44

Slala Magazine

Embed Size (px)

DESCRIPTION

YADA JIENJITLERT 021

Citation preview

lala editorlala co-workerlala contributes

lala holalala tale

lala the booklala fadlala cartlala fatelala list

lala member

4 talk about book5 imprints6 they know8 reeves bindery13 other in ours 18 we loved book24 before and after bed32 the books36 october38 stock list39 subscription

3

สวัสดีคะ น่ีก็เป็นเล่มแรกของสลาลาแม็กกาซีนเลยนะคะ ดี ใจมากที่ ได้ทำ นิตยสารเล่มน้ีออกมา แม้จะยากลำ บากอยู่บ้างในบางช่วง แต่ก็ตั้งใจทำ ให้ออกมาสวย น่าอ่าน รวมถึงมีสาระแก่คนที่รักเครื่องเขียนอย่างพวกเราด้วยคะ หวังว่านิตยสารเล่มน้ีจะให้ประโยชน์แก่ผู้ที่รักเครื่องเขียนทั้งหลาย รวมถึงผู้อื่นที่สนใจหยิบจับขึ้นมาอ่านนะคะ และก็ขอขอบพระคุณมากที่ให้การสนับสนุน อุดหนุนพวกเรา และขอให้รักสลาลาแม็กกาซีนต่อไปเรื่อยๆนะคะ

กองบรรณาธิการนิตยสารสลาลา

(ญาดา เจียรจิตเลิศ)

4

Yada JienjitlertExecutive Director and Editorial

patsrin kaewfaphotographer

Tanaree Powijitmarketing and

advertising

wasu Tongnokcirculation

5

Pimnara Wimaleungtakulfashion stylist

6

Chomtisa smuthkalin make up artist

7

จุดเริ่มต้นมาจากอะไร?มันมาจากความชอบเรื่อง “กระดาษ” เพราะตอนเด็กๆ เห็นแม่เก็บกระดาษ แต่แม่แค่ชอบ ไม่ได้เอาไปทำ อะไร เราก็ซึมซับมาตลอด แต่ไม่ได้คิดว่าจะเอามาเย็บสมุด แต่พอออกมาจากการเป็น นักข่าว ก็อยากจะหาอะไรทำ ที่มันอิส- ระกว่าน้ี ทำ คนเดียว ทำ ที่เราชอบ ก็รู้จักเพื่อนที่ โปแลนด์ทีเย็บสมุด ก็คิดว่าเย็บสมุด คิดว่ามันสวย แต่ไม่คิดว่าจะทำ ได้ เพราะไม่ ใช่คนที่ทำ งานศิลปะเป็น ไม่ ใช่คนเก่งศิลปะ ชอบแต่ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะทำ ได้ คิดอยู่แค่นั้น แต่พอออกมาจากนักข่าวก็เลยอยากลองดู เพื่อนที่ โปแลนด์ก็ติดต่อให้ ตอนแรกก็กะไปลองเรียน แค่สามเดือน เรียนกับอาจารย์ที่เป็นartist ที่นู่น ครอบครัวอาจารย์ก็เย็บมาตลอดเลย เมื่อก่อนจะใช้เย็บไบเบิ้ล เค้าจะเย็บแบบลายแต่ถูกซ่อนไว้ข้างใน เย็บละเอียดมาก แต่ลายจะถูกปิดไว้ด้วยหนัง ด้วย case binding น่าเสียดาย ไปเรียนแค่สองอาทิตย์แรกก็รู้สึกว่ามาถูกทางแล้ว สองสามอาทิตย์แรกก็ได้แค่จับกระดาษนะ ให้รู้จักกับกระดาษ แต่ก็รู้สึกว่าชอบ พอขึ้นเดือนที่สองถึงจะได้เย็บสมุดจริงๆ เรียนเยอะมาก อาจารย์เก่งมาก และได้อาจารย์ดีด้วยบางทีอะไรที่ว่ายากหรือง่าย มันอยู่ที่คนสอนด้วย พอเค้าสอนแล้วเราเข้าใจมันก็ไปได้ไกล แต่บางแบบก็ต้องไปเรียนกับลูกศิษย์เค้า ก็ต้องไป - กลับไทยทุกสามเดือน เพื่อต่อวีซ่า ในยุโรปมีคนสนใจbindingเยอะ ขายได้ราคากว่า ในไทยมองว่าbindingเป็นงาน-ประดิษฐ์ แต่ ในต่างประเทศมองว่าbinding เป็นงานศิลปะ เพราะฉะนั้นพอคนมองต่างกันปุป ราคาจะต่างกันสมมติเย็บสมุดไปขายญี่ปุ่น จะรวยในพริบตาเห็น ราคาก็จะดีกว่าไทยเยอะ แต่ถ้าทำ กับคนไทยนะ เบี้ยวนิดนึงก็ไม่เอา แต่ถ้าฝรั่งนะ ตรงเป๊ะเค้าก็ไม่เอา เค้าบอกว่ามันไม่มีสเน่ห์ เย็บให้เป็นธรรมชาติที่สุด ส่วนตลาดคนไทย

