86
ด้วยผลบุญ ธรรมทาน กาลครั้งนีอานิสงส์ ที่มี อันไพศาล อุทิศแด่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ทั้งลูกหลาน ญาติมิตร สนิทกัน ผู้มีคุณ ปู่ย่า ตายายนั้น ขอทุกท่าน พ้นภัย ได้สุขศานติทั้งเจ้ากรรม นายเวร และเทวัญ ขอทุกท่าน ได้กุศล ผลนี้เทอญ.ฯ คำ�อนุโมทน� เร่อง อุโบสถศล คอ ส่งประเสรฐ โดย หลวงพ่อ บรรจง กมโล สร้�งเป็นธรรมท�นโดย ...................................................................................................... อุทศแด่ ..................................................................................................................

คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

  • Upload
    others

  • View
    6

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

ด้วยผลบุญ ธรรมทาน กาลครั้งนี้ อานิสงส์ ที่มี อันไพศาลอุทิศแด่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ทั้งลูกหลาน ญาติมิตร สนิทกันผู้มีคุณ ปู่ย่า ตายายนั้น ขอทุกท่าน พ้นภัย ได้สุขศานติ์ทั้งเจ้ากรรม นายเวร และเทวัญ ขอทุกท่าน ได้กุศล ผลนี้เทอญ.ฯ

คำ�อนุโมทน�เรื่อง อุโบสถศีล คือ สิ่งประเสริฐ

โดย หลวงพ่อ บรรจง กมโล

สร้�งเป็นธรรมท�นโดย

......................................................................................................

อุทิศแด่

..................................................................................................................

Page 2: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

2

Page 3: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

3

คำ�นำ�

เรื่อง อุโบสถศีล คือ สิ่งประเสริฐ เป็นพระธรรมเทศนา

ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม ซึ่งท่านได้ แสดง

ไว้ ณ วัดถํ้านํ้าทิพย์ แก่ พระเณร อุบาสก อุบาสิกาและญาติโยม

ที่มาร่วมงานปฏิบัติธรรมประจําปี

ซึ่งคณะผู้จัดทํา ได้ทําเป็นหนังสือ ด้วยเห็นว่าจะเป็น

ประโยชน์ แก่ผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย

หากว่ามีข้อบกพร่องประการใดคณะผู้จัดทําก็ขออภัยมา

ณ ที่นี้ด้วย

“คณะผู้จัดทำ�”

Page 4: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

4

ส�รบัญ

อุโบสถศีล คือ สิ่งประเสริฐ ๕

Page 5: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

5

อุโบสถศีล คือ สิ่งประเสริฐ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมม�สัมพุทธัสสะ

(๓ จบ)

สีลัง โลเก อะนุตตะโร ตีติ ฯ ณ โอกาสต่อไปนี้ก็จะ

เป็นการฟังพระสัทธรรมเทศนา สักระยะหนึ่ง ตามเหตุ ตาม

ปัจจัย เรียกว่า ฟังเทศน์ตามกาล คือ กาเลนะธัมมัสสะวะนัง

เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ คือฟังเทศน์ตามกาลตามสมัย ที่

พวกเราได้มาร่วมกัน ได้มาร่วมกันครั้งนี้ ก็มีความหมายมาก

เพราะวันนี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรม และเนื่องในวันที่ พวกเรา

ได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน ที่วัดถํ้านํ้าทิพย์ ของเรานี่แหละ

ท่านก็จัดขึ้นทุกปีๆ อยู่หรอก ก็เพื่อว่าให้ญาติโยมผู้สนใจใน

ธัมมะธัมโม มาร่วมกันประพฤติศีล ประพฤติธรรม สัก ๓-๔

คืนนะ ก็ว่ากันไป ท่านก็จัดให้มีการฟังเทศน์ฟังธรรมไป

Page 6: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

6

ตามกาลตามสมัย ปฏิบัติธรรมนี้คือมาฝึกตนเองนี้ล่ะ ภาษา

ธรรมะท่านเรียกว่า ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ มนุษย์ที่ฝึกตน

แล้วประเสริฐสุด มนุษย์ถ้าได้ฝึกแล้ว มันดีกว่าอย่างอื่น และ

มันจะนําสุขมาให้ มันประเสริฐ มันทําให้ได้บรรลุมรรคผล

นิพานก็ได้ ถ้าไม่ได้ฝึกมันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน นั่น

แหละนะคือมันไม่เปลี่ยน แต่มนุษย์ถ้าได้ฝึกแล้ว มันสามารถ

เปลี่ยนได้ เปลี่ยนนิสัยใจคอ จากคนใจร้อน เป็นคนใจเย็น

เปลี่ยนไปได้หมดนั่นแหละ ถ้าฝึก ถ้าไม่ฝึกก็ยังอยู่เหมือนเดิม

ถึงว่ามันดีก็เพราะได้ฝึก เกิดเป็นคนนี้ต้องรู้จักฝึกตน

เพราะแม้แต่สัตว์อยู่ในป่า เขาก็เอามาฝึก เช่น เสือ

ช้าง ลิง ค่าง ชะนีฯ พวกลิงพวกค่างอยู่ในป่า ที่เขาเอามา

ฝึก บางทีก็ได้ตามความประสงค์ แต่ว่ามันฝึกไม่ได้มาก มัน

ก็ทําได้แค่นั้นแหละ แต่ว่าคนมันฝึกได้หลายอย่างนะ ถ้ามัน

จะฝึก ถ้ามันไม่ฝึก มันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานต่างๆ

มนุษย์นี้เขาเรียกว่า มันพัฒนาตัวเองได้ ท่านจึงอยากให้ฝึก

Page 7: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

7

ฝึกทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ นั่นแหละ ฝึกกายเพราะตัว

เรากายของเรานี้ มันยังไม่เรียบร้อย ก็มาฝึกให้มันเรียบร้อย

เหมือนกับแม่ออกเรา ที่มาประพฤติปฏิบัติธรรมนี่แหละ

เพราะกายเรามันยังไปทําบาปทํากรรมอยู่ ก็เลยเอามันมา

รักษาศีล เอามาฝึกใส่ศีลใส่ธรรม ไปทําตามใจเรา มันก็ไม่ได้

นะ วาจาเรามันเคยพูดร้าย ก็เอามาพูดดี จิตใจเรามันยังโลภ

มันยังโกรธ ยังหลงอยู่ เราก็เอามาฝึก เหมือนกับที่ท่านให้เอา

มาฝึก อยู่ในศีลอย่างนี้แหละ

ก็เช่นว่า ศีล ๕ ศีล ๘ ถ้าเป็นสามเณรก็ศีล ๑๐

พระก็ศีล ๒๒๗ ผู้ใดมีศีล ท่านว่าผู้นั้นจะได้บุญมาก ท่านว่า..

โย จะ วัสสะตัง ชีเว ทุสสีโล อะสะมาหิโต เอกาหัง ชีวิตัง

เสยโย สีละวันตัสสะ ฌายิโน บุคคลใดก็ตามไม่มีศีล ไม่มั่นคง

มีอายุร้อยปี ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่บุคคลใดมีศีล เพ่งพินิจ

มีชีวิตอยู่แม้ชั่วระยะเวลา วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ก็ยังประเสริฐ

กว่าดีกว่า ดีกว่าเพราะอะไร เพราะว่าเขาจะได้สุข ตายไป

Page 8: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

8

เขาก็จะได้ไปสู่สวรรค์ แม้แต่ตอนเขายังมีชีวิตอยู่ จิตใจเขาก็

เปลี่ยนไปในทางที่ดี พ้นจากบาปจากกรรม

เพราะเวลาเรารักษาศีลนั้น กรรมชั่วมันไม่มี มีแต่

กรรมดีท่านว่า แต่ถ้าเราไม่มีศีล จะมีแต่กรรมชั่ว ถ้ามันมีเยอะ

กรรมชั่วนี้ จะทําให้เราเดือดร้อนในปัจจุบัน และจะเดือด

ร้อนในภายหลัง..ท่านว่า อะกะตัง ทุกขะตัง เสยโย ความชั่ว

ไม่ทําเสียเลยดีกว่า.. ปัจฉา ตัปปะติ ทุกขะตัง เพราะทําแล้ว

จะให้ทุกข์ในภายหลัง ความดีนั่นแหละควรทํา เพราะทํา

แล้วจะให้สุขในภายหลัง

ที่ท่านพูดเรื่องศีลมันมีค่ามากคือ สีลัง โลเก อนุตตะ

โร ศีลเป็นเลิศในโลก หรือที่ท่านว่า ศีลเป็นบันไดสู่สวรรค์

ศีลเป็นบันไดสู่นิพพาน ศีลนี้จึงเป็นเลิศ ผู้ใดจะได้ซึ่งมรรคผล

นิพพาน ก็เริ่มต้นไปจากศีล นี้แหละ

ปฏิบัติธรรมก็ตั้งต้นไปแต่ศีล ถ้าผู้ใดขาดศีล ปฏิบัติ

ธรรมก็ไม่บรรลุ พระถ้าใครอยากได้บุญก็ต้องมีศีล ถ้าใคร

Page 9: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

9

ไม่มีศีลมันไม่แน่นอน เพราะคนไม่มีศีลนั้นทําบาปอะไรก็ได้

มันคิดอยากจะทําบาปมันก็ทํา ถ้าไม่มีศีล แม้จะได้ทําบุญ

ให้ทานอยู่ก็ตาม บุญกับบาปเลยไม่รู้ว่าอะไรมาก อะไรน้อย

เพราะบางทีมันก็แยกกันยาก แม้เราทําบุญให้ทานอยู่ แต่ว่า

ไม่มีศีล เลยไปทําบาปอยู่อีก ถ้าอยากได้บุญเยอะๆ ก็ให้มี

ศีลด้วย

Page 10: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

10

ท่านทําบุญแล้ว อย่าลืมรักษาศีลด้วย ทําบุญมันก็ได้

บุญอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะละบาปจริงๆ ทําบุญด้วยทําบาปไป

ด้วย ก็ได้ทั้งบุญ ทั้งบาป เมื่อมันได้ทั้งบุญ ทั้งบาปนี้ ถ้ามัน

หนักข้างไหน มันก็ไปให้ผลข้างนั้นแหละก่อน ก�รละบ�ปนี้

จึงสำ�คัญกว่�ก�รทำ�บุญ แต่ถ้าทําบุญมาก มันก็มีความสุข

มาก ถ้าทําบาปมาก มันก็มีความทุกข์มาก มันจึงมีสุขมีทุกข์

สลับกันไป ถ้าทําทั้งบุญทั้งบาป ก็เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ ได้อะไร

ก็ไม่เที่ยง ไม่แน่นอนสักเท่าไร ถ้าอยากให้มันปลอดภัย ก็ให้

มารักษาศีลด้วย ที่ทําบุญให้ทานอาตมาว่า ญาติโยมก็คงพอ

จะรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ว่ายังศีลนะ

ศีลนี้ท่านว่าไว้ว่า..ศีลธรรมไม่กลับม�โลก�จะวิน�ศ

มันจะทำ�ชั่วต่อกันหมดทุกอย่�งเลยล่ะ มนุษย์ฆ่ากันก็ได้

คนในครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ถูกกัน ขยายวงกว้างออกไป

ประเทศต่อประเทศก็ไม่ถูกกัน มีอาวุธยุทธภัณฑ์ ก็งัดออก

มาสู้กันล่ะทีนี้ เห็นไหมล่ะ เขายิงปืนใส่กันอยู่เดี๋ยวนี้ เดี๋ยว

Page 11: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

11

ถ้ามาตกทางนี้ พวกเราก็คงจะไปทางใครทางมัน ลองลงดูสิ

สักตูม อาตมาเองก็คงจะไปก่อนใครเหมือนกันแหละนะ

เพราะอาตมาเป็นพระ อาตมาเลยเอาตัวรอดเป็นยอดดี พูด

อย่างนี้ดีมั้ยล่ะ แม่ออกของเรา ก็คงจะไม่ขี่รถเลยล่ะ วิ่งไป

เลยดีกว่า ศาลาเราหลังนี้ก็คงจะคุ้มครองไม่ได้นะ ถ้าไอ้โป้ก

บึ้ม นั่นมา...

นี่แหละท่านว่า ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ

ท่านจึงว่าให้มารักษาศีล ด้วยกันหลายๆ คน ให้จิตใจมัน

เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ทีแรกว่าไม่ให้ฆ่าสัตว์ เพราะฆ่าสัตว์

ใจมันจะอํามหิตขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนกับเราฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ

เพราะคิดว่าบาปเล็กน้อย แต่บาปเล็กน้อยทําบ่อยๆ ไม่รู้จัก

หยุด มันก็จะใหญ่ขึ้นๆ ทีแรกก็ว่าไม่เป็นอะไรหรอก การฆ่า

สัตว์ตัดชีวิต ว่าแต่ว่าเราไม่ฆ่ากัน ทําไปเรื่อย จิตมันก็หยาบ

ขึ้นไปเรื่อย

ทีนี้สุดท้ายคนก็ฆ่ากันเองเท่านั้นแหละ ถ้ายังไม่ถึง

Page 12: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

12

กับฆ่าก็ผิดใจกันก่อน มันก็ทะเลาะกันตีกันล่ะทีนี้ แล้วมันก็

อยากฆ่ากัน ศีลข้อที่ ๑ ท่านจึงห้ามไว้ว่า อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

นะ ไล่เรียงมาแต่สัตว์ตัวเล็กๆ โน่นแหละ ท่านว่าไฟมันจะ

เกิดขึ้น มันก็เริ่มจากของเล็กน้อยเสียก่อน เหมือนกับหัวไม้

ขีดไฟเรานี่แหละ จะประมาทว่าไม้ขีดไฟหัวเล็กๆ คงจะไม่ถึง

กับ ไหม้บ้านไหม้เมืองได้หรอก แต่ถ้าเราเอาไปจุดเข้า ก็คงจะ

หมดเมืองเหมือนกันนะ

แต่ถ้าคนเรามีศีลคอยดับไว้ เรามันเลยอยู่ด้วยกัน

อย่างมีความสุข พวกเราก็ค่อนข้างที่จะมีศีลนะ แม้จะไม่

ครบหมดทุกข้อก็เกือบหมด มันจึงพออยู่ได้ ไปประเทศไหน

จังหวัดไหน ถ้ามันไม่มีศีล ดูสิเขาว่านั่งอยู่ดีๆ มันก็ยิงทิ้ง อยู่

โน่นแหละ อยู่ทางที่ข่าวเขาว่าฆ่ากันบ่อยๆ โน่นแหละ ก็ไม่รู้

ทางไหนแต่ได้ยินเขาว่า พระนี้มันก็ตัดคอเล่น หัวขาดอยู่

มันไม่กลัวบาปหรอก เพราะเขาคิดว่าฆ่าพระยิ่งสนุกดี พระ

ก็ไม่มีอาวุธอะไรเลยตายฟรี โดนเขาฆ่าทิ้งเฉยๆ ฆ่าแล้วมัน

Page 13: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

13

ได้อะไร มันไม่ได้อะไรหรอก แต่มันจะทําให้จิตใจคนอํามหิต

ขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายโยมต่อโยมก็ฆ่ากันเอง โดนเจ้าหน้าที่

ฆ่าบ้าง เขาก็ฆ่าเจ้าหน้าที่ สุดท้ายเลยไม่มีใครไว้ใจใครได้เลย

เพราะไม่มีศีลข้อที่ ๑ เป็นต้นเหตุ

นี่แหละเราจึงต้องตั้งใจ รู้จักรักษาศีล เหมือนกับ

แม่ออกเรานี่แหละ คงจะได้บุญเยอะแน่ๆ..เจตนาหัง สีลัง

วะทามิ เจตนางดเว้นนั่นแหละเป็นตัวศีล เราก็ให้มีเจตนา

งดเว้นนะ บางทีเราก็ไม่มีเจตนาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอะไรหรอก

แต่ในการปฏิบัตินี้ เราก็อย่าไปฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยนะแม้

กระทั่ง มด ปลวก ยุง ริ้น ก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ อภัยให้มันนะ

เราก็จะได้เป็นคนหัดให้อภัยล่ะทีนี้ เพราะให้อะไรก็ไม่เหมือน

ให้อภัย แม่ออกเราก็มาหัดให้อภัย คืออภัยให้แก่กัน เราจะ

อยู่บ้านก็ดี อยู่วัดก็ดี ถ้าทําผิดต่อกัน ก็หัดให้อภัยกัน ก็คือ

การไม่ถือโกรธ ไม่ผูกโกรธอะไรไว้ มันจะกลายเป็นฆ่าฟัน

รันแทงกันไป

Page 14: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

14

พูดง่ายๆ การมีศีลนี้ ก็เป็นการให้ทานชนิดหนึ่ง

เหมือนกันนะ พระพุทธเจ้าท่านว่า ให้ทานอย่างนี้แหละ จะ

ทําให้เราใจดี เราก็มาให้อภัยแก่กัน ขอโทษ ขออภัยกัน ทํา

ผิดแล้วก็ไม่ต้องโกรธกันหรอก ให้ขอโทษกัน ขออภัยกัน ให้

อะไรก็ตาม แต่ต้องรู้จักให้อภัยกันด้วย ขออะไรก็ตาม ของ่าย

ที่สุดคือขอโทษ ใจก็เลยดี อย่างนี้ล่ะจึงมาหัดให้อภัยกัน คน

ถ้าใจดําอํามหิตแล้ว ขอโทษก็ไม่ขอ ให้อภัยมันก็ไม่มี ไม่มี

คุณธรรมอะไรเลย มีแต่จะเอาชนะกันอย่างเดียว

ศีลข้อที่ ๑ ของเร�นั้นก็คือ ป�ณ�ติป�ต� เวระ

มะณี สิกข� ปะทัง สะม�ทิย�มิ คือให้มีเจตน�งดเว้นจ�ก

ก�รฆ่�สัตว์ตัดชีวิต ถ้าใครฆ่าสัตว์ก็มีบาป ท่านว่า วิบาก

กรรมของคนฆ่าสัตว์นั้น เมื่อเขาละโลกนี้ไป เขาย่อมไปตก

นรก เมื่อเขามีโอกาส ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เขาก็ย่อมเป็นคน

