ใบความรู้+แบบทดสอบหลังเรียน+ป.3+248+dltvscip3+55t2sci p03 f29-4page

ครกูชกร ธาราชพี

หน่วยที� 4สิ�งแวดล้อมและเทคโนโลยี


หน่วยที� 4สิ�งแวดล้อมและเทคโนโลยี

ดดี้วยพระบารมี


โลกมพีื�นนํ�าปกคลุมอยู่ 3 ใน 4

ส่วน และเป็นพื�นดนิเพยีง 1 ส่วน และเป็นพื�นดนิเพยีง 1 ใน 4 ส่วน


สมบัตขิองนํ�าที�สําคญั คอืสมบัตขิองนํ�าที�สําคญั คอื1.นํ�าม ี3 ลกัษณะ คอื ของแขง็

ของเหลว และแก๊สของเหลว และแก๊ส

2. นํ�าละลายสารบางอย่างได้


3. นํ�าเปลี�ยนรูปร่างได้ตามภาชนะที�บรรจุ

4. ผวิหน้าของนํ�าอยู่ใน4. ผวิหน้าของนํ�าอยู่ในแนวราบเสมอ


นํ�าจากแหล่งต่างๆ มสีี กลิ�น และความโปร่งใสของนํ�า

คุณภาพของนํ�า


นํ�าจากแหล่งต่างๆ มสีี กลิ�น และความโปร่งใสของนํ�า

แตกต่างกนั


นํ�าดื�มนํ�าดื�มคุณภาพของนํ�าที�เราใช้ดื�ม

ต้องสะอาด ไม่มเีชื�อโรค


ต้องสะอาด ไม่มเีชื�อโรค และสารพษิเจอืปน


นํ�าใช้นํ�าใช้คุณภาพของนํ�าที�เราใช้ดื�ม

ต้องสะอาด ไม่มเีชื�อโรค


ต้องสะอาด ไม่มเีชื�อโรค และสารพษิเจอืปน


วธิีการรักษาคุณภาพแหล่งนํ�าวธิีการรักษาคุณภาพแหล่งนํ�า

ครกูชกร ธาราชพีครกูชกร ธาราชพี





ไฟฟ้าเป็นพลงังานชนิดหนึ�ง ที�เรานํามาใช้ประโยชน์ต่างๆ ใน


นํามาใช้ประโยชน์ต่างๆ ในชีวติประจาํวนั

แหล่งพลงังานไฟฟ้าได้มาจาก


โรงไฟฟ้า


ผลติกระแสไฟฟ้าได้โดยวธิีหมุนแท่งแม่เหลก็ตดั


ผลติกระแสไฟฟ้าได้โดยวธิีหมุนแท่งแม่เหลก็ตดั

ผ่านขดลวด

หรือ ผลติกระแสไฟฟ้าได้โดยวธิีหมุนขดลวดตดั


หรือ ผลติกระแสไฟฟ้าได้โดยวธิีหมุนขดลวดตดั

ผ่านแท่งแม่เหลก็

เครื�องกาํเนิดไฟฟ้าเครื�องกาํเนิดไฟฟ้า


แหล่งพลงังานจากธรรมชาติแหล่งพลงังานจากธรรมชาติแบ่งเป็น 2 ประเภท

1. แหล่งพลงังานที�มจีํากดั


1. แหล่งพลงังานที�มจีํากดั

22. . แหล่งพลงังานหมุนเวยีนแหล่งพลงังานหมุนเวยีน

แหล่งพลงังานที�มจีาํกดัแหล่งพลงังานที�มจีาํกดั

แหล่งพลงังานจากแหล่งพลงังานจาก


แหล่งพลงังานจากแหล่งพลงังานจากเชื�อเพลงิฟอสซิลเชื�อเพลงิฟอสซิล

แหล่งพลงังานที�มจีาํกดัแหล่งพลงังานที�มจีาํกดัคอื แหล่งพลงัที�ใช้แล้วหมดใช้แล้วหมดไปเช่น นํ�ามนั แก๊สธรรมชาต ิ


