15
J OYS β10 JULY 2009 จอยส์ นิตยสารเกม การ์ตูน ไลฟ์สไตล์รายเดือน FREE! + เสริมข้อมูลของเอตาเลียอีกนิด / อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะรู้ว่า “ทำาอย่างไรให้โง่” / ช๊อกโกะเนโกะเพิ่มตัวละครใหมวิพากษ์เฮตาเลีย

Joys Magazine volume B10

Embed Size (px)

DESCRIPTION

Joys Magazine volume B10 วิพากษ์เฮตาเลีย ทำไมเฮตาเลียถึงดัง และเราจะจับประวัติศาสตร์มาเล่าเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างนี้ได้อย่างไร

Citation preview

Page 1: Joys Magazine volume B10

Joys β10JULY 2009จอยส์ นิตยสารเกม การ์ตูน ไลฟ์สไตล์รายเดือน

FREE!+ เสริมข้อมูลของเอตาเลียอีกนิด / อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะรู้ว่า “ทำาอย่างไรให้โง่” / ช๊อกโกะเนโกะเพิ่มตัวละครใหม่

วิพากษ์เฮตาเลีย

Page 2: Joys Magazine volume B10

‘เฮตาเลีย’ การ์ตูน 4 ช่องจากญี่ปุ่นอิงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ที่ทำาให้เกิดปรากฏการณ์ความสนใจทางประวัติศาสตร์ในหมู่เด็กวัย

รุ่นที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ผ่านตัวละครที่แทนบุคลิกของแต่ละประเทศ มีการออกแบบที่ดึงดูดใจผู้อ่านโดย

เฉพาะสาว ๆ จนต้องไปหาหนังสือประวัติศาสตร์อ่านเพิ่มเติมหลังจากที่ได้รับชมการ์ตูนเรียบร้อยแล้ว บ้าง

ก็บอกว่าทำาให้จดจำาประวัติศาสตร์และทำาให้สนใจเรียนในชั้นเรียนได้มากขึ้น ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำาให้เกิด

คำาถามตามมาว่าการย่อยประวัติศาสตร์อันยาวนานและเล่มหนาปึ๊กให้คนสามารถเข้าใจได้โดยง่ายนั้นมี

กระบวนการยากง่ายสักเพียงใด การตัดสินใจเลือกใช้วิธีการถ่ายทอดต่าง ๆ นั้นมีหลักเกณฑ์และต้องผ่าน

กระบวนการคิดในขั้นตอนใดบ้าง และการ์ตูนประวัติศาสตร์ที่ไทยเราเขียนถ่ายทอดในแต่ละสำานักพิมพ์จะ

เกิดปรากฏการณ์เหมือนการ์ตูนเรื่อง Hetalia ได้หรือไม่

SCOOP

วิพากษ์เฮตาเลียเรื่่อง: เอกพจน์ พัฒนานารักษ์ ภาพ: ดุลยกฤศวร์ ภาณุเวศย์

นิตยสาร จอยส์403 ซ.พระยาประเสริฐ ถ.ลาดพร้าว 94

แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลางกรุงเทพมหานคร 10130โทรศัพท ์02-539-7078โทรสาร 02-934-4933

ติดต่อโฆษณา 084-082-3342

อีเมลล ์[email protected]

งานชิ้นนี้ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายลิขสิทธิ์ภายใตส้ัญญาอนุญาต ครีเอทีฟคอมมอนส์ รุ่น 3.0

แบบแสดงที่มา - ไม่ใช้เพื่อการค้า - ไม่ดัดแปลง ท่านสามารถดูรายละเอียดข้อสัญญาได้ที่ http://cc.in.th/wiki/by_nc_nd_thai_f

นิตยสารนี้จัดทำาโดย

คณะบุคคล คีย์ ทเวนตี้ไฟว์

บรรณาธิการบริหาร

เอกพจน์ พัฒนานารักษ์บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา

ดล วรทองกองบรรณาธิการ

สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์ธัญนุช อาชวนิยุต

ช่างภาพ

ดุลยกฤศวร์ ภาณุเวศย์กิตติเดช ชิญวรัชญ์

กราฟฟิค

อารัณท์ สุมิทราคอลัมนิสต์

ภูภู่, Gimini, ดิว Galaxy, ปฎิรูป สี่ทืศประเสริฐ

JoysGames Cartoon Lifestyle Magazine

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ต้องขอออกตัวขั้นรุนแรงครับว่า นิตยสารจอยส์จะขอหยุดไป

ตอกตะปูและปรับปรุงโครงสร้างของนิตยสาร และตัวของเว็บไซต์ ซึ่งถ้าใครได้โหลด

เล่มนี้ไปเรียบร้อยแล้วจะพอรู้ครับว่าตอนนี้หน้าเว็บไซต์ของเรายังต้องปรับปรุงขึ้นมา

อีกมหาศาล

ตอนนี้เราเองก็กำาลังพยายามปรับจูนการทำางานต่าง ๆ อยู่ครับ ถามว่าจะกลับมา

เป็นทางการเมื่อไหร่ ตอนนี้นี้ผมยังกำาหนดระยะเวลาอย่างแน่ชัดไม่ได้ครับ แต่แน่นอน

ว่าผมต้องการทำาสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นและกลับมาพร้อมกับสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพราะฉะนั้น

แล้วผมขอประกาศผ่านบท บก. เลยนะครับ สำาหรับใครที่มีความสามารถและต้องการ

ร่วมงานกับจอยส์ก็ติดต่อเข้ามาได้ที่ e-mail : [email protected] ครับ

สำาหรับแฟน ๆ ของ Choconeko ก็ยังติดตามการ์ตูนรายสัปดาห์ได้เหมือนเดิม

ทาง http://choconeko.exteen.com ครับ และนิตยสารจอยส์ทั้ง 10 เล่มของเรา

ก็ยังสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน website http://www.joysmag.com เช่นเคยครับ

และระหว่างนี้ถ้าใครเข้า website ไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงหลาย

ประการขึ้นมาเรื่อย ๆ ฉะนั้นแล้วคอยติดตามดูครับว่าจะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง และถ้า

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการแล้วเราจะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีก

ครั้งหนึ่งครับ

รออีกสักแป๊บ ในวันที่เราถอดคำาว่า Beta ออกจากตัวนิตยสารครับ ^ ^

เอกพจน์ พัฒนานารักษ์บรรณาธิการบริหาร

Tune upEditorial

Pick uP Joys magazine atGalaxy Game Center : เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เดอะมอลล์ บางแค, สยามพารากอน, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, แฟชั่นไอส์แลนด์, SF

เดอะมอลล์ ท่าพระ, เมเจอร์ซินิเพล็กซ์ สำาโรง, ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต, มาบุญครอง, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า

รถไฟใต้ดิน MRT : Metro Corner ทุกสาขา, Manga Holic สถานีอโศก, ร้านคุณเปิ้ล สถานี

พหลโยธิน Cafe Kaldi : มาบุญครอง, เอสพลานาด, เมเจอร์ฮอลลีวูด รามคำาแหง, กรีน เพลซ ถ.

จันทร์ Red Mango : สยามเซ็นเตอร์, สยามสแควร์ ซ.4, เอสพลานาด Ete : สีลมคอมเพล็กซ์,

ถนนข้าวสาร สยามสแควร์: มดดำา, Ozone, Chines Cartoon, Oho Katsu, R Burger, Kin

Ramen, ยามาเนะ ร้านการ์ตูน : Toon Zone เจริญกรุง 60 - เซ็นทรัล พระราม 2 - เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา - ซีคอนสแควร์, มาบุญครอง ชั้น 7, หยิน หยาง ฟอร์จูนทาวน์, B - Book ข้างเมเจอร์

รัชโยธิน, Joybook Cartoon เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ป่าการ์ตูน เดอะมอลล์ บางกะปิ, บุ๊คราม หน้า

ม. รามคำาแหง, Be my shelf วงเวียนใหญ่, Cartoon Mania เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, แสงทองบรรณกิจ

เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, มูลนิธิญี่ปุ่น, จามจุรีสแควร์ : Cake ‘n Berry

..... or download at www.joysmag.com

Page 3: Joys Magazine volume B10

5 Scoopกำาเนิดเฮตาเลีย การ์ตูนเรื่องเฮตาเลีย ผลงานสร้างสรรค์ของ Hidekaz

Himaruya นั้นถือกำาเนิดจากการวาดการ์ตูน 4 ช่องแบบ On-

line ลง Website ตั้งแต่ปี 2003 โดยยึดเอาเหตุการณ์ในช่วง

สงครามโลกมาเป็นท้องเรื่องซึ่งมีการแบ่งฝ่ายของประเทศเป็น

อักษะ อันได้แก่อิตาลีเหนือ เยอรมัน และญี่ปุ่น ส่วนอีกฝ่ายคือ

สัมพันธมิตรซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย

ฝรั่งเศส จีน และได้มีการสร้างสรรค์ตัวละครต่าง ๆ ออกมาเป็น

ตัวแทนแต่ละประเทศ ซึ่งจะยืดถือจากลักษณะ อุปนิสัย และ

เอกลักษณ์โดยรวมของชาติต่าง ๆ เป็นตัวละครนั้น ๆ สำาหรับชื่อ

ของการ์ตูนเรื่องเฮตาเลียนั้นเกิดมาจากการผสมกันของคำา 2 คำา

ได้แก่ Hetare ซึ่งแปลว่า ไร้ประโยชน์ กับ Italia ซึ่งแปลว่าอิตาลี

การ์ตูนเรื่องเฮตาเลียได้ถูกตีพิมพ์ลงจำาหน่ายเป็นหนังสือ

การ์ตูนมาแล้ว 2 เล่มในปี 2008 กลายมาเป็นแอนิเมชั่นจำานวน

26 ตอนและจะมีอีก 26 ตอนที่เปิดให้รับชมผ่านอินเตอร์เนต รวม

ถึงสินค้าต่าง ๆ เช่น Drama CD, การ์ดสะสมในปี 2009 ด้วย

ความที่การ์ตูนเรื่องนี้เกิดมาในยุคที่การสื่อสารของคนที่ชื่นชอบ

การ์ตูนทั่วถึงและเนื้อเรื่องได้พูดถึงแต่ละประเทศเอาไว้อย่าง

สนุกสนาน ดังนั้นเราจึงเห็นการ์ตูนเรื่องเฮตาเลียกระจายความ

นิยมไปสู่ทั่วโลกโดยใช้พลังสำาคัญอย่าง Bittorent เป็นหลัก ซึ่ง

รวมถึงในประเทศไทยที่ทำาให้คนที่ชอบการ์ตูนญี่ปุ่นแต่ละคนหลง

ไหลในชั่วข้ามคืนได้ไม่ยาก

แม้การ์ตูนเรื่องนี้จะมีการประท้วงจากชาวเกาหลีอยู่บ้างใน

เรื่องความไม่เหมาะสมในการพาดพิงบุคลิก ลักษณะนิสัยของชาว

เกาหลี แต่การ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้สร้างสรรค์ตัวละครอย่างเป็นทางการ

มาแล้วมากกว่า 40 ประเทศ และแม้ตัวละครของประเทศไทย ที่

ชื่อว่า “ไทยคุง” จะเป็นเพียงแค่รูปสเก็ตช์ มีการบอกลักษณะและ

อุปนิสัยคร่าว ๆ เท่านั้น แต่ทว่าก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและ

มีการต่อยอดออกไปเป็นการ์ตูน 4 ช่องและแฟนอาร์ตต่าง ๆ ที่

นักอ่านวาดขึ้นมาเองมากมาย สังเกตได้จากจำานวน entry ของ

www.exteen.com ซึ่งเป็นบล๊อคที่มีจำานวนผู้ใช้มากที่สุดของไทย

ที่พูดถึงแล้วไม่ต่ำากว่า 3,500 entry ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่ง

ของการ์ตูนเรื่องนี้ในการต่อยอดของผู้อ่านและสร้างจินตนาการ

ในการผูกเรื่องตัวละครต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศได้อย่างไม่มี

ที่สิ้นสุด และแน่นอน หนีไม่พ้นการคอสเพลย์ตามตัวละครนั้น ๆ

ด้วย

ก็มันชอบนี่นา เมื่อเราได้มานั่งคุยกับแฟน ๆ บางส่วนที่ชื่นชอบและรู้จักเฮ

ตาเลียก็ได้ให้ทัศนคติต่าง ๆ ถึงความชื่นชอบในการ์ตูนเรื่องนี้ สิ่ง

หนึ่งที่หลายคนจะบอกตรงกันนั่นคือชอบตัวละครที่มีเอกลักษณ์

เป็นพิเศษ รวมถึงเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน “การ์ตูนประวัติศาสตร์

ไทยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นในด้านความสมจริง ตัวละครไม่ค่อย

แหวกแนวมาก เดินเนื่องเรื่องตามประวัติศาสตร์ทุกอย่าง แต่

เฮตาเลียนี่ตัวละครจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำาให้รู้สึกว่า

ประวัติศาสตร์ก็น่าสนใจนะ” ธิติพันธุ์ ดิษยเดช หนึ่งในผู้อ่าน

กล่าว และนอกจากผลลัพธ์ทางตรงในการสนใจประวัติศาสตร์

ของนักอ่านแล้ว ผลลัพธ์ทางอ้อมคือการที่คนที่ชื่นชอบและอยาก

ศึกษาประวัติศาสตร์เพิ่มเติมก็จะไปพยายามหาข้อมูลดิบมาอ่าน

เพื่อการศึกษาเพิ่มเติมให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น

ญาดา เชื่ยววณิชกุล ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่แม้จะไม่ได้ตาม

อ่านเอง แต่ก็มีเพื่อนรอบข้างที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ “ก็เห็นชอบ

กันเยอะนะคะ ก็มี เค้าก็อ่านการ์ตูนกัน โหลดอนิเม แล้วก็แต่ง

คอสอะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ เป็นสิบคน ก็ทำาให้เพื่อน ๆ เค้าเข้าใจ

ประวัติศาสตร์มากขึ้นนะคะ รู้ว่าตรงไหนอยู่แถบไหน แต่เดิมเค้า

จะไม่สนใจอะไรเลย แต่พอเล่นอย่างพวกธงชาติเดี๋ยวนี้เค้ารู้หมด

เลยนะคะ เอามาแต่งนิยาย ข้อมูลทุกอย่างเอามาจากของจริงหมด

เลย ส่วนตัวก็รู้สึกว่าคาแรกเตอร์เค้าก็มีเสน่ห์นะคะ อย่างส่วนตัว

ชอบญี่ปุ่นค่ะเพราะคาแรกเตอร์เค้าออกมาน่ารัก แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้

ติดตามมากเท่าไหร่”

นักอ่านอีกคนหนึ่งที่ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจก็คือ

บัณฑัต ตันติจิรมานนท์ “ชอบเนื้อเรื่องทั้งหมดล่ะครับ มันก็เป็น

อะไรที่แหวกแนวที่อยู่ดี ๆ มีคนจับเอาประวัติศาสตร์สงครามโลก

ครั้งที่ 2 มาเป็นตัวละครและมีความสำาคัญทางประวัติศาสตร์

อะไรออกมาเป๊ะเลย ทำาให้เราอยากจะหยิบประวัติศาสตร์มานั่ง

อ่าน แต่เพื่อนนี่บ้ากว่าอีก อย่างเวลาเห็นธงชาติตอนแข่งกีฬาใน

ทีวี พอเห็นธงมาปุ๊บก็จะแบบนั่งคิด อ๊ะ ! อาเหยา (จีน) อาเหยาอยู่

ข้าง ๆ คุณอาเธอร์ (อังกฤษ) ประมาณว่า แกคิดได้ยังไง คือหลาย

ๆ คนก็จะกลายเป็นเซียนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลย คือถามแล้วเค้า

จะรู้หมดเลย”

จากสายตาคนทำาหนัง เมื่อการ์ตูนเรื่องเฮตาเลียเข้ามามีอิทธิพลต่อความชื่น

ชอบของเด็กที่ชอบการ์ตูนมากขนาดนี้ เราจึงอดไม่ได้ที่อยากจะ

สอบถามกับผู้ที่ทำาสื่อบันเทิงทางด้านประวัติศาสตร์ในประเทศไทย

เพื่อถามถึงวิธีการถ่ายทอดประวัติศาสตร์ในมุมมองของพวกเขา

และคิดว่าทำาไมเฮตาเลียถึงเข้ามาครองใจคนได้อย่างรวดเร็ว เรา

จะเริ่มต้นจากคนทำาภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักกันดีอย่าง

บ.พร้อมมิตร ภาพยนตร์ ซึ่งทำาภาพยนตร์ทั้งเรื่องสุริโยไท และ

ตำานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค 1 – 4 ซึ่งเราจะคุยกับ

‘ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล’ (อดัม) ทายาทของ ม.จ. ชาตรีเฉลิม

ยุคล ผู้ควบตำาแหน่งผู้ช่วยผู้กำากับภาพยนตร์เรื่อง ตำานานสมเด็จ

พระนเรศวรมหาราช พร้อมกับการเป็นเจ้าของ fukduk รายการทีวี

บนอินเตอร์เนตทาง http://www.fukduk.tv

นอกจากการทำาภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์

ใน Fukduk เองก็ยังมีรายการถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

ในรูปแบบหนังสั้นชื่อว่ารายการ “โบ ลาน” ร่วมกับ ‘วิศว ทัพพะ

รังสี’ อีกด้วย “เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือในอนาคต ไม่ว่า

เราจะทำาอะไรก็ตามเราจะยึดพื้นฐานที่มาจากในอดีตเสมอ ไม่ว่า

จะเป็นการคิดวิเคราะห์ทุกสิ่งที่เราทำาออกมา เพราะฉะนั้นความ

สนใจในประวัติศาสตร์ก็เพื่อที่จะศึกษาและคาดการณ์ได้ว่าอนาคต

จะเป็นอย่างไร” อดัมได้เล่าว่าเหตุใดเราจึงต้องสนใจประวัติศาสตร์

ซึ่งวิธีการทำางานของรายการ โบ-ลาน นั้นจะมีการเล่าเรื่องราวทาง

ประวัติศาสตร์ต่อกันเป็นตอน ๆ มีการเชื่อมเรื่องต่อกันเป็นเรื่องราว

action และแนวสืบสวน สอบสวน ซึ่งคล้ายกับวิธีการเชื่อมเรื่อง

ของ The Davinci Code หรือ National Treasure

“เมื่อจบตอนนั้น ๆ เราก็จะมีเนื้อเรื่องทิ้งท้ายเพื่อให้เค้า

ได้อยากติดตามว่าจะไปที่ไหนไปทำาอะไรต่อ อย่างเช่นตอนที่ไปดู

สะพานกษัตริย์ศึก ก็จะอยากให้รู้ว่าสะพานมิตรภาพมันเป็นสะพาน

ใหม่แล้ว แต่จริง ๆ ที่เราจะพาไปเราจะพาลึกไปกว่านั้น คือมันมี

สะพานเก่าอยู่อีกสะพานหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไป เราก็จะพาไปดูที่ตรงนั้น

ซึ่งข้างล่างจะเป็นรางรถไฟ เราก็จะให้ตัวละครเล่าเริ่องโลดแล่นไป

ตามทางรถไฟต่าง ๆ ต่อเนื่องกันไป” วิศวได้เล่าถึงแนวทางรายการ

ซึ่งรายการในยุคแรกนั้นจะเป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์แบบ

ธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อมีการปรับปรุงรายการขึ้นมาก็ทำาให้ยอด

ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล

เหมือนกับสิ่งที่ผมเชื่อครับ สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง เขาพูดว่า

ทุก 1 สมการที่เกิดขึ้นทำาให้คนอ่านหนังสือหายไปครึ่งหนึ่ง

Joysmagazine Joysmagazine

Page 4: Joys Magazine volume B10

7 Scoopของผู้สนใจนั้นเป็นรายการลำาดับต้น ๆ และยอดผู้ชมมากขึ้นเป็น

หลายเท่า

“เหมือนกับสิ่งที่ผมเชื่อครับ สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง เขาเขียน

หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The brief history of a time (ประวัติย่อ

ของกาลเวลา) ซึ่งเป็นหนังสือที่มีคนอ่านมากที่สุดในโลกเล่มหนึ่ง

เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เขาเขียนก็เป็นเรื่องที่ทำาให้คนทั่วไปเข้าใจเรื่อง

ของวิทยาศาสตร์ได้โดยง่าย ซึ่งในนั้นมีสมการแค่สมการเดียวคือ

E = MC2 และเขาพูดว่าทุก ๆ 1 สมการที่เกิดขึ้นทำาให้คนอ่าน

หายไปครึ่งหนึ่ง สุดท้ายถ้าเรามีเนื้อหาล้วน ๆ ที่เกี่ยวกับฟิสิกส์

และสมการ คนก็ไม่อ่านเลย ประวัติศาสตร์ก็เหมือนกันครับ ถ้า

เราเป็นเนื้อหา ถ้าเราเป็น Raw + Actual Data แต่เมื่อเราลด

ทอนมันลงมาได้มากเท่าไหร่ คนก็จะรู้สึกว่ามันจะบันเทิงและ

เลือกเสพสื่อนั้น ๆ มากขึ้น” อดัมกล่าวเสริม

ความน่าสนใจในความขัดแย้ง อดัมได้ยกอีกตัวอย่างหนึ่งของการถ่ายทอดประวัติศาสตร์

ในรูปแบบของภาพยนตร์นเรศวรทั้ง 4 ภาคว่าเป็นการหยิบเอา

ประวัติศาสตร์บางส่วนหนึ่ง และใช้วิธีการเทียบบันทึกและเทียบ

ความสำาคัญในส่วนของประวัติศาสตร์นำามาถ่ายทอดว่าอะไร

นั้นสำาคัญที่สุด และถึงให้มาอยู่ในกรอบของเรื่องราว 3 ชั่วโมง

ในหน้าหนัง โดยสิ่งสำาคัญที่ต้องคำานึงก็คือศาสตร์ของความ

บันเทิงนั้น ๆ ว่าจะนำาเสนอใคร แต่สิ่งสำาคัญที่ผู้สร้างต่าง ๆ มัก

จะมองหาคือความขัดแย้งระหว่างตัวละครทั้งภายใน ภายนอก

ทั้งสงคราม และความขัดแย้งภายในจิตใจตัวเอง ซึ่งอดัมก็ได้

เริ่มเปิดการ์ตูนเฮตาเลียในฉากอเมริกากับอังกฤษในฉากระหว่าง

สงครามเพื่ออธิบาย

“พอเราเห็นความขัดแย้ง นั่นก็คือความบันเทิงส่วนหนึ่งใน

ประเภท non-fiction เพราะถ้าไม่มีความขัดแย้ง เพราะถ้ามัน

ไม่มีความขัดแย้งเลยมันจะกลายเป็นสารคดีไป ซึ่งคนก็ไม่ดู คนก็

ต้องการความขัดแย้ง แต่ความขัดแย้งไม่ได้หมายถึงว่าคุณไม่ชอบ

ผม ผมไม่ชอบคุณ ไม่ใช่ negative แบบนั้น แต่เป็นอะไรที่ไม่ลง

รอยกัน อะไรก็แล้วแต่ที่สามารถเอามาเล่าเป็นเรื่องได้ อย่างมารี

อังตัวเน็ตนั้นมีความขัดแย้งในตัวเอง เค้ารู้สึกเหงา เค้ารุ้สึกแย่ แล้ว

จะต้องทำาอย่างไร คล้าย ๆ กับคลีโอพัตรา คนทั้งประเทศเห็นเค้า

เป็นกบฏ ระหว่างที่ตัวเขาเองก็มีความขัดแย้งว่าเค้าทำาเพื่อประเทศ

ชาติหรือเพื่อตัวเอง”

อดัมอธิบายต่อถึงศาสตร์ของการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์

ไว้ว่าจะต้องมีการเกริ่นนำาเนื้อเรื่องว่าเป็นมาอย่างไรบ้าง ถัดมา

เป็นการปูเรื่องว่าเขาต้องการอะไรบ้าง เรื่องมันดำาเนินไปอย่างไร

และสุดท้ายมันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งบางทีอาจจะมีการสลับช่วงตอน