อายุสั้น ตกนรกแล้ว ก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก และก็

อายุสั้นอีก เกิดเป็นอะไรก็มีแต่อายุสั้น เห็นไหมจําพวกที่ตาย

Page 15: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

15

เร็วๆ น่ะ คือพวกที่เคยได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมามาก มันเลยเกิด

มาอายุสั้น เช่น พวกมด พวกปลวก จักจั่น เรไรฯ แต่ก่อน

มันอาจจะเคยเป็นคนก็ได้ แต่เศษกรรมมันมาอย่างนั้น ฟังด ู

น่ากลัวนะ ถ้าใครไม่อยากตกนรกทั้งเป็นทั้งตาย ก็คือรักษา

ศีลข้อที่ ๑ ไว้นะ

ทีนี้คนที่ไม่ฆ่าสัตว์ ก็จะมีอายุยืน ถ้าตายไป ก็จะไป

เกิดบนสวรรค์ สวรรค์แต่ละชั้นก็หลายล้านปีนะ ศีลข้อเดียว

นี้แหละ และถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีอายุยืน ไม่ตายง่าย

ในพระพุทธเจ้าบางพระองค์ มีแต่คนเคยได้รักษาศีลมาเกิด

ร่วมกัน เช่นว่า พระกุกกุสันโธ โกนาคะมะโน ท่านก็ว่ากันไป

คนละเจ็ดหมื่นปี แปดหมื่นปี พระกัสสปะที่ตรัสรู้ไปก่อนนั้น

ท่านก็ว่าสองหมื่นปีนะ อายุขัยของคนในยุคนั้นนะ เพราะ

ว่าคนไม่ฆ่าสัตว์ได้มาเกิดร่วมกัน แต่ว่าพวกเรานี้ก็ไม่รู้ยังไง

คงจะมีแต่คนโหดเคยฆ่ากันมา เกิดชาตินี้เลยอายุไม่ถึงร้อยปี

ก็ได้บังสุกุลกัน ก็คงจะทําบาปมามากนะคิดๆ ดู

Page 16: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

16

เอ้า...แก้ตัวนะญาติโยมพี่น้องเรา เคยได้ยินไหมท่าน

ว่า..พระศรีอาริยะเมตไตร หรือ พระศรีอาริย์ในภาษาบ้าน

เรานั้น ท่านสั่งลงมา กับพระมาลัยว่า ..ถ้าใครอยากเกิดร่วม

ศาสนาเรา ให้รักษาศีล ๕ ให้มันได้ เพราะว่าอายุคนในศาสนา

เรานี้ ประมาณแปดหมื่นปี จึงจะตาย แต่ถ้าใครไม่ได้รักษา

ศีล ๕ คงจะไม่ได้เกิดร่วมศาสนาของเรา.. อ้าว.อดเปรี้ยวไว้

กินหวานหน่อย จะเป็นอะไรไปนะญาติโยมเรา รักษาศีล ๕

ให้มันได้นะ ถ้าใครทําได้ก็ทํานะ แนะนําหรอก ใครทําไม่ได้

ก็แล้วแต่..นะ มันเป็นของมันเองนะ บอกแล้วไม่ทําตามก็ไม่รู้

จะทํายังไง อยากตกนรก ก็ว่าไม่ได้ล่ะ...ต่อไปก็ให้มารักษา

ศีลข้อนี้ด้วยนะ....

ข้อที่ ๒ ท่�นว่� อะทินน�ท�น� เวระมะณี สิกข�

ปะทังสะม�ทิย�มิ คืออย่�ไปเอ�ของ ของคนอื่นด้วย

อ�ก�รแห่งขโมย หรือ ลัก ฉ้อ โกงฯ ก็คงหมายเอาหมด

ทั้งของเล็กของน้อย หรือของใหญ่ก็ตาม ก็ให้มีเจตนา

Page 17: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

17

งดเว้น จากการถือเอาของที่ เจ้าของเขาไม่ไดให้ อันนี้

ก็ได้บุญเยอะนะ ถ้าใครไม่ขโมยอะไรเลย แต่ถ้าใครได้ขโมย

ของคนอื่น ตายไปคงตกนรก โดนท่านยมบาลตัดตีน ตัดมือ

ถ้าจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีก ก็คงได้ตั้งต้นใหม่ ตั้งแต่เป็นสัตว์

เดรัจฉาน

เกิดเป็นมนุษย์ ก็เป็นคนยากจนอนาถา มีแต่ภัยวิบัติ

มาถึงตน ถ้าทํานาฝนไม่แล้งก็นํ้าท่วม มันก็จะเป็นแต่ในที่ของ

เรานั้นแหละ เลี้ยงไก่ก็ตายด้วยโรคห่า เลี้ยงหมูก็ไม่เป็นราคา

มันเป็นของมันเอง ทําอะไรน่าจะได้ก็ไม่ได้กับเขา ปลูกมันก็

เพลี้ยลง ตั้งแต่ตอนยังไม่ปลูก มันก็ไม่ลง ทําอะไรก็เป็นผิด

ไปหมด ซื้อหวยก็คนอื่นเขาซื้อถูก พอไปซื้อกับเขา ก็เป็นอัน

ไม่ถูกไป นี่แหละกรรม ก็คนเคยลักเอาของคนอื่น ดีไม่ดีไม่รู้

พายุมาจากไหน มาพัดเอาบ้านพังไปไม่เหลือเลยก็มี แต่ของ

เพื่อนบ้านกลับไม่เป็นอะไร นี่แหละไม่อันใดก็อันหนึ่ง ต้อง

มีอันเป็นไปนะ สําหรับคนเคยลักเอาของคนอื่น ทีนี้คนไม่

Page 18: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

18

เคยลักเอาของคนอื่น มีแต่ให้กินให้ทาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ตาย

ไปแล้วก็ย่อมไปเกิดบนสวรรค์ และถ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์

ทรัพย์สมบัติก็ไม่พินาศไปด้วยลมบ้าง ด้วยนํ้าบ้าง ด้วยโจร

บ้าง ด้วยสารพัดฯ เพราะว่าเป็นผู้มีบุญญารักษาไว้อีกอย่าง

หนึ่ง

คนเราถ้าได้ลักขโมยเอาของๆ เขา ถ้าได้เงินมา ถ้า

ไม่มีโจรมาลัก ก็ต้องมีเหตุวิบัติไป อย่างน้อยๆ ก็เป็นไข้เป็น

หนาวไป เพราะบุญไม่มาก จริงๆ นะ บางคนพอมีเงินเข้า

หน่อย ก็มีอันเป็นไป พอไม่รู้จะทําอะไรก็ซื้อเหล้ากิน เป็นการ

เบื่อเมาตัวเองไป นี่แหละถ้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็เป็นได้

แค่นี้แหละ แต่ถ้าใครรักษาศีลข้อนี้ได้ ก็มีดีหลายอย่างเช่น

ทรัพย์สมบัติก็ไม่เสียไปเป็นต้น ซึ่งมันก็น่าทําอยู่นะญาติโยม

เรา และเราก็จะไม่มีโทษมีภัยในปัจจุบัน ทํามาหากินไปตาม

ประสาเรา ไม่ต้องไปลักขโมยของใครหรอก หาได้เท่าไรก็

ยินดีในสิ่งที่เราหามาได้ นี่ก็สุดยอดดีแล้ว เราอยู่ไปอย่างนี้ก็

Page 19: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

19

ใจเย็น ใจดี นี่แหละคือศีลนําสุขมาให้ ศีลทําให้ไม่มีโทษใน

ภายหลัง ไม่มีความกินแหนงแคลงใจในภายหลัง ไม่มีวิบาก

กรรมอันเลวทรามติดตามเราไป ....

ข้อที่ ๓ คือ อะพรัหมะจริย� เวระมะณี สิกข�

ปะทัง สะม�ทิย�มิ คือก�รงดเว้นจ�กกรรม อันเป็นข้�ศึก

แก่พรหมจรรย์ ถ้าเป็นศีล ๕ ท่านก็เรียกว่า ไม่ประพฤติผิด

ในกาม ถ้าเป็นศีล ๘ ก็คือการประพฤติพรหมจรรย์ เหมือน

ที่ญาติโยมเรา ได้มาบวชนุ่งขาว ห่มขาว นี่แหละคือการ

ประพฤติพรหมจรรย์ มาถือศีลชั่วคราวก็ยังดี มาประพฤติ

เหมือนพระเรานี่แหละ พระท่านไม่มีคู่ครองอะไรหรอก ไม่มี

ท่านก็ยังอยู่ได้ ถึงเราเป็นโยม จะอยู่แต่ในบ้านเรือนเกินไป ก็

คงไม่ดี ออกประพฤติปฏิบัติบ้าง

ท่านว่า การที่เราทําตามกิเลสตัณหามากๆ นั้นมัน

เศร้าหมอง เรามันหลงไปทําตามแต่กิเลสตัณหา มันก็เลยเป็น

ทุกข์ จิตใจก็เร่าร้อน ให้ละบ้าง ละความรัก ความใคร่ ความ

Page 20: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

20

พอใจ ความกําหนัดยินดี ในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในการ

สัมผัสทางร่างกายเนื้อหนังทั้งหลาย ถ้าเว้นออกมาบ้าง ใจเรา

ก็จะได้เป็นปกติ

ถ้าเราไปยินดี อยู่แต่กับสิ่งเหล่านั้น ใจมันก็เร่าร้อน

เหมือนกับยินดีในรูปอันสวยงาม อันใดอันหนึ่งที่เราชอบ ใจ

มันก็ไม่สบาย มันก็โลภอยากได้อยู่นั่นแหละ และก็เสียงอัน

ไพเราะเพราะพริ้ง มันก็โลภอยากได้อีก ได้กลิ่นอันหอมๆ

มันก็อยากได้กลิ่นอันนั้น รสอันเอร็ดอร่อยมันก็อยากได้ การ

สัมผัสทั้งหลาย ทางเนื้อ ทางหนัง ทางร่างกาย สารพัดนั้น

มนักอ็ยากได ้ใจมนักจ็มอยูก่บัสิง่นัน้แหละ หรอืวา่ธรรมารมณ์

อันใดที่มันคิดขึ้นมา ก็เหมือนกัน

แต่ถ้ามาบวชอยู่นี้ ก็ เหมือนกับมาหัดหยุดกาม

ออกบวชเป็นการประพฤติเหมือนดังพรหม ท่านจึงเรียก

ประพฤติพรหมจรรย์ เพราะพระพรหมท่านไม่มีผัวมีเมีย เรา

มีก็เอาพักไว้เสียก่อนนะ มาออกบวชชั่วคราว ก็ได้บุญเยอะ

Page 21: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

21

นะ เขาเรียกว่าบวชประพฤติพรหมจรรย์ หรืออยู่บ้านอยาก

ประพฤติก็ได้ เราก็อยู่ไปไม่ต้องพูดว่า จะประพฤติผิดใน

กามหรอก เรามาออกเสียด้วยซํ้า คือออกบวช ถ้าเป็นโยม

ผู้ถือศีล ๕ ก็ไม่ถึงกับออกจากกาม ก็เพียงแต่ไม่ประพฤติ

ผิดในกาม เพราะยังมีครอบมีครัว มีผัวมีเมียอยู่ ก็ไม่เป็นไร

หรอก แต่อย่าไปมีกิ๊กมีน้อยไปอีกก็แล้วกัน บางคนก็ไม่รู้

จักพอนะมนุษย์เรานี่ มีผัวหนึ่งเมียหนึ่งแล้วก็ไม่รู้จักพอ หา

ผู้ช่วยสามี ผู้ช่วยภรรยามาอีกไปเรื่อย ก็เลยเป็นบาปล่ะ

ทีนี้ ออกบวชเลยดีกว่านะ ถ้าไม่แน่นอนในใจ ก็โกนหัวเลย

ห่มเหลืองเลยก็ได้นะ เขาเรียกว่าประพฤติพรหมจรรย์

มันได้บุญมาก

การอยู่ที่ ในครอบในครัวนั้น มันหาที่สุดไม่ได้

“พระพุทธเจ้�ท่�นว่�..เป็นสิ่งนำ�ม�แห่งธุลีทั้งหล�ย” คือ

ถ้าเราไปทําตามกิเลสนั้น ท่านว่าเป็นเหตุนํามา ซึ่งความ

เศร้าหมองทั้งหลาย มันเศร้ามันหมอง มันไม่เสร็จสิ้นซะทีนะ

Page 22: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

22

เพราะฉะนั้นเรามาบวชมันก็เลยเบาใจ ไม่มีกังวลใจกับเรื่อง

นั้นเรื่องนี้เท่าใด มันก็เลยดี นี่แหละคนเราทุกวันนี้ มันทุกข์

ก็แต่เพียงเรื่องเดียว คือ เรื่องกามคุณ ๕ นี่แหละ คือเรื่อง

รูป เสียง กลิ่น รส การสัมผัส และความรู้สึกนึกคิด ที่มันวน

เวียนอยู่นั่นแหละ มันอยู่ด้วย ความรัก ความใคร่ ความพอใจ

ความชัง ความอะไรๆ อีก หมุนเวียนกันไป มันรักมันก็หลงอยู่

อย่างนั้น..ปิยะเต ชายะเต โสโก ความโศกเศร้าทั้งหลาย เกิด

ขึ้นจากกามคุณ จากความรัก จากความใคร่ ความพอใจทั้ง

หลาย มันวุ่นวายอยู่อย่างนั้นแหละ เราก็ออกมาตัดห่วงตัดใย

อย่างนี้แหละ

พระพุทธเจ้าท่านจึงสรรเสริญการบวช ท่านว่า..การ

บวชนั้นเป็นการออกบําเพ็ญภาวนา การออกจากกามทั้ง

หลายนั้น มันได้บุญมาก ถ้าใครออกจากกามได้ ถ้าใครไม่ออก

มันก็ทุกข์อย่างนั้น คิดแล้วคิดอีก ยึดมั่นถือมั่นอย่างนั้น ผล

สุดท้ายก็ตายไปเฉยๆ หรือบางทีมันก็มีอีก คือมันปรารถนา

Page 23: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

23

ไปเรื่อยๆ อยากได้มากไปเรื่อย อะไรเท่าไรก็ไม่พอใจ อยากได้

เงิน อยากได้ทอง อยากได้ข้าว อยากได้ของ อยากได้ทรัพย์

สมบัติ บ้านช่อง เงินทอง ไร่นา ที่ดินทั้งหลาย มันเลยไม่อิ่ม

สักที ...

