายนค.ศ.1944ซึ่งขณะนั้นถูกเยอรมันยึดครองอยู่

น้องๆอาจเคยได้ยินสำานวนติดปากของผู้ใหญ่หลายๆ

คนที่พูดว่า“ดีเดย์” (D-Day) อันหมายถึงการเริ่มต้นทำางาน

เรารอวันนี้ วัน-พะ-เด็ด-ศึก! เนื้อเพลงท่อนนี้คุ้นหูพวกเราชาวสวนกุหลาบเป็น

อย่างดีเพราะนี่คือหนึ่งในเพลงเชียร์ยอดฮิตที่เราร้องกันมาตั้ง

แต่ม.1แถมยังเป็นเพลงที่ยิ่งร้องก็ยิ่งคึกยิ่งร้องก็ก็ยิ่งเต็มที่

ด้วยเนื้อเพลงน้ำาเสียงและอารมณ์ของเพลงและแน่นอน

“ณโรงเล่า“ฉบับนี้พี่นาวจะขอเล่าเรื่องประวัติและที่มา

ของเพลงเชียร์ที่พี่ชอบที่สุดตลอดกาลเพลงนี้สักหน่อย

ต้นกำาเนิดของเพลงสวนเผด็จศึกนั้นเป็นการแปลง

เนื้อเพลงมาจากเพลงTHELONGESTDAYซึ่งเป็นเพลง

ประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องเดียวกันเป็นภาพยนตร์

เกี่ยวกับเหตุการณ์สำาคัญตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นจุดพลิกผัน

สงครามโลกครั้งนั้นเลยก็ว่าได้เนื้อร้องเดิมของเพลงTHE

LONGESTDAYมีดังนี้(ลองอ่านเนื้อเพลงแล้วใส่ทำานองเพลง

สวนเผด็จศึกลงไปดูซิ)

Manymencamehereassoldiers

Manymenwillpassthisway

Manymenwillcountthehours

Astheylivethelongestday

Manymenaretiredandweary

Manymenareheretostay

Manymenwon’tseethesunset

Whenitendsthelongestday

สวนฯ .... เผด็จศึก!เล่าเรื่องโดย พี่นาว

22

Page 25: NYA~ Journal Vol.1

สวนฯ .... เผด็จศึก!สำาคัญครั้งใหญ่ก็เป็นสำานวนที่หมายถึงเหตุการณ์นี้เช่น

เดียวกัน

ซึ่งเหตุการณ์สำาคัญครั้งนั้นCorneliusRyanนัก

เขียนสารคดีสงครามได้สัมภาษณ์บุคคลต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

กับเหตุการณ์นั้นมารวบรวมเป็นหนังสือชื่อTHELONGEST

DAYและก็ถูกนำามาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันในเวลาต่อ

มา

พี่พยายามหาภาพยนตร์เรื่องนี้มาดูเพื่อศึกษา

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรกตรงกับปีพ.ศ.2505แหม

ก่อนพี่เกิดแค่30กว่าปีเอง(!?)ในสมัยนั้นยังไม่มีสเปเชี่ยล

เอ็ฟเฟ็คต์ให้ได้ยิงระเบิดกันตูมตามเหมือนสมัยนี้ฉะนั้นน้องๆ

ที่ชอบความมันส์ยิงกันระห่ำาก็ต้องเสียใจด้วยครับแต่พี่

ยืนยันว่าTHE LONGEST DAY เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วได้

อะไรมากกว่าการยิงกันแน่นอน

THELONGESTDAYเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่การวางแผน

ยกพลขึ้นบกครั้งนี้ซึ่งมีอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะสภาพ

อากาศไม่เป็นใจการต้องเลื่อนวันเลื่อนกำาหนดการต่างๆออก

ไปอย่างกะทันหันการตัดสินใจที่ผิดพลาดเหล่านี้คือปัญหา

ที่เราต้องเจอในการทำางานเราไม่สามารถควบคุมฝนไม่ให้

ตกวันนี้ได้ เราไม่สามารถสั่งใครไม่ให้ป่วยวันนี้ได้ เราไม่

สามารถสั่งกำาหนดการให้ไม่ผิดพลาดได้ ทำาได้แค่ทำางาน

ตรงหน้าให้ดีที่สุดและสิ่งที่THELONGESTDAYต้องการ

จะสอนเราตรงนี้ก็คือ“ความสำาเร็จ เกิดจากความกล้าตัดสิน

ใจ”นั่นเอง

เมื่อพูดถึงความสำาเร็จไปแล้วเรามาพูดถึงเรื่องความ

ล้มเหลวกันบ้างเหตุใดประเทศยิ่งใหญ่กำาลังมากอย่างเยอรมัน

ถึงแพ้ได้อย่างราบคาบในสงครามครั้งนี้ปัญหาสำาคัญที่สุดเท่า

ที่นึกออกก็คือเรื่องของการสื่อสารฝั่งเยอรมันพยายามดักฟัง

ข้อความของฝ่ายสัมพันธมิตรมาปะติดปะต่อกันแล้วเออออ

กันไปเองว่าเรื่องราวคงจะเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้มีการ

สืบข่าวที่น่าเชื่อถือทำาให้ทหารเยอรมันล้วนชะล่าใจคิดว่า

อเมริกาคงยังไม่บุกมาแม้กระทั่งจอมพลของกองทัพเยอรมัน

ยังดอดไปอวยพรวันเกิดภรรยาในขณะที่สถานการณ์ตึงเครียด

นี้ทำาให้บรรดานายทหารต่างก็ละเลยพากันไปกินดื่มเที่ยว

กันอย่างสนุกสนาน

มาถึงจุดนี้ความพ่ายแพ้ของเยอรมันครั้งนี้ก็ดูเป็น

เรื่องตลกทันทีเมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรบุกเข้ามาจริงๆทำาให้

บรรดานายทหารที่กำาลังเที่ยวเล่นต้องรีบกลับมาประจำาการ

กันจ้าละหวั่นแต่อนิจจา..ฝ่ายเยอรมันไม่สามารถเอารถ

ถังออกมาป้องกันฝ่ายอเมริกาได้อย่างพอเพียงเพราะอะไรน่ะ

หรือ?นั่นก็เพราะว่าหน่วยรถถังส่วนใหญ่ของเยอรมันถูกเก็บ

ไว้ในแนวหลังโดยมีแต่ท่านผู้นำาฮิตเลอร์เท่านั้นที่จะมีสิทธิสั่ง

การและเมื่อสถานการณ์ถึงจุดวิกฤตในตอนดึกข่าวปรากฏ

ว่าท่านผู้นำาได้กินยานอนหลับพักผ่อนไปแล้วใครจะปลุกไม่

ได้!เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนที่สถานการณ์แย่ลงไปอีกท่านผู้นำา

ก็เอาแต่โมโหเป็นฟืนเป็นไฟเรื่องไม่มีใครกล้าเอ่ยเรื่องการใช้

หน่วยรถถัง(น้องๆหลายคนอาจจะเคยเห็นฉากนี้มาแล้วจาก

ภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งซึ่งปัจจุบันถูกทำาซับไตเติ้ลใส่ลงไปเพื่อ

ความฮาหลายเวอร์ชั่นมากในยูทูป)เรียกว่าเป็นความพ่ายแพ้

เพราะระบบการบริหารโดยแท้

จริงอยู่ที่สงครามไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะ

แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับความสูญเสียแต่ความสูญเสียของ

คนจำานวนมากในสงครามโลก2ครั้งที่ผ่านมาก็ได้สอนอะไรๆ

แก่ผู้คนในยุดต่อมาได้เป็นอย่างดีอย่างน้อยก็เรื่องนึงล่ะ..เรื่อ

งอะไรน่ะเหรอ?

ก็“อย่าให้มีสงครามโลกครั้งที่ 3”ยังไงล่ะ

ถึงตรงนี้น้องๆคงจะร้องเพลงสวนเผด็จศึกได้อย่างเสียงดัง

เข้มแข็งมากขึ้นแล้ว เอ้า .. เลือดชมพู~ ฟ้าเรามันเข้มข้น ..