เช่น นํ�ามนั แก๊สธรรมชาต ิถ่านหิน

พลงังานหมุนเวยีนพลงังานหมุนเวยีน


พลงังานที�ใช้แล้วพลงังานที�ใช้แล้วไม่หมดไปไม่หมดไป

พลงังานหมุนเวยีนพลงังานหมุนเวยีน

คอื พลงังานที�คอื พลงังานที�ใช้แล้วไม่หมดใช้แล้วไม่หมด


คอื พลงังานที�คอื พลงังานที�ใช้แล้วไม่หมดใช้แล้วไม่หมด

หรือสามารถหามาทดแทนได้ หรือสามารถหามาทดแทนได้

เช่น ลม เช่น ลม ,,นํ�า นํ�า ,,แสงอาทติย์แสงอาทติย์

การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั


หน่วยที� 5


หน่วยที� 5เที�ยวทั�วไทย

ไนโตรเจน78%

ส่วนประกอบของอากาศส่วนประกอบของอากาศ


ออกซเิจน21%

อื น ๆ1%


แก๊สไนโตรเจน = 78%

อากาศประกอบด้วยอากาศประกอบด้วย

แก๊สไนโตรเจน = 78%

แก๊สออกซิเจน = 21%


แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

อากาศประกอบด้วย

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

ไอนํ�าและอื�นๆ = 1%


ที�มฝีุ่นละอองปะปนอยู่มากจะมผีลต่อสุขภาพโดยเฉพาะ

อากาศที�มฝีุ่นละอองปะปนอยู่มาก

จะมผีลต่อสุขภาพโดยเฉพาะระบบหายใจของมนุษย์


อากาศมสีถานเป็นแก๊สสามารถเข้าไปอยู่

ฉันรู้อะไรบ้างฉันรู้อะไรบ้าง


สามารถเข้าไปอยู่ในนํ�า และในดนิได้

อากาศมสีถานเป็นแก๊สสามารถเข้าไปอยู่



สามารถเข้าไปอยู่ในร่างกาย และในสิ�งของได้


อากาศมคีวามสําคญัต่อการอากาศมคีวามสําคญัต่อการดาํรงชีวติ สิ�งมชีีวติทุกชนิดต้องใช้อากาศในการหายใจ



ในชีวติประจําวนัยงัใช้ในชีวติประจําวนัยงัใช้ประโยชน์จากอากาศในด้านอื�นๆ เช่น สูบลมยาง แพยาง