กามทั้งหลาย ย่อมไม่อิ่มด้วยการได้ สิ่งที่ไม่รู้จักอิ่ม

คือ ๑. ความอยากทั้งหลาย ย่อมไม่อิ่มด้วยการได้ ๒. ไฟ

ย่อมไม่อิ่มด้วยเชื้อ. ๓. ทะเลไม่เคยอิ่มด้วยนํ้า .. ความอยาก

ทั้งหลายไม่อิ่มด้วยการได้ หามาเท่าไร ก็ยังอยากได้อีกอยู่

เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าจะกินมากขึ้นหรอก กินเท่าเดิมนั่นแหละ

แต่ความอยากมันก็ยังอยากได้เพิ่มขึ้น ได้เอามาไว้เยอะๆ

ก็พอใจนะ แต่พอใจได้คราวหนึ่ง มันก็อยากไปอีก ก็คงจะ

เหมือนกับ พวกเราๆ ท่านๆ นี่แหละ มีอะไรก็ยังไม่รู้จักพอกัน

นะ นั่งอยู่ตรงนี้ ก็ไม่ใช่คนพอนะ ยังไม่เต็มร้อยนะ อิ่มแล้วล่ะ

ไม่อยากได้อะไรแล้วล่ะ นั้นไม่มี เพราะไม่ว่าจะมีมากขนาด

ไหน ความอยากมันก็ยังอยากอยู่ เศรษฐีก็ยังอยากอยู่นะ

Page 24: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

24

ขนาดมีอยู่เป็นร้อยล้าน กินใช้อยู่ร้อยปียังไม่หมด ก็ใช่ว่าจะ

รู้จักพอนะ ยังอยากจะได้อีกอยู่ มันวนเวียนอยู่ตรงนี้แหละ

ผู้ที่เขาทุกข์จนก็จะพูดว่า..คนเขารวยคงจะดีนะ ส่วนคนรวย

ก็จะคิดว่า..คนที่เขารวยกว่าเราคงจะดีนะ มีแต่คนอยากจะ

รวยขึ้นไปอีก เลยไม่มีใครพอสักคน

นี่แหละท่านถึงว่ามันไม่อิ่ม..ไฟก็ไม่อิ่มด้วยเชื้อ

ท่านว่าไปเติมฟืนเติมเชื้อ ใส่หญ้าแห้งเข้าไปยิ่งลุกดี กามคุณ

ทั้งหลายก็ไม่อิ่มถ้าไม่ละ ทะเลก็ไม่เคยอิ่มนํ้า นํ้าสายไหนๆ

จะไหลลงไปก็ตาม ก็ไม่เคยเต็ม เราก็มาพิจารณาว่า โอ...มัน

เป็นอย่างนี้นะ มันก็เป็นเหมือนกับที่ท่านกล่าวไว้จริงๆ นี่

แหละนะท่านจึงว่า ให้เราออกบวชนะ บวชนี้คือการตัดห่วง

ตัดใย หัดไว้บ้างนะ อยู่บ้านก็เหมือนกัน หรือมาจําศีลวันพระ

วันเพ็ญ ท่านก็ถือว่าเป็นการออกบวชเหมือนกันนะ ถึง

วันพระวันเพ็ญ เราก็มาหัดออกบวช มันได้บุญมาก ไม่ต้อง

ห่วงต้องใยอะไรหรอก เอาวันพระนี่ล่ะ พระพุทธเจ้าท่าน

Page 25: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

25

บัญญัติไว้ วันทํามาหากินก็คือเจ็ดวัน ส่วนวันที่แปดท่านให้

เข้าวัดฟังธรรมจําศีล ออกบวช บวชแล้วพรุ่งนี้จะสึกก็มีนะ

โยมเรา เขาเรียกว่าปีหนึ่งบวช ๔ วัน นี่แหละบุญ เขาว่าบุญ

ประจําเดือน มันมีบุญประจํา นี่หลายบุญนะ ๑. บุญประจํา

วัน ๒. บุญประจําเดือน ๓. บุญประจําปี

บุญประจําวันนี้คือให้ได้ทําบุญทุกวัน เช่นว่าวันหนึ่ง

ให้กิน ให้ทาน ให้ได้กราบพระ ไหว้พระสวดมนต์ ก็ทําไป แต่

Page 26: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

26

ขอให้ได้ทําอยู่ทุกวัน ให้ได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทุกวัน บุญ

ประจําเดือนก็คือ การจําศีลหรือมาถืออุโบสถศีลเรานี่แหละ

เดือนหนึ่งก็มีอยู่ ๔ ครั้ง ก็ขอให้ได้ทํากันนะ

ส่วนบุญประจําปีนี้ก็ ปีหนึ่งมีครั้งหนึ่ง คือ วันเข้า

พรรษา วันออกพรรษา วันมาฆบูชา วันวิสาขะบูชา วันบุญ

ข้าวสาก ข้าวประดับดิน นี่แหละปีหนึ่ง มันก็มีวันหนึ่ง

ครั้งหนึ่ง เช่น บุญกฐิน อันนี้ก็คือบุญประจําปี หรือ งานบุญ

ปฏิบัติธรรมประจําปีเรานี่แหละ นี่ก็ใช่เหมือนกันนะ เราก็เลย

ต้องหาโอกาส ที่จะมาบําเพ็ญบุญ ทั้งประจําวัน ประจําเดือน

ประจําปี เราก็ทําไปเรื่อยๆ จะทิ้งเสียก็ไม่ได้นะ และก็อย่า

ลืมออกบวชด้วย เป็น อะพรัหมะจะริยา เวระมะณีฯ คือการ

ออกบวช ออกจากกามทั้งหลาย ออกจากความห่วง ความใย

ทั้งหลาย มันได้บุญมากเลยนะ ใครไม่ทําก็ไม่ได้หรอกนะ

มันก็เหมือนกับโบราณท่านว่า “คือกันกับกินข้าว

ไผกินมันกะอิ่ม มันบ่อไปอิ่มท้อง เขาพุ้น ผู้บ่อกิน” แต่ถ้าใคร

Page 27: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

27

ทําแล้ว มันได้บุญ ใจมันก็สบายนะ เหมือนกับคนบวชแล้ว

มันก็ไม่มีอะไรหรอก ลูกก็ไม่มี เมียก็ไม่มี เมื่อตัดออกแล้ว

มันก็จะทําให้สบาย มีเมียก็ยุ่งยากกับเมีย มีลูกมันก็ยุ่งยาก

กับลูก

แต่ก่อนมีพราหมณ์คนหนึ่ง ไปหาพระพุทธเจ้า แล้ว

กล่าวกับพระพุทธจ้าว่า..ข้าแต่พระโคดม ท่านเป็นคนขาด

สูญ ท่านไม่มีอะไร ยากจนที่สุดที่สุดในโลก พระพุทธเจ้าท่าน

ก็กล่าวว่า..พราหมณ์ แล้วพราหมณ์มีอะไรบ้าง พราหมณ์

ตอบว่า..ก็มีเมีย มีลูก มีโค มีทรัพย์สิน เงินทอง พระพุทธเจ้า

ท่านก็กล่าวว่า..พราหมณ์ท่านว่าเราเป็นคนไม่มีอะไรก็ถูก

แต่เพราะเราไม่ยึดมั่น ถือมั่นอะไร เราออกจากกามแล้ว

เราจึงไม่เป็นห่วงเป็นใยอะไร พราหมณ์มีเมีย เคยเป็นทุกข์

เพราะเมียไหม พราหมณ์ตอบว่า ..เคย พราหมณ์ว่ามีโค

เคยเป็นทุกข์เพราะโคไหม พราหมณ์ตอบว่า..เคย เพราะ

บางทีมันก็หายไป ให้เราตามหา เลี้ยงก็ยาก

Page 28: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

28

พระพุทธเจ้าท่านจึงกล่าวต่อไปว่า..ถ้าอย่างนั้น มี

เมีย ก็เป็นทุกข์เพราะเมีย มีโค ก็เป็นทุกข์เพราะโค มีบุตร

ก็เป็นทุกข์เพราะบุตร พราหมณ์ท่านมีสิ่งใด ก็ทุกข์เพราะ

สิ่งนั้น แต่เราตถาคต ไม่ยึดถือว่ามีอะไร จึงไม่ทุกข์กับอะไร

เลย เป็นคนว่างจากความยึดมั่น ถือมั่นว่า อะไรอะไรก็เป็น

ของโลก ของเราไม่มี เราจึงอยู่แบบไม่มีทุกข์ แต่พราหมณ์นั้น

ต้องอยู่แบบมีทุกข์อยู่รํ่าไป

เหมือนกับพวกเรานี่แหละ ไม่รู้ว่าเป็นทุกข์เพราะ

อะไร ทุกข์เพราะทรัพย์สิน ข้าวของ เงินทอง เพราะความ

อยากได้ แต่ท่านกลับไม่อยากได้อะไร ความสุขจริงๆ นั้นคือ

คิดว่าจะไม่เอาอะไร เราไม่มีความอยาก ที่จะไปปรารถนา

เอาอะไร เราจึงหลุดพ้นแล้ว ท่านว่าอย่างนั้น แต่เรามันกลับ

กัน กลับเป็นทุกข์กับสิ่งที่เรามี มีก็ใช่ว่าจะพอ มันกลับอยาก

ไปอีกเรื่อยๆ ก็เลยต้องมาบวชเหมือนกับวันนี้แหละ อย่างนี้

แหละจึงเรียกว่าทําถูกแล้ว นะญาติโยมเรา แต่ไม่รู้ว่าคิดถึง

Page 29: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

29

บ้านกันบ่อยๆหรือเปล่า บางคนอาจจะว่า คืนนี้นานจริงๆ

นะ กว่าจะสว่างได้ คนยิ่งอยากกลับบ้านอยู่ คิดอย่างนี้ก็

คงจะมีนะ แต่อาตมาว่า มันคงจะพอดีอยู่หรอก เรามาบวช

นุ่งขาว ห่มขาวตอนเช้า แล้วก็สึกตอนรุ่งเช้าอีกวัน แต่ก็ยังดี

นะที่มีกันหลายคน ถ้ามีคนเดียวคงจะแย่ลงไปอีกแน่ ยังไงก็

ช่วยรักษาศีลข้อนี้ไว้ด้วย ก็แล้วกันนะ...

ส่วนข้อต่อไปข้อ ๔ คือ มุส�ว�ท� เวระมะณี สิกข�

ปะทัง สะม�ทิย�มิ เจตน�เว้นจ�กก�รพูดเท็จ พูดส่อเสียด

พูดคําหยาบ พูดสําหราบเพ้อเจ้อ ผู้ใดอยากได้บุญมากๆ ก็

ให้เรามาเว้นจากการพูดเท็จนี่แหละ ใครอยากได้บุญกับ

วาจา คือหัดพูดจริง ให้พูดแต่คําจริง เพราะผู้ใดพูดคําจริง

ผู้นั้นจะบุญทุกครั้งไป ผู้ใดกล่าวคําเท็จ ผู้นั้นก็จะได้บาปทุก

ครั้งไปท่านว่า หัดพูดคําจริงด้วยคําจริงยังไม่พอ ต้องหัดพูด

อ่อนหวานด้วย พูดภาษาผู้ดีว่าอย่าพูดหยาบคาย พูดอ่อน

พูดหวาน มีคําสมานสามัคคี พูดให้มีประโยชน์ พูดด้วยเมตตา

Page 30: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

30

อารีย์ คือที่เรามาบวช ก็เพื่อมาทําตามศีล คือเราจะไม่พูด

เท็จกับใคร อยู่บ้านก็เหมือนกัน เราก็จะไม่พูดส่อเสียดให้คน

ผิดกัน เราจะไม่พูดคําหยาบ ไม่แช่งไม่ด่า ไม่เรียกห่าเรียกผี

เราจะไม่พูดเพ้อเจ้อ หรือภาษาบ้านเราเรียกว่า “จ่ม” คือพูด

ไม่มีสาระ ประเภทที่ว่า “นำ้�ท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง” เคย

พูดจาอย่างนี้เราก็เลิกซะ หันมาเอาบุญทางวาจา ท่านว่า..

สุภาสิตา จะยาวาจา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ บุคคลใดพูด

เป็นสุภาษิต บุคคลนั้นย่อมได้บุญเป็นจํานวนมาก เราก็อย่า

ลืมเอาบุญกับศีลข้อนี้ด้วย

ให้เราพูดซื่อสัตย์ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ใจเรา

ก็ไม่ตายจากคุณงามความดี ถ้าโกหกคนอื่น จะทําให้ใจเรา

เศร้าหมอง ใจเรามันเลยตายจากศีล จากธรรม ถ้าเราพูด

สอ่เสยีด ยยุงสง่เสรมิใหค้นทะเลาะกนั เรากจ็ะเปน็ทกุขค์นอืน่

ก็เป็นทุกข์เหมือนกัน ถ้าเราไปพูดคําหยาบคาย คําแช่ง

คําด่า เราก็เป็นทุกข์ ผู้ได้ฟังก็เป็นทุกข์ ถ้าเราพูดเพ้อเจ้อ

Page 31: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

31

พูดมากปากยาว คนอื่นก็รําคาญ ก็ขอให้ญาติโยมเราตั้งใจ

ประพฤติปฏิบัติกันดีๆ นะ อยู่บ้านก็ทํานะ ไม่ใช่ทําแต่เฉพาะ

มางานปฏิบัติธรรมเท่านั้น

ท่านว่า อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดคือวาจา ซึ่งมีอยู่หมด

ทุกคน สามารถที่จะทําให้ใจนี้ เป็นแผลเหอะหวะ คือคํา

พูดที่ไม่เป็นสุภาษิต ผู้ใดพูดไม่ดี มันก็จะทําให้เสียใจไปนาน

ไม่มียาแก้ ยาอะไรก็แก้ไม่ได้ คือเราได้ด่ากัน เราได้พูดเท็จ

พูดส่อเสียด พูดคําหยาบ ต่อกันแล้ว ใจเราก็จะเศร้าหมอง

เหมือนกับเราอยู่บ้าน เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูก

เป็นหลาน เป็นลุงเป็นป้า ถ้าได้ผิดใจกันแล้ว ได้ด่ากันแล้ว

ก็จะทําให้เป็นทุกข์อยู่หลายปีนะ บางทีญาติพี่น้องเอง ก็จน

ไม่อยากมองหน้ากัน เพราะวาจาเป็นต้นเหตุ มันยิ่งกว่าอาวุธ

ทําให้คนตกนรกก็ได้ ทําให้เป็นคนทําอนันตริยกรรมก็ได้

คือวาจานี่แหละ ถ้าไปพูดให้คนหมู่ใหญ่ คณะใหญ่ หรือ

พระสงฆ์องค์เจ้า แตกร้าวสามัคคีกัน ท่านว่าผู้นั้นจะต้อง

Page 32: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

32

ตกนรกอเวจี เสมอกันกับฆ่าบิดามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทํา

โลหิตพระพุทธเจ้า ให้แตกออก เหมือนกับพระเทวทัตต์

ที่ยุยงให้สงฆ์แตกกัน ยุยงให้คนแตกกัน ขนาดใกล้ตายแล้ว

แผ่นดินยังไม่ให้อภัย ยังโดนธรณสูบอีก ก็ต้องไปตกนรกอยู่

จนถึงทุกวันนี้

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า อนันตริยกรรม ๕ ฆ่า

บิดา ฆ่ามารดานี้ก็เป็นบาปหนัก ฆ่าพระอรหันต์นี้ก็บาปอีก

สังฆเภท ทําลายสงฆ์ให้แตกกัน หรือหมู่คนเขาแตกกัน ก็

เป็นบาปอีก บาปหนักเสมอกัน คนที่พูดจาให้หมู่คนทั้งหลาย

แตกออกเป็นกลุ่มเป็นเสี่ยง ไม่ให้คนหมู่มากเขาอยู่เป็นสุข

ทําให้คนแตกร้าวสามัคคีกัน ผิดกัน เถียงกัน มันเป็นบาปเสีย

จริงๆ นะ ญาติโยมนะ ศีลข้อนี้ก็ให้รักษานะ ใครที่รักษาศีล

ข้อนี้ได้ ท่านว่าตายไป ก็จะได้ไปสวรรค์โน่นแหละ แต่ถ้าได้

มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นมนุษย์เสียงดี ปากก็หอมท่านว่า

เห็นไหม บางคนแต่ชาติก่อน เขาพูดแต่คําสุภาษิต ชักชวน

Page 33: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

33

คนสร้างนํ้าทําบุญ ตายไป ไปเกิดบนสวรรค์ พอมาเกิดเป็น

มนุษย์ เป็นพระภิกษุยังปากหอมอยู่ พอพูดขึ้นเท่านั้นแหละ

ก็จะมีกลิ่นหอม เหมือนดอกมะลิ หอมไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งก็มีอยู่

นะในครั้งพุทธกาล เพราะแต่ชาติก่อนท่านพูดแต่คําสุภาษิต

ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลไม่เชื่อ ท่านว่าคนปาก

หอมไม่มีในโลก แต่ท่านก็ได้ยินเสียงเล่าลือนี้ จากประชาชน

Page 34: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

34

เสนาอํามาตย์ ท่านจึงได้นิมนต์พระภิกษุรูปนี้ เข้าไปใน

พระราชวังของท่าน นิมนต์ก็ไปหลายๆ องค์อยู่หรอก แต่

พอเสร็จกิจ ท่านก็นิมนต์พระรูปอื่นกลับหมด พระพุทธเจ้า

ท่านก็กลับ ยังเหลือไว้แต่ภิกษุองค์เดียว ไว้อนุโมทนาให้พร

พระเจ้าปเสนทิโกศล ก็ให้นําดอกไม้ออก จากห้องท้อง

พระโรงให้หมด เพื่อพิสูจน์ว่าภิกษุรูปนี้ปากหอม จะเป็นไป

ได้ไหม พอท่านเริ่มสัมโมทนียกถา พูดขึ้นเท่านั้นแหละ คงจะ

ว่า ยะถา วะริวะหาฯ ห้วงนํ้าที่เต็มด้วยสมุทรสาครเพียงใดฯ

ถ้าสวดไปแปลไป ก็คงจะเหมือนอย่างนี้แหละ แต่อาตมา

คงจะไม่แปลหรอกนะ เพราะแค่ยกตัวอย่าง

พอท่านเริ่มต้นพูดขึ้นแค่นั้น ก็มีกลิ่นหอม คละคลุ้ง

จรุงจิต ขจรขจายไปทั่วห้อง ทั่วท้องพระโรง ท่านเทศน์ไป

เรื่อยๆ ก็หอมไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น ท่านปากหอมเพราะบุญ

กรรมส่งมา เหมือนปากพวกเรานี้คงจะไม่หอมหรอกนะ ยิ่ง

ถ้าไม่แปรงฟัน คงจะเหม็นยังกับส้วมแน่ๆ เลย ไม่ใช่ธรรมดา

Page 35: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

35

นะ หรือว่าคนปากหอม ก็คงจะมีอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ

เพราะไม่ได้ไปเทียวดมดู แต่ถ้าหอมคนข้างๆ ก็คงจะรู้

แต่นี่ไอ ถ้าไม่เอามือหรือผ้าปิดปาก ก็คนข้างๆ ก็คงจะว่า

“ป้าดโธ”แน่ๆเลย

ยิ่งบางคน จนแมลงวันตอมปาก ก็ยังไม่รู้สึกอีก ยังว่า

“แมลงวันตอมปากสงสัยเป็นลางดี จะได้ลาภปากแน่ๆ เลย”