ชรัมภ์ กาฎโีรจน์ (รีฟ)จบการศึกษาทางด้านนิเทศศาสตร์ เคยทำ งาน

ด้านสื่อสารมวลชนมาก่อน ก่อนที่จะลาออกและไปเรียนต่อเกี่ยวกับศิลปะการเย็บสมุดที่ WARSAW

POLAND ปัจจุบันมีอาชีพเป็น bookbinder and book artists ทำ งานเกี่ยวกับการเย็บสมุด และ

สร้างสรรค์สมุดจากงานศิลปะทุกประเภท

8

ไม่ได้สนใจเลย ได้ลูกค้าจากตอนเรียนจบก็ได้ลูกค้าจากอาจารย์ และก็ต่อ-ยอดลูกค้าไปเรื่อยๆ รายได้ ในการรับออเดอร์ดีมาก ส่วนใหญ่คนจะออเดอร์ให้ตัวเอง เหมือนทำ memory ให้ตัวเอง ทำ diary ให้เหมาะกับอาชีพของตัวเอง บางทีการตกแต่งแค่หน้าเดียว บางทีเป็นเกือบหมื่นเลยนะเพราะว่าของมีชิ้นเดียว ก่อนทำ ต้องตกลงเรื่องราคากันก่อนนะ คุยเรื่องคอนเซปและราคา ถ้าสู้ไหวก็ทำ แต่ถ้าไม่ไหวก็ตัดทอนลงมา แต่ถ้าคนที่ชอบปกติจะไม่มีปัญหา บางทีไม่ต้องอธิบายอะไรเลย บอกราคาก็โอเคเลย ที่ทำ น่ีก็ ใช้ของในไทย มีของบางอย่างที่สั่งเข้ามา เช่น ด้ายลินิน แต่กระดาษกับ กาว ก็ทำ เอง เอากระดาษสามาประยุกต์ ใช้ วัสถุดิบหาในไทยได้เยอะ ถูกกว่าเยอะ เอามาปรับใช้ได้ มีแค่เครื่องมือ ที่หายาก แต่ก็เอามาปรับใช้ได้เยอะ ตอนน้ีทำ กำ ลังออกแบบแท่นเย็บสมุดขึ้นมาเองอยู่ เพราะบางแบบมันก็เย็บมืออย่างเดียวก็ไม่ได้เอามาช่วยในการเย็บมีที่ทับกระดาษ ที่เจาะอะไรประมาณน้ี น่าจะเสร็จสิ้นเดือนน้ี เพราะน่ีก็ล่าช้ามานานแล้ว เพราะทุกอย่างต้องทำ ให้เป๊ะ คิดว่าตัวเองประสบความสำ เร็จไหม?ประสบความสำ เร็จไหมไม่รู้ แต่รู้ว่าสนุก และ พอใจกับสิ่งที่ทำ มาก เอาเฉพาะที่รับออเดอร์ก็พอแล้ว ไม่ต้องกระวีกระวาดหาอะไรเพิ่มเลย แต่ที่

ไทยก็พอใจขึ้นเยอะนะ มีคนสนใจมากขึ้น อยากเห็นคนอื่นทำ มากกว่า เพราะเราไม่มีเวลาทำ เวลานักเรียนมาเรียนก็บบอกให้ไปทำ ธุระกิจนะ แต่อาชีพที่เกี่ยวกับศิลปะเน่ียต้องมีฐานะมาก่อนนะ เพราะในไทย ขายไม่ค่อยได้ราคา ส่งออกนอกจะดีกว่า อย่างกระดาษสาในไทยเน่ีย ส่งออกนอกแล้วสกรีนลายสวยๆ ของที่สวยๆ ขายบ้านเราไม่ได้ราคา คนไทยแปลกมากที่ ไม่สนใจของไทย ของแฮนเมดบ้านเราขายไม่ได้ราคา เค้าก็ส่งเยอรมันหมด แถวนู้นเค้าให้ความสำ คัญกับกระดาษลายที่เย็บออกแบบเองหรือปล่าว?ออกแบบลายที่เย็บเอง ประยุกต์มา จากที่เรียนมา จับนู่นมาตรงน้ีมา ถ้ามีคนบอกว่าดีไซน์ลายเองเน่ีย พี่จะไม่เช ื่อ เพราะมันก็มีพื้นฐานมาจากของเก่าๆทั้งนั้นเอานู่นมาผสมน่ีก็เป็นลายใหม่แล้ว เป็นการประยุกต์มาใช้มากกว่ามันสามารถต่อยอดไปได้เยอะ แต่สมุดบางเล่มมันไม่ ใช่แค่สมุด มันเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ เป็นบุ๊คจิวเวอร์รี่ ได้มันไม่มีทางก๊อปปี้กันได้ 100 เปอร์-เซนต์ เพราะยังไงก็ไม่เหมือนกัน มันแข่งกันที่ฝีมือเท่านั้นแหละ และ ไอ-เดีย จับนู่นน่ีนั่นเข้ามาใส่ มันจะต่างกันที่ ไอเดียน่ีแหละ บางทีเย็บสวยแต่ไ่ม่มีอะไร ถ้าไปเปิดดูเว็ปต่างประเทศเน่ีย คนเย็บเป็นจะน้อยมาก ถ้าออกไปต่างประเทศเน่ีย แค่เย็บราคาก็จะสูงลิบลิ่วแล้ว เวลาเย็บต้องรู้พื้นฐานก่อน ทำ อะไรก็ตามต้องรู้พื้นฐานเบื้องต้นก่อน แล้วก็จะต่อยอดเองไปได้ไกล แต่คนไทยชอบข้ามขั้นตอน ไม่ยอมเรียนพื้นฐานกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร?กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นยุโรป ในเอเชียก็มีญี่ปุ่ง สิงคโปร์ ฮ่องกง รับออเดอร์หลักจากยุโรป และก็ มีสอนที่สิงคโปร์ ส่วนใหญ่ก็จะสอน book art ซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่คนเรียนจะเป็นแม่บ้านนะ เด็กวัยรุ่นจะมีเฉพาะแค่บางคลาสเองนะ