สมบัติของอากาศ1. อากาศไม่มสีี2. อากาศไม่มกีลิ�น2. อากาศไม่มกีลิ�น3. อากาศไม่มรีส


สมบัติของอากาศ4. อากาศมี

แรงกระทาํต่อวตัถุแรงกระทาํต่อวตัถุทุกทศิทาง


สมบัติของอากาศ5. มปีริมาตร และ

ต้องการที�อยู่ต้องการที�อยู่

6. อากาศมนีํ�าหนักครกูชกร ธาราชพี


หรือ อากาศบริสุทธิCคอือากาศ

ที�มปีริมาณแก๊สออกซิเจน

อากาศดีอากาศดี


ที�มปีริมาณแก๊สออกซิเจนเหมาะแก่การหายใจ ไม่มี

สิ�งเจือปนที�เป็นโทษต่อร่างกายครกูชกร ธาราชพี


อากาศเสียอากาศเสียหรือ อากาศไม่บริสุทธิC คอื

อากาศที�มปีริมาณแก๊สออกซิเจน


อากาศที�มปีริมาณแก๊สออกซิเจนอยู่น้อย และมสีิ�งเจือปน

ที�เป็นโทษต่อร่างกายปนอยู่มากครกูชกร ธาราชพี

คอื ระดบัความร้อนหรือความเยน็ของอากาศ

อุณหภูมิอุณหภูมิ

คอื ระดบัความร้อนหรือความเยน็ของอากาศ

บริเวณที�มีบริเวณที�มีอณุหภูมิสูงอณุหภูมิสูง

จะมีสภาพอากาศจะมีสภาพอากาศร้อนร้อน


จะมีสภาพอากาศจะมีสภาพอากาศร้อนร้อน

บริเวณที�มีบริเวณที�มีอณุหภูมิตํ�าอณุหภูมิตํ�า

จะมีสภาพอากาศจะมีสภาพอากาศหนาวหนาว


จะมีสภาพอากาศจะมีสภาพอากาศหนาวหนาว

เทอร์มอมเิตอร์เทอร์มอมเิตอร์

คอื เครื�องมือที�คอื เครื�องมือที�


คอื เครื�องมือที�คอื เครื�องมือที�ใช้วดัอุณหภูมิใช้วดัอุณหภูมิ

ของอากาศของอากาศ

สถานที�สถานที�ต่างกนัและเวลาเวลาต่างกนัอากาศจะมอีุณหภูมิ

แตกต่างกนัแตกต่างกนั


เพราะอทิธิพลของเพราะอทิธิพลของแสงอาทติย์แสงอาทติย์ และสิ�งแวดล้อมสิ�งแวดล้อม


เมื�ออุณหภูมขิองอากาศไม่เท่ากนัอากาศจะเกดิการ



เท่ากนัอากาศจะเกดิการเคลื�อนที�


จากบริเวณที�มอีุณหภูมติํ�าไปยงับริเวณที�มอีุณหภูมสิูงกว่า



ยงับริเวณที�มอีุณหภูมสิูงกว่า


การเกดิกลางวนั กลางคนืการเกดิกลางวนั กลางคนื

เกดิขึ�นเนื�องจากโลกหมุนรอบตวัเอง


โลกหมุนรอบตวัเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์


ขั�วโลกเหนือ


ขั�วโลกใต้


การขึ�นตกของดวงอาทติย์การขึ�นตกของดวงอาทติย์

เกดิจากการหมุนรอบตัวเองของโลก จากทศิตะวนัตกของโลก จากทศิตะวนัตก

มายงัทศิตะวนัออก


การขึ�นตกของดวงจันทร์การขึ�นตกของดวงจันทร์

ดวงจันทร์มกีารโคจรรอบโลกจากทศิตะวนัตกไป


โลกจากทศิตะวนัตกไป ทศิตะวนัออก


การเกดิทศิการเกดิทศิ

ทศิ เป็นสิ�งที�มนุษย์กาํหนดขึ�น เพื�อบอกทศิทาง โดยสังเกตจาก


เพื�อบอกทศิทาง โดยสังเกตจากการขึ�นตกของดวงอาทิตย์


การเกดิทศิแบ่งเป็น 4 ทศิ

1.ทศิตะวนัออก 3.ทศิเหนือ


แบ่งเป็น 4 ทศิ1.ทศิตะวนัออก 3.ทศิเหนือ2.ทศิตะวนัตก 4.ทศิใต้

หน่วยที� 6


หน่วยที� 6มรดกไทย

เมื�อมีแรงกระทาํต่อวัตถุจะ

ทาํให้วตัถุมกีารเปลี�ยนแปลงทาํให้วตัถุมกีารเปลี�ยนแปลง

การเคลื�อนที�ครกูชกร ธาราชพี

ครกูชกร ธาราชพีครกูชกร ธาราชพี ครกูชกร ธาราชพี


แรงดงึดูดของโลกแรงดงึดูดของโลก

หรือ แรงโน้มถ่วงของโลกแรงโน้มถ่วงของโลก

คอืแรงของโลกที�ดงึดูดและคอืแรงของโลกที�ดงึดูดและ

ดงึวตัถุเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก

แรงดงึดูดของโลกแรงดงึดูดของโลก

ดงึดูดวตัถุให้ตกลงสู่พื�นโลกดงึดูดวตัถุให้ตกลงสู่พื�นโลกไม่ลอยหลุดออกไปนอกโลกไม่ลอยหลุดออกไปนอกโลกไม่ลอยหลุดออกไปนอกโลกไม่ลอยหลุดออกไปนอกโลก

และทาํให้วตัถุต่างๆ มีนํ�าหนักและทาํให้วตัถุต่างๆ มีนํ�าหนัก


เซอร์ ไอแซก นิวตนัเซอร์ ไอแซก นิวตนั

แรงที�โลกดงึดูดวตัถุคอื นํ�าหนักของ


คอื นํ�าหนักของวตัถุ

นํ�าหนักของวตัถุ มีหน่วยเป็น


หน่วยเป็น

นิวตนั นิวตนั ((NN))