ปากตัวเองเหม็นยังไม่รู้สึกอีก นี่แหละถ้าใครรักษาศีลข้อนี้

ไม่ได้ ตายไปก็จะตกนรก ถ้ามีโอกาสได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็

จะเป็นคนเสียงไม่ปกติ เช่น เสียงเล็กเกินไป เสียงแหบเกิน

ไป เสียงสารพัดที่จะเป็นไป คือเสียงไม่ดีนั่นล่ะ มันไม่เหมือน

เสียงคนปกติทั่วไป ซึ่งบางคนก็เสียงไม่น่าฟังเลยก็มีนะ ส่วน

พวกเราก็คงจะเสียงปกติทุกคนอยู่หรอก แต่บางคนที่เสียงไม่

ดีเอาเสียจริงๆ ก็มีนะ ไปบวชก็จนเขาอยากให้สึกโน่นแหละ

ไม่รู้กรรมเวรอะไร พอเราขึ้นโยโส..ก็รับว่า..ภะคะวา (เสียง

เล็กมาก) โอย..เลยไม่รู้จะสวดไปด้วยกัน ต่อไปยังไง อาตมา

Page 36: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

36

ก็เคยเจอ เป็นพระนี่แหละเป็นหลวงพ่อ

มีอยู่ปีหนึ่ง เป็นพระที่หลวงปู่ชา ท่านส่งมา ให้อยู่

เป็นเพื่อนอาตมา เขาเรียกท่านว่า หลวงพ่อเสียงน้อย ชื่อจริง

ของท่าน หลวงพ่อม่วง ว่ามาจากทางฝั่งลาวโน่นล่ะ ท่านมา

อยู่กับหลวงปู่ชา หลวงปู่ชาเลยส่งมา ให้อยู่เป็นเพื่อนอาตมา

สงสัยจะทดสอบดูว่า จะไปด้วยกันรอดพรรษามั้ย เพราะ

ตอนที่หลวงพ่อเสียงน้อยนี้ อยู่กับหลวงปู่ชา หลวงปู่ชา

ก็ว่า “เต็มทีแล้ว” คือไม่ไหวแน่ หมายถึงเสียงของท่านไม่

เข้ากับใคร ทีแรกหลวงปู่ชาเรียกท่านว่า หลวงพ่อจ้อย ต่อมา

เลยเรียกใหม่ เป็นหลวงพ่อเสียงน้อย ใครๆ ก็เลยเรียกหลวง

พ่อเสียงน้อย ตามหลวงปู่ชาเรียกกันหมด หลวงปู่ชาท่าน

ก็เมตตา ส่งมาให้อยู่กับอาตมา อาตมาก็ทั้งอดทั้งทน ปรับ

เสียงแล้ว ปรับเสียงอีก ก็ยังเข้ากับท่านไม่ได้

พอทําวัตรด้วยกันสองรูปทีนี้ อาตมาเลยบอก เอ้า

..เอาดีๆ เลยนะหลวงพ่อ พออาตมาขึ้นโยโส ก็คิดว่ารีดเสียง

Page 37: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

37

ลง ให้เล็กที่สุดแล้ว พอหลวงพ่อเสียงน้อยรับว่า..ภะคะวา..

โอย..เสียงเล็กลงไปกว่าเราอีก จนไม่รู้ว่าจะต่อยังไง และ

ตอนให้พรญาติโยม ก็มีปัญหาอีก พออาตมาขึ้นบท..ยะถา..

ก็ว่าทําเสียงเล็กให้ท่านแล้วล่ะ แต่พอท่านรับ..สัพพีตีโย...

โอย..เสียงลีบเล็กลงไปอีก ยังกับเสียงจิ้งหรีด คนละเรื่องเลย

อาตมาก็มาคิดพิจารณาว่า เอ..แล้วเราจะไปเป็นทุกข์ อยู่กับ

เสียงของเขาทําไม เราจะละไม่ได้จริงๆหรือกิเลสนี่ ก็มาภา

วนาล่ะทีนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ คนเรานี้ ถ้ามีอะไรขัดใจอยู่ทุก

วันๆ นะ พอภาวนาจะมีปัญญามากนะ พอถึงตอนทําวัตร

อาตมาก็มาคิดในใจว่า..เอ้า..กรรมเวรของใครของมัน ก็ขึ้น..

โยโส..ภะคะวา..จะไปทางใครทางมันก็ช่างเถอะ มันเรื่องของ

เสียง อาตมาก็ทนไป กว่าจะจบได้ ต้องถอนหายใจ..เฮ้อ!..เลย

ล่ะ มันปล่อยอัตตาตัวตนออกมา ในใจก็คิดว่า “คนเสียงดีๆ

หน่อย ไม่มีเลยรึนี่?” แต่หลวงพ่อจ้อยเสียงน้อยรูปนี้ ท่านก็

อยากอยู่กับอาตมาจริงๆ อาตมาเคยลองๆ ถามดูว่า “หลวง

Page 38: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

38

พ่อไม่อยากลองเปลี่ยนวัดดูหน่อยหรือครับ” ท่านก็บอกว่า

“ไม่หรอกครับ ผมชอบวัดนี้แหละ ผมศรัทธาท่านอาจารย์”

แต่ในใจอาตมาตอนนั้นคิดว่า โอย..แต่ผมไม่ค่อยจะศรัทธา

ท่านเลย.. คิดในใจหรอก เพราะอย่างอื่นท่านก็ดีหมดทุก

อย่างแหละ ยกเว้นเสียงเท่านั้นแหละ

อยู่ต่อมา หลวงปู่ชา ท่านก็ถามอาตมาว่า “เป็น

อย่างไรบ้างอยู่กับหลวงพ่อเสียงน้อยนั่น หลวงพ่อนั่นไม่ใช่

ธรรมดานะ ถ้าเป็นโพรงไม้ต้องมี ไม่ใช่งูเขียวก็ต้องเป็น

ตุ๊กแกแน่ๆ อยู่ข้างในนั่น ใครอยู่ด้วยได้ ก็ต้องเก่งที่สุดแน่ๆ

เลย” ท่านแกล้งยอหรอกอาตมาว่า ท่านก็พูดต่อว่า..ท่านนี่

ก็ไม่ธรรมดา อยู่กับคนอย่างนั้นได้ มันน่าอัศจรรย์นะ..ว่าแล้ว

ท่านก็หัวเราะ อาตมาบอกหลวงปู่ชา ว่า..ถ้าส่งแบบนี้มาอีก

ก็ไม่ไหวหรอก ถ้าเขาไม่หนี อาตมาก็คงต้องไปแน่ๆ นี่แหละ

แค่เสียงเป็นต้นเหตุ ก็อาการหนักนะ ผู้ชายที่เสียงเหมือน

ผู้หญิงนี่ ส่วนพ่อออก แม่ออกเรา ก็เสียงดีอยู่หรอกฟังๆ ดู ก็

Page 39: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

39

ไม่ได้ยินว่าใครเสียงวิปลาส แปลกประหลาดอะไร นี่แหละ

ท่านว่า ให้สร้างบุญไว้นะ เดี๋ยวถ้าเสียงไม่ปกติแล้ว จะไป

เป็นนักร้องกับเขา ก็คงจะไม่ได้ พูดออกไปแต่ละครั้ง ยัง

กับไม้เสียบหู คนอย่างนี้ก็มีนะ คงจะไม่ได้รักษาศีลข้อนี้นะ

ชาติก่อน แต่ว่าถ้าไม่รักษาศีลข้อนี้นะ ตายไปต้องตกนรก

ถูกตัดลิ้น เย็บปาก พอมาเกิดเป็นมนุษย์ เลยเสียงไม่ปกตินี่

แหละนะ..

เอาล่ะ..ศีลข้อต่อไปคือข้อ ๕ สุราเมระยะมัชชะปะ

มาทัฏฐานา เวระมะณีสิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ เจตนางด

เว้นจากสิ่งมึนเมาทั้งหลาย ถ้าใครอยากได้บุญเพิ่ม ก็มา

รักษาศีลข้อนี้อีกคือ อย่าได้พากันกินเหล้าเมายา มันไม่ดี

กินเหล้า กินเบียร์ สูบยาบ้า สูบกัญชา อันเป็นของมอมเมา

จิตใจเรา มอมเมาร่างกาย ท่านว่าผิดศีลข้อนี้ และก็เป็นบาป

มากเหมือนกัน ถ้าใครไปละเมิดก็จะมีโทษ แม้ในปัจจุบัน

ตายไปก็มีโทษ ในสัมปรายิกภพ ใครไปละเมิดศีลข้อนี้ ใน

Page 40: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

40

ปัจจุบันก็ ๑. ต้องเสียทรัพย์ การกินเหล้า กินเบียร์ สูบยาบ้า

สูบกัญชา ของมึนเมาทั้งหลาย มันเสียทรัพย์ไปในทาง ไม่

เป็นประโยชน์ กินเหล้าไม่ใช่ว่าจะทําให้เราสุขภาพดี มีแต่

จะทําให้เรา อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เสียทรัพย์แล้วก็ยังเป็นโรค

อีก โรคมึน โรคเมา โรคตับ โรคไต เพราะกินเหล้ามันทําให้

ร่างกายของเราเสื่อมโทรมเร็ว ทําให้เป็นโรคตับ สูบบุหรี่ก็

เหมือนกัน เพราะบุหรี่ไม่ใช่อาหาร สูบแล้วเป็นโรคปอด เห็น

ไหม รูปที่เขาทําไว้ข้างซองบุหรี่น่ะ ปอดดําปื๋ออยู่น่ะ แล้วยัง

มีเขียนไว้อีกว่า “คําเตือนสูบบุหรี่เป็นโรคปอด” เขาก็ติดไว้

ข้างซองบุหรี่อยู่แล้ว แล้วยังจะไปสูบทําไม? บางคนตอบว่า..

ทําไงได้มันได้สูบมาแล้ว..อดไม่ได้ก็เลยเป็นโรคปอด เป็นแล้ว

ก็ไปยุ่งยากคนอื่นอีก ยุ่งยากไปถึงโรงพยาบาล ยุ่งยากถึงคน

ใกล้เคียง ต้องดูแลรักษากัน

นี่แหละกินเหล้าเป็นโรคตับ สูบบุหรี่เป็นโรคปอด

ใครอยากจะจอดก็ทั้งกิน ทั้งสูบ อายุก็สั้นนะ ฉะนั้นศีลข้อนี้

Page 41: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

41

ก็ให้พากันรักษานะ คนทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ได้กินเหล้า

ก็ว่าสุดยอด ได้กินเบียร์ก็ว่าสุดยอด สูบยาบ้าก็ว่าสุดยอด

นี่แหละพวกเกิดมาเสียชาติเกิด สติปัญญาดีๆ ร่างกายดีๆ มัน

ก็ไปมอมเมาตัวเอง นี่แหละปกติ มันต้องไปเกิดเป็นคนบ้า

อีกสักชาติหนึ่งก่อน แล้วค่อยมาเกิดเป็นคนดี หรือให้ไปเกิด

เป็นหมูเป็นหมา อีกก่อนสักชาติ แต่บังเอิญมันมาเกิดเป็น

คนก่อน มันเกิดผิดที่ เกิดผิดที่แล้วจะยอมรับสิ่งดีๆ ของดีๆ

ก็ไม่ใช่ อยู่ดีๆ ก็ไม่ชอบ ต้องหาอะไรมามอมเมาตัวเอง ให้ตัว

เองเป็นบ้า ก็เลยเป็นนิสัยบ้าเหมือนเดิม มันมาจากเมืองนรก

จริงๆ พอเป็นบ้าแล้วมันชอบ ทุกวันนี้ยังอาการหนักนะ พวก

สูบยาบ้านี่ เม็ดละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท สูบเอาควันสองสามนาที

ก็หมดแล้ว

แต่ละวันคนที่มาหาอาตมา ก็มาออกยาบ้า ยาเสพติด

มาขอให้อาตมาช่วย ก็อดสงสารไม่ได้ ก็สวดอัญเชิญเทวดา

มา ให้มันสาบานตาย มันกลัวตาย ดื่มนํ้าสาบานแล้วมัน

Page 42: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

42

ก็เลิก หรือไม่เลิกก็ช่างหัวมัน เพราะบางคนว่ายากสอนยาก

อาตมาบอกกินเองก็เลิกเอง หัดสูบเองก็เลิกเองเถอะนะ

มันก็บอกว่า..ไม่ได้หรอกครับ มาขออาศัยหลวงพ่อนี่แหละ

ครับ น้าน!..ยุ่งยากอาตมาอีก จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนใน

แต่ละวัน

นี่แหละอาตมาจึงบอกว่า “ให้รักษาศีลนะพี่น้อง

เรา” ข้อสุราเมระยะนั้น มันไม่ใช่แค่สุรา สิ่งใดเสพแล้วมึนเมา

ใช่หมดแหละอย่าไปกิน อย่าไปเสพ ถ้าจะให้มันดี ก็ตั้งแต่

Page 43: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

43

ไม่สูบบุหรี่นี่แหละ ไม่กินเหล้า ไม่กินเบียร์ มันก็ไม่ตายหรอก

อายุยิ่งยืนนานไปอีก พวกกินเหล้ามากๆ น่ะ อายุไม่ยืนหรอก

เดี๋ยวก็ “ม่องเท่ง” คือตายเท่านั้นแหละ ถ้าขับรถก็ไม่ไปตาม

ทางล่ะทีนี้ พอมึนพอเมาแล้ว ก็เป็นโรคหลายอย่าง โรคยามา

ฮ่า โรคฮอนด้า โรคอีซูซุ โรคโตโยต้า เห็นไหม พอถึงเทศกาล

ปีใหม่ ตายตั้งสามร้อย สี่ร้อย โรคมึนโรคเมา แล้วขับนี่แหละ

มันเสวยเอา รถเขาก็ดีอยู่หรอก แต่สติคนขับมันไม่ดี สงคราม

เขายิงปืนใส่กัน ว่าจะตายหลายคน มันก็ไม่เท่าไหร่

สงครามสุราปีใหม่ ตรุษสงกรานต์ ตายครั้งละ ๓๐๐-

๔๐๐ บาดเจ็บอีกเพียบ พิการอีกก็มี น่ากลัวกว่าสงคราม

ที่เขายิงปืนใส่กันอีก เขายิงปืนรบกันที่ชายแดน ตูมตาม

ตูมตาม ถามว่า ตายหลายคนมั้ย เขาบอกว่า ๒-๓ คน มัน

สู้สงครามสุราไม่ได้ ตายปีละสามร้อย สี่ร้อย ตายฟรีไป

เฉยๆ ตายธรรมชาติก็ไม่ได้ว่าหรอก นี่บางทีมีโรคทัวร์ด้วย

คือเมาแล้วขับรถทัวร์ เลยเป็นโรคทัวร์ตายกัน เมาแล้วก็ยัง

Page 44: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

44

ขับ หลับแล้วก็ยังอยากไป ไฟแดงก็ยังฝ่าอีก ก็เลยประสาน

งากัน บางทีก็แหกโค้ง ไปจอดอยู่กับเสาไฟฟ้าโน่น น่ากลัวนะ

เดี๋ยวนี้

อาตมายิ่งมีงานนิมนต์ ไปเทศน์บ่อยๆ อยู่ ซึ่งบางที

อาตมาก็ไม่อยากไป เพราะบางงาน ก็เป็นงานศพของเด็ก

เยาวชน ของเรานี่แหละ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขานิมนต์อาตมา

ไป เลยถามโยมเขาว่า..เป็นอะไรตายล่ะ..เขาตอบว่า..ผมไม่

อยากพูดเลยหลวงพ่อ มอเตอร์ไซด์พามันตาย ซิ่งไปแหกโค้ง

ครับหลวงพ่อ..อ๋อ..โรคฮอนด้า ยามาฮ่า นี่เอง โรคนี้ก็ตาย

บ่อยนะ อาตมาว่า แต่พอตอนอ่านประวัติ บอกว่า..เป็น

เด็กดี ชอบไปโรงเรียน อยู่ในคําสั่งสอนของพ่อแม่ อาตมา

ก็ฟังดูนะว่า เขาจะว่าต่อไปตรงๆ หรือเปล่า พออ่านมาถึง

ตอนตายเขาว่า..วันหนึ่งกลับจากโรงเรียน เลยเกิดอุบัติเหตุ

อาตมาคิดในใจ น่าจะอ่านตรงๆ ว่า..วันหนึ่งกินเหล้าเมา

แล้วขับรถไม่ไปตามทาง เลยแหกโค้งตาย..