9

อยากทำ อะไรอีก?ตอนน้ีที่อยากจะทำ อีกก็มีเรื่อง กระ-ดาษ ทำ แล้วแหละแต่ยังไม่ได้เริ่ม จะ ปริ้นเอง ย้อมเอง อีกเรื่องคือ หนังสือพ๊อกเก็คบุ๊ค และก็ แม๊กกาซีนที่เกี่ยวกับเรื่องบู๊คไบดิ้งโดยตรง ที่อาจจะเย็บด้วยมือ เพราะกลุ่มลูกค้าก็ไม่เยอะ ไม่ก็อาจจะทำ เป็นลีมิตเต๊ด ให้มีทั้ง เล่มพิมพ์และทำ มือ ตอนน้ีคือไม่มีเวลาเลยจริงๆ ข้อมูลน่ะมีหมดแล้ว แต่รอเวลาที่จะทำ เน่ียแหละ ไม่มีเวลาจริงๆปกติเมื่อปีที่แล้ว ก็จะสอนแค่ เสาร์อาทิตย์ แต่ช่วงน้ีคนพึ่งรู้จักเรา ก็สอนเยอะ วันเว้นวัน วันเว้นวัน แต่ก็ไม่ได้โฆษณาที่ ไหนนะ จะรู้จาก facebook และก็บอกต่อต่อกันไปเอง ช่วงน้ีคน-ไทยก็สนใจศิลปะกันเยอะ ดีนะสนับ- สนุน ศิลปะมันช่วยอะไรหลายหลายอย่าง แล้วคนมันฟุ้งซ่าน ก็เอาศิลปะมาบำ บัด และก็เรื่องเย็บสมุดคนไทยมันหาเรียนยากไง แต่ที่พี่สอนเน่ีย เปิดในตำ ราเจ๋งๆ ก็ไม่มีไง ถ้าจะซื้อหนังสือสอนเย็บสมุด ก็แนะนำ ให้เป็นหนังสือที่เป็นภาพ จะเข้าใจง่ายกว่า ทำ เป็นอาชีพหลักเลยเหรอ?ตอนน้ีก็ทำ เป็นอาชีพ อยู่ไทยแล้วก็รับออเดอร์จากต่างประเทศ ทำ ที่สตูดิโออยู่ที่อยุธยา มาได้สองปีแล้ว แต่สอนเน่ียประมาณปีนึง น่ีก็จะรับออเดอร์ปีละสองครั้ง แต่วัสดุแปลกๆที่อยากได้ก็ต้องไปเอามาจากต่างประเทศ