หมายถงึ ปริมาณเนื�อสาร ที�มอียู่ในวตัถุ

มวลของวตัถุมวลของวตัถุหมายถงึ ปริมาณเนื�อสาร

ที�มอียู่ในวตัถุ มหีน่วยเป็น กโิลกรัม


คอื แรงดงึดูดของโลกที�กระทาํต่อวตัถุ

นํ�าหนักนํ�าหนักคอื แรงดงึดูดของโลก

ที�กระทาํต่อวตัถุมหีน่วยเป็น นิวตนั


วตัถุที�มมีวลน้อยจะมี


วตัถุที�มมีวลน้อยจะมีนํ�าหนักน้อย

วตัถุที�มมีวลมากจะมี


วตัถุที�มมีวลมากจะมีนํ�าหนักมาก

ฉันรู้อะไรบ้างนํ�าหนักของวตัถุ

คอื แรงที�โลกดงึดูดวตัถุ


คอื แรงที�โลกดงึดูดวตัถุ มหีน่วยเป็น นิวตัน

วดัได้โดยใช้ตาชั�งสปริง ครกูชกร ธาราชพี

1. ข้อใดคือแหล่งนํ �าตามธรรมชาติ

ก. บ่อนํ �า


ก. บ่อนํ �าข. สระนํ �าค. ลาํห้วยง. อ่างเกบ็นํ �า


2. ข้อใดคือแหล่งนํ �าใต้ดนิ

ก. ทะเลข. บ่อบาดาล


ข. บ่อบาดาลค. ลาํคลองง. อ่างเกบ็นํ �า


3. นํ �าข้อใดดื%มได้อย่างปลอดภยัที%สุด

ก. นํ �าต้มสุกข. นํ �าคลอง


ก. นํ �าต้มสุกข. นํ �าคลองค. นํ �าประปาง. นํ �าบาดาล


4. นํ �าในข้อใดมีสถานะแตกต่างจากข้ออื%น

ก. นํ �าค้างข. นํ �าฝน


ก. นํ �าค้างข. นํ �าฝนค. นํ �าแข็งง. นํ �าทะเล


5. ข้อใด ไม่ใช่ แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า

ก. นํ �าข. ดนิ


ก. นํ �าข. ดนิค. แสงแดดง. ลม


6. ข้อใดเป็นแหล่งพลังงานที%มีจาํกัด

ก. นํ �ามัน


ก. นํ �ามันข. ลมค. แสงแดดง. นํ �า


7. ข้อใดเป็นวธิีประหยัดไฟฟ้าที%ไม่ถูกวธิี

ก. ไม่นําของร้อนใส่ตู้เยน็ข. ดงึปลั8กกานํ �าเมื%อนํ �าร้อนแล้ว


ข. ดงึปลั8กกานํ �าเมื%อนํ �าร้อนแล้วค. เลือกดรูายการโทรทศัน์ที%น่าสนใจง. จุดเทยีนแทนการเปิดโคมไฟเพื%อดหูนังสือ


8. นักเรียนเหน็ด้วยกับความคดิข้อใดเมื%อพบสายไฟชาํรุด

ก. ไปบอกพ่อแม่ดีกว่าข. ปล่อยไว้อย่างนั�นแหละ


ข. ปล่อยไว้อย่างนั�นแหละค. หาอุปกรณ์มาซ่อมดีกว่าง. เดี?ยวผู้ใหญ่กม็าพบเอง


9. ข้อใด ไม่ใช่ สมบตัขิองอากาศ

ก. มีนํ �าหนักข. ต้องการที%อยู่


ข. ต้องการที%อยู่ค. มีรูปร่างคงที%ง. มีแรงกระทาํกับวัตถุทุกทศิทาง


10. ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของอากาศ

ก. ฝุ่นละอองข. แก๊สออกซเิจน


ข. แก๊สออกซเิจนค. ไอนํ �าง. ควันไฟ


11. เครื%องมือวัดอุณหภูมิของอากาศเรียกว่าอะไร

ก. บารอมเิตอร์


ก. บารอมเิตอร์ข. ไฮโกรมเิตอร์ค. เทอร์มอมเิตอร์ง. ไซโครมเิตอร์


12. อากาศเคลื%อนที%ทาํให้เกดิสิ%งใด12. อากาศเคลื%อนที%ทาํให้เกดิสิ%งใด

ก. เมฆข. หมอก


ข. หมอกค. ลมง. ฝน


13. การเกดิกลางวัน กลางคืน เกดิขึ �นได้เพราะเหตุใดก. แกนของโลกเอียงข. โลกหมุนรอบตัวเอง