Page 45: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

45

นี้แหละไม่รักษาศีลข้อสุราเมระยะฯ มันก็เลยเป็น

อย่างนี้ ซึ่งบางทีเจ้าภาพงานศพ ก็เอาแต่บางส่วนออกมาว่า

เช่น เป็นเด็กดี เป็นคนดี ขยันขันแข็ง แต่จริงๆ แล้วขี้เกียจ

จะตายไป เขาว่า แต่เขาก็อ่านไปงั้นๆ แกล้งยกยอผู้ตาย

บางทีกินเหล้ามากจนตายก็มี ก็มาอ่านประวัติที่วัดว่า..เป็น

คนดี อุปัฏฐาก อุปถัมภ์ วัดวาพระศาสนา แต่ที่ไหนได้พระ

ที่วัดได้เห็น ก็ตอนเขาตายนี่แหละ แต่ก่อน “วัดไม่เข้าพระเจ้า

ไม่นบ” แล้วทําเป็นอ่านประวัติซะดิบดี

อาตมาว่า ทางที่ดี อย่าไปอ่านประวัติโกหกกันเลย ก็

เห็นๆ กันอยู่ใครเป็นยังไง ที่วัดของอาตมาก็เห็นเลิกไปหลาย

ศพแล้วนะ เห็นทําอยู่แต่มอบเงินให้ที่นั่นที่นี่ แล้วก็บอก

ว่าป่วยตาย แล้วก็แล้วไป เพราะอาตมาบอกว่า ใครกินกิน

เหล้ามากก็ให้ว่า.. ท่านกินเหล้าเก่ง ใครบอกใครเตือนก็ไม่ฟัง

สุดท้ายจึงเป็นโรคตับแข็งตาย อาตมาว่า ให้อ่านอย่างนี้ไปจน

จบ เดี๋ยวนี้เลยไม่มีใครอยากอ่าน อาตมาก็พูดทีเล่น ทีจริง ไป

Page 46: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

46

กับโยมเขางั้นแหละ

บางคนเลยว่า..ผมไม่อยากอ่านเลยอายคนเขาครับ

นั่นเห็นไหมบางคนเขารู้จักคิด ถ้าเป็นพวกเราที่มาปฏิบัติ

ธรรมอยู่นี่ จึงจะน่าอ่านกันหน่อย เช่นว่า ..เวลาปฏิบัติธรรม

จําศีล ท่านก็ได้มาตั้ง ๓ วัน วันศีลวันพระท่านก็ไปประจํา

อยู่ที่บ้านก็ช่วยพ่อแม่ เป็นคนดีมีนิสัยดี ควรถือเอาเป็น

ตัวอย่าง เอาไว้เป็นประวัติ อ่านตอนตายก็ได้นะ พวกเราก็

เอาดีๆนะ รักษาศีลข้อสุราบ้าง อย่าเอาแต่กินเหล้ากินเบียร์

นะพี่น้องเรา เพราะว่าถ้าใครไม่รักษาศีลข้อนี้ ตายไปยมบาล

ท่านย่อมลงโทษ โดยการต้มทองแดงจนละลาย แล้วท่านก็

จะตักมา กรอกปากสัตว์นรกพวกนี้ พร้อมกับสอนว่า..ตอน

เกิดเป็นมนุษย์นั้นทําไม มึงถึงชอบกินแต่ของมึนของเมา

ทําไมมึงไม่รู้จักของดีของชั่ว กินแล้วมึงก็ทําความเดือดร้อน

ให้กับตัวเอง ทําความเดือดร้อนให้กับคนอื่น เอ้า..กินนํ้า

ทองแดงร้อนๆ นี่แหละ..ท่านว่า พร้อมกับกรอกปากไปด้วย

Page 47: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

47

มันน่ากลัวนะ

แล้วถ้าหากว่าได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นคนใบ้บ้า

เสียจริตผิดมนุษย์ เพราะจิตบ้าๆ ในนรก มันยังเป็นเชื้อติด

มาอยู่ เห็นไหมคนเป็นบ้า เท่อเล่อ ท่าล่า เพราะกรรมเวรมัน

ส่งมา นั่นก็เพราะเราฝึกให้ตัวเองเป็นบ้า ตั้งแต่ชาตินี้ คือเสพ

ของมึนเมา ชาติหน้าเราก็คงจะเป็นบ้าจริงๆ หรอก ใครอยาก

จะเป็นก็ทําเอา ใครไม่อยากเป็นก็ตั้งใจ รักษาศีลข้อนี้นะ

เขาเรียกว่าศีล ๕ ศีลห้าก็จบแค่นี้ แต่ถ้ารักษาศีลห้าข้อนี้ได้

ก็จะได้บุญมากได้อานิสงส์มาก ใครรักษาได้ก็ไปสวรรค์

ถ้ามาเกิดเป็นคน ก็เป็นคนมีปัญญาดี ไม่เป็นคนใบ้บ้า เสียจริต

ผิดมนุษย์ และเป็นผู้เจริญในธรรมทั้งหลายด้วย...

ต่อไปก็จะว่าด้วยศีลอุโบสถคือ ศีล ๘ ของเรานี่

แหละ คือข้อ ๖..วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขา ปะทัง สะ

มาทิยามิ เจตนางดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

คือไม่กินข้าวเย็น ซึ่งเป็นการตัดความโลภ ในการกินออก

Page 48: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

48

กินแค่ครั้งเดียว เราก็มาฝึกมาหัดเอานะ ที่จริงแล้วเรามันโลภ

มันกินมากไป ความอยากมันมากไป เลยมาหัดกินครั้งเดียว

กินอิ่มแล้ว เดี๋ยวก็อยากกินโน่นกินนี่อีก นี่แหละความอยาก

กิน ของมนุษย์มะนาเรา บางคนก็กินเอาเสียจริงๆ นะ เราก็

มาลดความอยากลง ลดกิเลสตัณหาลง คือเป็นคนกินน้อย

นอนน้อย พูดน้อยคือผู้ปฏิบัติ กินมาก พูดมาก นอนมากคือ

คนวิบัติ เรามาปฏิบัติธรรมก็ฝึกกันนะ หัดกินครั้งเดียว แต่

ไม่รู้มีใครแอบกินอะไร อยู่บ้างหรือเปล่า ก็ไม่รู้

บางคนมีนะ แอบเอาขนมซ่อนไว้แต่ตอนเช้า พอจะ

กินก็เหลียวหน้าเหลียวหลัง เข้าในห้องส้วม ทําท่าเหมือน

จะไปถ่ายเบา แต่ที่แท้แอบเข้าไปกินขนมก็มีนะ เขาว่า อยู่

ที่นี่มีหรือเปล่าล่ะ ถ้ามีไหนยกมือขึ้นมาหน่อย จะได้โฆษณา

ให้ หือ..จ้างก็ไม่ยก..อายคน แต่ตอนทําผิดไม่อาย มันก็

แปลกนะ แต่พวกเราก็ทําให้มันได้นะ ไม่ใช่มาจําศีลแค่นี้แล้ว

ยังจะซ่อนอะไรไว้กินอีก ไม่รู้จะโลภกินไปทําไมนะ บางคน

Page 49: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

49

ตักอาหารก็เอาเยอะๆ แต่พอกินไม่หมดก็เหลียวหน้าเหลียว

หลัง คิดหาว่าใครจะช่วยกินล่ะทีนี้ ไม่มีใครช่วยก็ซ่อนไว้ก่อน

แถวๆ นี้แหละ เดี๋ยวก็สงสัยว่า เอ..เดี๋ยวมดจะกินนะ งั้นเรา

เอาก่อนดีกว่า ไม่มีใครเห็นหรอก ก็เลยกินซะเลย ปากก็ปาก

เราหรอก ว่าไปนู่น เลยไม่ได้ศีลเลย ศีลที่สมาทานไว้ก็เสียไป

ด้วย ตักอาหารเราก็ไม่ต้องเอามาก เอาแค่พออิ่มก็พอ มันจะ

เหลือ ไม่ว่าแต่โยมหรอกนะ พระเราก็ด้วย ยิ่งมีสิทธิ์เอาก่อน

ด้วย ไม่รู้อะไรต่อมิอะไรใส่ลงในบาตร ตอนไปฉันเหลือครึ่ง

ต่อครึ่งเลย นี่แหละไปตามใจ ตอนมันหิวไม่ได้หรอก

อาตมาจึงว่า..ฉันให้หมดนะ และห้ามตักอาหาร

มากเกิน ให้รู้จักประมาณบ้าง ใครฉันไม่หมดลงโทษนะที่วัด

อาตมา ใครฉันไม่หมด พรุ่งนี้ฉัน๑ถุง มันจะได้รู้จักประมาณ

ขนาดนั้นยังเหลือ อาตมาถามว่า..ทําไมเหลือ เขาตอบว่า..

คือว่า..เจตนาเอาไว้ให้แมวครับ ตอนไปเทเศษอาหาร ก็ทํา

เป็น ร้อง เมี้ยว..เมี้ยว เรียกแมวมาช่วยว่างั้นเถอะ บ่อยเข้า

Page 50: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

50

ก็เห็นปลาทูเหลือทั้งตัวเลย อาตมาบอกว่า..ไม่ใช่แล้ว นั่น

ของทาน ของญาติโยมเขา เราทําเหลือเยอะ เอาแต่ของดีๆ

มากเกินไป ไม่รู้จักประมาณ ไม่ต้องยกแมวมาอ้าง ให้แต่

เศษอาหารจริงๆ ก็พอ ทําอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องนะ อาตมาว่า หรือ

ว่าตัวเองฉันไม่หมด ทําเป็นแกล้งเอาไว้ให้แมวหรือเปล่า?

เขาก็ตอบอาตมา อึๆ.. อะๆ ว่า..มันก็จริงครับ ผมว่ามัน

จะหมด แต่มันไม่หมดครับ นั่นแหละความโลภในการกินไม่

ธรรมดานะ มันเยอะอยู่เหมือนกันนะ

ท่านว่า..โลโภ ธัมมานัง ปาริปันโถ ความโลภเป็น

อันตรายต่อธรรมทั้งหลาย แล้วญาติโยมผู้มาปฏิบัติธรรม

ของเรา ไม่รู้กินหมดกันหรือเปล่า เราก็ต้องลองปฏิบัติดู

อย่างนี้นะ จะได้เห็นมัน ไอ้ตัวความโลภนี่ ไม่ว่าแต่โยมหรอก

พระก็เป็นเหมือนกันนะ...

หลวงปู่ชา แต่ก่อน ท่านก็สอนพระเหมือนกันนะ

เรื่องนี้ เพราะว่าแต่ก่อน อาหารมีไม่มากหรอก ส่วนข้าวก็

Page 51: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

51

พอได้อยู่หรอก แต่ก็ยังมีฉันเหลือนะ เพราะเอาข้าวไว้ใน

บาตรเยอะ ด้วยคิดว่าเผื่อกับข้าวไม่ค่อยมี จะได้ฉันข้าวเยอะ

ก็คงจะพออยู่ได้ พระท่านคิด แต่คราวนี้ข้าวไม่เหลือถึง

แม่ชี แม่ชีก็ เลยไม่ค่อยอิ่มล่ะทีนี้ พระก็เลยประชุมกัน

หลวงปู่ชา ท่านก็อบรมว่า. “เฮากะอย่าเอาหลาย หลาย เอา

ส่ํานี่” (เราก็ไม่ต้องเอามาก เอาเท่านี้) ว่าแล้วท่านก็ยกมือ

ขึ้นทําท่า เหมือนจะปั้นอะไรสักอย่าง..เอาเท่านี้แหละท่านว่า

อาตมาก็ประมาณที่ท่านทําท่าให้ดู ก็ประมาณเท่าผลมะตูม

นี่แหละ ก็ลองเอามาทําดู มันก็อิ่มพอดีอยู่หรอกนะ แต่ตอน

จะเอาจริงๆ มันอดไม่ได้มันกลัวไม่อิ่ม นี่แหละความโลภใน

การกิน มันก็มีเยอะเหมือนกันนะ

อาตมาก็เอาเท่าที่ท่านปั้นให้ดูนั่นแหละ แต่อีกข้าง

หนึ่งก็ทําให้มันบานๆ ออกไปอีก มันก็เลยปั้น (ข้าว) ใหญ่

เหมือนเดิม นี่แหละความโลภมันก็รุนแรงเหมือนกันนะ

หลวงปู่ชา ท่านก็ว่า..เอ้า..คราวนี้แจกอาหาร ไม่ให้ตักเอง

Page 52: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

52

จะได้ทั่วถึง..แต่มันก็อยากจริงๆ นะแต่ก่อน ตอนที่ผมอยู่กับ

หลวงปู่ชา เพราะมันไม่มีนํ้าอ้อย นํ้าตาลอะไร ฉันครั้งเดียว

ก็ครั้งเดียวจริงๆ พอแจกอาหารเสร็จแล้ว ก็ยังไม่ฉันนะ

หลวงปู่ชา ท่านก็จะคุยกับโยมไปเฉย ตามเรื่องของท่าน เรา

ก็คิดแต่ว่าข้าวในบาตร คงจะโดนนํ้าแกงซึมเข้า เปื่อยแน่ๆ

แล้วจะปั้นเป็นคําได้ยังไง จะฉันยังไง ถ้าเปื่อยลงใส่นํ้าแกง

แล้ว คงฉันไม่อร่อยแน่ๆ เลย

โดยเฉพาะผ้าขาวเพิ่งมาบวช ยังไม่ชินกับการฉัน

ในบาตร เดี๋ยวก็กลัวว่า ปั้นข้าวเหนียวมันจะเปื่อย เวลาโดน

นํ้าแกง ก็จะปั้นเป็นก้อนแน่นๆ ไว้ ชนิดที่ว่าฟาดใส่ต้นเสานี่

คงจะติดหนึบเลยแหละอาตมาว่า แต่ก็แพ้หลวงปู่ชาจนได้

หลวงปู่ท่านเหมือนรู้นะว่า พระเณรผ้าขาวเรา ปั้นข้าวแน่นๆ

ไว้ ท่านให้แจกอาหารเสร็จแล้ว ท่านก็จะคุยกับโยมไปเรื่อยๆ

เราก็เหลียวไปดู ว่าท่านคุยกับโยมเสร็จหรือยัง ท่านก็รู้นะ

แต่ท่านก็คุยไปเรื่อยๆ อีกจนโน่นแหละ..

Page 53: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

53

จนรู้สึกว่าก้อนข้าวเหนียวที่ปั้นไว้ มันเปื่อยออกใส่

น้ําแกงแล้ว นั่นแหละ ก็จะมีพระรูปหนึ่งหรอก ถอนหายใจ

แบบหมดลุ้นว่า เฮ้อ..... .หลวงปู่ชา ท่านสังเกตเห็นอาการ

ท่านก็จะเริ่ม ยะถาวาริวะหา ปูราปาริปูเรนติ สาคะรังฯ

Page 54: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

54

ให้พรไป แล้วจึงเริ่มฉันข้าว หลวงปู่ชา ท่านว่า..เพราะอัตตา

ตัวตนมันออกแล้ว มันคลายความยึดมั่นแล้ว เมื่อก้อนข้าว

เหนียวมันเปื่อยแล้ว ฉันก็คงสักแต่ว่าฉันเท่านั้นแหละ คง

ไม่ติดกับความอร่อยแล้วล่ะ ท่านว่า เราตั้งใจว่าจะฉันให้

อร่อยๆ นี่ หมดรสหมดชาติไปเลย ก็เรามันไม่ได้คิดว่า ฉันลง

ไปในท้องแล้ว มันคงจะเปื่อยรวมกันอยู่ในท้องนั่นแหละ

บางทีหลวงปู่ชาท่านก็ว่า..มันเป็นยังไงเวลาฉันลง

ไปน่ะ ข้าวมันอยู่อีกซีกหนึ่ง แกงอยู่อีกซีกหนึ่ง ส้มตํามัน

อยู่ซีกหนึ่งรึ คําข้าวที่เคี้ยวอยู่ในปากน่ะ ลองคายออกมา

ดูสิ ว่ามันเป็นยังไง.. พวกเราคงจะไม่มีใครคายออกมาดูแน่ๆ

ขืนคายออกมาดูก็คงจะใส่ปากอีกไม่ได้แน่ แม้เราจะคิดว่า

ข้าวคํานี้แหละอร่อยที่สุด ถึงพริกถึงขิง แต่ถ้าคายออกมา

พิจารณา คงจะน่าเกลียดมากเหมือนกัน จะทํายังไงล่ะทีนี้

ก็ลงกระโถนเท่านั้นแหละ คําข้าวคําไหนก็เหมือนๆ กันนั่น

แหละ เรามันหลงติดแค่นิดเดียวเท่านั้นหนอ อาตมาคิดไป

Page 55: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

55

แต่ถ้าโยมไม่เชื่อ ก็ลองเคี้ยวอร่อยๆ แล้ว คายออก

มาใส่ถ้วย ให้คนอื่นลองชิมดูนะ ว่ามันอร่อยไหม จะมีคนเอา

มั้ยล่ะแบบนี้ ในงานปฏิบัติธรรมของเรา คํานี้ล่ะอร่อยจริงๆ

เคี้ยวให้ละเอียดเรียบร้อย แล้วใส่ถ้วยให้ด้วย ก็คงจะไม่มีใคร

เอาหรอกนะ เห็นไหมบางที่เราอาเจียนออกมา เราก็ดูนะ มี

แต่ของอร่อยๆ ที่เรากินเข้าไปทั้งนั้นแหละ แต่จะให้กินเข้าไป

อีก ก็คงจะไม่ได้หรอก นี่แหละท่านว่ามันหลงนะ เราจึงฝึก

จึงหัดเรื่องการกินด้วย เราจึงมาฝึกมาหัดกินข้าวครั้งเดียว

บ้าง มันคงไม่ถึงตายหรอก เราก็ไม่ได้ทํางานหนัก แบกขน

หาบหาม หรือทําไร่ไถนาอะไร มีแต่กินมากแล้วมันอยาก

นอน มันง่วง มาลดมาละมาเลิก วันพระก็มาจําศีล ฝึกกิน

ครั้งเดียว มานั่งสมาธิบําเพ็ญภาวนา กินมากไม่ดีหรอก

คนไม่ได้ทํางานหนัก เดี๋ยวก็หลับเท่านั้นล่ะ ให้มานั่งสมาธิ

ก็ก้มลงๆ เดี๋ยวก็ถึงพื้นพอดีแหละ ก็ไม่รู้จะทํายังไงล่ะทีนี้

เรามาบําเพ็ญภาวนา ก็ต้องกินน้อยหน่อย ตัวมัน

Page 56: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

56

จะได้รู้สึกเบาๆ หน่อย เห็นไหมล่ะพระภิกษุสามเณรเรา ฉัน

ครั้งเดียวก็ยังอยู่ได้พอดี แต่ถ้าคนโลภกินหน่อย ก็คงจะแอบ

กินข้าวเย็นก็มี บางวัดเขาว่า เช้าก็เอน เพลก็นอน เย็นดู

โทรทัศน์ ทําอย่างนี้มันก็กิเลสหลาย เอ้า..เราก็ไม่มีอะไรมาก

หรอก ฝึกละเลิกเรื่องกินข้าวแลง (ข้าวเย็น) แกงร้อน อย่าง

น้อยเราไม่กินข้าวเย็น ทางบ้านก็ประหยัดอีก ตอนกินเราก็

ไม่ได้ตั้งใจ กินเอาความเอร็ดอร่อยอะไร อะไรมันไม่จําเป็น

เราก็ไม่กิน มัวแต่กินของอร่อยของชอบ หวานเกินไป มันเกิน

ไป พอกินเข้าไปมันก็เป็นส่วนเกิน ร่างกายมันเผาผลาญไม่

หมด ก็เลยเป็นโรคไขมัน โรคอ้วน โรคเบาหวาน เพราะเรากิน

หวานเยอะ อย่าว่าแต่มันดีนะ กินเยอะๆ ไป ยิ่งอายุสั้นเข้าไป

อีก บางคนก็ชอบแต่ของมันๆ บอกว่าอร่อย กินเอา กินเอาก็

อ้วน ยังกับกระสอบข้าวสารมัดปาก เลยไม่หล่อ ไม่สวยล่ะ

ทีนี้ ขนาดอาตมายังกลัวอ้วนนะ อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้างก็เลิก มัน