ได้ “อย่างบากินี่จะเริ่มจาก Act 2 ก่อนเลย แล้วค่อยมาพาดพิง

ประเด็นเรื่องตามหาพ่อเพื่อฆ่าพ่อ” และอดัมก็ได้บอกถึงความ

สนใจทางด้านประวัติศาสตร์ที่หลายคนยังอาจจะไม่มองในมุมเหล่า

นี้ “เรากำาลังเข้าใจผิดอะไรหลาย ๆ อย่าง คือส่วนตัวแล้วคนที่เรียน

รุ้ทางด้านประวัติศาสตร์มาจะรู้ว่าประวัติศาสตร์มันเป็นเรื่องน่าตื่น

เต้นมาก ถ้าใครอ่าน Actual Data มาจริง ๆ ประวัติศาสตร์ส่วน

ใหญ่ที่แล้วฟังมา เราเคยคิดภาพตามหรือเปล่าว่ามันบุกล่ากันยังไง

แล้วจะตั้งรับยังไง”

“อย่างสงครามเก้าทัพ ถ้าไปตีเป็นการ์ตูนมันจะมันส์มากเลย

นะ เค้ามีเก้าทัพแล้วเรามีแค่ทัพ สองทัพแล้วไปชนะได้ยังไง มัน

เป็นเรื่องของกลยุทธ์ต่าง ๆ พวกนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องที่มันตายชักอยู่

แล้วด้วยรูปของมันเอง การแก่งแย่งชิงดี การโกง การหักหลังนู่นนี่

หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างก๊อกน้ำามีที่มายังไง เข้ามา

ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ เราตีเป็นภาพออกมั้ยว่าครั้งแรกที่เรา

เปิดก๊อกน้ำาหมุนจึ๊บ โอ้ ! ก๊อกน้ำา ถูกมั้ยครับ นี่คือประวัติศาสตร์

เหมือนกันนะ แต่เราไม่เคยรู้ ปัญหาคือเรามองภาพประวัติศาสตร์

ตั้งแต่แรกว่าคือเรื่องน่าเบื่อ แต่เมื่อเราลองคิดตามตั้งแต่ต้นว่า

เราอยู่ตรงจุดนั้น เราจะทำาอย่างไร นั่นแหละคือความสนุกของ

มัน แล้วถ้าเราสามารถถ่ายทอดความสนุกเอาไว้ให้คนอื่นจะเป็น

อย่างไร ทุกอย่างอยู่ในความสนุกของตัวมันเองอยู่แล้ว แค่เราจับ

ภาพมันตรงนั้นให้ได้”

การ์ตูนประวัติศาสตร์ไทย ถ้าเราจะย้อนมาพูดถึงการ์ตูนประวัติศาสตร์แบบไทย ๆ ที่

ทำามานานหลายปี ค่ายแรกที่เราจะนึกถึงในท้องตลาดก็คือ E.Q.

Plus ที่เริ่มจากการทำาการ์ตูนประวัติศาสตร์ของมหาราชไทย

เป็นรูปเล่ม Pocketbook แบบขาวดำาเป็นการ์ตูนสอดแทรก

หน้าความรู้ในราคา 119 บาท จนกระทั่งขยับมาทำาการ์ตูนที่ให้

ความรู้ในรูปแบบอื่น ๆ และการ์ตูนเพื่อความบันเทิงจนเป็นที่

นิยมของเด็กและเยาวชนไทยทั่วไป ภายใต้แนวคิดของ ‘สุรนิตย์

ชุมสาย ณ อยุธยา’ กรรมการผู้จัดการสำานักพิมพ์ E.Q. Plus

อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Comic Quest, Quest News และ

Comic CX

“ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นทุนอยู่แล้ว อย่าง

สมัยก่อนเราเรียน ครูที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์สนุกก็จะทำาให้เรา

สนใจ เราก็จะสนใจในวีรกรรม วีรบุรุษของคนไทยในสมัยก่อน

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของโลกมันก็มีความน่าสนุก ความน่าสนใจอยู่

เหมือนกัน เหมือนเรื่องเล่า ตำานาน ซึ่งมีการเรียนรู้เกิดขึ้นจาก

การฟังเรื่องเหล่านี้” และเมื่อสำานักพิมพ์ E.Q. Plus เริ่มเปิดเมื่อ

ปี พ.ศ. 2548 กลุ่มเป้าหมายของหนังสือในเริ่มแรกนั้นจะอยู่ที่

กลุ่มประถมศึกษาตอนปลาย และมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นหลัก

ประมาณ 60% ของกลุ่มผู้อ่าน แต่เมื่อสำานักพิมพ์เติบโตขึ้นก็มี

การขยายฐานกลุ่มผู้อ่านไปยังระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก

การที่กลุ่มผู้อ่านแต่เดิมนั้นเติบโตขึ้นไปตามวัยด้วย “ตอนแรกเรา

ก็แปลกใจเหมือนกัน คิดว่าเค้าจะไม่อ่านการ์ตูนความรู้เท่าไหร่

นัก แต่พอเห็นเค้าเดินถืออ่านไปเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ก็รู้สึกดีครับ”

สุรนิตย์เล่าถึงสมัยก่อนที่เขาทำาการ์ตูนไทยแบบเนื้อเรื่อง

ทั่วไปที่จับกลุ่มวัยรุ่นในชื่อ Comic CX แต่ไม่ประสบความสำาเร็จ

เท่าที่ควร จึงมาลองทำาการ์ตูนประวัติศาสตร์ดู “คือทุกคนไม่ได้

อยากอ่านการ์ตูนไทย เค้าอยากอ่านการ์ตูนสนุก ซึ่งการ์ตูนสนุก

เนี่ยญี่ปุ่นเค้ามีระบบการกลั่นกรองการทำางานมาดีเพียงพอ เรา

ก็ว่าทำาอย่างไรถึงจะมีพื้นที่ในการทำาการ์ตูนต่อไปได้ เราก็ว่า

ถ้าเด็กเล็กอ่านอะไรก็ได้ ไม่ได้มีอคติ ไม่ได้มีอะไรมากางกั้นว่า

การ์ตูนญี่ปุ่นต้องเป็นอย่างนี้ การ์ตูนไทยต้องเป็นอย่างนี้“ และ

เมื่อสุรนิตย์มองว่าการ์ตูนเป็นสิ่งที่เข้าถึงเด็กได้ง่าย แต่มีปัญหา

กับผู้ปกครองที่มองสื่อการ์ตูนในแง่ลบและไร้สาระ เขาจึงพลิก

มุมมองใหม่ของการทำาการ์ตูนออกมาวางจำาหน่ายโดยที่เน้นทาง

ด้านความสนุกที่ผสมผสานสาระไปด้วยซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีผู้ใด

จัดทำาขึ้นมา เขาจึงเริ่มต้นจากการทำาการ์ตูนชุดมหาราชไทยเป็น

ครั้งแรก

“พอเราคิดแนวทางว่าเราจะทำาอะไรปั๊บเราก็ใช้เวลาไม่นาน

เพราะเรามีความเชี่ยวชาญด้านการทำาการ์ตูนไทยอยู่แล้ว แต่เรา

ก็ต้องใช้เวลาทางด้านการตลาดค่อนข้างเยอะ ซึ่งมีผลตอบรับดี

อย่างคาดไม่ถึง” โดยเหตุผลของการตั้งราคาหนังสือการ์ตูนความ

รู้ที่ 119 บาท เนื่องจากจำานวนยอดขายการ์ตูนนั้นไม่สามารถสู้

กับการ์ตูนเล่มละ 45 บาทได้ “คือตอนนั้นมันไม่เคยมีกลุ่มคน

อ่านแบบนี้อยู่ในเมืองไทย เราก็ไม่คาดหวังว่ามันจะยอดขาย

ดีเท่า อีกประเด็นคือคุณภาพการจัดพิมพ์ให้เหมาะสมสำาหรับ

กลุ่มเป้าหมาย” สุรนิตย์ยังเล่าต่อถึงความหลากหลายของเรื่อง

คือทุกคนเค้าไม่ได้อยากอ่านการ์ตูนไทย เค้าอยากอ่านการ์ตูนสนุก

สุรนิตย์ ชุมสาย ณ อยุธยา

JoysmagazineJoysmagazine

Page 5: Joys Magazine volume B10

Joys

ที่มีแนวโน้มที่จะผลิตสำาหรับเด็กมากขึ้นเรื่อย ๆ “บางซี่รี่ส์อย่าง

มหากาพย์กู้แผ่นดิน เรามองว่าตัวนี้เรากะจับไปที่เด็ก ม.ปลาย ถึง

มหาวิทยาลัยด้วยซ้ำา หรืออย่างซี่รี่ส์แฟนตาซีใหม่ ๆ อย่าง Soul

Master แต่อย่าลืมว่าเรามี content พวกนี้น้อยอยู่ครับ ตอนแรก

เรากะว่าจะทำาการ์ตูนประวัติศาสตร์สักพักแล้วเราก็กะจะไปทำา

manga แบบที่อยากทำา แต่ตอนนี้มันสนุกและหยุดไม่ได้ เพราะนัก

อ่านมีความคาดหวังไปแล้วครับ”

หัวใจของความสนุก ทุกวันนี้นักวาดที่สังกัดกับทาง E.Q.Plus นั้นมีจำานวนทั้งสิ้น

ประมาณ 30 – 40 คน ซึ่งจะทำาหน้าที่แตกต่างกันไป โดยมีการคัด

เลือกเรื่องที่แตกต่างกันไปโดยยังเน้นถึงความสนุกซึ่งเป็นหัวใจของ

การทำางาน “ถ้ามันสนุก เราก็จะทำา ถ้ามันไม่น่าสนุก เราก็จะไม่ทำา

ข้อหนึ่งที่เรายึดอยู่ก็คือเราคิดวามันสนุกหรือเปล่า มันน่าทำามั้ย แต่

ถ้ามันไม่น่าสนุกก็ต้องมาจุดสนุกของมันให้ได้ ซึ่งสุดท้ายจะขึ้นอยู่

กับคนจัดทำา คนเขียน สตอรี่บอร์ดว่าเราอยากจะจัดทำาแบบไหน

เพราะความสนุกในการเล่าเรื่องมันเป็นกระบวนการทางศิลปะของ

นักเขียนแต่ละคนว่าจะเป็นอย่างไร อย่างเช่นคนที่ถนัดเล่าเรื่อง

ตลก แต่บังคับให้ไปเล่าเรื่องดรามาก็ไม่สามารถที่จะเขียนออกมาได้

เหมือนสนุกก็มีหลายแบบ เหมือนสวยก็มีหลายแบบครับ”

และเมื่อถามถึงการ์ตูนเฮตาเลียในมุมมองของสุรนิตย์ เขาก็ให้

ความเห็นเอาไว้ “ผมรู้สึกว่ามันบ้าดี ตลกดี มันก็เป็นการ์ตูนที่ตลก

ที่ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกอย่างหนึ่งว่า เอ๊ะ คนอ่านจะเข้าใจหรือเปล่า

เพราะว่ามีหลายประเด็นที่มันเข้าใจยาก แน่นอนว่าถ้าจะอ่านให้

สนุกก็ต้องไปหาหนังสือประวัติศาสตร์มาอ่านเพิ่มเติมมันถึงจะสนุก

แต่ถ้าเกิดสมมุติว่าไม่สนใจมันหรือไม่มีภูมิความรู้มากนัก เราก็อาจ

จะแค่สนุกไปกับคาแรกเตอร์ แต่ไม่สนุกกับมุขบางอย่างของเขา”

และเมื่อถามถึงต่อว่าเหตุใดคนที่สนใจถึงไปตามหาข้อมูลต่อ เขาก็

ให้ความเห็นเอาไว้ว่าเป็นประเด็นเรื่องคาแรกเตอร์เป็นหลัก “เขา

สามารถสร้างตัวละครให้ดูน่าสนใจ คืออย่างเช่นอิตาลีก็พยายาม

ใส่ลักษณะของคนอิตาลียุคนั้นใส่ลงไป แต่ผมก็มองว่า เอ๊ะ มันคง

ไม่ตรงหรอก มันคงใกล้เคียงกัน สมมุติว่าถ้าคนอิตาลีมาอ่านจริง ๆ

เค้าจะรู้สึกยังไงนี่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ”

แต่ถ้าเราว่ากันด้วยเชิงคาแรกเตอร์อย่างเดียว ความสำาคัญ

จะไปอยู่ที่ลักษณะของตัวละคร โดยเฉพาะการ์ตูนเรื่องนี้ที่เป็น

ตัวละครชายเกือบทั้งหมด “มันก็ทำาให้คนอ่านส่วนใหญ่ทั้งหมดที่

ชอบน่าจะเป็นผู้หญิง เพราะว่ามันมีตัวละครชายแข็งแกร่ง ชายน่า

รัก ชายซึนเดเระ (หัวเราะ) ก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะชอบเพราะ

มีผู้ชายหนุ่มหน้าตาหล่อ หน้าตาน่ารัก ๆ มาให้ดูหลายคน” เรา

วิเคราะห์กันต่อถึงการตีโจทย์ของผู้วาดที่ทำาให้รู้สึกโดนใจว่าน่า

จะเกิดการยืนพื้นทางด้านประวัติศาสตร์ “คือถ้าให้เราตีโจทย์

เอาก็คงตีโจทย์ไม่เหมือนเค้า แต่มันคงมีความใกล้เคียงบางอย่าง

เราอ่านของเขาก็ต้องมานั่งคิดว่าเขาก็มีวิธีการนำาเสนอทางด้าน

ประวัติศาสตร์เหมือนกันนะ ให้เข้ากับเด็กอีกกลุ่มหนึ่งได้ ให้เด็กผู้

หญิงหันมาสนใจประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลก ผมเดาว่าเค้าคงไม่

ได้คิดจากฐานธุรกิจใด ๆ ทั้งนั้น ผมเดาว่าเค้าคงชอบหรือศึกษาขึ้น

มา ซึ่งมันมีวิธีการคิดที่สดและน่าสนใจ”

ในขณะเดียวกัน สุรนิตย์ก็มองว่าการ์ตูนเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่

อ่อนไหวและเป็นดาบสองคม “บางทีก็ต้องมานั่งคิดนะว่าเหมือน

เราไปเหยียบหางคนชาติอื่นเค้าหรือเปล่า เหมือนดราฟของไทย

ที่มีลักษณะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งเข้ากับยุคสมัยในตอนนั้นนะที่

เรามีทั้งบนดินและใต้ดินซึ่งไปกันคนละทาง แต่จริง ๆ มันมีเหตุผล

รองรับของมัน แต่พอจับเอาตัวละครมารวมอยู่กันเป็นตัวเดียว ซึ่ง

ถ้าโดนมองอย่างนี้ บางคนจะมองว่าทำาไมมองฉันภาพลบจัง อันนี้

แล้วแต่คนจริง ๆ คือบางทีก็ต้องถอดหัวออกไป อย่าไปคิดมาก ผม

คิดว่าถ้าเกิดมันจะป้องกันเรื่องราวเหล่านี้ได้ง่าย คนเขียนก็ต้องใส่

เรื่องราวอธิบายไปนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องยืนยันว่ามันเพื่อความ

สนุกนะ ผมคิดว่าถ้ามองแค่นี้มันก็สนุก แต่ถ้ามองมากกว่านี้มันจะ

เป็นปัญหาทางการเมืองหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ)”

มุมของคนซื้อลิขสิทธิ์ ถ้านึกถึงสำานักพิมพ์อีกเจ้าหนึ่งซึ่งทำาหนังสือเกร็ดความรู้

ประวัติศาสตร์สำาหรับเด็กและเยาวชนมาอย่างเนิ่นนานนับสิบ

ปี สำานักพิมพ์นานมีบุคส์ก็นับอยู่ในข่ายเหล่านี้ และนอกจากการ

ทำาหนังสือเสริมความรู้แนววิทยาศาสตร์แล้ว สำานักพิมพ์ยังหันมา

แปลหนังสือเสริมความรู้ทางประวัติศาสตร์ทั้งประวัติศาสตร์จีน

และประวัติศาสตร์โลกมาจำาหน่ายแก่นักอ่านไทยอยู่หลายเรื่อง ซึ่ง

เราจะพูดคุยกับ 2 บรรณาธิการ ‘ไพราษฏร์ สุสุขเมฆ’ และ ‘สุ

เทพ พรมมงคล’ ในมุมมองของผู้ควบคุมและคัดกรองหนังสือ

ประวัติศาสตร์สำาหรับวัยรุ่นจากต่างประเทศ

“เทียบง่าย ๆ ว่าประวัติศาสตร์เป็นรากของต้นไม้ครับ เวลา

มีวิกฤตอะไร มีพายุแรง ๆ ถ้าเป็นต้นไม้จะไม่หักโค่นได้ง่าย และ

ประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จะช่วยทำาให้มนุษย์พัฒนาตัวเร็วขึ้นและไม่ต้อง

ลองผิดลองถูกครับ” โดยปรกติแล้วกลุ่มคนอ่านของนานมีบุคส์จะมี

ตั้งแต่เด็กเล็กจนกระทั่งวัยผู้ใหญ่ และสำาหรับการ์ตูนประวัติศาสตร์

เทียบง่าย ๆ ว่าประวัติศาสตร์เป็นรากของต้นไม้ครับ เวลามีพายุแรง ๆ มีวิกฤตอะไร ต้นไม้จะไม่หักโค่นลงง่าย ๆ

Joysmagazine

ไพราษฏร์ สุสุขเมฆ / สุเทพ พรมมงคล

Joysmagazine

สำาหรับวัยรุ่นที่เกี่ยวกับทางด้านชนชาตินั้น

มีทั้งหมด 2 ชุดคือ ชุดล่าขุมทรัพย์สุดขอบ

ฟ้่า และชุดประวัติศาสตร์นานาประเทศ โดย

ต้นฉบับนั้นมาจากประเทศเกาหลีใต้ “จริง ๆ

แล้วทางเรานั้นก็มีหนังสือประวัติศาสตร์ออก

มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ โหด มัน

ฮา แล้วก็มาบูมเอาชุดนี้ล่ะครับ”

สำาหรับชุดหนังสือที่ได้รับความนิยมมาก

ที่สุดจากการวางจำาหน่ายก็คือชุดล่าขุมทรัพย์

สุดขอบฟ้า ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากผลตอบรับ

ของผู้อ่านในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

“เด็กที่อ่านส่วนมากจะเป็นประถมปลาย ซึ่ง

ผมว่าเด็กเค้ายังไม่ได้สนใจหรอกครับว่าเป็น

เรื่องของประวัติศาสตร์อิรัก เค้าจะสนว่ามัน

สนุก แล้วก็น่าสนใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง

ของการตามหาสมบัติประเทศต่าง ๆ แต่การ

ค้นหาสมบัตินั้นก็ต้องค้นหาประวัติศาสตร์

หลายประวัติศาสตร์ ซึ่งทำาให้เค้าสนใจ” ซึ่ง

‘อรชร ตั้งวงศ์เจริญ’ Marketing Com-

munications Manager ให้ข้อมูลเสริมว่า

ผู้ปกครองที่เป็นคนจ่ายเงินตัวจริงนั้นพร้อม

ที่จะทุ่มเงินอย่างเต็มที่เพื่อซื้อหนังสือให้

ลูกอ่าน “อย่างสมมุติคุณไพราชไปเปิดตัว

หนังสือใหม่ปุ๊บก็จะถูกห้อมล้อมหนักสุด และ

ทุกคนก็จะมาถามด้วยว่าเล่มต่อไปจะเป็น

อะไร ซึ่งชุดนี้จะเหมือนมีแฟนประจำาที่รอ

รวมถึงเล่มไทยด้วย มีอยู่ปีหนึ่งที่มาขายเองก็มีเด็กรออยู่ จนโทรมา

ถามว่าเมื่อไหร่จะออก” นอกจากนั้นสุเทพยังกล่าวเสริมว่าการ์ตูน

ประวัติศาสตร์นั้นเป็นความลงตัวระหว่างความชอบของเด็กที่

อยากอ่านการ์ตูน และพ่อแม่ที่อยากให้อ่านหนังสือความรู้ ซึ่งส่วน

ใหญ่แล้วกลุ่มผู้ซื้อก็จะเป็นเด็กที่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่

ๆ เช่นเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ฯลฯ

โดยหลักการของการเลือกซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเพื่อมาจัดพิมพ์

จะพิจารณาจากความสนุกของเนื้อเรื่อง อีกส่วนหนึ่งคือเนื้อหา

ความรู้ของแต่ละเล่ม ซึ่งแนวทางของนานมีบุคส์จะเลือกสองสิ่งนี้

ควบคู่กันในการตัดสินใจ รวมถึงวิธีการนำาเสนอต่าง ๆ ที่แตกต่าง

จากเจ้าอื่นในท้องตลาด ส่วนเสริมอื่น ๆ เช่นได้รับรางวัลหรือเป็น

หนังสือขายดีในต่างประเทศ “คืออย่างเค้าเองจะศึกษาข้อมูลที่ลง

ลึกไปถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภาษา ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนอ่าน

สามารถเข้าใจได้ หรืออย่างการเปรียบเทียบวัฒนธรรมของการใช้

ตะเกียบของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อเอามาย่อเป็น 2 ช่องแค่นั้นเอง”

ประวัติศาสตร์ไร้พรมแดน ไพราษฏร์ยอมรับว่าตัวเองนั้นแต่ก่อนไม่ได้สนใจในด้าน

ประวัติศาสตร์ แต่เมื่อได้มาทำางานสื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง

ประวัติศาสตร์ก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างใน “มันเป็น

ศาสตร์ที่จินตนาการสูงมาก อย่างถ้าเราใช้สายตามองศิลาจารึก

ก็จะเห็นเป็นแค่แท่งหินธรรมดา แต่ถ้าเราลองมาดูก็จะมีตั้งแต่

ตัวอักษรนั้นแปลว่าอะไร สื่อความถึงเรื่องราวในอดีตอย่างไร

9 Scoop

Page 6: Joys Magazine volume B10

หลายคนที่อ่าน Scoop เล่มนี้จบแล้วอาจจะสงสัยว่าทำาไมเรามาวิพากษ์การ์ตูนเรื่องเฮตาเลียกันในมุมมอง

นี้ แต่ถ้าเราลองย้อนคิดดูดี ๆ ว่าทำาไมเรารู้สึกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ทำาให้เราจดจำาสิ่งต่าง ๆ และก่อให้เกิดความสนใจ

ของกลุ่มคนเป็นจำานวนมาก คำาตอบสุดท้ายของเรื่องนี้คงอยู่ที่วิธีการนำาเสนอประวัติศาสตร์ในรูปแบบใหม่ ๆ ที่

อาจจะเกิดขึ้นมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ความคิดของคนเรานั้นไม่อยู่กับที่และสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ที่ก่อให้

เกิดงานใหม่ ๆ ได้ และเราก็แอบหวังว่าสักวันคนไทยจะสามารถสร้างงานโดน ๆ ออกมาได้เช่นเดียวกันJoys

สภาพแวดล้อมขณะที่จารึกอยู่เป็นอย่างไร” สุเทพ

ได้กล่าวเสริมอีกว่า “คือบางครั้งที่เราจะรู้สึกว่า

ประวัติศาสตร์ย่อยยากนั้นอาจจะเกิดจากการที่คน

ศึกษาประวัติศาสตร์เพียงผิวเผิน และไปเจอข้อมูล

ทางประวัติศาสตร์ที่มีหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับว่าคน

เขียนประวัติศาสตร์นั้นอยู่ฝ่ายไหน แต่ประวัติศาสตร์

นั้นมีแง่มุมที่น่าสนใจและสามารถปรับใช้กับชีวิต

ประจำาวันได้”

นอกจากนั้นไพราษฏร์ยังมองถึงเรื่องเฮตาเลีย

ที่มีการเขียนขึ้นมาว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จับคาแรก

เตอร์ของแต่ละตัวละคร และเลือกนำาเสนอประเด็น

ได้ดี “คือเราไม่ต้องมานั่งเรียนรู้เลยว่า เอ๊ะ เยอรมัน

นี่เป็นยังไง ญี่ปุ่นนี่เป็นยังไง ถ้าเราอ่านการ์ตูนแล้ว

เนื้่อเรื่องมันดำาเนินไปเราก็จะรู้ด้วยตัวของมันเอง ”

และสุเทพก็ได้เสนออีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ “ผม

นึกถึงเรื่องโลกไร้พรมแดนครับ คือการสื่อสารทุกวัน

นี้สามารถทำาให้คนคุยกันได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการ

สร้างสรรค์งานหรือการ์ตูนอะไรต่าง ๆ ในปัจจุบัน

จะมีความเป็นสากลและความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

คือเราจะเห็นว่าตัวละคร ต่อไปนี้มันจะไม่ได้อยู่แค่

ประเทศนั้น ๆ แล้ว มันมีตัวละครได้ทั้งโลก”