คนภายนอกมองยังไง?คนภายนอกก็มองอาชีพน้ีว่า แปลก ก็จะมีคนซ่อมสมุดเก่าๆบ้างแต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็น เพราะถ้ามีคนทำ แล้วเราก็จะพยามไม่ทำ ซ้ำ ใคร พยามทำ อะไรที่มันแปลกเราไปเรียนมาได้ความรู้ที่มันแปลก ก็พยายามทำ อะไรที่มันแปลก ตอนน้ีเราก็กำ ลังศึกษาเพิ่มประวัติศาสตร์ของการเย็บสมุดอยู่ เพราะมันจะทำ ให้เราเข้าใจอีกเยอะแต่มันหาหนังสือยากตอนไปเรียนเป็นไงบ้าง?ตอนไปเรียนน่ีก็ อาจารย์ก็พูดภาษา-โปแลนด์ พูดภาษาอังกฤษได้นิดเดียว เวลาไปเรียนก็ดูๆเอา ดูเทคนิค เพราะตอนนั้นเราก็เย็บเป็นแล้วไง แต่อยากดูวิธีของเค้า เพราะบางทีเค้าก็ทากาวไม่เหมือนกัน พี่ ไม่ได้เรียนที่ โปแลนด์ไง ข้ามไปเทคคอร์สที่อื่นด้วย พวกเยอรมันอะไรพวกเน่ีย มองมือเค้าแล้วก็ทำ ตาม มันได้ประสบการณ์ ความรู้เยอะมาก รู้สึกว่าชอบเย็บสมุดมาก พอเรียนแล้วได้ศิลปะด้วย มันมีศิลปะในหัวทุกคน อยู่ที่ว่า เราจะดึงมันออกมายังไง อยู่ที่ ไอเดียและประสบการณ์ของเรา ไ่ม่ ใช่ว่าเรียนอาร์ทมา แล้วมันจะเก่ง เรียนไป แล้วไม่ปฏิบัติ ก็ไม่ได้ ถึงอาจารย์สอนดีแต่หัวเราไม่ไปก็ไม่ได้ สรุปแล้ว ศิลปะมันอยู่ที่ตัวคน และก็รสนิยม บางอย่างเราว่าสวย คนอื่นก็ว่าไม่สวย มันไม่มีอะไรตายตัว ทำ ที่เราชอบที่สนุก มันทำ ได้เยอะ ไม่เบื่อ

การเย็บสมุดคืออะไรสำ หรับพี่?การเย็บสมุดตอนน้ีมันเป็นชีวิตไปแล้ว ตื่นมาก็เจอ นอนก็ได้กลิ่นกระดาษมันไม่ ใช่แค่อาชีพแล้ว เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เป็นเหมือนสิ่งที่เราต้องทำ ประจำ วัน ที่เหมือนเราต้องกินข้าว เหมือนเป็นอาชีพนะ แต่เป็นอาชีพที่เหมือนไม่ได้ทำ งาน รู้สึกว่าเราโชคดีนะ ตั้งแต่เรียนได้เจออาจารย์ดี พอเสร็จก็ได้ลูกค้า มันอยู่ที่ช่วงเวลาด้วย มันตรงมันลงล๊อค พอเสร็จแล้วเราสนุก พอสนุกแล้วเหมือนเราไม่ได้ทำ งาน เหมือนวันนึง อุ๊ย หมดวันแล้วเหรอ ได้ทำ อะไรที่เราชอบ แล้วมันไม่เบื่อ เพราะเราชอบกระดาษด้วยไง พอเห็นกระดาษที่สวยๆแปลกๆ ก็ยอมหมดตัวนะ เพราะเรารู้ไงว่ามันมยังไงกว่าจะได้มาแผ่นนึง ไม่ต่อรองราคาด้วยนะ ตอนน้ีก็เริ่มสอนหลานละอายุ 14 เผื่อจะเป็นสืบทอง กลัวว่าอายุมากแล้วจะไม่ไหว แต่พอไม่ไหวแล้วก็จะมาเรื่องของกระดาษมาแทน จะได้มีอะไรกระดาษมันสมควรจะเป็นอะไรที่มากกว่ากระดาษ ไม่ ใช่ว่า เป็นกระดาษแผ่นเดียวแล้วไม่มีค่าอะไรเลย แต่พอกระดาษกลายมาเปน็สมุดมันกจ็ะมีคณุค่าในตัวมันเอง ไม่ชอบให้กระดาษมันอยู่เฉยๆ แนะนำ คนรุ่นใหม่หน่อยแนะนำ ให้ค้นหาตัวเองให้เจอก่อน ถ้าเราค้นหาตัวเองเจอปุ๊ปว่า เราชอบอะไร ให้ลุยไปทางเดียวเลย แล้วจะเรารู้สึก