เลยพอดี พระพุทธเจ้าท่านว่า..อีก ๒-๓ คําจะอิ่มให้เลิกฉัน

Page 57: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

57

แล้วฉันนํ้า มันจะพอดี เพราะฉันเพื่อภาวนา มันจะได้ไม่เป็น

ส่วนเกิน ก็คงจะเข้าใจนะ ในเรื่องการฉันในศีลข้อนี้..

ข้อต่อไปก็คือข้อ ๗ นัจจะคีตะวา ทิตะวิสูกะทัสสะ

นะมาลาคันธะวิเล ปะนะธาระณะ มัณฑะนะวิภูสะนัฏฐาน

า เวระมะณี สิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ คือเจตนางดเว้น จาก

การ ขับร้อง ฟ้อนรํา ประโคมดนตรีและดูการละเล่นต่างๆ

และเว้นจากการทัดทรงดอกไม้ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้

ของหอม เครื่องย้อม เครื่องทา ต่างๆ อันเป็นข้าศึกแก่กุศล

คือคนเราก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง คือไปติดกับพวกเพลง พวก

ร้อง พวกรํา อะไรต่างๆ จนถึงพวกหนัง ลิเก ละครอะไรด้วย

ซึ่งท่านว่ามันไม่ประกอบไปด้วยปัญญา มันทําให้เราเสีย

อารมณ์ไปด้วย เช่น เราดูละคร รู้ทั้งรู้ว่าเขาแสดงเอา แต่พอ

เขาแสดงตอนโกรธกัน เราคนดูก็มีใจ มีท่าทางคล้อยตามไป

กับเขาด้วย เวลาเขาแสดงตบตีกัน เราก็ลุ้นไปด้วย เอาๆ..เอา

ให้ชนะ เชียร์กับตัวละครไปอีก ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ทั้งๆ ที่รู้

Page 58: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

58

ว่านั่นเขาแสดงเอา เขาก็ทําตามบท ที่เขาแสดงไปอย่างนั้น

อย่างพวกนักร้อง พวกหมอลํา อะไรนี่ เขาก็ร้องไป พูดไป

เฉยๆ

ยิ่งทุกวันนี้วัตถุยิ่งเจริญขึ้น ไม่รู้ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ ก็

ฟังกัน ดูกัน ทั้งร้องทั้งรํา ก็ว่ากันไป แต่มันไม่ได้สาระแก่นสาร

อะไรนะ สู้ฟังเทศน์ฟังธรรมไม่ได้หรอกนะ เหมือนกับเขาร้อง

เพลงว่า ผิดหวังอย่างนี้ อกหักอย่างนั้น เดี๋ยวก็ว่า อกหักซ้ํา

สองน้ําตานองหน้า เดี๋ยวก็เพลงผู้หญิงว่า ผู้หญิงคนนี้มีหน้า

ที่อกหัก ซึ่งไม่รู้ว่าเขาผิดหวังอะไร อกหักอะไร โหยหวน

ครวญครางว่า โทรหาแหน่เด้อ จําเบอร์ของข่อยได้บ่อ ร้อง

ไปเหมือนกับว่า คิดถึงกันใกล้จะตายก็มี มันเลยวุ่นวายอยู่กับ

ของอย่างนั้น โทรศัพท์เลยไม่ได้อยู่เป็นสุข โทรอยู่ตลอดเวลา

แต่พูดตอนไหน เขาก็ “ไหมปาก”เอาคราวนั้น คือพูดตอน

ไหน เขาก็ให้เสียเงินตอนนั้น ซึ่งแต่ก่อนไม่มีโทรศัพท์ ก็ยังพอ

อยู่ได้ ไม่เห็นเป็นไร แต่ทุกวันนี้ไม่รู้เป็นไง เสียเงินตลอด พูด

Page 59: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

59

อะไรกันก็ต้องเสียเงินเลย ไม่เหมือนแต่ก่อน ต้องพูดผิดใจกัน

จริงๆ เขาจึงจะ “ปรับไหมใส่โทษ”กัน ให้เสียเงิน เขาเรียกว่า

“ไหมปาก” คือมึงว่าให้กู ก็ต้องเอาขึ้นไปคุยบนบ้านผู้ใหญ่

บ้านโน่น ถึงจะเสียเงิน

ทุกวันนี้เขาไม่ได้เอาขึ้นบ้านผู้ใหญ่บ้าน มันอยู่ใน

กระเป๋าเรานี่แหละ เดี๋ยวกริ๊ง เดี๋ยวกริ๊ง ถ้าพูดด้วยก็คือเสีย

เงินนะ ถามกันว่า เป็นยังไงเดือนนี้เติมเงินโทรศัพท์ บางคน

ว่า..โอย..หมดตั้ง ๔๐๐-๕๐๐ บาท นั้นแหละโดนเขาไหมปาก

เอา โดยเฉพาะวัยรุ่นนะ โทรหากันบ่อยๆ ยิ่งเสียเงินค่าไหม

ปากดี รายได้ก็ไม่มี มันก็ทุกข์เท่านั้นแหละ พ่อแม่ไม่ได้อยู่

เป็นสุขหรอก มีพ่อแม่บางคนไปหาอาตมา บอกว่า..หลวงพ่อ

ลูกหลานทุกวันนี้มันก็โหดเหลือเกิน ให้เงินไปซื้ออาหารการ

กินก็ยังไม่พอ มันยังขอเงินเติมโทรศัพท์อีก คนเป็นพ่อเป็น

แม่รับภาระใกล้จะตายแล้วล่ะ..ข้าน้อยฯ เลยทุกข์หลาย กะ

เลยไปหาแหย่ไข่มดแดงมาขาย หาเงินให้ลูกเติมเงินโทรศัพท์

Page 60: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

60

อาตมาว่า ..ถ้าลําบากขนาดนั้นจะให้มันทําไม เขาว่า..ไม่ให้

ก็ไม่ได้หรอก มันขอไม่แล้วไม่เลิกอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ใครโทร

มาหามัน กริ๊งเอา กริ๊งเอา ไม่รู้ว่ารับโทรศัพท์น่ะ มันอิ่มหรือ

เปล่า.. พ่อแม่คนไปหาแหย่ไข่มดแดงนี้ กว่าจะได้ขาย มัน

ลําบากนะ เดี๋ยวนี้ก็ยิ่งหายากกว่าแต่ก่อนอีก มันก็น่าสงสาร

พ่อแม่เหมือนกันนะ หาไข่มดแดงขาย ให้ลูกเติมเงินโทรศัพท์

นี่ ก็ไม่รู้ถ้ามันไม่ได้พูดโทรศัพท์นี่มันจะตายมั้ย

นี่แหละเขาเรียกว่าเป็นการพูดเพ้อเจ้อ แต่ถ้า

เป็นการพูดคุยเป็นธุรกิจ เป็นการเป็นงานก็ไม่ว่าหรอกนะ

แต่มันไม่อย่างนั้นหรอก บางคนก็โทรถามกันแค่ว่า กินข้าว

กับอะไร กินต้มกินแกงก็กินเผื่อบ้างนะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะไปพูด

ให้เสียเงินทําไม อยู่เฉยๆ ไม่ดีกว่าหรืออาตมาว่า แต่ก็ว่าไป

งั้นแหละ

และการขับร้องประโคมดนตรีอันเป็นข้าศึกแก่กุศล

มันไม่มีปัญญา เราก็อย่าไปดู ไปฟังมากนัก ทําอย่างวันนี้

Page 61: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

61

แหละ มาปฏิบัติธรรมอันเป็นกุศล ลองเอาหมอลําซิ่งมาเปิด

ดูสิ แม่ออกเราจะอยู่ยังไงกัน เดี๋ยวก็กระตุกเส้นวาแขนใส่

กัน หรือเปล่าก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ หั่นนั่นเด๋อ..หั่นนั่นเด๋อ.เด้อหั่น

เด่อ..พ่อออกเราก็คงเหมือนกัน เดี๋ยวก็ไป เฮ้ย.เฮ้ย..กับเขา

แหละ เดี๋ยวก็ว่าชุดขาวก็ชุดขาวล่ะเว้ย ได้ทั้งศีลได้ทั้งม่วนล่ะ

วันนี้ จนบางทีได้ตีกันก็มีนะ จะตีกันก็เพราะม่วนนี่แหละ ก็

ม่วนตามลําซิ่งเขาร้องนั่นแหละ เดี๋ยวก็เหยียบตีนกัน อ้าว..

เหยียบตีนกูรึ! ก็เลย ได้ตีกันเพราะลําซิ่งนี่แหละ มันก็เป็นไป

เรื่อยแหละ เรื่องขับร้อง ฟ้อนรํา ประโคมดนตรีนี่ ซึ่งก็ไม่ได้

ประโยชน์อย่างนี้แหละ

ฟังหมอลํา ฟังเพลงก็งั้นๆ แหละ สู้ฟังเทศน์ไม่ได้

หรอก ถึงจะไม่สนุกสนาน แต่มันก็ได้ปัญญา บางคนเขาก็

ชอบนะฟังเทศน์ เพราะเขาชอบในศีลในธรรม แต่บางคน

ก็ไม่ชอบก็มี เพราะว่าพระเทศน์ขัดใจ ห้ามไม่ให้ทําชั่ว ซึ่ง

ขัดใจตัวเองเลยไม่ชอบ อย่างนี้ก็มี อยากให้พระพูดแต่ในสิ่ง

Page 62: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

62

ที่ถูกกับใจของตัวเอง เดี๋ยวก็ว่าอย่าให้ท่านเทศน์ แต่เรื่อง

ศีล๕นัก เพราะมันผิดกับตัวเองหมดทุกข้อ เลยไม่ชอบ คน

ปึกๆ หนาๆ อย่างนี้ก็มีนะ อาตมาก็ไม่เคยเจอคนปึกๆ หนาๆ

อย่างนี้ คนเขาฉลาดเขาก็ว่าดี มีคติเตือนใจ นี่แหละฟังเทศน์

ฟังธรรม มันดีกว่าการฟังการขับร้อง ประโคมดนตรี มันเป็น

ข้าศึกแก่กุศล เราก็อย่าไปฟังกันหลายเด้อแม่ออกเรา ให้

รู้จักสงบระงับ ให้หมั่นตรวจดูตัวเอง ตัวเรานี้มันดีหรือมันชั่ว

หนอ ในแต่ละวันก็ให้ตรวจดูตัวเอง ว่าเรานี้ได้ทําผิดทางกาย

ทางวาจา หรือไม่ ถ้ารู้ว่าผิดแล้ว เราก็เปลี่ยนนิสัยใจคอใหม่

เปลี่ยนกายเปลี่ยนวาจาใหม่ เปลี่ยนนิสัยใจคอใหม่ ให้มัน

ถูกต้องเสีย

ส่วนข้อต่อมาว่า มาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะ

มัณฑะณะวิภูสะนัฏฐานาเวระมะณีฯ คือ เมื่อเราเว้นจาก

การดูการละเล่น การขับร้องฟ้อนรําแล้ว เราก็อย่าไปหลง

การประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้หรือของหอมและเครื่องย้อม

Page 63: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

63

เครื่องทาต่างๆ จนเกินไป เพราะมันเป็นกามชนิดหนึ่ง เรา

มาปฏิบัติธรรมอย่างวันนี้ ก็คงไม่มีหรอกการแต่งเนื้อ แต่ง

ตัว เพราะบางคนก็เสียเงิน เสียเวลากับสิ่งเหล่านี้มาก คือ

มันตกแต่งร่างกายจนเกินไป ท่านว่า..คนจะงาม งามนิสัยใช่

ใบหน้า นิสัยใจคอไม่ตกแต่ง ไปตกแต่งเอาแต่ใบหน้า คนจะ

สวยก็สวยจรรยามารยาท ไม่ใช่ว่าจะไปตกแต่งตาให้หวาน

แหว๋วอะไรหรอก คนจะแก่ แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวย

รวยสินทานใช่บ้านโต คําว่าแต่งตัวนี้ ให้รู้จักแต่งกาย แต่ง

วาจา แต่งใจ มันถึงจะถูก บางคนตกแต่งแต่ภายนอก แต่งแต่

หน้าตา ใช้แต่เครื่องแต่งตัว กะว่าจะเอาแต่สวย แต่งามอย่าง

เดียว

แต่สุดท้ายมันก็เป็นทุกข์เหมือนเดิมนะ ท่านถึงว่า ให้

มาแต่งกาย แต่งวาจา แต่งใจ คือกายมันยังทําบาปอยู่ เราก็

เลิกเสีย วาจามันยังพูดคําหยาบ พูดเพ้อเจ้ออยู่ เราก็เลิก แต่ง

ใจเราถ้าใจเรายังไม่ดี เราก็มาแต่งให้ใจดี นี่แหละท่านจึงจะว่า

Page 64: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

64

แต่งตัวเองจริงๆ บางคนก็จนลืมสร้างนํ้าทําบุญ มีแต่แต่งตัว

อยู่บ้าน พอเรามาปฏิบัติธรรมอย่างนี้ ก็เลยไม่แต่งอะไร ใส่

ชุดธรรมดา ชุดขาวๆ มันงามนะ งามศีล งามธรรมด้วย คนมี

ศีลมีธรรมมันก็งาม อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย ผู้หญิงเราแม้จะ

แต่งตัวสวยยังไงก็ตาม แต่ถ้าไม่มีศีลแล้ว ก็สิ้นสวยจริงๆ นะ

ไม่ใช่แต่งตัวสวยๆ แต่ด่าคนอื่นยังกับอ่านข่าว ใครๆ เขาก็ว่า

ไม่งามหรอก ไปกินเหล้าบ้าง ไปกินเบียร์บ้าง ยิ่งไม่น่าดูนะ

อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี

ผู้ชายเราไม่มีศีลก็เสียศักดิ์ศรีนะ เขาก็ด่าเหมือนกันนะ เช่น

ไปกินเหล้าเมาหยําเปอยู่ เขาก็ไม่นับถือนะ มีแต่เขาจะเอา

ขี้ใส่หน้าเช่น บักขี้เหล้า บักขี้คร้าน บักขี้หมูขี้หมา ขี้เป็ดขี้

ไก่อะไร เขาก็ใส่ให้หมดแหละ เพราะมันสิ้นศักดิ์ศรี นี่แหละ

บุรุษไม่มีศีลก็สิ้นศรี เป็นนักบวชไม่มีศีลก็สิ้นดี เป็นนักบวช

ก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีศีลก็สิ้นความดีเหมือนกัน ลองพระภิกษุ

เรา เอาเหล้ามากินในวัดดู ฟ้อนเกี้ยวกันอยู่ ก็คงจะสิ้นความดี

Page 65: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

65

แน่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองทําดู หมดอาสน์สงฆ์เรานี้ ก็คงจะสิ้นความ

ดีกันหมดแน่ๆ ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม เป็นข้าราชการ

