7
กงานงเสมการาระหางประเทศ กงวเด สปาวเนรายปดา 1-7 พฤศกายน 2557 ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สนนโยบาย ผลิตที่อินเดียยืนยันนำเข้าจากไทย สืบเนื่องจากถ้อยแถลงของนาย นาเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของอินเดียที่ต้องการชักจูงต่างชาติให้ เข้ามาลงทุนในอินเดียเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้โครงการชื่อ ผลิตที่อินเดีย” (Make in India) อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่า ที่ควร ล่าสุด ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปจากประเทศญี่ปุ่น ผู้แทนจาก บริษัท นิคอน, แคนนอน, โอลิมปัส และโซนีไ ด้ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้ามาตั้ง โรงงานผลิตสินค้าของตนที่อินเดีย และจะยังคงใช้วิธีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ของตนจากประเทศที่มีโรงงานผลิต ตั้งอยู่แล้ว ต่อไป แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแก้ไขพิกัดศุลกากรขาเข้าสำหรับสินค้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล คอมแพค (Compact cameras) จากที่เคยได้รับการยกเว้นภาษี มาเป็นการจัดเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 10 ก็ตาม นาย ฮิโรชิ ทากาชินะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท นิคอน อินเดีย ใ ห้สัมภาษณ์ว่า บริษัท นิคอน อินเดีย จะยังคงใช้วิธีนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน และไทย เนื่องจาก ยอดขายของกล้องถ่ายรูปดิจิตอล คอมแพคภายในอินเดียอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านตัว เท่านั้น และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมากไป กว่านีดังนั้นจึงยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญเพียงพอที่จะทำให้ นิคอน เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในอินเดีย เช่นเดียวกับ บริษัท แคนนอน ประเทศอินเดีย โ ดยผู้บริหาร ระดับสูงของ แคนนอน นาย Ashok Baradwaj ได้ออกมาให้ สัมภาษณ์ว่า คนนอนจะตั้งโรงงานผลิตในอินเดียก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น แต่ในขณะนีทางสำนักงานใหญ่ยังไม่มีแผนการณ์จัดตั้งโรงงานดัง กล่าว และ แคนนอน อินเดียจะยังคงนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย เวียดนาม และจีน เข้ามาในประเทศอินเดีย ต่อ ไป Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช

ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

  • Upload
    others

  • View
    2

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลีสรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์1-7 พฤศจิกายน 2557

ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สนนโยบาย “ผลิตที่อินเดีย” ยืนยันนำเข้าจากไทย

สืบเนื่องจากถ้อยแถลงของนาย นาเรนทรา โมดีนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของอินเดียที่ต้องการชักจูงต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในอินเดียเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้โครงการชื่อ “ผลิตที่อินเดีย” (Make in India) อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร

ล่าสุด ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปจากประเทศญี่ปุ่น ผู้แทนจากบริษัท นิคอน, แคนนอน, โอลิมปัส และโซนี่ ไ ด้ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าของตนที่อินเดีย และจะยังคงใช้วิธีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ของตนจากประเทศที่มีโรงงานผลิตตั้งอยู่แล้ว ต่อไป แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแก้ไขพิกัดศุลกากรขาเข้าสำหรับสินค้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอลคอมแพค (Compact cameras) จากที่เคยได้รับการยกเว้นภาษี มาเป็นการจัดเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 10ก็ตาม

นาย ฮิโรชิ ทากาชินะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท นิคอน อินเดีย ใ ห้สัมภาษณ์ว่า บริษัท นิคอนอินเดีย จะยังคงใช้วิธีนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน และไทย เนื่องจาก ยอดขายของกล้องถ่ายรูปดิจิตอลคอมแพคภายในอินเดียอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านตัว เท่านั้น และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมากไปกว่านี้ ดังนั้นจึงยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญเพียงพอที่จะทำให้ นิคอน เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในอินเดีย

เช่นเดียวกับ บริษัท แคนนอน ประเทศอินเดีย โ ดยผู้บริหารระดับสูงของ แคนนอน นาย Ashok Baradwaj ได ้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนนอนจะตั้งโรงงานผลิตในอินเดียก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้นแต่ในขณะนี้ ทางสำนักงานใหญ่ยังไม่มีแผนการณ์จัดตั้งโรงงานดังกล่าว และ

แคนนอน อินเดียจะยังคงนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย เวียดนาม และจีน เข้ามาในประเทศอินเดีย ต่อไป

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 2: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