10

ใบปริญญามันก็ไม่มีค่า ถ้าเราเจ๋งจริง

ว่าเราไม่มีทุกข์ร้อนอะไรเลย ทำ ให้สิ่งที่ชอบเราจะมีความสุข เพราะเรามีความสุขปุปเราก็จะมีแรงบันดาลใจ มีแรงที่จะทำ งานไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย งานมันก็จะออกมาดี แล้วแนะนำ ว่าถ้าจะเรียนอะไร ให้เรียนไปทางเดียวเลย รู้อย่างเดียว มันไม่อดตาย รู้ด้านเดียว แต่รู้ลึกๆ รู้แล้วทำ ให้เป็น พอรู้ลึกๆแล้วมันจะไม่มี ใครตามเราทัน เราจะอะแด๊ปไปเองได้ จนกลายเป็นทางของเราเอง เราจะสนุกกันมัน เหมือนมันไม่หมดไฟ ก็อยากจะค้นหานู่นนั่นน่ีต่อ ไม่มีหยุด บางคนเรียนนู่นเรียนน่ีแล้วไม่ได้ ใช้ ถ้าเรียนให้รู้ลึกๆ แล้วไปใช้จะเป็นคนที่ประสบความสำ เร็จมาก เรียนให้ตรง อย่างไปเรียนสะเปะสะปะ มันแข่งกันที่ตรงเน่ีย รู้ ให้จริง ทำ ได้จริง ใบปริญญามันก็ไม่มีค่า ถ้าเราเจ๋งจริง เราไม่ต้องไปพึ่งใคร ถ้าอยู่เมืองไทยนะ ทำ อะไรให้มันต่าง ที่ก๊อปไม่ได้ แล้วมันจะประสบความสำ เร็จ

ติดต่อ http://reeves.diaryis.com

11

13

ไม่มีอะไรทำ ไม่มีที่ ไปควรจะทำ อย่างไร ?

เดินเรื่อยเปื่อย ล่องลอย มีผู้คนอยู่รอบกาย แต่ไร้“คนข้างกาย”เดินอย่างไร้ซึ่งจุดหมายผ่านร้านค้ามากมาย

ทั้ง อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี เยอรมัน อิตาลี่ หลากหลายที่จากทุกมุมทั่วโลก ดูเหมือนจะมารวมกันที่น่ี

แต่ยากเหลือเกิน ที่จะหาที่น่ี ในที่น้ี แม้อาจจะหลงเหลืออยู่น้อยนิด แต่ ในที่นน่ี ก็ยังคงซึ่งกลิ่นอายของที่อื่น ซึ่งช่างแปลกเสียเหลือเกิน

ก็ยังคงเดินสำ รวจต่อไป อย่างเรื่อยเปื่อย

แล้วฝีเท้าก็หยุดลงที่ที่นั้น ที่ที่ ไม่ ใหญ่โต และยังถูกล้อมลอบด้วยทะเล พึ่งจะงอกงามได้ไม่นานแต่กลับทรงอิทธิพลเหลือหลายในที่น่ี เพียงแค่ก้าวขาเข้าไป ก็พบได้กับ “ความเรียบง่าย” และเมื่อกวาดสายตาไปรอบรอบ ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นอย่างประหลาด ทั้งสีเหล่านั้น และทั้งพื้นผิวพวกนั้น ช่างสร้างอารมณ์ได้อย่างล้มหลาม ทั้งทั้งที่มีเพียงแค่ความเรียบง่ายในที่นั้น

14

สองขาพาก้าวเข้าไป สำ รวจรอบรอบอย่างเชื่องช้าและหยุดลงที่มุมมุมหนึ่ง อุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย แต่น่าดูช่างสนใจ และอุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้น ก็ยังถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ ไม่สงสัยเลยว่า ทำ ไมที่นั้นถึงได้มีอิทธิพลเพียงน้ี ในที่น่ี จากที่ล่องลอยไร้จุดหมาย ก็กลับมาหยุดลงที่นั้น กับอุปกรณ์พวกน้ี ราวกับมีแรงดึงดูดอย่างมหาศาล จะจับต้องสิ่งไหน ก็เป็นอยากได้มาไว้ครอบครองไปซะหมด

และก็ได้พบกับ สิ่งสิ่งหนึ่งที่สามารถบันทึกทั้งเรื่องราว และความรู้สึกต่างต่างได้ ทั้งที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่กลับมีบางสิ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ทั้งขนาดที่พอดีมือ และผิวสัม-ผัสที่ทำ ให้อยากแต่งแต้มสีสัน และตัวอักษรลงไป

นึกได้แล้ว ก็สำ รวจตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง แล้วนำ มาไว้ ในครอบครอง อย่างถูก-ต้องตามกฎหมาย และก็เดินออกจากที่นั้นอย่างสดชื่นอย่างประหลาด และไม่รู้สึกล่องลอย โดดเดี่ยวอีก

ไม่สงสัยเลย ว่าทำ ไม ที่นั้นถึงกินใจคนที่น่ี ได้อย่างง่ายดาย เพราะความเรียบง่ายและอบอุ่นน่ีเอง