ถ้าไม่มีศีล มันก็จะทําได้หมดทุกอย่าง คือเป็นข้าราชการมัน

ทุจริตได้หลายอย่าง ทําโครงการอะไรก็ไม่ได้คุณภาพหรอก

นี่แหละศีลมันจึงดี ให้ดูศีลเราอย่าไปดูอย่างอื่น ให้ดูในกาย

วาจา ใจของเรา และถ้าใครทําได้อย่างนี้ มันใจดี มันไม่มี

ความกังวล คือความกังวลมันไม่มาก เข้าใจหรือเปล่าล่ะที่

Page 66: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

66

พูดน่ะ บางคนไม่สนใจศีลธรรมหรอก ส่องกระจกแต่งตัวอยู่

นั่นแหละ

แต่คนจะงามมันต้องครบ ๔ ย คือ ๑. ย.ยิ้มแย้ม

แจ่มใส ๒. ย. ยินยอม ๓. ย. ยืดหยุ่น ๔. ย. เยือกเย็น ย.ที่ ๑

คือ ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี ถ้าเรารู้จักยิ้มแย้มแจ่มใสนี้ จะ

งามเลยนะ ถึงแม้ว่าคนนั้นจะอายุมากแล้วก็ตาม หรือเป็น

หนุ่ม เป็นสาว ก็ตาม ถ้ามีหน้าตาร่าเริงแจ่มใสแล้ว ก็จะน่า

ดูน่าชม แต่ถ้าหน้าบูดบึ้ง ยังกะหน้าเหม็นตด คงจะไม่เข้าท่า

หรอก นี่แหละ ย. ที่ ๑ คือ ยิ้มแย้มแจ่มใส

ย. ที่ ๒ เขาเรียกว่ารู้จักยอม คือให้รู้จักยอมคนบ้าง

เข้าใจหรือเปล่าล่ะ เช่นถ้าหากว่าเรา ได้ทําพลั้งผิด ก็ให้รู้จัก

ยอมขอโทษ ขออภัยบ้าง ขอโทษครับ ขออภัยครับ นี่แหละ

คือรู้จักยอม ถ้าคนไม่รู้จักยอม มันน่าชัง น่ารังเกลียดนะ

ใครว่าอะไรก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกดีก็ไม่เอา ภาษาบ้านเรา

เรียกว่า “เป็นตาซังที่สุด” คือคนไม่รู้จักยอมนี่แหละ ใคร

Page 67: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

67

อยากจะสวยจริงๆก็อย่าลืม ยิ้มแย้มแจ่มใสและรู้จักยอม ให้

รู้จักยอมคน บางคนไม่รู้จักยอมคนนะ มันเอาแต่ใจมัน ใครว่า

อะไรก็ไม่ได้ มีแต่ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันเป็นซะ

อย่างนั้น ถ้าเราผิดก็ให้รู้จักยอม ขอโทษ ขออภัยด้วยนี่แหละ

ย. ที่ ๒

ย. ที่ ๓ เขาเรียกว่ายืดหยุ่น คือว่าเราจะไม่เอาแต่ใจ

ตัวเอง ให้อภัยแก่กันและกันได้ เช่นว่า ใครอาจจะช้า อาจจะ

ไม่ตรงเวลาบ้าง ก็ไม่เป็นไร เช่น แม่ออกเราหิวข้าว แต่อาหาร

มาช้าหน่อย เพราะบางทีเขาอาจจะมาสาย เราก็ไม่บ่น ว่าช้า

ว่านาน ให้รู้จักยืดหยุ่น ให้คิดว่าเป็นธรรมดา คนหลายคนเรา

จะมาเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้ พระเราก็เหมือนกันนะ บางวัดแม่

ออกมาจังหันสายหน่อย ก็ตาเขียวใส่ หาว่าเขามาสาย เคย

มา๒โมงเช้า ทําไมวันนี้สายกว่าเดิม ไม่รู้เกลียดอะไรเราหรือ

เปล่า พระก็บ่นไป แม่ออกเขาล่ะยุ่งยาก กิจการ งานบ้าน

งานเรือนเขาอยู่ ก็ไม่คิด

Page 68: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

68

เอ้า..พระเราก็ให้รู้จักยืดหยุ่นเหมือนกันนะ หรือรถ

มารับไม่ตรงเวลา เราก็ให้คิดยืดหยุ่นกันไปบ้าง อย่าเอาจริง

เอาจังเกินไป ย.ที่๓ เขาเรียกว่ายืด คือยืดหยุ่นให้เป็น แล้ว

เย็นให้ยาว คือ ย.ที่ ๔ เย็นให้ยาวอย่าเย็นน้อยนิด ให้ใจเย็น

ยาวๆ อย่าใจร้อน ใจร้ายมันเป็นผี ใจดีมันเป็นพระ เราก็มาหัด

เป็นคนใจเย็น อย่าใจร้อน แม้เขาด่าว่าให้ก็ใจเย็น กระทบกับ

อารมณ์ไหน ก็ให้ใจเย็นไว้ ใจเราจึงจะมีกําลัง ไม่เสียสุขภาพ

จิต แม้เขาด่ามาเราก็จะแก้ด้วยการ ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วก็

รู้จักยอม รู้จักยืดหยุ่น รู้จักทําใจให้เย็นอีก เราจะชนะเลย

แหละทีนี้ แม่ออกเราก็ถ้าผัวด่ามา ก็ยิ้มสู้เข้าใส่เลยนะ ถาม

ว่าทําไมถึงด่า ว่าแล้วก็ยิ้มไปด้วยนะ ทําได้หรือเปล่าล่ะ พ่อ

ออกก็เหมือนกันนะ นี่แหละคาถาทําให้งาม คือทําให้ครบ ๔

ย. คือ ๑. ยิ้มแย้มแจ่มใสมั่นใจในการปฏิบัติดี ๒. รู้จักยืดหยุ่น

ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ด้วยอํานาจความโลภ ความโกรธ ความ

หลง รู้จักทําใจให้ได้ ไม่ให้ใจร้อน ยืดหยุ่นได้ ๓. ก็คือให้รู้จัก

Page 69: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

69

อ่อนยอมนะ คือยอมขอโทษขออภัยกัน ๔. ก็คือเย็น คือทําใจ

ให้เย็นให้เป็นนั่นล่ะ เท่านี้ก็งามแล้วล่ะ เอา..จํากันได้หรือ

เปล่าล่ะนี่ ทบทวนให้ฟังแล้วนะ

ศีลข้อต่อไปของเราคือข้อ ๘ อุจจาสะยะนะมะหา

สะยะนะ เวระมะณีสิกขาปะทังสะมาทิยามิ เจตนางดเว้นจาก

การนั่งหรือนอน เหนือที่นั่งที่นอนอันสูงอันใหญ่ เออมีหลาย

ข้อนะ เทศน์ยาวหน่อย ก็คงจะไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะวันนี้

มีแค่กัณฑ์เดียว เอ้า..ฟังได้ก็ฟัง ฟังไม่ได้ก็ฟังนะ อย่าไปไหน

นะ ต้องยืดหยุ่นนะ อาตมาบางทีก็เทศน์ยาวหลายนาทีนะ

บางทีก็เทศน์น้อยไม่กี่นาทีก็มี แต่นี่เห็นว่าไม่มีองค์อื่นเทศน์

ในคืนนี้อาตมาเลยเทศน์เอาตามสบายใจตัวเองหน่อย

ดีนะอาตมาไม่เทศน์ไปคนเดียวจนสว่างเลย เดี๋ยว

จะมีคนพูดว่า..อ้าวท่านเป็นอะไร วันนี้เทศน์ยาว บ้าไปแล้ว

หรือเปล่า หรือหลวงพ่อท่านกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า?...

อยู่ดีๆ เห็นท่านเทศน์ยาวเกินไป หรือบางคนอาจจะพูดว่า

Page 70: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

70

อาตมาลืมฉันยา หรือบางคนว่าถึงกินก็คงลืมเขย่าขวดแน่

เลย ของท่านเลยขึ้น เทศน์ยาวเกือบ๒ชั่วโมงเลย บางคนว่า

ไปอย่างนั้น ก็อาจจะมีเหมือนกันนะ ฮึๆๆๆ เอ้า..ว่าเรื่องศีล

ข้อ อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณีฯ ของเรา

ต่อดีกว่า ศีลข้อนี้ก็คือ ให้นั่งนอนในที่ธรรมดา มันจะได้

ไม่เป็นกิเลส ไม่นั่ง ไม่นอนในที่นอน ที่ยัดด้วยนุ่นและสําลี

นอนธรรมดา ให้มันเป็นธรรมชาติ

พระพุทธเจ้าท่านว่า..ไม่ได้ให้เอาความสุขจาก

การนอน ในเสื่อ ในฟูก ในสําลี มันมีความสุขจนเกินไป

มันเป็นกาม ทําให้เราติดในการนอน มันเลยเป็นการนอน

ตื่นสาย มันไม่อยากลุก พาสวดมนต์ ทําวัตร ก็ไม่อยากทํา

มันอืดอาด ท่านจึงให้นอนแบบธรรมชาติ แบบธุดงค์ ซึ่งปกติ

มันต้องนอนในป่าโน่น มันจึงจะเหมาะกับการมาปฏิบัติธรรม

อันนี้ยังไม่ใช่ป่าหรอก มันเป็นป่าซีเมนต์ ป่าคอนกรีต มันก็

เลยไม่เท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ว่ามันดี ต้องไปนอนในป่าจริงๆ

Page 71: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

71

ที่วัดอาตมาก็ฝึกให้พระ-เณรนอนป่านะ ตอนนี้ที่วัด

จึงลงอยู่ป่า ยังไม่ให้ขึ้นกุฏิ เพราะมันมีสิ่งที่จะมาสอนเยอะ

อาตมาเคยทํามาตั้งแต่ก่อน ก็เลยทํามาเรื่อยๆ วัดป่าค้อเรา

จะลงป่า ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมโน่นแหละ ถึง

จะให้ขึ้นกุฏิ มันก็ม่วนในธาตุในขันธ์ดีนะ มันมีแต่สิ่งที่จะมา

สอนเรา อาจารย์ก็เยอะ ถ้านอนป่าจริงๆ นะ อาจารย์อะไร ก็

อาจารย์มด คือมดดํานี้ก็อาจารย์ผู้หนึ่งล่ะ มดแดงก็อาจารย์

ผู้หนึ่ง ตะขาบก็อาจารย์ผู้หนึ่ง แมงป่องก็อาจารย์ผู้หนึ่ง นั่น

แหละครูบาอาจารย์ ท่านจึงให้นอนป่า เพราะครูบาอาจารย์

ที่จะมาสอนเรามันเยอะ มาปลุกเฉยๆ ก็มี

แต่ก่อนหลวงปู่ชา ท่านสอนว่า..ในป่ามันมีครูบา

อาจารย์เยอะ ที่จะมาสอนธรรมให้เรา..อาตมาก็คิด เอ..ใน

ป่าจะมีครูบาอาจารย์มาจากไหนอีก พออาตมาไปนอนจึง

รู้ จึงได้เข้าใจว่ามีจริงๆ นอนใกล้จะหลับนี่ล่ะ พอดีก็มดง่าม

มา ไม่รู้ว่ามันได้กลิ่นอะไร เดี๋ยวก็กัดเอากัดเอา เราก็ตื่นตา

Page 72: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

72

ใสขึ้นมา แต่ไม่รู้จะสู้กับมันยังไง ได้แต่คิดในใจว่า ถ้าเป็นคน

มากวนล่ะก็ ตาย! แต่เป็นมดตั้งเยอะ จะทํายังไงล่ะ? ก็ต้อง

ยอมล่ะ ไม่รู้จะไปทํายังไง ก็แค่มด หนักๆ เข้าอีก ก็เจ้าหลัง

ลายเป็นปล้องๆ เลื้อยไปเลื้อยมา นี่ล่ะอาจารย์ใหญ่เลยล่ะ

คืองูที่มาเตือนเรา บางทีก็แขกไม่ได้รับเชิญ อาจจะเป็นผีสาง

คางลายโน่นแหละ เดี๋ยวก็มีเสียงเดิน สวบ..สาบ สวบ สาบ

หรือไม่ก็เสียงอะไรต่อมิอะไรอีก หรืออาจจะมีเสียงมาถาม

ว่า..นอนแล้วหรือ ? ถ้านอนป่าจริงๆ อาจจะเจอ

แต่นี่อะไร ไม่มีอะไรหรอก นอนกองกันอยู่ในศาลา

ยังกะลูกหมูน้อย อย่างนี้มันก็ไม่มีผลอะไรหรอกถ้าหากใคร

ไม่เชื่อก็ลองทําดู หน้าแล้งจัดปฏิบัติธรรมให้อยู่ห่างๆ กัน

หน่อยก็ดีนเหมือนอาตมาฝึกพระฝึกเณรที่วัด หน้าแล้งก็ให้

ลงนอนอยู่ในป่า มันดีนะนอนป่า มันไม่ยึดมั่นถือมั่นในที่นอน

มันลุกง่ายตื่นง่าย ถ้านอนในที่นอนดีๆ มันยึดมั่นถือมั่นว่าที่

นอนเรา นอนอยู่ร่มไม้มันไม่ยึดนะ นอนก็นอนเฉยๆ ตื่นก็

Page 73: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

73

ตื่นไปเฉยไม่เสียดายอะไรย้ายไปวันไหนก็ได้ แต่ถ้าทําดีๆ กุฏิ

หลังใหญ่ๆ นี่ก็ไม่อยากลงง่ายๆ นะ

เรามันจะคิดว่า..จะทํายังไงกุฏิมันได้ทําแล้ว ก็ขออยู่

สบายๆ หน่อยเถอะ แต่พอได้นอนวันไหนก็สว่างเอา สว่าง

เอา คือเหมือนกับว่ามันสว่างเร็ว ยังไม่อยากตื่นว่างั้นเถอะ

มันก็เลยกิเลสเยอะ เพราะไม่ได้ภาวนา เลยเป็นคนนอนตื่น

สาย เป็นคนอายทํากิน เป็นคนหมิ่นเงินน้อย เป็นคนคอย

วาสนา คบหาคนชั่ว มันก็เลยไหลลงไปสู่ทางตํ่า นี่แหละ

เพราะยึดมั่นถือมั่นกับที่นอน กับการนอน เอ้า..แม่ออกเรา

ก็มาฝึกกันนะ อย่างวันไหนวันพระ แม้อยู่บ้านก็ไม่ต้องนอน

เสื่อ ไม่ต้องนอนฟูก ให้นอนพื้นเราจริงๆ นี่แหละ เอาสาดปู

ลงหน่อยก็นอนเลย เอาให้เคยชินจะได้นอนภาวนา นี่แหละ

โบราณท่านว่า..ใครอยากเห็นธรรม อยากมีศีลให้

นอนดินนอนป่า เพราะมันจะมีแต่ผู้มาปลุก ให้เราตื่นมา

บําเพ็ญศีล บําเพ็ญธรรม เขาจึงจะเรียกว่าผู้มีศีล ท่านจะเป็น

Page 74: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

74

อย่างนั้น ครูบาอาจารย์ก็ดี พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสรู้ในป่า