ขอขอบคุณwww.iseehistory.com

23

Page 26: NYA~ Journal Vol.1

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวหูมทอด สุธานี

หมายเลขร้าน : 28

ราคา : 20-25 บาท

ความเก๋า : = (พึ่งเปิดปีแรก)

รสชาติ :===ปริมาณ : ====ความนุ่มของเส้น :===ความใหญ่ของเกี๊ยว : ====ความแน่นของไส้เกี๊ยว : =====ความกรอบของกากหมู : =====ความมันของน้า ซุป : ==========

จุดเด่น : มีการ MIX ระหว่างของทอดกับ

ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะมีน้า มันมากหน่อย

เหมาะสา หรับ :

1.) น้องๆผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มน้า หนัก ไขมัน

และ โคเรสเตรอลอย่างเร่งด่วน

2.) ชาวร๊อคที่ชอบอะไรมัน(ส์)ๆ

สวัสดีครับเปิดภาคเรียนใหม่กันแล้วคงเป็นเรื่องน่า

ตื่นเต้นเล็กๆสำาหรับหลายๆคนที่จะได้ลองลิ้มรสลองชิม

อาหารจากร้านอาหารที่เข้ามาใหม่ในโรงอาหารในโรงเรียนของ

เราและในวารสารNYAฉบับนี้พี่โหลก็ขอนำาน้องๆไปชิม

ก๋วยเตี๋ยวหูมทอดเอ๊ะน้องๆอาจจะสงสัยว่าพี่พิมพ์ผิดจากหมู

ทอดรึเปล่าพี่พิมพ์ตามป้ายชื่อร้านจริงๆครับเค้าเขียนมาว่าหูม

ทอดพี่ก็จะหูมทอดตามเค้าไปก๋วยเตี๋ยวหูมทอดที่ว่านี่คือร้าน

สุธานีหมายเลข๒๘ซึ่งเป็นร้านเปิดใหม่ในปี๒๕๕๔นี้มา

ลองดูกันนะครับว่าเมนูของร้านนี้มีรสชาติอย่างไร

เมนูแรกบะหมี่เกี๊ยวทันทีที่ได้ชามนี้จากป้าก็เห็น

เกี๊ยวชิ้นใหญ่เด่นมาเชียวน้ำาซุปสีเหลืองทองของเมนูนี้นั้นมัน

เข้มข้นเส้นบะหมี่ก็นิ่มทานง่ายทานคู่กับหมูยอที่มาพร้อม

กันก็ได้รสชาติดีไปอีกแบบและมาถึงเกี๊ยวหมูที่ทางร้าน

แนะนำาว่าอร่อยนักพี่โหลก็ลองหั่นดูแล้วก็ได้เห็นว่าเขายัดไส้

เกี๊ยวไว้แน่นมากรสชาติเข้มข้นสมกับที่เป็นเมนูแนะนำาของ

ร้านเลยทีเดียว

ก๋วยเตี๋ยวหูมทอด สุธานี

24

Page 27: NYA~ Journal Vol.1

มาถึงเมนูต่อมาก็คือบะหมี่แห้งต้มยำากับหูมทอด

เมนูนี้ก็เป็นรายการแนะนำาของร้านเหมือนกันเส้นหมี่ของร้าน

นี้เขาลวกได้กำาลังดีไม่เหนียวไม่นิ่มเกินไปถ้าจะบอกว่าเส้น

บะหมี่มันวาวจะเว่อร์ไปหรือเปล่านะ?มาถึงหูมทอดกันบ้าง

ถ้าน้องๆคนไหนไม่ชอบทานหมูทอดที่แห้งๆพี่คิดว่าน้อง

ๆคงจะติดใจหูมทอดกรอบๆและชุ่มฉ่ำาอย่างแน่นอนที่

สำาคัญหูมทอดของร้านนี้ยังนุ่มและถูกปรุงให้มีรสชาติเข้มข้น

เป็นพิเศษอีกด้วย

อ่านถึงตรงนี้น้องๆผู้อ่านคงอยากจะลองชิม

อาหารร้านนี้แล้วใช่ไหมล่ะ?ร้านก๋วยเตี๋ยวหูมทอดสุธานี

หมายเลข๒๘ตั้งอยู่ติดกับร้านเครื่องดื่มร้านริมสุดบริเวณ

จุดแลกบัตรรับประกันพาชนะสำาหรับราคานั้นก็อยู่ที่ชาม

ละ๒๐–๒๕บาทซึ่งเป็นราคามาตรฐานของโรงอาหารเรา

น้องๆคนไหนสนใจก็ลองไปชิมกันได้แต่รีบหน่อยนะครับ

เพราะร้านนี้เปิดถึงคาบพักกลางวันเท่านั้นหมดคาบพักเมื่อ

ไหร่ร้านนี้ก็ปิดทันทีไม่ได้ขายในช่วงหลังเลิกเรียน

สำาหรับคอลัมน์GETATASTEOFในวารสารฉบับนี้

ก็ขอลาแต่เพียงนี้แล้วพบกันโอกาสหน้านะครับเนี้ยยววว

ประเทศไทยมีครัวเรือนรวม ประมาณ 12 ล้านครัวเรือน

หากแต่ละครอบครัวช่วยกันปิดไฟ 1 ดวง (หลอดไส้ 60 วัตต์) เป็นเวลา 1 วัน