นาย ทากาชินะ ยังชี้แจงต่อไปว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอดขายของกล้องดิจิตอลคอมแพคปรับตัวลดลงมาโดยตลอด เนื่องมาจากผู้คนนิยมใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือในการถ่ายรูปทั่วไป ดังนั้น ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปจึงต้องการร้องขอให้รัฐบาลอินเดียพิจารณาทบทวนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าร้อยละ 10 ใหม่ และทั้งนี้ นายทากาชินะ ยังติงว่า กล้องถ่ายวีดีโอไม่ควรจะถูกจัดอยู่ในพิกัดภาษีนำเข้าประเภทเดียวกันกับกล้องถ่ายรูปธรรมดา อีกด้วย

ในทางตรงกันข้าม ยอดขายกล้องถ่ายรูประดับมืออาชีพ กลับโตขึ้น สวนทางกับกล้องถ่ายรูปดิจิตอลคอมแพค บริษัท นิคอน ประเทศอินเดีย ประเมินว่า จะสามารถทำยอดขายกล้องถ่ายรูปมืออาชีพได้ประมาณ 2 แสนตัว ภายในปีนี้ โดยคาดว่า จะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 20-30 และมีส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 55 ของยอดขายกล้องถ่ายรูปมืออาชีพรวมทั้งประเทศอินเดีย

…......................................................................

จาก Business Line ฉบับ November 1, 2014. For Japanese camera majors, no 'Make in India', yet.

ธุรกิจรับซื้อทองเก่าบูม ช่วยอินเดียลดปริมาณการนำเข้าทองคำ

อินเดียเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองอยู่ในภาคครัวเรือนมากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โดยประมาณกันว่า ครัวเรือนอินเดียถือครองทองคำอยู่ประมาณ 22,000 ตัน และในทุกๆ ปี จะมีทองประมาณ 100 ตัน หมุนเวียนกลับเข้าสู่ตลาดในลักษณะของการขายทองเก่าเพื่อแลกทองใหม่ หรือแลกซื้อเป็นเครื่องประดับดีไซน ์ใหม ่ ๆ การรีไซเคิลทองคำเช่นนี้กลายเป็นโอกาสทำกำไรของร้านขายเครื่องประดับทองคำ และปัจจุบันกำลังกลาย

เป็นธุรกิจใหม่ที่มีผู้เล่นรายใหญ่ๆ เข้ามาให้ความสนใจมากขึ้น ดังเช่น บริษัท Muthoot Pappachan Group1

และ MMTC ltd.2 บริษัทเทรดดิ้ง ดำเนินงานโดยภาครัฐที่ทำรายได้มากที่สุดในอินเดีย เป็นต้นนาย Keyur Shah ประธานบริหาร Muthoot Pappachan Group (ธุรกิจโลหะมีค่า) กล่าวว่า ใน

ปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการเอาทองเก่ามาขายเพื่อแลกเป็นเงินสดตามร้านทองทั่วๆ ไปนั้น จะโดนหักราคาประมาณร้อยละ 15-20 และร้านทองทั่วไปยังไม่มีการชั่งน้ำหนัก และประเมินคุณภาพทองที่เป็นมาตรฐาน อีกด้วย ทางบริษัท Muthoot เล็งเห็นช่องทางในการทำธุรกิจนี้ จึงตั้งร้านรับซื้อทองที่มีมาตราฐานภายใต้ชื่อ Muthoot Gold Point โดยที่ร้านจะใช้เครื่องมือ และบุคลากรระดับมืออาชีพในกระบวนการวัดคุณภาพ และชั่งน้ำหนักทองคำ ดังนั้น ทางร้านจึงรับประกันได้ว่า ลูกค้าที่นำทองมาขายจะได้รับการตีราคาที่เป็นธรรมมากที่สุด ล่าสุด Muthoot Gold Point เปิดดำเนินการสาขาแรกแล้วที่เมือง โคอิมบาตอร์ รัฐทมิฬณาฑูและ

1บริษัทการเงินรายใหญ่จากรัฐทางใต้ของอินเดีย2บริษัทเทรดดิ้ง ดำเนินงานโดยภาครัฐที่ทำรายได้มากที่สุดในอินเดีย

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 3: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

วางแผนว่าจะสามารถขยายสาขาได้ถึง 20 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 3-4 ปีนี้ในขณะเดียวกัน บริษัท MMTC Ltd ได้ทำการร่วมทนุกับบรษัิท PAMP SA ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์

ด้วยอัตราส่วน 73:27 โดย PAMP SA ได้ทดลองเปิดสถานรับซื้อทองสองแห่งภายในกรุงนิวเดลี เพื่อทำการศึกษาตลาด โดยล่าสุดได้ผลสรุปว่า จะทำการเปิดสถานรับซื้อทองอย่างเป็นทางการภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