แต่ก่อนท่านก็เคยอยู่ในหอปราสาทราชวัง แต่ท่านสละมา

อยู่ป่า นอนป่า ตรัสรู้ก็อยู่ป่า เกิดก็อยู่ป่า ปรินิพพานก็อยู่ป่า

ป่ามันทําให้คนไม่ยึดมั่นถือมั่น ในเสนาสนะ มันเป็นธุดงค์

อย่างผ้าท่านก็ไม่ให้ใช้หลายผืน หัดใช้แค่๓ผืน มันจะได้ไม่

กังวล มีมากก็ต้องยุ่งยากกับมันมาก

อันนี้ก็เป็นการละกิเลส คือความโลภอันหนึ่ง ถ้า

เป็นพระท่านว่า คฤหบดีถวายผ้างามก็อย่าเอา โน่นไปหาผ้า

บังสุกุลอยู่ในป่าโน่น ตรงป่าช้าที่เจ้าของเขาตายแล้ว เขาเอา

พาดไว้ตามศพคนตายโน่นแหละ มาทําเป็นจีวร ตัวนี้แหละจะ

ทําให้เราไม่ยินดีในผ้าห่ม เพียงเพื่อให้กันแดด กันร้อน กันยุง

ไปเฉยๆ ถ้าเป็นบิณฑบาต ก็ไปตามแถวเป็นวัตร ฉันภาชนะ

เดียวเป็นวัตร คือมีอะไรก็เอารวมลงในภาชนะนั้น อาหาร

หวานคาว ก็เอารวมกันแล้วก็กิน มันจะได้ไม่ยึดมั่นถือมั่น

ในเรื่องกิน แม่ออกเรามาปฏิบัติธรรมนี้ กล้าทําหรือเปล่าล่ะ

Page 75: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

75

หรือทําแต่เอาไว้คนละฝั่ง หรือว่ามีถ้วยเล็ก ถ้วยน้อยต่างหาก

หรือเปล่า ของหวานก็เอาใส่รวมกัน กับป่นปลานั่นแหละ แม่

ออกเราถ้าเจอใครทําให้อย่างนี้จะโกรธกันหรือเปล่า บางคน

โกรธทั้งวันไม่หายก็มีนะ แค่เรื่องกินก็ไม่ธรรมดานะ

อาตมาสมัยก่อนก็คิดว่า เอ..มันเป็นกิเลสจริงหรือ

เปล่า หลวงปู่ชาท่านว่า..เอ้า..ใส่ลงในบาตรให้หมด มีอะไรก็

ใส่ลงไป ทั้งของหวาน ของคาวนั่นล่ะ ยังไงก็ต้องกินลงท้อง

อยู่ดีนั่นแหละ.. พอท่านเอาของหวานใส่ลงไปในบาตรให้

ตอนนั้นรู้สึกไม่ชอบเลยจริงๆ ใจมันบอกว่า เอาล่ะ เอาล่ะ

พอ บางคนว่า..ผมขอเอาแต่เนื้อไม่เอานํ้าได้ไหมครับ! ผมไม่

ชอบนํ้าครับ บางคนว่า แต่พอท่านลองเปลี่ยนใส่ถ้วย บ้างก็

ว่า..ของผมนํ้าเยอะๆ ก็ได้ครับ ท่านถามว่า..แต่ก่อนเห็นไม่

ชอบน้ําของหวานไม่ใช่หรือ? เอ่อ..คือว่า มันใส่ถ้วยน่ะครับ

มันก็เลยชอบน้ําครับ นี่แหละกิเลสที่แท้มันอยู่ในถ้วยนี่เอง

แต่ถ้าท่านให้ตักใส่บาตร ก็ตักเอาเนื้อของหวานสัก

Page 76: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

76

หน่อย พอได้วางข้างๆ ภายในบาตรก็พอ เพราะจริงแล้ว

กลัวก็กลัว ว่าน้ําของหวานจะไปผสมกับส้มตํา เพราะถ้าเป็น

อย่างนั้นมันก็หมดอร่อยพอดี แต่ถ้าใส่ถ้วยก็ขอเพิ่มอีกหน่อย

ครับ มันก็เป็นเองมันแหละ นี่แหละเรื่องกิน แม่ออกเราก็หัด

ใส่ภาชนะเดียวนะ หรือภาชนะเดียวแต่มีถุงห้อยตามไปด้วย

ทํายังกับหลานพราหมณ์มาเกิด หัดใส่รวมๆ กันนั่นแหละมัน

จะเป็นอะไร กินลงท้องที่เดียวกันนั่นล่ะ

หรือถ้าเป็นธุดงค์จริงๆ ก็มีข้อต่อไปอีกว่า เอาแต่

อาหารบิณฑบาตมาไม่รับภัตต์ (อาหาร) อื่น ที่มาภายหลัง นี่

ก็ข้อหนึ่งนะ หรืออยู่ป่าก็ รุกขะมูละกังคัง สมาทิยามิ คือการ

สมาทานอยู่ป่าเป็นวัตร อยู่ป่าก็ป่ารกๆ นะ จะได้เป็นธุดงค์

แต่ว่าแม่ออกเรามาปฏิบัติธรรมอย่างนี้ ก็เป็นธุดงค์เบาๆ นะ

ธุดงค์อยู่ศาลาหนีจากบ้านเฉยๆ คงไม่เท่าไหร่หรอก ถ้าได้

เข้าในเต็นท์น้อยแล้วล่ะก็เงียบเชียบเชียวล่ะ มันต้องไปอยู่

ป่ารกๆๆ ไกลๆ กันนู่น..จะได้สวดมนต์ดี คงจะคิดในใจว่า.

Page 77: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

77

“สิบ่อตายบอล่ะกู” นั่นแหละอยู่ป่ามันดี ท่านจึงได้ตรัสรู้

อยู่กุฏิดีๆ มันจะได้ตรัสรู้ง่ายๆ หรือ มันไม่มีครูบาอาจารย์

มาสอน ท่านถึงว่าหัดนอนป่าน่ะดีที่สุด หรือจะอยู่ป่าช้าเลย

ก็ดี โสสาสะนิกังคัง สมาทิยามิ คืออยู่ป่าช้าเป็นวัตร นี่แหละ

ตัวอยู่ป่าช้าเป็นวัตรนี่แหละ อาการหนักนะ เวลาเขาเผาผี

ในป่าช้าอยู่ พระเราก็ไปกางกลดอยู่นะ

แต่ว่าตอนตะวันยังไม่ตกดิน ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ

ไม่มีปัญหาหรอกใจมันว่า ใจมันอุ่นเครื่องไว้ เดินจงกรม

ซ้อมไว้ยังกับมวยจะขึ้นชก นั่นล่ะ ไม่มีปัญหาหรอกใจมันว่า

อีก เห็นแต่กองไฟลุกโหมอยู่ตลอด ใจมันก็จะบอกกับเราว่า

“กลัวอะไรกับแค่เขาเผาศพคนตายเฉยๆ หรอก ดูยังไงก็ไม่

น่ากลัวหรอก” คิดอยู่ในตอนกลางวัน

แต่พอมาถึงตอนตะวันคํ่าลง คํ่าลง ใจมันก็เป็นอีก

อย่างหนึ่งนะ มันจะบอกเราว่า..คงจะถึงเวลาเข้าพักในกลด

แล้วมั้ง? ใจมันว่า เราก็เออ.. ออ.. ไปกับใจแหละทีนี้ เลย

Page 78: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

78

เข้าพักในกลดเหมือนกับใจมันบอก แต่สิ่งที่มันโง่จริงๆ

คือ “โง่กว่าหมานะ” อันนี้แหละอาการหนักเลยแหละ ไอ้

เจ้าหมานี่ก็ไม่รู้มันมาจากไหน ไม่ใช่มันจะกลัวผีนะหมานี่

สงสัยมันจะโง่จนไม่รู้จักผีหรือเปล่าก็ไม่รู้ มันก็จะมาดูรอบๆ

กองไฟ ที่เขาเผาศพ หากินโน่นกินนี่ ไปตามเรื่องของมัน

ทั้งข้าวต้มขนมอะไรที่เขาทิ้งไว้นั่นแหละ

ส่วนเราอยู่ในกลดก็คิดว่า คงจะเป็นวิญญาณคน

ตาย ที่เพิ่งเผาแน่ๆ เลย ถึงแม้ตาจะไม่เห็นหรอกแต่กิเลส

มันว่า ผีมาแล้วแน่ๆ เราก็นึกอยู่ว่าเป็นผีแล้วจะมาทําอะไร

เดินวนไป เวียนมา จนไม่รู้ว่ามันตื่นอะไร ได้ยินเสียงมันเห่า

โฮ่ง.โฮ่ง..โน่นแหละ จึงได้รู้ว่าเป็นหมา ใจมันจึงจะตื่นขึ้นมา

หน่อย..อ้าว.หมาเองหรอกรึ! นึกว่าผี ได้ยินเสียงเดินไปเดิน

มา แหม..เกือบตายไปเหมือนกัน คิดในใจอยากจะฆ้อนฟาด

หมาเหมือนกันนะ ทําให้เรากลัวไปได้..

แต่บางทีก็มีจริงๆ นะแขกไม่ได้รับเชิญมา เขาว่า

Page 79: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

79

บางทีก็มีเสียงเย็นๆ ลอยมาว่า “ ขอ..บุญ..แหน่......” ใคร

ได้ยินข้าล่ะก็ อะไรหดได้หดหมดแหละ เหงื่อไม่รู้มาจากไหน

เปียกทั้งตัวเลยแหละนี่แหละถึงว่า แม่ออกเราขืนไปอยู่ป่าช้า

อย่างนั้น คงอยู่ไม่ได้หรอก แข็งตายพอดี อยู่นี่ก็ลองผีหลอก

จริงๆ พรุ่งนี้คงจะกลับบ้านกันหมดแน่ๆ บางคนคงจะไม่เก็บ

กลด เก็บเต็นท์ ด้วยซํ้า ไปตั้งแต่ตอนกลางคืนก็คงจะมีนะ

ตอนเช้าคงจะคุยกันใหญ่ว่า..ผมก็เจอ.. ฉันก็เจอ ผีจริงๆนะ

คงจะกลัวกว่าที่เขายิงลูกปืนมาอีก แต่อยู่ป่ามันก็ดีอย่างนี้

แหละ โสสาสะนิกังคะ อยู่ป่า หรือ อัพโภกาสิกังคะ อยู่ที่แจ้ง

เป็นวัตร มันเคยอยู่แต่ในร่ม ก็ไปอยู่ที่แจ้งๆ โล่งๆ นะ

อาตมาเคยลองทําดูเหมือนกันนะ อยู่ที่แจ้งเป็นวัตร

มีร่มก็เฉย มีแดดก็เฉย มันก็ไม่ค่อยไหวนะ เดินจงกรมฝ่าแดด

อยู่คนเดียว ก็พูดในใจว่า..เขาทํานายังไม่ได้กางร่มเลย ยังอยู่

ได้ทั้งวัน นี่ตอนยังไม่ได้ทํา มันคุยโม้เอาเสียจริงๆ ตอนทํา

จริงๆตากแดดเข้าหน่อย ก็บ่น..โอย..ตายแน่ๆ เลยเรา กิเลส

Page 80: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

80

อยู่ข้างในนี้เอาไม่อยู่เลย มันจะคอยบอกว่า..เอาล่ะ..เอาล่ะ

ตึงมากไปมันขาดนะ หย่อนมากไปก็ไม่ดีนะ ตากแดดมากๆ

เดี๋ยวจะป่วยนะ ใจมันจะคอยอ้อนวอน ให้เราเลิกอยู่อย่าง

นั้นล่ะ เดี๋ยวใจมันจะคอยบอกอีกว่า..ร้อนก็จริงอยู่ แต่นี่มัน

ร้อนมากเกินไปแล้วนะ กิเลสในใจมันคอยชวนให้เราเลิกอยู่

นั่นล่ะ แต่ถ้าเราไม่ทําตามมัน มันก็หยุดเองมันนั่นแหละ แต่

ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองทําดูนะ การอยู่ที่แจ้งเป็นวัตร คืออยู่ตรงที่

โล่งๆ ไม่มีร่มไม้นะ พระก็พระโยมก็โยมเถอะ ไม่รู้จะอยู่ได้กี่

วัน เดี๋ยวก็ว่าเอาล่ะ..เอาล่ะ.. วันเดียวก็เกือบตาย

แล้วก็ยังมีอีก เนสัชชิ กังคะ ถือการไม่นอนเป็นวัตร

มันอยากนอนก็ไม่นอน อาตมาก็ฝึกพระเณรอยู่นะ ที่วัด

พอถึงวันพระก็จะไม่นอนทั้งคืนเลยจนสว่าง ก็มีบางรูป

เหมือนกันว่า..มันชวนนอนจริงๆ นะหลวงพ่อ เออ..มัน

ชวนนอนยังไงก็อย่านอน อาตมาว่า เดี๋ยวมันก็ตายไปเอง

แหละความง่วงน่ะ ก็เห็นพระเราสู้เหมือนกันนะ สมัยหนุ่มๆ

Page 81: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

81

อาตมาก็ทําเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้แก่แล้ว จะให้ทําเหมือน

หนุ่มๆ คงจะไม่ได้หรอก แต่ถ้าใครทําได้ไม่นอนในคืนวันพระ

นี้ วันใหม่มามันจะมีความสบายใจ ความโลภ โกรธ หลง

ในใจเหมือนกับว่ามันทุเลาเบาบางไป ยังไง ยังงั้น มันมี

ความสุขนะ

แต่ก่อนหลวงปู่ชา ท่านก็เคยพาทํานะ สมัยที่อาตมา

Page 82: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

82

ยังอยู่กับท่าน สมัยนั้นอาตมายังหนุ่มๆ ก็ว่า ไม่นอนก็ไม่นอน

แข่งเลยแหละ อาตมาว่า ก็อยู่ตลอดคืนไปจนบิณฑบาตตอน

เช้า ตอนกลับมาว่าจะง่วงนอนก็ไม่ง่วงนะ ใจดีตลอดวันเลย

ใจดีไปอีกตลอดจนถึงวันพระหน้าโน่นเลยนะ ถ้าเราไม่เคย

ทํานี่ จะไม่ได้ใจดีหรอกนะ เพราะมันได้ขัด ขัดกิเลส ขัดใจ

ตัวเอง ใครว่าอะไรเล็กๆ น้อยๆ นี่ไม่ใส่ใจเลย ขนาดง่วงนอ

นมากๆ เรายังไม่ตามใจมันเลย พออยากสึกขึ้นมาบ้างก็ไม่

สึกนะ คงจะเป็นเพราะเคยอยู่เนสัชชิกหรือเปล่าก็ไม่รู้ คงจะ

มีส่วนเหมือนกันนะ เพราะใจมันได้อดได้ทน อยากสึกก็ไม่

สึก อยากสึกก็ไม่สึก ท่องอยู่อย่างนี้ สุดท้ายเลยไม่ได้สึก อยู่

มาจนทุกวันนี้แหละ คงจะเพราะเคยอดเคยทนอยู่เนสัชชิก

กับครูบาอาจารย์นั่นแหละ แต่คงจะไม่พ้นตายหรอก ถึงวันก็

คงจะบังสุกุลหรอกนะ

วันนี้คงจะเทศน์เยอะหน่อยนะ ปกติก็ไม่เคยเทศน์

ยาวอย่างนี้หรอก “ม่วนอยู่บ่อล่ะ” อาตมาเคยได้ยินเขาว่า

Page 83: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

83

ผู้เทศน์ก็ว่าดีว่าม่วนอยู่หรอก จนนํ้าตาจะออก แต่ผู้ฟังว่า..

เหมือนกับผูกหมาตีก็มีนะ...เหมือนกับเขาว่า หมอลําสมัย

ก่อน เอามือคลุมหูไว้ ลําไปจนนํ้าตาไหล นํ้าตาหลั่ง เขา

เรียกว่า “ลําล่อง” แล้วก็ถามท่านผู้ฟังว่า..เป็นยังไงบ้างครับ

พ่อแม่พี่น้อง ผมคนลําล่องนี้ จนนํ้าตาไหลแล้ว คนฟังเลย

ตอบไปว่า..โอย..เหมือนผูกหมาตี เพราะผูกหมาตีมันไม่ไป

ไหนหรอก มันได้แต่ร้อง เอ๋ง.เอ๋ง....เอ๋ง.เอ๋ง.อยู่นั่นแหละ....

อ้าว..อาตมาก็เทศน์ให้ฟังไปอย่างนั้นล่ะ เพื่อเราจะ

ได้บุญได้กุศล เทศน์ให้เราฟังเราจะได้ดีใจ คนจะใจดีนะถ้า

ได้ยินได้ฟังพระเทศน์ นี่แหละท่านว่า ธัมมัสวะนังมัย บุญ

สําเร็จด้วยการฟังธรรม ฟังแล้วก็นําไปประพฤติปฏิบัติ ใน

เรื่องศีลเรื่องธรรมนั่นล่ะ เอาไปประพฤติปฏิบัติ ด้วยตัวเรา

เองจึงจะได้บุญจริงๆ เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง ก็ประพฤติปฏิบัติ

เอาบุญเอากุศล มันจะได้ติดตามไปถึงโลกหน้า ท่านว่า ธัม

โม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติ

Page 84: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

84

ธรรมเป็นนิจฯ เพื่อ ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ธัมโม สุจินโณ สุขะมา

วะหาติ ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมนําสุขมาให้ตน เราก็จะ

ได้ความสุขความเจริญนะ

เอาล่ะวันนี้อาตมาก็แสดงธรรมมา ก็เห็นสมควรแก่

เวลา ท้ายที่สุดอาตมาก็ขออํานวยอวยพร ให้แก่ญาติโยม

ทั้งหลาย ทุกๆ คน จงหายจากสัพพะเคราะห์ สัพพะโศก

สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะภยันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง และ

จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ

พิพัฒนมงคล ให้สมบูรณ์พูนผลทุกประการเทอญฯ

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล...ฯ

Page 85: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

85

ลิขสิทธิ์

ผลงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทปบันทึกเสียง CD-R,

VCD, DVD, MP-3 และหนังสือธรรมะ หรือ ผลงานอย่าง

อื่นที่เกี่ยวกับ พระอาจารย์บรรจง กมโล ด้วยพระอาจารย์

บรรจง กมโล มีเจตนาหวังให้ทุกท่านที่ได้ชม ได้ฟัง ได้อ่าน

หรือ สัมผัสกับผลงาน ให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่ยินดี

และไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง หากจะนําผลงานต่างๆนั้นไป

ดัดแปลง แก้ไข ตัดทอน หรือทําขึ้นใหม่ในรูปแบบต่างๆ

โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่หากท่านผู้ใดที่มีความประสงค์

จะจัดทําเป็นธรรมทาน

โปรดติดต่อขออนุญาตโดยตรงที่

เจ้�อ�ว�สวัดป่�ค้อเจริญธรรม บ.พืชอุดม

ต.บุเปือย อ.นํ้ายืน จ.อุบลราชธานี 34260

หรือที่ www.watpakor.org

Page 86: คำ อนุโมทน เรื่อง อุโบสถศีล คือ ... · 2014-04-03 · ของ หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม

86

ร�ยน�มผู้ร่วมจัดพิมพ์หนังสือ

๑. แม่สุนทอน คํามุงคุณ พร้อมครอบครัว

๒. พ่อหนูบ่าย แม่แสงทอง ทาจิตร

๓. คุณสโนว์ไวท์ กรุงเทพฯ

๔. แม่สุวภา เฮงสุวรรณ พร้อมครอบครัว

๕. พ่อสมชัย แม่ทองดี โพธิ์แสน พร้อมครอบครัว

๖. พ่อชวาล แม่จูมสี วรเชษฐ์ พร้อมครอบครัว