ก. แกนของโลกเอียงข. โลกหมุนรอบตัวเองค. ดวงจนัทร์หมุนรอบตัวเองง. ดวงอาทติย์หมุนรอบตัวเอง


14. ถ้าดวงอาทติย์ลับขอบฟ้า โลกจะอยู่ในเวลาใด

ก. เวลากลางคืนข. เวลากลางวัน


ข. เวลากลางวันค. เวลาบ่ายง. เวลาเช้า


15. การกาํหนดทศิบนโลกใช้สิ%งใดเป็นหลัก

ก. โลกข. ดวงดาว


ข. ดวงดาวค. ดวงจนัทร์ง. ดวงอาทติย์


16. ข้อใดเป็นเครื%องมือที%ใช้ในการหาทศิ

ก. เข็มทศิข. วงเวียน


ข. วงเวียนค. ไม้บรรทดัง. เทอร์มอมเิตอร์


17. การกระทาํข้อใดทาํให้วัตถุหยุดนิ%ง

ก. ปั% นจกัรยานข. รับลูกบอล


ก. ปั% นจกัรยานข. รับลูกบอลค. โยนห่วงยางง. กลิ �งลูกแก้ว


18. ใครเป็นผู้ค้นพบแรงดงึดูดของโลก

ก. กาลิเลโอ กาลิเลอิ


ก. กาลิเลโอ กาลิเลอิข. ไอแซค นิวตันค. อัลเบริ์ต ไอน์สไตน์ง. ไมเคลิ ฟาราเดย์


19. ชั% งที%ใดไม่มีนํ �าหนัก

ก. ในนํ �าข. บนภเูขาสูงๆ


ข. บนภเูขาสูงๆค. บนดวงจนัทร์ง. ในอวกาศนอกโลก


20. เตะบอลทางเดียวกับการเคลื%อนที%ผลจะเป็นอย่างไร

ก. ลูกบอลเคลื%อนที%เร็วขึ �น


ก. ลูกบอลเคลื%อนที%เร็วขึ �นข. ลูกบอลเคลื%อนที%ช้าลงค. ลูกบอลเปลี%ยนทศิทางง. ลูกบอลหยุดนิ%ง



1. ข้อใดคือแหล่งนํ �าตามธรรมชาติ

ก. บ่อนํ �า


ก. บ่อนํ �าข. สระนํ �าค. ลาํห้วยง. อ่างเกบ็นํ �า


2. ข้อใดคือแหล่งนํ �าใต้ดนิ

ก. ทะเลข. บ่อบาดาล


ข. บ่อบาดาลค. ลาํคลองง. อ่างเกบ็นํ �า


3. นํ �าข้อใดดื%มได้อย่างปลอดภยัที%สุด

ก. นํ �าต้มสุกข. นํ �าคลอง


ก. นํ �าต้มสุกข. นํ �าคลองค. นํ �าประปาง. นํ �าบาดาล


4. นํ �าในข้อใดมีสถานะแตกต่างจากข้ออื%น

ก. นํ �าค้างข. นํ �าฝน


ก. นํ �าค้างข. นํ �าฝนค. นํ �าแข็งง. นํ �าทะเล


5. ข้อใด ไม่ใช่ แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า

ก. นํ �าข. ดนิ


ก. นํ �าข. ดนิค. แสงแดดง. ลม


6. ข้อใดเป็นแหล่งพลังงานที%มีจาํกัด

ก. นํ �ามัน


ก. นํ �ามันข. ลมค. แสงแดดง. นํ �า


7. ข้อใดเป็นวธิีประหยัดไฟฟ้าที%ไม่ถูกวธิี

ก. ไม่นําของร้อนใส่ตู้เยน็ข. ดงึปลั8กกานํ �าเมื%อนํ �าร้อนแล้ว


ข. ดงึปลั8กกานํ �าเมื%อนํ �าร้อนแล้วค. เลือกดรูายการโทรทศัน์ที%น่าสนใจง. จุดเทยีนแทนการเปิดโคมไฟเพื%อดหูนังสือ