story & illustration by Yada Jienjitlert

15

อินเดีย คือ ประเทศที่เขียนตัวอักษรจาก

ซ้ายไปขวา ตามต่อมาด้วยอังกฤษ จนมาถึงไทย

จีน คือ ประเทศที่เขียนตัวอักษรจาก

ขวาไปซ้าย ตามต่อมาด้วยเกาหลี จนถึงญี่ปุ่น

18

HISTORY OF THE BOOKสมุดเริ่มต้นมาจากสมุดจด ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ชาวอังกฤษได้เริ่มใช้สมุดจดแบบ COMMONPLACE Commonplace Book คือ สมุดจดธรรมดาๆ มีเส้นบ้าง ไม่มีเส้นบ้าง สมุดเล่มหนึ่งสามารถใช้จดได้ทุกสิ่งทุกอย่าง จะจดยังไงก็ได้ ขอแค่เปิดอ่านแล้วจำ ได้ รู้เรื่องเท่านั้นเป็นพอ เป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาออกซ์-ฟอร์ดในสมัยนั้น ไม่เว้นแม้แต่นักเขียน และ นัก-ปรัชญาชาวอังกฤษ John Locke ที่จับเอาหลากหลายหัวข้อจาก Commonplace Book ของเขามาเรียบเรียงพิมพ์เป็นหนังสือ An Essay Concern-ing Human Understanding และยังมีนักกวี นัก-ปรัชญา ระดับตำ นานอีกหลายท่านที่ชอบใช้วิธจีดขยุกขยิกเอาไว้ ในสมุดเล่มเดียวกันไว้ก่อน

จนต่อมาในศตวรรษที่ 18 ตอนต้นเริ่มมีการถ่ายภาพ บันทึกทุงอย่างที่ผ ่านเข้ามาในชีวิตประจำ วันผ่านภาพถ่าย จึงมาการนำ ภาพต่างๆมาประกอบในสมุด หรือไม่ก็แปะภาพถ่ายแล้วเขียนบรรยายใต้ภาพ เป็นที่มาของ Scrapbook วัฒนธรรมใหม่ได้อรรถรสกว่าแค่เขียนตัวหนังสือ หรือเปิดอัลบั้มรูปถ่าย

19

20

NOTEPAD สมุดทด สมุดฉีก มีทั้งแบบตั้งโต๊ะเป็นปึกๆ และ รวบรวมเป็นแผ่นไว้พกพา มีสันเป็นกาวแบบอ่อน เพื่อให้ดึงออกมาง่าย ออกแบบมาให้สะดวกกับการใช้งาน ง่ายต่อการพกพาNOTEBOOK สมุดโน้ต มีทั้งแบบเปิดออกเป็นหน้าคู่ หรือฉีกออกได้ทีละแผ่น มีหลายขนาด นิยมเย็บแบบไสกาวเพื่อให้กระดาษยึดติดกันอย่างดี แต่จะกางออกยาก ต่างจากการเย็บเล่มแบบเย็บกี่หรือเย็บมุงหลังคา ซึ่งจะใช้ ในกรณีที่มจีำ นวนแผ่นน้อย มักใช้กับสมุดโน้ตที่สามารถดึงหน้ากลางออกได้ทีละคู่

RING NOTE สมุดแบบห่วง ทำ ห่วงร้อยกระดาษแต่ละแผ่นเข้าไว้ด้วยกัน DRAWING PAD สมุดวาดรูป อาจมีความหนาบางของกระดาษต่างกัน ตามแต่ชนิดของสีที่ ใช้ระบายหรือวาดลงไป รูปเล่มอาจเย็บตรงกลางหรือเป็นห่วงร้อยอยู่ด้านข้างหรือด้านบนMEMORANDUM BOOK สมุดบันทึก DIARY สมุดอีกประเภทที่คล้ายกัน คือ Organizer สมุดบันทึกกิจกรรม สิ่งที่ต้องทำ ในแต่ละวัน

TYPE OF THE BOOK

21

ไสกาว เป็นการเอากระดาษแผ่นๆมารวมกันด้วยการทากาวด้านข้างโดยให้กาวซึมเข้าไปจนติดกันเป็นสัน การเย็บแบบน้ีทำ ให้ไม่สามา-รถเปิดสมุดได้จนสุด

เย็บมุงหลังคา เป็นการเย็บโดยใช้ลวดเย็บกระดาษ เย็บเล่มละอัน สองอัน สามอัน แล้วแต่ขนาดของสมุด ที่เรียกว่า มุงหลังคา เพราะเรียกตามลักษณะเวลาเอาสมุดมากางจะเป็นสามเหลี่ยมคล้ายทรงหลังคา ซึ่งการเย็บแบบน้ีจะใช้กระดาษเป็นหน้าคู่มาเย็บและเปิดกางได้จนสุด

เย็บกี ่เป็นการเย็บโดยใช้ด้ายหรือไหมที่มีความเหนียว จะต้องเย็บเป็นแยกเป็นปึกๆ ปึกละ 6-8 คู่ แล้วจึงนำ มารวมเล่มอีกที แล้วหุ้มด้วยปก แบบน้ีจะทนมานและสามารถกางสมุดได้สุด

เย็บเข้าห่วง จะมีทั้งห่วงที่เป็นลวด พลาสติก ซึ่งต้องเจาะกระดาษให้เป็นรูเพื่อใช้ร้อยห่วงเข้าไป สามา-รถเปิดได้ง่ายและทนทาน