และเมื่อวิเคราะห์ผลงานย้อนกลับในฐานะ

บรรณาธิการ ไพราษฏร์ก็มองในเรื่องของการจับ

ประเด็นและหาข้อมูลได้ดี และการทำาเป็นการ์ตูน

ตลก 4 ช่องก็ทำาให้เนื้อเรื่องนั้นเบาลง “จริง ๆ

ประเด็นของเค้าเป็นพวกฝ่ายอักษะ ความจริงใน

สายตาของพวกเรา พวกนี้คือผู้ร้าย แต่ก็กลายเป็นว่าอิตาลีก็กลาย

เป็นดูติ๊งต๊อง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ได้ความรู้ว่าเหตุการณ์นั้น ๆ

มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” ซึ่งอรชรเสริมความเห็นว่าการที่ญี่ปุ่นเขียนถึง

ตัวเองก็ทำาให้รู้สึกเบาลงและไม่ทำาให้รู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้มากนัก

ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกสิ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการนำาเสนอเพื่อให้น่าสนใจ

“พี่อยากเห็นนักเขียนการ์ตูนไทยว่าเมื่อไหร่จะเขียน

ประวัติศาสตร์โลกแบบนี้บ้าง เขียนสนุกสนาน ง่าย ๆ ว่านานมีก็

อยากพิมพ์ สำานักพิมพ์รออยู่แล้ว แถมไม่ต้องมีคนแปลด้วย คือ

อยากกระตุ้นให้นักเขียนการ์ตูนไทย คือรู้ว่านักเขียนบ้านเรามีฝีมือ

เยอะ แต่การเขียนเรื่องพวกนี้มันก็ต้องมีการทำาการบ้านเยอะ อย่าง

ทางเกาหลีทำาเรื่องประวัติศาสตร์ไทยได้ดีมาก เขียนเรื่อง Time-

line ได้ดีและละเอียดกว่ากระทรวงศึกษาธิการหรือกรมวิชาการ

บ้านเราซะอีก สอนง่ายมากและทำาไม่ได้ดีขนาดนี้จนไม่เชื่อว่าคน

เกาหลีนั้นทำา” สุเทพกล่าวเสริมว่าเราควรที่จะต้องมองมุมมอง

การนำาเสนอใหม่ ๆ อย่างเช่นเฮตาเลียที่จับประเทศมาเป็นตัวละคร

หรือล่าขุมทรัพย์ที่เอาตัวขุมทรัพย์มาดำาเนินเรื่อง เพราะทุกวันนี้ก็

ยังมีสื่ออื่น ๆ ที่จะดึงความสนใจไปได้อีกเยอะ

Joysmagazineสนใจโฆษณา ติดต่อ 089-931-4422

Page 7: Joys Magazine volume B10

ในงาน E3 ที่ผ่านมา Microsoft ได้โชว์อาวุธชิ้นใหม่ที่จะนำามาใช้ต่อกรเหล่าคู่แข่งของ XBOX360 ในนามของ Project Natal ซึ่งเป็นกล้องพร้อมไมโครโฟนที่สามารถตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวได้

อย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นมิติเชิงซ้อนหรือการเคลื่อนไหวเป็นหมู่คณะ แต่คำาถามที่ตามมาคือ เกมประเภทไหนกันแน่ที่จะเหมาะกับ Project Natal กัน วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในอนาคตของ

Project Natal

Natal in the Future

Joys

สรุปโดยรวมแล้วตัว Project Natal เป็นอุปกรณ์

เสริมที่มีลูกเล่นและความสามารถที่น่าทึ่งมากแต่

อาจจะยังไม่ถึงที่สุดเพราะหากเรามาดูกันดีๆแล้ว

ข้อแตกต่างระหว่าง wii กับกลุ่มคอนโซล nextgen

อื่นๆก็คือความเป็นเอกลักษณ์หรือจุดขายของเครื่อง

ซึ่งนั่นแปลว่าไม่ว่าจะทำาเกมอะไรออกมาให้ wii ยังไง

คุณก็ต้องเล่นด้วย wii remote หรือก็คือเจ้า Proj-

ect natal นั้นไม่ใช่อุปกรณ์หลักที่จำาเป็นจะต้องมี

หรือใช้ในการเล่นทั้งหมด และถ้าผู้ผลิตไม่สามารถ

ทำาเกมป้อนให้เจ้า Project Natal นี้เกิดขึ้นมาได้

ทุกอย่างก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน ซึ่งนับ

ว่าเป็นความเสี่ยงอยู่ในระดับหนึ่งว่า Project natal

จะเกิดหรือจะดับกันแน่

ประเดิมด้วยคุณสมบัติหลักของตัว Natal กับตัวกล้อง 3D

สองตัวซึ่งจะทำาหน้าที่ประเมินผลเชิงสามมิติซึ่งทำาให้ทุกการ

ขยับไม่ว่าจะเป็นตื้นลึกหนาบางเจ้า Natal ก็สามารถจับการ

เคลื่อนไหวได้ทั้งหมด ซึ่งเหมาะกับเกมจำาพวก action และ

แนวsport เป็นอย่างมาก อย่างเช่นตัวอย่างในงาน e3 ที่มีการ

โชว์เกม ricochet ซึ่งผู้เล่นสามารถขยับร่างกายเพื่อตบลูกบอล

ที่พุ่งสวนเข้ามาได้และความแรงของการตบก็ขึ้นอยู่กับมุมที่

กระทบและความแรงของตัวผู้เล่นซึ่งทำาได้ละเอียดมาก ซึ่ง ใน

อนาคตเราอาจจะได้เห็น winning ชอง natal ก็เป็นได้ แน่นอน

ว่าเรายังไม่ได้รวมถึงสารพัดเกม RPG ลองจินตนาการว่าคุณเล่ม

เกม harry potter แล้วต้องร่ายเวทเหมือนกับที่ตัวแฮรี่ทำาและ

อีกร้อยแปดพันเก้าวิธีการเล่นที่สามารถทำาได้

คุณสมบัติต่อมาของ Project natal คือระบบ face rec-

ognition ซึ่งตัวกล้องจะทำาการบันทึกใบหน้าของคุณสำาหรับ

profile ผู้เล่นไม่ต้องทำาอะไรมากแค่เดินเข้ามาหน้ากล้อง ไอดี

ขิงคุณก็จะถูกใช้งานทันที พ่วงด้วยระบบ voice recognition

ที่จะทำาการแยกเสียงของผู้เล่นแต่ละคนออกจากกัน ซึ่งแปลว่า

เกมในอนาคตของ XBOX 360 จำาเป็นจะต้องใช้เสียงในการเล่น

และสามารถเล่นพร้อมกันหลายๆคนได้อีกด้วย หนึ่งในนั้นมีตัว

demo ที่น่าสนใจอยู่เกมหนึ่งนั่นคือ Milo สุดยอด AI ที่สามารถ

ตอบสนองทุกการกระทำาของคุณได้เหมือนกับคนจริงๆไม่ว่าจะ

เป็นการตอบสนองด้วยคำาพูดหรือการกระทำา ซึ่งถ้าเกิดว่าใน

อนาคตเกิดมีเกมจีบสาว(เกม ren-ai) ที่สามารถใช้คุณสมบัติ

ที่กล่าวมาของ Project Natal ได้หละ? ลองนึกสภาพถึงเกม

Dream club ที่เหล่าสาวๆสามารถโต้ตอบกับคุณได้จริงๆโดยที่

คุณไม่ต้องไปพึ่งคอนโทรเลอร์ แล้วเหล่าสาวๆก็มีปฎิกิรยา

โต้ตอบกับคุณโดยตลอดอีกแค่คิดก็น่าเล่นแล้ว

สุดท้ายกับความน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งของ Project Natal ก็

คือ สามารถใช้ร่วมกับเกมเก่าๆของ XBOX 360 ได้ยกตัวอย่าง

เช่นเกม Burnout paradise ที่คุณเพียงแค่ยืดเท้าออกไปใน

ลักษณะเหยียบคันเร่งและมือยื่นตรงเหมือนถือพวงมาลัย คุณก็

สามารถเล่นเกมขับรถได้โดยที่ไม่จำาเป็นจะต้องมีอุปกรณ์เสริม

อะไรเพิ่มเติมอีกแล้วนอกจากนี้ตัว Project Natal เองสามารถ

นำามาใช้แทนกล้องสำาหรับพูดคุยผ่าน XBOX live ได้อีกด้วย

12 V.S. Concept

Page 8: Joys Magazine volume B10

หลังจากที่ ‘ลูลูช วี บริทาเนีย’ โดนจับตัวไป เขาถูกจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิบริทาเนีย

อัดศักดิ์สิทธิ์ ผู้เป็นพ่อเปลี่ยนความทรงจำา ทำาให้เขาลืมความจำาตอนที่ตัวเองเป็น ‘เซ

โร่’ รวมถึงความทรงจำาเกี่ยวกับนานาลีน้องสาวของเขา ก็ถูกแทนที่ด้วย ‘โลโล่ แลมเพ

อร์ลูซ’ ก่อนจะถูกส่งกลับมาใช้ชีวิตที่โรงเรียนแอสฟอร์ดตามเดิม แต่ถึงกระนั้นความ

สามารถในการวางแผนก็ไม่ได้ตกลงไป ลูลูชได้แสดงฝีมือการเล่นหมากรุกชั้นเซียนอีก

ครั้ง แต่ทว่าหลังจบเกมส์ภาคีอัศวินดำาก็เข้าบุกโจมตี ระหว่างที่กำาลังชุลมุนอยู่นั้น ลูลูชก็

ได้พบกับ ซีทู อีกครั้ง

Code Geass R2แนว: Drama / Mecha / Alter-nate History / Science Fantasyผู้สร้าง:Sunrise

‘ซาวาดะ สึนะโยชิ’ หรือที่เรียกกันว่า สึนะ ครั้งนี้เขาต้องไปยังอนาคต เพราะ ‘รีบอร์น’

ถูกบาซูก้าทศวรรษยิงและหายตัวไป พวกสึนะออกตามหาแต่ก็หาไม่เจอ สึนะจึงขอให้

‘แรมโบ้’ ยิงบาซูก้าใส่ตัวเอง เพื่อเรียกแรมโบ้ใน 10 ปีข้างหน้ามาถามเรื่องราว แต่ทว่า

สึนะกลับโดนยิงเสียเอง ทำาให้เขาต้องไปยัง 10 ปีข้างหน้า และได้พบกับ ‘โกคุเทระ’ ใน

อีก 10 ปีข้างหน้า แต่ก่อนจะได้บอกอะไร โกคุเทระ เมื่อ 10 ปีก่อน ก็โผล่ออกมาแทน

และยังโดน ‘รัล มิลจิ’ เข้ามาโจมตี แต่ด้วยยุคสมัยที่ต่างกัน ทำาให้สึนะพลาดท่าจนเกือบ

ถูกฆ่า

Black Jack สุดยอดศัลยแพทย์มือหนึ่งของโลก ฝีมือการผ่าตัด

ที่ไม่เป็นรองใครของ Osamu Tezuka กลับมาโลดแล่นอีก

ครั้งด้วยลายเส้นของ Masayuki Taguchi ครั้งนี้เขาต้องเข้าไป

เกี่ยวพันกับดาราสาว J-Pop ที่กำาลังเป็นที่นิยม ซึ่งเป็นอดีต

คนไข้ และนักกีฬาต่อสู้ที่เจออุบัติเหตุร้ายแรงที่ต้องใช้ฝีมือของ

เขาในการรักษา

‘นาคาจิมะ มาโมรุ’ ผู้ที่ชอบสอบใบอนุญาตต่างๆ แต่ทว่าถึงแม้จะ

มีวุฒิติดตัวมากมายแต่กลับไม่มีงานทำา ระหว่างที่กลับไปเดินเล่นใน

มหาลัยเขาก็ได้พบกับรุ่นพี่ ‘มิคุริยะ จิน’ ซึ่งตอนนี้เปิดบริษัทของ

ตนเอง ซึ่งรับทำางานทุกอย่างที่ไม่ผิดกฎหมาย มิคุริยะได้ชวนนาคา

จิมะเข้าทำางานในบริษัท แต่ทว่าในงานแรกของ นาคาจิมะ ก็เข้าไป

พัวพันกับคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายซะแล้ว

เวลาผ่านพ้นไป ปีการศึกษาใหม่ที่ใกล้เข้ามา เหล่าเจ้าหญิงทั้ง

3 องค์ก่อนจึงต้องเหลือนักเรียนปี 1 ที่จะมาเป็นเจ้าหญิงตาม

ธรรมเนียมของโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ ซึ่งผู้ได้รับเลือกให้เป็นเจ้า

