54
จจจจจจจจจจจ จจจจจจจจ

จิตวิทยาการเรียนรู้

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: จิตวิทยาการเรียนรู้

จิ�ตวิ�ทยาการเร�ยนร �

Page 2: จิตวิทยาการเรียนรู้

การเร�ยนร � เป็�นกระบวินการท��มี�ควิามีสำ�าค�ญและจิ�าเป็�น ในการดำ�ารงชี�วิ�ต สำ��งมี�ชี�วิ�ตไมี!วิ!ามีน"ษย$หร&อสำ�ตวิ$เร��มีเร�ยนร �ต�(งแต! แรกเก�ดำจินตาย สำ�าหร�บมีน"ษย$การเร�ยนร �เป็�นสำ��งท��ชี!วิยพั�ฒนา

ให�มีน"ษย$แตกต!างไป็จิากสำ�ตวิ$โลก อ&�น ๆ ดำ�งพัระราชีน�พันธ์$ บทควิามีของสำมีเดำ/จิพัระเทพัร�ตน$ราชีสำ"ดำา ฯ ท��วิ!า "สำ��งท��ท�าให�

คนเราแตกต!างจิากสำ�ตวิ$อ&�น ๆ ก/เพัราะวิ!า คนย!อมีมี�ป็1ญญา ท�� จิะน2กค�ดำและป็ฏิ�บ�ต�สำ��งดำ�มี�ป็ระโยชีน$และถู กต�องไดำ� "

Page 3: จิตวิทยาการเรียนรู้

การเร�ยนร �ชี!วิยให�มีน"ษย$ร �จิ�กวิ�ธ์�ดำ�าเน�น ชี�วิ�ตอย!างเป็�นสำ"ข ป็ร�บต�วิให�เข�าก�บสำภาพั

แวิดำล�อมีและสำภาพัการต!างๆ ไดำ� ควิามีสำามีารถูในการเร�ยนร �ของมีน"ษย$จิะมี�อ�ทธ์�พัลต!อควิามีสำ�าเร/จิและควิามีพั2งพัอใจิในชี�วิ�ตของมีน"ษย$ดำ�วิย

Page 4: จิตวิทยาการเรียนรู้

ควิามีหมีายของการเร�ยนร �

ค�มีเบ�ล ( Kimble , 1964 ) "การเร�ยนร � เป็�นการเป็ล��ยนแป็ลงค!อนข�างถูาวิรในพัฤต�กรรมี อ�นเป็�นผลมีาจิากการฝึ:กท��ไดำ�ร�บการเสำร�มีแรง"

ฮิ�ลการ$ดำ และ เบาเวิอร$ (Hilgard & Bower, 1981 ) "การเร�ยนร � เป็�นกระบวินการเป็ล��ยนแป็ลงพัฤต�กรรมี อ�นเป็�นผลมีาจิากป็ระสำบการณ์$และการฝึ:ก ท�(งน�(ไมี!รวิมีถู2งการเป็ล��ยนแป็ลงของพัฤต�กรรมีท��เก�ดำจิากการตอบสำนองตามีสำ�ญชีาตญาณ์ ฤทธ์�=ของยา หร&อสำารเคมี� หร&อป็ฏิ�กร�ยาสำะท�อนตามีธ์รรมีชีาต�ของมีน"ษย$ "

Page 5: จิตวิทยาการเรียนรู้

คอนบาค ( Cronbach ) "การเร�ยนร � เป็�นการแสำดำงให�เห/นถู2งพัฤต�กรรมีท��มี�การเป็ล��ยนแป็ลง อ�นเป็�นผลเน&�องมีาจิากป็ระสำบการณ์$ท��แต!ละบ"คคลป็ระสำบมีา "