8. นักเรียนเหน็ด้วยกับความคดิข้อใดเมื%อพบสายไฟชาํรุด

ก. ไปบอกพ่อแม่ดีกว่าข. ปล่อยไว้อย่างนั�นแหละ


ข. ปล่อยไว้อย่างนั�นแหละค. หาอุปกรณ์มาซ่อมดีกว่าง. เดี?ยวผู้ใหญ่กม็าพบเอง


9. ข้อใด ไม่ใช่ สมบัตขิองอากาศ

ก. มีนํ �าหนักข. ต้องการที%อยู่


ข. ต้องการที%อยู่ค. มีรูปร่างคงที%ง. มีแรงกระทาํกับวัตถุทุกทศิทาง


10. ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของอากาศ

ก. ฝุ่นละอองข. แก๊สออกซเิจน


ข. แก๊สออกซเิจนค. ไอนํ �าง. ควันไฟ


11. เครื%องมือวัดอุณหภูมิของอากาศเรียกว่าอะไร

ก. บารอมเิตอร์


ก. บารอมเิตอร์ข. ไฮโกรมเิตอร์ค. เทอร์มอมเิตอร์ง. ไซโครมเิตอร์


12. อากาศเคลื%อนที%ทาํให้เกดิสิ%งใด12. อากาศเคลื%อนที%ทาํให้เกดิสิ%งใด

ก. เมฆข. หมอก


ข. หมอกค. ลมง. ฝน


13. การเกดิกลางวัน กลางคืน เกดิขึ �นได้เพราะเหตุใดก. แกนของโลกเอียงข. โลกหมุนรอบตัวเอง


ก. แกนของโลกเอียงข. โลกหมุนรอบตัวเองค. ดวงจนัทร์หมุนรอบตัวเองง. ดวงอาทติย์หมุนรอบตัวเอง


14. ถ้าดวงอาทติย์ลับขอบฟ้า โลกจะอยู่ในเวลาใด

ก. เวลากลางคืนข. เวลากลางวัน


ข. เวลากลางวันค. เวลาบ่ายง. เวลาเช้า


15. การกาํหนดทศิบนโลกใช้สิ%งใดเป็นหลัก

ก. โลกข. ดวงดาว


ข. ดวงดาวค. ดวงจนัทร์ง. ดวงอาทติย์


16. ข้อใดเป็นเครื%องมือที%ใช้ในการหาทศิ

ก. เข็มทศิข. วงเวียน


ข. วงเวียนค. ไม้บรรทดัง. เทอร์มอมเิตอร์


17. การกระทาํข้อใดทาํให้วัตถุหยุดนิ%ง

ก. ปั% นจกัรยานข. รับลูกบอล


ก. ปั% นจกัรยานข. รับลูกบอลค. โยนห่วงยางง. กลิ �งลูกแก้ว


18. ใครเป็นผู้ค้นพบแรงดงึดูดของโลก

ก. กาลิเลโอ กาลิเลอิ


ก. กาลิเลโอ กาลิเลอิข. ไอแซค นิวตันค. อัลเบริ์ต ไอน์สไตน์ง. ไมเคลิ ฟาราเดย์


19. ชั% งที%ใดไม่มีนํ �าหนัก

ก. ในนํ �าข. บนภเูขาสูงๆ


ข. บนภเูขาสูงๆค. บนดวงจนัทร์ง. ในอวกาศนอกโลก


20. เตะบอลทางเดียวกับการเคลื%อนที%ผลจะเป็นอย่างไร

ก. ลูกบอลเคลื%อนที%เร็วขึ �น


ก. ลูกบอลเคลื%อนที%เร็วขึ �นข. ลูกบอลเคลื%อนที%ช้าลงค. ลูกบอลเปลี%ยนทศิทางง. ลูกบอลหยุดนิ%ง


Education

ใบความรู้+แบบทดสอบหลังเรียน+ป.3+248+dltvscip3+55t2sci p03 f29-4page