เราจะประหยัดไฟได้ 4 ล้าน กิโลวัตต์-ชั่วโมง/วัน (60 วัตต์ x 6 ชม* x 12 ล้านครัวเรือน)

ค่าผลิตและจำ หน่ายไฟฟ้า 1 หน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) คือ 2.2 บาท (รวมค่าพลังงานที่ใช้ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า)

การประหยัดไฟ 4 ล้านหน่วย/วัน จึงคิด

เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.8 ล้านบาท/วัน หรือ 3,212 ล้านบาทต่อปี=(8.8 ล้านบาท x วัน)*ครอบครัวหนึ่งเปิดหลอดไส้ ประมาณ 6 ชั่วโมง/วัน

ร่วมกันปิดไฟ เพื่อโลกที่น่าอยู่ของเรา

25

Page 28: NYA~ Journal Vol.1

เลือกตั้ง ส.ส. กลไกสำาคัญสู่วิถีประชาธิปไตยที่ยั่งยืน

ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย

อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคำาว่า

“ประชาธิปไตย”แปลว่า“ประชาชนเป็นใหญ่”คือการ

ที่ประชาชนมีอำานาจอธิปไตยหรือมีอำานาจสูงสุดในการ

ปกครองประเทศแต่ประชาชนทั้ง64ล้านคนจะเข้าไป

ปกครองบริหารประเทศทั้งหมดด้วยตนเองย่อมเป็นไปไม่

ได้จึงต้องมอบอำานาจอธิปไตยให้แก่ตัวแทนที่ตนเลือก

เพื่อให้ไปทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติและด้านการบริหาร

แทนประชาชนดังนั้นจึงมีการเลือกตั้งส.ส.ให้ทำาหน้าที่

แทนประชาชน

การเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ประชาชน

บางกลุ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันหากประชาชนผู้

มีสิทธิเลือกตั้งพร้อมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างพร้อม

เพรียงกันไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรย่อมหมาย

ถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจเลือกแล้วและได้แสดง

เจตนารมณ์อย่างแรงกล้าที่ต้องการให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง

คนใดหรือพรรคการเมืองใดเข้าไปแก้ไขปัญหาและระงับ

ความขัดแย้งต่างๆให้หมดไปจากประเทศไทย

ดังนั้นการตัดสินใจเลือกใครพรรคการเมืองใด

หรือแม้แต่การตัดสินใจไม่เลือกใครหรือพรรคการเมือง

ใดเลยจึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำาคัญของประชาชนผู้ไป

ใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะต้องพิจารณาให้ลึกซึ้งอย่างมีเหตุผล

โดยเลือก“คนดี มีความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต เห็น

ประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน”ให้เข้าไปบริหารบ้าน

เมืองเพื่อประโยชน์สุขของพวกเราทุกคน

สำานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

จั่วหัวเรื่องการเมืองมาอย่างนี้น้องๆหลายคนคงร้อง

ยี้กันแล้วเพราะว่ามันน่าเบื่อสิ้นดีเดี๋ยวก็ตีกันด่ากันข่าว

ออกมาดีๆทั้งน้านนนจนวัยรุ่นสมัยนี้เริ่มไม่อยากจะสนใจ

ข่าวการเมืองแล้วเพราะว่ามันไร้สาระสิ้นดี

แต่การเมืองเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เลยการเมืองผูกพันกับชีวิตประจำาวันของเราตั้งแต่ตื่นยัน