หญิงคนใหม่ก็คือ ‘อิสึมิ โทโมเอะ’ และ ‘มัตสึโอกะ คิริยะ’ แต่

ทว่าความเป็นมาของทั้งสองคนต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งเป็นลูกคุณ

หนูบริษัทชั้นนำา ส่วนอีกคนสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ ทั้งสองจะ

ทำางานร่วมกันได้หรือไม่ต้องคอยมาลุ้นกัน

ในบรรดาองค์กรข่าวสารของโลก มีองค์กรหนึ่งที่อยู่ในเงามือซึ่งไม่

ได้สังกัดประเทศหรือหน่วยงานใดๆ ถูกเรีกยว่า ‘สหประชาติมืด’

แม้หน่วยบัญชาการสูงสุดจะมีเพียง 9 ตน แต่ว่ากันว่าพวกเขามี

พลังที่จะควบคุมโลกทั้งใบได้ทีเดียว แต่แล้ว ‘อิจิโนะมิยะ ซายะ’

ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับองค์กรลับแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ ทำาเธอถูกลอบ

ทำาร้าย ทันในนั้น ‘ชิโนซึกะ โค’ ก็เขามาช่วยเธอไว้และยังเสนอตัว

คอยคุ้มครองเธอเพื่อป้องกันคนที่มาทำาร้าย แต่ทว่าความจริงแล้ว

โคก็คือหนึ่งในสมาชิกขององค์กร UB

Black Jack Neoแนว:ดราม่า จิตวิทยาระดับผู้อ่าน:13 ปีขึ้นไป เรื่อง/ภาพ:Original story by Osamu Tezuka / Illustrated by Masayuki Taguchi

ส่งเจ้าพ่อไปเป็นนักสืบแนว: สืบสวนระดับผู้อ่าน:ทั่วไป เรื่อง/ภาพ:Takemaru Abiko / Akira Sakamoto

Princess Princess Plusแนว: Dramaระดับผู้อ่าน:15 ปีขึ้นไป เรื่อง/ภาพ:Mikiyo Tsuda

มัจจุราชหมายเลข 9แนว: Actionระดับผู้อ่าน:ทั่วไป เรื่อง/ภาพ:Miyuki Takahashi

เรื่อง: ดุลยกฤศวร์ ภาณุเวศย์16 Anime Pickup 15 Manga Pickup

BONGKOCH NATION EDUTAINMENT

SIAM INTER COMICS VIBULKIJ

DEX

ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! The fu-tureแนว: Action / Comedy ผู้สร้าง:Artland

Joysmagazine Joysmagazine

Page 9: Joys Magazine volume B10

Joys

ภาพประกอบ: ณัฐวัตร มงคลอดิสัย16 Characters 17 In School

Bodindecha(Sing Singhaseni)Music Club การเล่นดนตรี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เหล่าวัยรุ่นวัยเรียนมักจะสนใจกันและอยากรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ที่รู้จักเพื่อตั้งวงเล่นดนตรีร่วมกัน และสำาหรับโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ก็มีชมรมดนตรีที่คอยมีหน้าที่รวบรวมและเปิดโอกาสให้กลุ่มเพื่อนในโรงเรียนที่ตั้งวงดนตรีได้มีโอกาสแสดงฝีมือทุกวันศุกร์หลังเลิกเรียน ชมรมดนตรี โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นชมรมหนึ่งในโรงเรียนที่เป็นชมรมอิสระ โดยขึ้นอยู่กับการควบคุมของคณะกรรมการนักเรียนและไม่เกี่ยวเนื่องกับผลการเรียนแต่อย่างใด โดยปีการศึกษา 2552 นี้ถือว่าเป็นปีที่ 4 ที่มีการจัดตั้งชมรมแห่งนี้ขึ้นมา โดยเกิดจากการที่โรงเรียนนั้นมีวงดนตรีลูกทุ่ง ชมรมดนตรีไทย วงโยธวาทิต แต่ยังขาดชมรมดนตรีสากลอยู่ จึงตัดสินใจที่จะรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่โดยเริ่มต้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมบังคับ จนมาเป็นอิสระถึงทุกวันนี้ กิจกรรรมหลักที่ทางชมรมได้ทำาขึ้นมา

คือการสอนในคาบเพื่อให้เกิดการทดแทนบุคลากรขึ้นมา แต่ปัญหาเรื่องทรัพยากรก็ทำาให้ต้องยืมเครื่องดนตรีของวงโยธวาทิต ส่วนอีกกิจกรรมหนึ่งที่รับผิดชอบคือการคัดเลือกวงดนตรีเพื่อขึ้นแสดงในทุกวันศุกร์และจัดตารางเพื่อการแสดงในโรงเรียน ซึ่งในตอนนี้ชมรมดนตรีเป็นที่รู้จักมากขึ้นในโรงเรียนเพราะเนื่องจากการทำากิจกรรมที่เยอะ และมีการร่วมมือกับหมวดวิชาภาษาอังกฤษในการจัดประกวดวงดนตรีโฟลค์ซองขึ้นมาทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลาย “วรพล หริตวร” ประธานชมรมดนตรีในปีนี้ได้เล่าถึงความประทับใจที่เขาได้เจอระหว่างการทำาชมรมดนตรีเอาไว้ “เมื่อเราเล่นดนตรีกันเสร็จ พอเราจบงานเราก็ต้องช่วยกันเก็บของ ซึ่งทุกคนมัีความสามััคคี มีความรับผิดชอบและร่วมมือกัน”จำานวนสมาชิกของชมรมดนตรีในปีนี้อยู่ที่ 30 คน โดยจุดประสงค์หลักที่อยากเข้ามาคือการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์และการฝึกฝน โดยวิธีหนึ่งที่ชมรมใช้่ในการฝึกฝนคือการจัด

ค่ายขึ้นมาในช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม และมีวิทยากรคือรุ่นพี่ทั้งที่อยู่ในโรงเรียนและจบไปแล้วมาช่วยกันทำาการสอนในเวลา 5 วันตั้งแต่ต้นจนสามารถรวมวงเล่นกันได้ อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชมรมดนตรีแห่งนี้คือการจัดทำาอัลบั้มตอนสิ้นปีเพื่อการออกจำาหน่ายภายในโรงเรียน โดยที่แต่ละวงนั้นจะแต่งเพลงขึ้นมาใหม่และมีแนวทางการเล่นเพลงอย่างอิสระ จำานวน 8 - 10 เพลงในราคา 80 บาท ซึ่งออกจำาหน่ายไม่ต่ำากว่า 300 แผ่นต่อการจัดทำาแต่ละครั้งต่อเนื่องทุกปี “แผ่นของปีที่ 2 ลงแวมไพร์ไปด้วยแล้วครับ” วรพลกล่าวเสริมอย่างติดตลก วรพลและกลุ่มรุ่นพี่ประธานชมรม “เชิงชาย ระเบียบ” และ “ปองภพ สุกิตติวงศ์” ได้พูดทิ้งท้ายไว้ “ตอนนี้เรายังอยู่ในโรงเรียน แต่อยากให้ที่อื่น คนอื่นได้เห็นผลงาน ความสามารถและออกไปสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน รวมถึงความมั่นคงทางการเงินได้ครับ”

ติดต่อ ชมรมดนตรี 40 รามคำาแหง 43/1 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. 10310

Joysmagazine

AllAboutAranzi

Aronzo

วันนี้เรามีคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ของค่ายหนึ่งมาแนะนำาค่ะ ก็คือ Aran-zi Aronzo นั่นเอง Aranzi Aronzo เป็นนามแฝงของคนสองคนได้แก่คุณไซโต้และคุณโยมุระ สองสาวผู้ก่อตั้งบริษัทที่คอยสรรค์สร้างผลงานน่ารัก ๆ มาวางขายด้วยสไตล์การวาดแบบลายเส้นและสีสันง่าย ๆ ของตัวเองขึ้นมาค่ะ ผลงานของ Aranzi Aronzo มีคำานิยามก็คือ น่ารัก แปลกประหลาด เจ๋ง ไร้สาระ น่ากลัวเล็ก ๆ โง่และสบาย ๆ ซึ่ง 2 คนนี้ได้คิดขึ้นมาทำามามากกว่า 20 ตัวเลย ไม่ว่าจะเป็นกัปปะ แกะ ลิง หมา หมู กบ แมว และคาแรกเตอร์ที่คนน่าจะจำาได้มากที่สุดนั่นก็คือแพนด้าและกระต่ายนั่นเองล่ะค่ะ ซึ่งคาแรกเตอร์เหล่านี้ก็โดนจับเอาไปทำาอะไรมากมายเลย ตั้งแต่หนังสือรวมผลงาน ภาพถ่าย ถุงผ้า แก้ว ตุ๊กตา หรืออะไรสารพัดที่จะประยุกต์ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นยังมีผลงานที่สำาคัญมากอันนึงคือการออกแบบคาแรกเตอร์ต้นสนเด็กกับต้นสนสูงอายุที่ชื่อ Kikkuro กับ Morizo ให้เป็นมาสคอตประจำางาน Expo 2005 ที่เมืองไอจิ ประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ ตอนนี้งานของ Aranzi Aronzo ก็กำาลังวางขายเป็น Counter เล็ก ๆ อยู่ในร้านคิโนะคุนิยะหลาย ๆ สาขานะคะ ทั้ง Aranzi Aronzo Machine Gun vol. 1-3 ซึ่งรวบรวมผลงานการออกแบบคาแรกเตอร์ต่าง ๆ และมีการจัดทำาการ์ตูนเป็นภาษาอังกฤษด้วย รวมถึงหนังสือสอนทำาของน่ารัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาสวมนิ้วมือ ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ถุงใส่ของแบบ Handmade และสอนทำาเจ้าคาแรกเตอร์ข้างบนทั้งหมดที่มีใหเห็นจนตาลายข้างบนด้วย ถ้าใครสนใจก็ลองแวะเข้าไปเลือกดูเลือกซื้อได้เลยนะคะ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าถูกใจจริง ๆ >______< Joys

Joysmagazine

Page 10: Joys Magazine volume B10

19 Comic Shelfเรื่อง: ปฏิรูป สี่ทิศประเสริฐ http://tomodachi.exteen.com

Joys

หยิบการ์ตูนมาคุยกัน: AXIS คืออะไร ปรัสเซียอยู่ตรงไหน แล้วซีแลนด์ล่ะ ?

Axis Power หรือฝ่ายอักษะ คือฝ่ายอักษะ (อังกฤษ: Axis Powers) เป็นพันธมิตรทางการทหารที่ต่อสู้กับฝ่าย

สัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง ประกอบด้วยสามประเทศหลัก คือ นาซีเยอรมนี (อดอล์ฟ ฮิตเลอร์) อิตาลี (เบนิโต มุสโส

ลินี )และจักรวรรดิญี่ปุ่น (โตโจ ฮิเดกิ) ซึ่งได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาสามฝ่ายว่าจะมีการร่วมมือทางทหารกัน อันที่จริงก็น่า

แปลกที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ห่างมากมาร่วมมือกับเยอรมัน อันที่จริงแล้วทั้งสองประเทศต้องการครองโลก โดยเยอรมันครองยุโรป

และญี่ปุ่นครองเอเชีย และสุดท้ายจะร่วมมือกันตีกระหนาบรัสเซียนั่นเอง

คำาว่า Axis แปลตรงตัวว่า แกนกลาง คนที่ใช้คำานี้อย่างเป็นทางการคือ มุสโสลินี ผู้นำาอิตาลี เมื่อทำาสัญญากับเยอร์มัน

มุสโสลินีได้ประกาศว่า “ความเป็นแกนกลางของทั้งสองประเทศจะทำาให้ประเทศอื่นจะต้องโคจรรอบ” ประเทศสมาชิกหลัก

มีสามประเทศข้างต้น ประเทศสมาชิกรองได้แก่ ฮังการี โรมาเนีย บัลแกเรีย ยูโกสลาเวีย ยังมีผู้ร่วมมืออีกจำานวนมาก

ฝ่ายอักษะได้ยึดครองพื้นที่เพิ่มขึ้นมากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ทว่าสงครามโลกครั้งที่สองกลับยุติลงโดยความ