เย็บสไตล์ญี่ปุ่น เป็นการเย็บโชว์สันด้วยไหม มีวิธีเย็บหลายแบบ หลายลวดลาย เหมาะกับการเย็บกระดาษเป็นแผ่นๆ

เข้าเล่มหัวกาว เป็นการเย็บโดยเอากระดาษเป็นแผ่นๆมาเรียงกัน คล้ายกับเราเย็บแบไสกาว แต่แบบน้ีจะทากาวอ่อนๆเหมาะกับสมุดฉีก สามารถฉีกกระดาษออกมาได้

HOW TO BE THE BOOK

แหล่งที่มาของรูปภาพcookdingskitchen.blogspot.comroombook.wordpress.commetropolisbooksla.wordpress.com

22

23

BEFORE AND AFTER BED

24

25

26

27

28

29

model Thanaree PowijitYada JienjitlertPhotographer Patsrin Keawfa

30

the booksfind one that fits you*

32

33

LOCKER BOOK 200 BAHT : LIDOBOLD IDEAS 100 BAHT : Be Trend

34

35

การงาน ท่านที่เป็นนักธุรกิจ ควรระวังเรื่องคดีความและไม่ควรรับซื้อของจากคนแปลกหน้า การเงิน รายได้เพิ่มขึ้น และรายจ่ายลดลง ทำ ให้มีเงินเหลือเก็บ ความรัก คนรักค่อนข้างงอแง เอาใจยาก จึงไม่ควรพูดจาใดๆที่เห็นว่าจะทำ ให้ขัด-แย้ง สุขภาพ ให้ระวังโรคเกี่ยวกับไต

การงาน โดดเด่นแต่มีศัตรูคอยขัด-ขวาง จึงควรรอบคอบในการแสดงออกในทุกทาง การเงิน จะได้เงินก้อนใหญ่จากงานประจำ พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน ความรัก คนรักอยู่ ในภาวะแห่งความเศร้าโศก จึงไม่ควรเร่งรัดเรื่องคำ ตอบใดๆ สุขภาพ ไม่มีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพ หากป่วยอยู่ก็จะค่อยๆดีขึ้น

การงาน จะได้งานใหม่ทำ และ มีผลตอบ แทนดีขึ้นด้วย การเงิน จะได้เงินพิเศษเป็นของขวัญ หรือของสมนาคุณเป็นเงินก้อนใหญ่ เนื่องจากท่านให้ความช่วยเหลือเขา ความรัก คนรักอยู่ ในภาวะเข้าใจและเห็นใจท่าน ในกรณีที่ผู้ ใหญ่ขัดขวาง สุขภาพ ให้ระวังการเจ็บป่วยอย่างปัจจุบันทันด่วนหรืออุบัติเหตุ

การงาน ให้ระวังเกี่ยวกับเอกสารสัญญา ไม่ควรประมาท การเงิน จะเสียเงินก้อนใหญ่จากคดีความและการค้ำ ประกัน จึงควรหลีกเลี่ยงการค้ำ ประกัน ความรัก ท่านที่คิดรักคนในวงการเดียวกัน นอกจากได้งานแล้ว จะได้คนรักเพิ่มตามความต้องการด้วย สุขภาพ ไปไหนมาไหนช่วงน้ี ไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพ

การงาน จะได้ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับงานเช่น ถูกย้ายหรือ ถูกสอบสวนความผิด การเงิน จะได้เงินก้อนจากการขาย ทรัพย์สินหรือการเสี่ยงโชค ความรัก ผู้ ใหญ่เร่งรัดการแต่งหรือหมั้น แต่ดูเหมือนท่านยังไม่พร้อม และ อาจนำ ไปสู่ความขัดแย้งได้ สุขภาพ ให้ระวังโรคเกี่ยวกับตับหรือม้าม

การงาน ท่านที่ทำ ธุรกิจเกี่ยวกับสิน-ค้าสวยงามหรือเครื่องประดับ ช่วงน้ีมีออเดอร์เข้ามามากจึงเป็นโอกาสทองของท่านการเงิน รายจ่ายเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากมีการลงทุนเพิ่ม หรือลงทุนใหม่ จึงไม่ควรลงทุนเกินตัวความรัก ความรักสดใส มีมาให้เลือกและท่านก็เลือกได้ด้วย สุขภาพ ให้ระวังเกี่ยวกับเหงือกและฟัน

36

การงาน จะยังมีอุปสรรค และทำ ให้เกิดความล่าช้าในการทำ งานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย การเงิน เริ่มดีขึ้น เนื่องจากได้เงินเก่าคืน หรือมีผู้ ใหญ่มาร่วมลงทุน ความรัก สดใสมีเรื่องใหม่ๆมาให้ช่วยกันคิด ความเข้าใจระหว่างท่านกับคนรักดีขึ้น สุขภาพ ให้ระวังโรคเกี่ยวกับเหงือกหรือฟัน