นอนหรือถ้าให้พูดกันตรงๆก็คือตั้งแต่เกิดยันตายในบ้าน

นอกบ้านในประเทศหรือแม้แต่นอกประเทศก็ตามไม่มีใคร

หลีกเลี่ยงการเมืองได้ฉะนั้นแทนทีเราจะหนีการเมืองไปเรา

ลองตั้งใจมองมันศึกษามันเราจะได้เข้าใจเรื่องต่างๆเท่านี้

มันก็ไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

อย่างเช่นเรื่องของการเลือกตั้งที่จะพูดถึงในฉบับนี้

มีเวลาอีกประมาณครึ่งเดือนก็จะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ครั้ง

หนึ่งของไทยว่าแต่ว่าเอ๊ะพี่จะมาบอกหนูทำาไมหนูยังเลือก

ตั้งกันไม่ได้นะคะ?ใช่แล้วครับแต่การมีความรู้เรื่องของ

การเลือกตั้งซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการปกครองระบอบ

ประชาธิปไตยก็เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนในประเทศไทยควร

ป้ายนี้พี่ได้แต่ใดมา? ในช่วงเลือกตั้งอย่างนี้ การเมืองจะร้อนระอุเป็นพิเศษ ชาวบ้านอย่างเราๆที่แต่ละวันก็ร้อนพออยู่แล้วก็ต้องหาเรื่องคลายเครียดกันซะหน่อย ป้ายหาเสียงที่มีอยู่เต็มเมืองตอนนี้ช่วยเราได้

ขอขอบคุณhttp://www2.ect.go.th

http://www.tpd.in.th

โดดเด่นมาแต่ไกลกับป้ายสีแดงแปร๊ดของตัวเต็งอย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่ง เพื่อไทย ทำ พลาดไปอย่างนึงสำ หรับป้ายนี้ นั่นคือการเว้นที่ให้เติมคำ ที่ถูกต้องลงในช่องว่าง ทำ ให้เราสามารถพบเห็นป้ายนี้ถูกเติมคำ ตอบต่างๆนาๆลงไปมากมาย เช่น .. ชั่ว เป็นต้น

26

Page 29: NYA~ Journal Vol.1

รู้ตัวน้องๆหรือแม้แต่พี่เองก็ตามแม้ว่าจะยังไม่มีสิทธิ์เลือก

ตั้งแต่การติดตามข่าวสารต่างๆวิธีการเลือกตั้งระบบต่างๆก็

เป็นสิ่งที่เราควรทำาเพราะในระบอบประชาธิปไตยคนทุกคน

ถืออนาคตของประเทศอยู่ในมือคนละ1ส่วนเท่าๆกันไม่มีใคร

ถือครองมากกว่าใครนั่นหมายความว่าพอถึงวันนึงเราก็จะ

มีส่วนในการตัดสินใจต่างๆที่จะชี้ว่าประเทศไทยจะเดินหน้า

ถอยหลังหรือย่ำาอยู่กับที่ต่อไปรอลาวพม่าเขมรแซงไปเรื่อยๆ

เมื่อเข้าใจแล้วก็อย่าลืมเตือนคุณพ่อคุณแม่ไปเลือก

ตั้งวันที่3กรกฏาคมนี้เลือกคนดีมาเข้าสภาถึงจะบอกว่าหัน

ซ้ายหันขวาไม่ค่อยจะมีคนดีให้เห็นก็เถอะพี่ก็คิดว่าแบบนั้น

แต่แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่สามารถทำาให้ประเทศเราพ้น

จากวิกฤติการณ์การเมืองได้แต่อย่างน้อยการออกไปใช้สิทธิ์

ก็ยังทำาให้เราและคนทั่วๆไปที่ได้เห็นยังรู้ว่าประชาธิปไตย

ยังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หัวหลักหัวตอให้คนมาเหยียบมาย่ำามาเอา