พ่ายแพ้ของฝ่ายอักษะ จุดเปลี่ยนอยู่ที่ความล้มเหลว

ของเยอรมันในการบุกมอสโก และการเข้าร่วมสงคราม

ของสหรัฐอเมริกา

ญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองประเทศจำานวนมากในเอเชีย

อาคเนย์ ไทยไม่ถูกยึดครอง แต่ลงนามเข้าร่วมเป็น

พันธมิตรกับจักรวรรดิญี่ปุ่นในปลายปี 2484 โดย

จอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายหลังด้วยชั้นเชิงทางการ

ทูตและการปฏิบัติการของกลุ่มต่อต้านญี่ปุ่นที่เรียกว่า

เสรีไทย เมื่อสงครามจบลง ประเทศไทยกลับไม่อยู่ใน

ฝ่ายผู้พ่ายแพ้สงคราม

ราชอาณาจักรปรัสเซีย Kingdom of Prussia เป็นรัฐที่มีอำานาจมากในจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งมีรัฐใหญ่รัฐเล็กอยู่รวมๆ

กัน 32 รัฐ ปรัสเซียเป็นรัฐใหญ่ที่สุด ครองพื้นที่ประมาณ 60% ของจักรวรรดิเยอรมัน เมืองหลวงของปรัสเซียคือเบอร์ลินที่

กลายเป็นเมืองหลวงของเยอรมันในปัจจุบัน

เดิมปรัสเซียเป็นดินแดนของขุนนางตระกุลหนึ่งในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ภายหลังทำาสงครามชิงดินแดนได้พื้นที่มากขึ้น

เรื่อยๆ สงครามที่สำาคัญมีสามครั้ง ครั้งแรก ปรัสเซียรบกับเดนมาร์กชนะอย่างรวดเร็ว ได้ดินแดนมาไม่น้อย ครั้งที่สองปรัสเซีย

รบกับออสเตรีย ออสเตรียแพ้และถูกขับออกจากสมาพันธ์รัฐเยอร์มัน ทำาให้ปรัสเซียกลายเป็นพี่เบิ้ม และครั้งที่สามปรัสเซียรบ

กับฝรั่งเศสชนะ กลายเป็นมหาอำานาจในยุโรป จากนั้นประกาศตั้งจักรวรรดิเยอรมันขึ้น ในปี 1871 รวบรวมแคว้นเล็กแคว้น

น้อยเข้าสังกัด ผู้ปกครองมีตำาแหน่งพระเจ้าไกเซอร์แห่งปรัสเซีย

เมื่อแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จักรวรรดิเยอรมันล่มสลาย แคว้นต่างๆ แปรรูปเป็นสาธารณรัฐ ปรัสเซียกลายเป็นรัฐอิสระปรัส

เซีย

เมื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นผู้ปกครองสาธารณรัฐเยอร์

มัน ฮิตเลอร์พรรคนาซีมีนโยบายรวมแคว้นเป็นประเทศ

เยอรมันนี โดยใช้คำาขวัญว่า “ให้ปรัสเซียผู้ชราสมรส

กับเยอร์มันนีผู้เยาววัย” จุดหมายที่ทำาไปเพื่อล้มล้าง

ระบอบกษัตริย์ของปรัสเซีย ในที่สุดแผนการรวมแคว้น

ก็ประสบความสำาเร็จ ฮิตเลอร์กลายเป็นผู้ปกครองปรัส

เซีย และทำาการแบ่งแยกดินแดนของปรัสเซียออกไป

บางส่วนถูกยกให้โปแลนด์ และรัสเซียเพื่อความสัมพันธ์

ทางการฑูต

ปัจจุบันพื้นที่อันกว้างขวางของปรัสเซีย กระจัดกระจาย

ประเทศต่างๆ คือเยอรมันนี โปแลนด์ รัสเซีย เดนมาร์ก

เบลเยี่ยม เชค และ เนเธอร์แลนด์

ประเทศที่เล็กจิ๋วที่สุดในโลก คือซีแลนด์

( Sealand ) มีพื้นที่พอๆ กับสนาม

ฟุตบอลหนึ่งสนาม แต่เดิมเป็นป้อมปราการ

ทางทะเลของประเทศอังกฤษในสมัย

สงครามโลกครั้งที่สอง อยู่ห่างจากชายฝัง

อังกฤษ 10 กม เมื่อจบสงครามป้อมนี้ถูก

ทิ้งร้างไป พันตรี แพดดี้ รอย เบทส์ ทหาร

กองทัพบกอังกฤษได้เข้ายึดครองป้อม

นี้ และประกาศตัวเป็นประเทศอิสระในปี

2510 โดยไม่มีผู้รับรองแม้แต่ประเทศเดียว

จึงไม่มีสถานะเป็นประเทศโดยสมบูรณ์ อาจ

เรียกได้ว่าเป็นประเทศจำาลอง แต่ครั้งหนึ่ง

มีเหตุการณ์ที่กองทัพเรืออังกฤษผ่านเข้าไปใกล้ซีแลนด์ บุตรชายของพันตรีเบทส์ยิงเตือน มีการฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษและมีคำา

พิพากษาในปี 2511 ว่า “บริเวณที่เกิดเหตุไม่อยู่ในอำานาจของอังกฤษ” เท่ากับว่าซีแลนด์ไม่ใช่ของอังกฤษ แต่ก็ยังไม่เป็นประเทศ

เช่นกัน แต่จากเหตุครั้งนี้ เบทสเริ่มสร้างเอกลักษณ์ของซีแลนด์ขึ้น

ปัจจุบันซีแลนด์ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ คือ เจ้าชายรอย เบทส์ แห่งซีแลนด์ มีประชากร 4 คนคือ เจ้าชายรอย เบทส์

เจ้าหญิงโจน เบทส์ เจ้าฟ้าชายไมเคิลและทหารคนหนึ่ง กองกำาลังป้องกันประเทศก็ทหารคนนั้นแหละ มีอาวุธคือปืนเล็กยาว 1

กระบอก ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 เป็นต้นมาได้มีพระบรมราชโองการให้เจ้าฟ้าชายไมเคิล เป็นผู้สำาเร็จราชการแทนพระองค์ ปกครอง

ซีแลนด์แทนพระราชบิดาซึ่งทรงครองราชย์มากว่าสามทศวรรษและทรงมีพระพลานามัยที่ไม่สมบูรณ์แล้ว

ปัจจุบันรายได้หลักของซีแลนด์คือการขายตำาแหน่งขุนนาง ใครที่บริจาคเงินสนับสนุนประเทศ พระองค์จะมอบตำาแหน่งขุนนาง

แห่งซีแลนด์ให้ ใครอยากดูรายละเอียดของประเทศนี้ เชิญที่ http://www.sealandgov.org/

Page 11: Joys Magazine volume B10

เรื่อง: สุกฤษฎิ์ บูรณสรรค์

ทำาอย่างไรให้โง่ โดย: มาร์ติน เพจ

แปล: อธิชา มัญชุนากร สำานักพิมพ์วงกลม

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวคราวจากอีกซีกโลกหนึ่งที่ป่าวประกาศถึงคุณ

งามความดีและความสำาเร็จของเด็กชายลูกครึ่งไต้หวัน-อิสราเอล

ที่สามารถสำาเร็จการศึกษาในระดับอนุปริญญาได้ด้วยวัยเพียงแค่

11 ปี และมีแนวโน้มที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไป (ด้วย

ศักยภาพที่เด็กคนนั้นมี เห็นจะไม่ใช่เรื่องแปลก)

แน่นอน สำาหรับหลายๆคน ด้วยวัยเพียงหนึ่งทศวรรษเศษๆมันคง

ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรอยู่ในห้วงสำานึกมากไปกว่าการไปโรงเรียน เล่น

กับเพื่อนฝูง กินขนม และเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ อย่าว่าแม้แต่จบ

การศึกษาระดับอนุปริญญาเลย แค่จะสอบกลางภาค นั่งกากบาท

ก ข ค และ ง พวกเราก็กุมขมับ ปวดตับจนเลือดตาแทบกระเด็น

แล้ว

ดูเหมือนว่าต่างชีวิต ก็ต่างกรรม ต่างวาระกันไป

หลังจากข่าวในครั้งนั้น ความคิดเห็นของผู้คนก็แตกออกเป็นหลาย

เสียง บ้างก็แซ่ซ้องสรรเสริญ บ้างก็ค่อนขอดดูหมิ่น กล่าวหากันไป

ก่อนว่าเด็กพรรค์นี้ ถ้ามันผิดพลาดล้มไปสักทีได้เป็นผ้าขี้ริ้วแน่

กล่าวโดยสัตย์จริง ผมไม่กล้าสรุปฟันธงใดๆ ว่าชีวิตของ

เด็กน้อยคนนั้นจะดำาเนินต่อไปในรูปการณ์ไหน เขาจะมีความสุขใน

บั้นปลาย หรือทุกข์ระทมสาหัสจากความผิดพลาดล้มเหลว ไม่อาจ

และไม่พึงกระทำาโดยอาศัยความเข้าใจบนพื้นฐานของตนเอง

แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังมี ‘อัจฉริยะ’ อยู่ผู้หนึ่งที่ไม่ค่อยจะแฮปปี้กับ

ชีวิตของตัวเองเท่าใดนัก และเฝ้าวนเวียนกับคำาถามที่ท่วมท้นอยู่

ในห้วงสำานึก

เช่นเขาคนนี้….

อองตวน เป็นคนที่ไม่มีความสุขดีนัก…..

เขาเป็นชายฝรั่งเศสธรรมดาคนหนึ่ง เกิดมาในครอบครัวชนชั้น

กลางที่พอจะมีจะกินบ้างในบางระดับ แต่บางสิ่งในตัวของเขานั้น

เอง ที่หาได้เป็นความธรรมดาไม่

เขาเป็นอัจฉริยะ….

อองตวนรักการอ่าน ชอบการเรียนรู้ ความคิดและสติปัญญาของ

เขาเกือบจะเข้าข่ายการเป็นสัพพัญญูผู้ตระหนักรู้ซึ่งทุกสิ่ง แล้วก็

ด้วยเหตุนั้นอีกนั่นล่ะ ที่ทำาให้เขาทุกข์ระทมหม่นหมองเหลือจะ

กล่าว

ทำาไมอ่ะ? ก็ถ้าไม่ใช่ที่ว่าเขารู้ซึ่งทุกสิ่ง จนทำาให้เขาปฏิเสธรูปแบบ

การใช้ชีวิตแบบสามัญของคนทั่วไป เขาเกลียดการที่จะต้องพาตัว

เองไปสู่วงจรของลัทธิทุนนิยม เหนื่อยหน่ายกับความไร้สาระของ

โลก จนแทบจะทำาให้ชีวิตโดยปกติของตนเองแทบจะไม่ต่างจาก

ฤาษี ละเลยสุขอนามัย กินน้อยมื้อ แม้แต่หนังสือเต็มตู้ ยังเกิดจาก

การแอบฉีกทีละหน้าในห้องสมุดมาเย็บติดกันเป็นเล่มเลย!

และด้วยความทุกข์ที่สะสมมานานปี ทำาให้อองตวนอยากจะหลบ

หนีชีวิตของตนเอง ไม่อยากรับรู้ข้อเท็จจริงของโลกใบนี้อีกต่อไป

เริ่มตั้งแต่การพยายามเป็นไอ้ขี้เมาติดเหล้า (ที่จบด้วยการถูกหาม

ส่งโรงพยาบาลจากการดื่มเบียร์ไปครึ่งแก้ว….) จนถึงหาหนทาง

ฆ่าตัวตาย (ที่ปิดฉากเสียตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม เพราะหาวิธีที่ถูกใจ

ไม่ได้….) และเมื่อทุกวิธีที่จะหลีกหนีมันล้มเหลว เขาก็ตัดสินใจจะ

เป็น ‘พันธมิตร’ กับความโง่ไร้สาระไปเสียเลย ด้วยการกินยาคลาย

เครียดแอร์โรซัค ที่ช่วยให้สมองทำางานช้าลง ผ่อนคลาย เปลี่ยนเขา

ให้ ‘ฉลาดน้อยลง’ และยอมรับกับวิธีทางของโลกเบี้ยวๆ ใบนี้มาก

ขึ้น จนนำาไปสู่เรื่องตลกร้ายขำาขื่นชวนหัวอลเวงครื้นเครงกันเป็น

แถบๆ

เปล่าครับ นี่ไม่ใช่อัตชีวประวัติของอัจฉริยะที่ไหนหรอก แต่เป็น

เรื่องราวโดยย่อของ ‘ทำาอย่างไรให้โง่ (Comment ji suis deve-

nu stupide) นวนิยายฝรั่งเศสขนาดสั้นชวนหัวโดยปลายปากกา

ของมาร์ติน เพจ ที่นอกจากจะเต็มที่ด้วยมุขตลกแสบๆ คันๆ สไตล์

งานเขียนฝรั่งเศสแล้ว ยังอุดมไปด้วยแง่มุม และการจิกกัดสภาวะ

เลื่อนลอยของโลกแห่งทุนนิยมได้อย่างแสบไส้เข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

อย่างแนบเนียน จนผู้อ่านไม่รู้สึกว่าโดนยัดเยียดให้เพ่งตำาราเศรษฐ

ศาสตร์หนักๆ หรือ Communist Manifesto แต่อย่างใด

ภายหลังจากที่อองตวนตัดสินใจจะ ‘โง่’ ด้วยการกินยาแอร์โรซัค

แล้ว ชีวิตเขาดูจะพลิกกลับไปอีกขั้วอย่างตั้งตัวไม่ติด เขาสนใจสุข

อนามัยตนเอง ออกกำาลังกายที่ฟิตเนส ใส่ใจแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผม

เริ่มทำางานในตลาดหุ้น เงินทองไหลมาเทมา เขาอ่านหนังสือน้อย

ลง กิน ดื่ม เที่ยว ตามประสาชายหนุ่มมากขึ้น และซื้อทุกอย่างที่

เงินสามารถบันดาลให้ได้ (ไม่เว้นแม้แต่รถสปอร์ตทั้งๆที่เขาขับรถ

ไม่เป็นด้วยซ้ำา!)