การงาน พบอุปสรรคขลุกขลักไม่รารื่น จึงไม่ควรเริ่มงานใหม่หรือเสนอโครงการใดๆ การเงิน จะเดือดร้อนเรื่องเงิน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายกะทันหันเกิดขึ้น ความรัก คนรักค่อนข้างงอแง เอาใจยาก จึงไม่ควรพูดจาใดๆ ที่เห็นว่าจะทำ ให้ขัดแย้งสุขภาพ ไม่มีปัญหาใดๆเกี่ยวกับหากเจ็บป่วยอยู่ก็จะดีขึ้น

การงาน ท่านที่อยู่ ในวงการแสดงจะมีงานเข้ามามาก และ มโีอกาสเลือกได้ การเงิน จะได้ข่าวดีเกี่ยวกับเงินกู้ หรือหน้ีเก่า จึงเหมาะแก่การทวงหน้ี ความรัก ไม่ควรเสนอเงื่อนไขหรือรับปากคนรักในเรื่องที่ท่านไม่แน่ใจว่าจะทำ ได้ สุขภาพ ให้ระวังโรคเกี่ยวกับไขข้อหรือกระดูก

การงาน จะได้ข่าวดีเกี่ยวกับงาน เช่น ได้เดินทางไกล เพื่อดูงาน เป็นต้น การเงิน รายได้เพิ่ม แต่รายจ่ายก็เพิ่มตามด้วย จึงเท่ากับมีเงินผ่านมือ ไม่มีเหลือเก็บ ความรัก ท่านที่หลงรักใครอยู่จะได้ข่าวดี และได้รับการตอบรับจากคนรักตามที่ท่านคาดหวัง สุขภาพ ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ถ้าไปเที่ยวควรป้องกันอย่าประมาท จะได้ของแถมจากหญิงบริการ

การงาน โดดเด่น ได้ผลตอบแทน ทั้งในรูปของการเงินและชื่อเสียง การเงิน จะได้เงินจากงานชิ้นใหญ่ รวมทั้งมโีอกาสได้เงินเพิ่มจากงานจรๆ ที่ผู้ ใหญ่มอบให้ ความรัก คนรักจะดีกับท่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของท่าน หากต้องการให้คนรักพูดง่ายก็ต้องพร้อมควักกระเป๋าจ่าย สุขภาพ ให้ระวังอุบัติเหตุจากเครื่องจักรกล หรือเจ็บป่วยกะทันหัน

การงาน ท่านจะปิดทองหลังพระ เช่น ทำ งานแล้ว คนอื่นได้ดีแต่ท่านได้แต่ค่าแรงหรือเงินเล็กน้อย การเงิน เงินทองดีขึ้นเนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากงานประจำ และงานพิเศษ ความรัก ความรักจรๆ หรือแรกเริ่มไปได้ด้วยดี แต่ไม่ค่อยยืนยาว เพราะคบไปนานๆ ไม่ถูกใจท่าน สุขภาพ ให้ระวังหกล้มหรือมีดบาดได้แผลเล็กน้อย

37

lala cartZAP BOOK : Be TrendBold Ideas : Be TrendThe Red Shoes : B2SCanson SketchBook : B2SARTIST Sketch Book Potentate :B2SLocker Book : Lido Siamlala fadGOD BLESS YOU : The NinthForever XXI (DC)

38

ชื่อ _________________________นามสกุล _____________________วันเกิด _______ อายุ ___ เพศ _____ที่อยู่ ____________________________________________________โทรศัพท์ ______________________โทรศัพท์มือถือ __________________อีเมล ________________________

สถานที่จัดส่ง _______________________________________________ ที่อยู่เดียวกับด้านบน

วิธีการชำ ระเงิน> โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ช ื่อ สลาลาแม๊กกาซีน ธนาคารUOB สาขาศรีวรา เลขที่บัญชี 135 - 3 - 15525 -0

กำ ลังศึกษาระดับชั้น _____ แผนก/คณะ ___________________สถาบันการศึกษา ________________

ทำ งานตำ แหน่ง _____________________สถานที่ทำ งาน __________________

สมัครสมาชิกนิตยสาร 3 ฉบับ (6 เดือน) 300 บาท สมัครสมาชิกนิตยสาร 6 ฉบับ (12 เดือน) 600 บาท

ส่งใบสมัครพร้อมสำ เนาการโอนมาที่ > 46/53 ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เขต/แขวง วังทองหลาง กทม. 10310 > FAX. 02 727 8273> e-mail: [email protected]

Subscription

* บริษัทจะส่งนิตยสารเล่มแรกไปยังท่านเมื่อได้รับหลักฐานการชำ ระเงินแล้ว สอบถามเพิ่มเติม หรือแนะนำ ได้ที่ฝ่ายcirculation นิตยสารสลาลา โทรศัพท์ 02 727 8272

39