ไปใช้อ้างนู่นอ้างนี่ใช้เป็นข้ออ้างตีกันใช้เป็นข้ออ้างของผล

ประโยชน์ตััวเองและพวกพ้องเป็นหลักไม่ได้สนใจประชาชน

สนใจประเทศชาติ

นี่เป็นเหตุผลที่อยากให้คนไทยทุกคนร่วมกันแสดง

พลังของคนประชาธิปไตยให้ทั่วโลกได้เห็นถ้าประชาธิปไตย

ยังศักดิ์สิทธิ์อยู่จริงอย่างนี้ไปเรื่อยๆซักวันมันจะชนะทุกสิ่ง

และก้าวผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปได้ประเทศไทยเราก็จะสามารถ

เดินหน้าต่อไปได้ด้วยพลังขับเคลื่อนที่ไม่ใช่ของใครคนใดคน

หนึ่งแต่เป็นของทุกคน

นาว

*การเลือกตั้งมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เพื่ออนาคต

ประเทศไทย ห้ามกาเกินใบละช่อง เด็กอายุต่ำากว่า 18 ยังกาไม่ได้นะจ๊ะ

เลือกคนดี เข้าสภามาเปลี่ยน ประเทศไทยกันเถอะ

ด้วยความปราถนาดีจากNYAJOURNAL

พรรคนี้ นโยบายเค้าเป็นยังไงเราไม่สนใจ แต่ที่ป้ายหาเสียงของพรรคนี้โดดเด้งสะดุดตาขึ้นมาทันทีเลยก็คือคุณพี่แว่นดำ นี่แหละครับ นี่พี่เป็น ส.ส.หรือมือปืนครับเนี่ย

ต่อกันที่ป้ายของพรรคภูมิใจไทย พรรคนี้โดดเด่นในเรื่องการใช้ social network อย่าง facebook แต่ก็ไม่ลืมที่จะย้ำ ว่า อย่ากด like อย่างเดียวนะ ต้องเลือกเราด้วย!!

ถ้าไม่พูดถึงพรรคนี้ก็แปลก ในเมื่อเฮียชูวิทย์แกเล่นทำ หน้าเครียดอยู่ทุกมุมเสาแบบนี้ ผมก็อยากเลือกให้เฮียนะครับ แต่จะให้ผมเลือกยังไงให้เฮียได้เป็นฝ่ายค้าน(วะ)

พรรคนี้ชื่อพรรคค่อนข้างบาดใจเด็กสวนนนท์เล็กน้อย แต่ที่ฮาคือการที่พี่แกพยายามยืนยันว่าตัวเองเที่ยงตรงขนาดไหนด้วยการเอานาฟิกามาแปะโชว์ให้เห็นๆกันเลยว่าเที่ยงตรง อืมมม เที่ยงตรงจริงด้วย

27

Page 30: NYA~ Journal Vol.1

สมัยพี่เรียนอยู่นะ .. ที่นี่มีธรรมชาติที่ร่มรื่น มาโรงเรียนก็เจอรุ่นพี่ รุ่นน้องที่คุ้นเคย มีกิจกรรมให้ทำ มากมาย

เรามาโรงเรียน เหมือนเราได้เรียนรู้สังคม สังคมในโรงเรียน สังคมในห้องเรียน มีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง อาจารย์ และอีกมากมาย แต่ถ้าจะมีอะไรซักอย่างที่ทำ ให้ไม่อยากมาโรงเรียน ก็อาจารย์นี่แหละ มีทั้งคนที่ ไม่เข้าสอน, ลำ เอียง, สอนไม่รู้เรื่อง บางคนกดเกรดอีก

พี่คิว#20

เพราะอะไร ? เราถึงอยากมาโรงเรียน ?

LET’s SPEAK OUT LOUDMEGAPHONEพื้นที่สำ หรับทุกความคิดที่อยากพูดดังๆแต่ใจไม่กล้าพอ