แต่น่าแปลก….เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขขึ้นไปจากเดิม

สักเท่าใดนัก….

เขาโหยหาโลกที่เชื่อว่า ‘โง่’ กว่าสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่สิ่งที่อองตวนได้

ค้นพบ มันช่างเจ็บปวดเหลือจะกล่าว เมื่อโลกใบนี้ไม่ได้ ‘โง่’ เลย

แต่เป็นเขา ชายหนุ่มอัจฉริยะ ที่ใช้ชีวิตได้ ‘ฉลาดน้อย’ เหลือเกิน

ในการประเมินคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา และมีอีกมาก

ในโลกใบนี้ที่เขาไม่อาจรู้ ไม่อาจเข้าใจ

อดไม่ได้ที่จะย้อนกลับมามองสภาวะสังคมและผู้คนในโมงยาม

เปลี่ยนผ่าน หลายครั้ง เราโหยหาถึงการหลุดพ้นจากกรอบกักขัง

ที่กำาหนดบังคับบทบาทเดิมๆ ของตนเองซ้ำาแล้วซ้ำาเล่า หลายหน

เรามองผู้ที่อยู่อีกขั้วอีกข้างของสิ่งที่เราเป็น จะด้วยสายตาดูหมิ่น

ประณาม อิจฉาตาร้อน หรือปราถนาจะก้าวข้ามไปสู่จุดนั้นบ้าง ทั้ง

ที่ในความเป็นจริง ทุกสิ่งย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย มีข้อดี ข้อเสีย และ

ผลที่จะต้องทำาใจยอมรับเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานะนั้นๆ

ไม่มีพื้นที่ใดที่เป็นความ ‘โง่’ หรือ ‘ฉลาด’ ไปกว่ากัน….

ในช่วงท้ายเรื่อง อองตวนหาหนทางที่จะพาตนเองออกจากวิกฤติ

ปัญหาไปได้อย่างสวยงาม ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนรักทั้งสี่ (ที่

มีคุณลักษณะเพี้ยนพอกัน) พร้อมทั้งหาข้อสรุปและจุด ‘สมดุล’

ชีวิตของตนเองในบั้นปลาย (สไตล์ขำาขื่นและเหนือจริงเล็กๆ แบบ

นิยายฝรั่งเศส)

มันคงจะจริงที่มีใครกล่าวไว้ว่า ต่างกรรม ต่างวาระกันไป

หนทางที่จะนำาไปสู่ชีวิตอันสุขสมบูรณ์ คงไม่ใช่การนำาพามาตรฐาน

ของตนเองไปใช้กับพื้นที่ที่เราประเมินว่าต่ำาต้อยด้อยค่ากว่า หาก

แต่เป็นการค้นหาจุดลงที่คนๆหนึ่งจะสามารถใช้ชีวิตได้เต็ม

ศักยภาพ และมีความสุขตามอัตภาพทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง

เจ้าหนูอัจฉริยะอายุ 11 ขวบ คนกวาดถนนเรียนจบ ป.4 มนุษย์

เดินดินกินเงินเดือน คนธรรมดากินข้าวแกง ทั้งหมดต่างก็มีความ

สุขกันได้ง่ายๆ

ไม่ใช่ด้วยการยืนอยู่ในจุดที่เชื่อว่า ‘โง่’ กว่าตนเอง

“แต่เป็นการหาพื้นที่ที่เราจะ ‘ฉลาดคิด ฉลาดใช้ชีวิต’ มากที่สุดนั่น

ล่ะครับ”

Joys

21 Book Review

Page 12: Joys Magazine volume B10

มันเป็นการยากประการหนึ่งในโลกแห่ง

ภาพยนตร์ในปัจจุบัน ที่จะผสานเรื่องราว

ของความสับสนแห่งชีวิตคนเมือง เข้า

กับปกรณัมลึกลับแห่งห่วงป่าลึกได้อย่าง

กลมกลืนมีสีสัน อาจจะด้วยธรรมชาติของ

สภาพแวดล้อมทั้งสองที่แตกต่างกันโดยสิ้น

เชิง ที่ทำาให้งานประเภทนี้ เป็นความเสี่ยง

อย่างสูงของผู้สร้าง แต่ถ้าจะมีใครสักคนที่มี

ศักยภาพมากพอที่จะเข้ารับการท้าทายชิ้น

นี้ พี่ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง ผู้กำากับเลือด

ใหม่มากความสามารถที่ผ่านผลงานที่เป็นที่

จดจำาอย่างมนต์รักทรานซิสเตอร์ , เรื่องรัก

น้อยนิด มหาศาล , คำาพิพากษามหาสมุทร

และภาพยนตร์ทำาน้อยแต่ได้มากอย่าง

พลอย คือตัวเลือกที่น่าจะเข้าตากรรมการ

มากที่สุด และในคราวนี้ เขาจะนำาพาผู้ชม

ให้เดินทางสู่ห้วงแห่งความลับและความ

สยดสยอง ที่เจือกลิ่นอายของตัณหา ราคะ

และความตายกันอย่างถึงแก่น กับ ‘นางไม้’

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะบอก

เล่าเรื่องราวของเมย์ (กิ๊ปซี่ – วนิดา เติม

ธนาภรณ์ นักร้องสาวสุดเซ็กซี่แห่งวง Girly

Berry) นักธุรกิจสาวมากความสามารถ ที่

ความสัมพันธ์ของเธอกับนพ (ปีเตอร์ – นพ

ชัย ชัยนาม) สามีช่างภาพที่อยู่กินกันมา

นานหลายปีเริ่มจืดจาง และมีสัมพันธ์สวาท

กับกรณ์ (เอก – ชมะนันท์ วรรณวินเวศน์)

ชายหนุ่มอีกคนที่แม้เขาจะมีภรรยาอยู่แล้ว

แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ง่ายๆ แต่แล้ว

เมื่อนพตัดสินใจเดินทางสู่ป่าลึกพร้อมกับ

เมย์เพื่อเก็บภาพธรรมชาติและรื้อฟื้นความ

สัมพันธ์ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ทำาให้เมย์

ต้องออกตามหาสามีในห้วงป่าลึกที่ความ

ลับอันดำามืดจะค่อยๆ เผยตัวให้เห็นถึง

ความผิดบาป ตัณหา ความปราถนา ที่จะ

เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องไป

อย่างมิอาจหวนคืน

นี่เป็นครั้งแรกกับผลงาน

ภาพยนตร์สยองขวัญของพี่ต้อม เป็น

เอก รัตนเรือง ที่พร้อมจะเผยมิติใหม่แห่ง

ภาพยนตร์สยองขวัญที่แตกต่างออกไปจาก

เรื่องอื่นๆ ตามท้องตลาด การันตีคุณภาพ

ด้วยรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ยนตร์

เมืองคานส์ในครั้งล่าสุด และพร้อมจะอ้า

แขนเชิญผู้ชมทุกคนให้เข้าสู่ห้วงแห่งความ

ลึกลับดำามืดอย่างพร้อมใจยิ่ง 1 กรกฏาคมนี้

ทุกโรงภาพยนตร์….

Joys

22 Now Showing

Page 13: Joys Magazine volume B10

Joysmagazine

สนใจโฆษณา

ติดต่อ 0-2539-7078

084-082-3342

www.cc.in.th

EVENT SCHUDULE 7/20097 July 2009J-Trends In Town : Tanabata ลานหน้าโตคิว มาบุญครอง ชั้น 1 ค่าเข้างาน: ฟรี

แจ้งข่าวสาร Event ต่างๆ ได้ที่ [email protected]

Page 14: Joys Magazine volume B10

MICHAEL JACKSON 1958 - 2009“ไมเคิล แจ็กสัน” King of pop ตลอดกาลของวงการเพลงระดับโลก ทุกคนรู้จักท่าเต้น Moonwalk ทุกคนรู้จักลีลาการแสดงบนเวทีที่สร้างความทรงจำาให้แก่คนทั่วโลก เพลงของเขาไม่ว่าจะเป็น Beat it, Smooth Criminal, Heal the world หรือ Black or White ล้วนแต่เป็นเพลงที่สร้างให้ไมเคิล แจ๊กสันโด่งดังไปทั่วโลก และยังเคยเปิดแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยถึง 2 ครั้งจนกลายเป็นปรากฏการณ์ไมเคิลฟีเวอร์ คนไทยในปี 1993 ตั้งแต่เด็กจนคุณย่าคุณยายไม่มีใครไม่รู้จักไมเคิล แม้จะมีข่าวลบในระยะหลังแต่ไมเคิลก็ยังเป็นที่จดจำาอยู่เสมอ เขาเสียชีวิตกระทันหันจากอาการโรคหัวใจก่อนจะเริ่มการแสดงคอนเสิร์ตครั้งใหม่ This is it ที่ O2 Arena ลอนดอน เพียงแค่ 18 วันก่อนการแสดงรอบแรก

ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์โดย สาธุคุณเจสซี่ แจ๊คสัน 23 มีนาคม 2005

ช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดของผมอยู่ในช่วงวัยเด็ก ประมาณสัก 8 - 9 ขวบเห็นจะได้ ผมจำาบรรยากาศเหล่านั้นได้ดี

เพลงทุกเพลงที่ผมได้ยิน พ่อผมเล่นกีตาร์ ลุงผมเล่นกีตาร์ พวกเขาเล่นกันทุกวันและคุณก็รู้ว่าพวกเขาเล่นได้อย่าง

เยี่ยมยอดสักแค่ไหน เมื่อเราเริ่มแสดงดนตรี ผมจำาเหล่าวงโยธวาทิตที่เล่นอยู่กลางถนน ผมจำาท่วงทำานองของวง

ดนตรีและจังหวะของกลองได้ ทุกเสียงรอบ ๆ ตัวผมเหมือนถูกบันทึกอยู่ในหัวของผม ทำาให้ผมเริ่มเต้นไปกับมัน

ผมเคยเต้นไปตามจังหวะของเสียงเครื่องซักผ้าที่แม่ของผมเอาผ้าไปซักที่ร้าน เมื่อผมเต้นไปตามจังหวะ ทุกคนก็

มารุมล้อมเพื่อดูผมเยอะมาก เขามาเพื่อดูผมเต้น ผมยังจำาเรื่องราวเหล่านี้ได้ดี สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้เหมือนเป็นภาพ

สะท้อนที่อยู่ในความคิดของผมตลอดมา Joys

27 Enjoys Life

Joysmagazine

Page 15: Joys Magazine volume B10

JOYS NOTICEเรากำาลังต้องการตำาแหน่งเหล่านี้เป็นพิเศษ

เว็บมาสเตอร์

ฝ่ายขายโฆษณา (A.E.)

เจ้าหน้าที่กราฟฟิค

นักเขียน (Joys Writer)และตำาแหน่งอื่น ๆ ที่คิดว่าตัวเองถนัด

สนใจสมัคร ส่ง E-Mail มาได้ที่

[email protected] เท่านั้น

เรารับพิจารณาทุกคนอย่างเร่งด่วน !