นาย Rajesh Khosla กรรมการผู้จัดการ MMTC PAMP กล่าวว่า สำหรับสถานรับซื้อทองที่ทางบริษัทเปิดขึ้นเพื่อทดลองตลาด กระทำการดำเนินธุรกิจรับซื้อทองเก่า โดยคิดค่าดำเนินการเพียงร้อยละ 1.5 ของราคาทองเพียงเท่านั้น และใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในการวัดน้ำหนัก และคุณภาพทองคำ จากนั้นทองคำที่รับซื้อจะถูกส่งไปที่โรงคัดแยกมูลค่า 2 พันล้านรูปี (ประมาณ 1.06 พันล้านบาท) เพื่อนำไปหลอม หรือรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องประดับทองคำภายในประเทศต่อไป

นาย Somasundaram P R ประธาน สภาทองคำโลก (World Gold Council) ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า ในอดีตกลุ่มธนาคารเคยมีแผนการรับจำนำทองคำเพื่อดึงทองคำบางส่วนจากทองคำปริมาณมหาศาลที่คนอินเดียเก็บไว้ โดยเฉพาะทองคำของวัด ซึ่งมีปริมาณมหาศาลเนื่องจากคนอินเดียนิยมนำทองคำไปทำบุญ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะติดข้อกำหนดเรื่องอัตราฝากขั้นต่ำต้องไม่ต่ำกว่า 500 กรัม ซึี่งสูงเกินกว่าความสามารถของคนธรรมดาที่จะหาทองมาฝากเพื่อได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยได้ (เนื่องจากแผนนี้มุ่งเป้าไปที่วัดวาอารามต่างๆ เป็นหลัก) ดังนั้นการที่กลุ่มทุนเริ่มหันมาสนใจธุรกิจค้าขายทองคำนี้จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของทองคำในประเทศมากขึ้นแน่นอน และที่สำคัญที่สุดคือจะช่วยให้อินเดียลดการพึ่งพาการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลให้อินเดียขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account Deficit: CAD) ในระดับสงูมาโดยตลอด

รัฐบาลอินเดียจะได้ประโยชน์จากการรีไซเคิลทองในครั้งนี้ ล่าสุดมูลค่าการนำเข้าทองคำของอินเดียในไตรมาสทีผ่่านมา3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 1.65 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.42 แสนล้านบาท) มาอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.30 แสนล้านบาท) ลดลงคิดเป็นร้อยละ 57.2 เลยทีเดียว จากตัวเลขดังกล่าว ประเมินว่า อินเดียจะลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจาก 2.18 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ7.16 แสนล้านบาท) ลงไปเหลือประมาณ 7.8 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 2.56 แสนล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานี้

นาย Somasundaram กล่าวต่อไปว่า โดยสากลแล้ว ทองคำประมาณร้อยละ 35-40 ของที่ใช้กันอยู่จะถูกนำมารีไซเคิล แต่สำหรับอินเดียอัตราการรีไซเคิลทองคำยังอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8-10 เท่านั้น ดังนั้น อินเดียต้องหาทางเพิ่มอัตราการรีไซเคิลทองคำภายในประเทศ โดยการเพ่ิมช่องทางสำหรับการรีไซเคิลทองดังกล่าว

…......................................................................

จาก mint ฉบับ November 5, 2014. As large firms enter gold recycling business, imports mayfall.

3เมษายน-มิถุนายนDisclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลี

ประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 4: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

Govt cuts import tariff value on gold, silver

The government today slashed import tariff value on gold to USD 391 per 10 grams and silver to USD 551 per kg following weak global price trends.During the last fortnight, the tariff value on imported gold was fixed at USD 401 per 10 grams and on silver at USD 575 per kg.The import tariff value is the base price at which customs duty is determined to

prevent under-invoicing. It is revised on a fortnightly basis taking into account global prices.The decrease in tariff value on imported gold has been notified by the Central Board of Excise and Customs, an official statement said.Gold in New York, which normally sets price trend on the domestic front, fell by 2.3 per cent to USD 1171.60 per ounce and silver by 1.73 per cent to USD 16.18 per ounce in yesterday’s trade.In the national capital, gold prices are ruling at Rs 26,550 per 10 grams, while silver at Rs 36,250 per kg today.Gold is the second largest import item for India after petroleum. Gold import increased for the second straight month to 95 tonnes in September ahead of festival season.The government has imposed several restriction to curb imports to contain current accountdeficit (CAD). Import duty on gold was increased thrice to a record 10 per cent last year and made it mandatory to export 20 per cent of the imported gold.

........................................................................................