พึ่งผ่านพ้นเดือนแรกของการเปิดเทอมไป น้องๆหลายคนสามารถสลัดคราบขี้เกียจตอนปิดเทอมออกไปได้แล้ว แต่ก็ยังมีน้องอีกหลายคนที่ยังฝันหวานอยู่กับเตียงนอนนุ่มๆ โทรทัศน์ กิจกรรมช่วงปิดเทอม พี่แนะนำ ว่าควรตื่นแล้วเข้าสู่โหมดเรียนได้แล้วนะ พูดถึงเรื่องนี้ สมัยเด็กๆ ไม่สิ ต่อให้ตอนนี้ก็เถอะ พวกเราก็ต้องมีความคิดว่า ไม่อยากมาโรงเรียนเลย อยู่บ้านได้นอนกลิ้งกลุกๆๆๆ ดูทีวี เล่นเกม ออกไปเดินเที่ยว แรดบ้างอะไรบ้างได้ แต่เปิดเทอมปุ๊บ มาโรงเรียนเจออาจารย์หน้าเป็นยักษ์มาร การบ้านท่วมหัว อากาศร้อน ห้องเรียนไม่มีแอร์ พี่คนนึงล่ะ ที่เคยไม่อยากไปโรงเรียนเล้ยยยยยยย MEGAPHONE ฉบับนี้ เรามาดูกันว่า อะไร ที่เป็นแรงจูงใจ ทำ ให้เรารู้สึกอยากมาโรงเรียนที่น่าเบื่อขนาดนั้นได้

เม่ือก่อนไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ .. ไม่อยากไป(จาก)โรงเรียน

หนังสืออนุสรณ์รุ่น25

MPE HGOAN E

หมู#31

28

Page 31: NYA~ Journal Vol.1

ก็ .. รุ่นพี่ เพื่อน กิจกรรม อย่างผมก็ซ้อมธง แล้วอะไร อีกอ่ะ .. เยอะอ่ะพี่

ฃเพื่อน แล้วก็ .. คนคนนึง ก็ .. กิจกรรม รุ่นพี่ - รุ่นน้อง

เพื่อนเงี้ยพี่

หลักๆก็ อยากเจอเพื่อน อยากเมาท์นั่นแหละ แต่ว่า ส่วนนึงที่ตั้งใจมาเรียนจริงๆ ก็คือต้องการความรู้ จะได้เรียนจบ เอ็นท์ติด เอาไปใช้ในอนาคตได้ จริงๆก็ไม่อยากมาหรอก นอนอยู่บ้านสบายกว่า แต่ถ้าไม่เรียนก็โง่ โง่แล้วก็โดนคนอื่นดูถูก ไม่เอาอ่ะ

อยู่บ้านมันไม่มีอะไรทำ น่าเบื่อ มาเรียนๆไปให้มันได้ใบจบ เพราะถ้าเราไม่เรียน เราก็ไม่มีความรู้ ไม่มีความรู้ก็เรียนไม่จบ เรียนไม่จบก็ไม่มีงาน ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ที่สำ คัญมานี่มีคนเลี้ยงข้าวด้วย

(พร้อมกัน) เพื่อน!!!!พลอย : แล้วก็ อยากได้เกรดด้วยแหละ(นิดนึง)

พลอย#34

อิง#34 พี่โอปอล

#29

แม้ว#31

มอส#33

ยูกิ#30

โจ#30

29

Page 32: NYA~ Journal Vol.1

30

PHOTOHUNT นักวิทยาศาสตร์หลากหลายสำานักยืนยันว่าเกมจับผิดภาพ(PHOTOHUNT)มีส่วนช่วยในการ

พัฒนาสมองทั้งซีกซ้ายซีกขวาการสังเกตุการวิเคราะห์..ก่อนที่สมองเราจะเสื่อมไปกับความไร้สาระของ

โลกภาพสองภาพข้างล่างนี้ภาพบนคือภาพจริงที่ถ่ายในงานรณรงค์เรื่องยาเสพย์ติดปีที่แล้วและอีกภาพ

แน่นอนเราเมคมา..แต่คุณจะหาจุดที่ผิดเพี้ยนไปจากภาพจริง“10จุด“ได้หรือไม่?

ได้คำาตอบแล้วส่งคำาตอบที่ถูกต้องจะพิมพ์เขียนหรือวงรูปมาให้เห็นเลยก็ได้ส่งมาทางเฟซบุ๊คเพจชุมนุมแมวบินโรงเรียน

สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี(/flyingcatclub)5คนแรกที่ตอบได้ถูกต้องครบถ้วนรับของสมนาคุณจากชุมนุมแมวบิน

Page 33: NYA~ Journal Vol.1
Page 34: NYA~ Journal Vol.1