ที่มา Press Trust of India ประจำวันที่ November 1, 2014

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 5: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

FDI in construction: Government to issue clarifications soon

After recently liberalising foreign direct investment norms for construction developmentsector, the government is expected to soon come out with some clarifications on the rulesof the policy.

"We will issue clarification on FDI in constructionshortly...it would be out in next 2-3 days," Secretary inthe Department of Industrial Policy and Promotion(DIPP) Amitabh Kant said on the sidelines of IndiaEconomic Summit here.He, however, refused to divulge details. On October 29,the Union Cabinet relaxed rules for FDI in the

construction sector by reducing minimum built-up area as well as capital requirement andeased the exit norms to boost to cash-starved real estate industry.

In view of depleting FDI inflow in construction and real estate sector in last couple of years,the Cabinet decided to reduce the minimum floor area to 20,000 sq mt from the earlier50,000 sq mt. It also brought down the minimum capital requirement to $5 million from$10 million.In case of development of serviced plots, the condition of minimum land of 10 hectareshas been completely removed.It also permitted foreign investors to exit on project completion or 3 years from the date offinal investment subject to the development of trunk infrastructure.The government had said that the relaxation was necessary as FDI inflows in the sector,which witnessed a steady rise during 2006-07 and 2009-10, have started declining.Between April 2000 and August 2014, the construction sector received FDI worth $23.75billion or 10 per cent of the total FDI attracted by India during the period.

........................................................................................

ที่มา Press Trust of India ประจำวันที่ November 6, 2014

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 6: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

India's economy likely to grow 6.4% next year; may be a hair's breadth awayfrom China by 2016: OECD

In yet another endorsement of the new government's policies aimed at reviving the economy, the OECD has bumped up India's growth forecast for next year citing a pickup in investment because of the improved political situation that stems from the Narendra Modi-led BJP having come to power with a substantial majority that will enable it to undertake reforms.

The country could be withinstriking distance of China by2016 in terms of the pace ofgrowth, with that countryforecast to slow in the yearsahead, according to the OECD(Organisation for Economic Co-operation and Development).But that doesn't mean thecentral bank can relent in the

fight against inflation, it said. This runs counter to the demand for interest rate cuts fromcompanies and some government quarters. OECD expects the Indian economy to expand6.4% next year compared with 5.9% estimated less than two months back in its September'14 interim outlook.OECD outlook projects inflation to head lower"GDP will slow in China, but pick up in India and remain sluggish in Brazil and Russia," theParis-based grouping said in the OECD Economic Outlook released on Thursday thatlowered growth targets for the global economy.Since taking charge, the Modi government has unveiled several policy changes such asderegulating diesel prices, linking gas prices to global benchmarks, amendments to labourpolicies, steps to end the 'inspector raj' and cutting red tape for businesses. It's expected tounveil further reform measures in the months ahead. Stock markets have boomed, withthe key indices rising to records on Wednesday. Thursday was a market holiday."Improved business sentiment resulting from reduced political uncertainty, deregulation,and the government commitment to cut red tape should boost growth," OECD said,releasing the forecast ahead of the November15-16 G-20 summit in Brisbane that PM Modi

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้

Page 7: ผู้ผลิตกล้องญี่ปุ่นไม่สน ... · 2014-11-08 · !"กงาน’งเส*มการ-าระห0างประเทศ ณ กง6วเด9

will attend. A detailed forecast will be released on November 25. "Investment will be the main growth engine, after several quarters of subdued growth," it said, adding that the pace of reforms has picked up in India. Growth is projected to rise to 6.6% in 2016 while China will slow to 6.9% by that year. However, for the current year, India's growth forecast has been cut to 5.4% from 5.7% estimated initially. These numbers are not strictly comparable with India's national headline statistics that are compiled on basis of factor cost and follow a April-March fiscal"In India, pickup in growth after the sharp slowdown in 2012-13 will continue despite the tight monetary and fiscal stance," the OECD statement said. The outlook also projects inflation to head lower, but it hasn't backed India Inc's demand for lower interest rates. "The output gap is projected to remain negative, and inflation is expected to continue to drift down as inflations expectations anchor lower," OECD said. "In India, still-high inflation expectations call for a continuation of tight monetary policy stance," it said separately in itspolicy prescription.OECD also called for subsidy reforms. "India needs to continue fiscal consolidation, but should also improve its quality, rebalancing expenditures away from subsidies and toward public investment," it said. The organisation projects the global economy will expand 3.3% in 2014 and recover gradually to 3.7% in 2015 and 3.9% in 2016. "We have yet to achieve abroad-based, sustained global expansion, as investment, credit and international trade remain hesitant," OECD secretarygeneral Angel Gurria said.

........................................................................................

ที่มา By ET Bureau ประจำวันที่ 7 Nov, 2014

Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สานักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้