พัจินาน"กรมีของเวิบสำเตอร$ (Webster 's Third New International Dictionary ) "การเร�ยนร � ค&อ กระบวินการเพั��มีพั นและป็ร"งแต!งระบบควิามีร � ท�กษะ น�สำ�ย หร&อการแสำดำงออกต!างๆ อ�นมี�ผลมีาจิากสำ��งกระต"�นอ�นทร�ย$โดำยผ!านป็ระสำบการณ์$ การป็ฏิ�บ�ต� หร&อการฝึ:กฝึน"

Page 6: จิตวิทยาการเรียนรู้

ป็ระดำ�น�นท$ อ"ป็รมี�ย (๒๕๔๐, ชี"ดำวิ�ชีาพั&(นฐานการศึ2กษา(มีน"ษย$ก�บการเร�ยนร �) : นนทบ"ร�, พั�มีพั$คร�(งท�� ๑๕, หน�า ๑๒๑) “ การเร�ยนร �ค&อการเป็ล��ยนแป็ลงของบ"คคลอ�นมี�ผลเน&�องมีาจิากการไดำ�ร�บป็ระสำบการณ์$ โดำยการเป็ล��ยนแป็ลงน�(นเป็�นเหต"ท�าให�บ"คคลเผชี�ญสำถูานการณ์$เดำ�มีแตกต!างไป็จิากเดำ�มี “ ป็ระสำบการณ์$ท��ก!อให�เก�ดำการเป็ล��ยนแป็ลงพัฤต�กรรมีหมีายถู2งท�(งป็ระสำบการณ์$ทางตรงและป็ระสำบการณ์$ทางอ�อมี

Page 7: จิตวิทยาการเรียนรู้

ป็ระสำบการณ์$ทางตรง ค&อ ป็ระสำบการณ์$ท��บ"คคลไดำ�พับ หร&อสำ�มีผ�สำดำ�วิยตนเอง เชี!น เดำ/กเล/กๆ ท��ย�งไมี!เคยร �จิ�กหร&อเร�ยน

“ ” ร �ค�าวิ!า ร�อน เวิลาท��คลานเข�าไป็ใกล�กาน�(าร�อน แล�วิผ �ใหญ!บอก วิ!าร�อน และห�ามีคลานเข�าไป็หา เดำ/กย!อมีไมี!เข�าใจิและคงคลาน

เข�าไป็หาอย !อ�ก จินกวิ!าจิะไดำ�ใชี�มี&อหร&ออวิ�ยวิะสำ!วินใดำสำ!วินหน2�ง ของร!างกายไป็สำ�มีผ�สำกาน�(าร�อน จิ2งจิะร �วิ!ากาน�(าท��วิ!าร�อนน�(นเป็�น

อย!างไร ต!อไป็ เมี&�อเขาเห/นกาน�(าอ�กแล�วิผ �ใหญ!บอกวิ!ากาน�(าน�(น ร�อนเขาจิะไมี!คลานเข�าไป็จิ�บกาน�(าน�(น เพัราะเก�ดำการเร�ยนร �ค�าวิ!า

ร�อนท��ผ �ใหญ!บอกแล�วิ เชี!นน�(กล!าวิไดำ�วิ!า ป็ระสำบการณ์$

Page 8: จิตวิทยาการเรียนรู้

ตรงมี�ผลท�าให�เก�ดำการเร�ยนร �เพัราะมี�การเป็ล��ยนแป็ลงท��ท�าให� เผชี�ญก�บสำถูานการณ์$เดำ�มีแตกต!างไป็จิากเดำ�มี ในการมี�

ป็ระสำบการณ์$ตรงบางอย!างอาจิท�าให�บ"คคลมี�การเป็ล��ยนแป็ลง พัฤต�กรรมี แต!ไมี!ถู&อวิ!าเป็�นการเร�ยนร � ไดำ�แก!

๑. พัฤต�กรรมีท��เป็ล��ยนแป็ลงเน&�องจิากฤทธ์�=ยา หร&อสำ��งเสำพัต�ดำบางอย!าง๒. พัฤต�กรรมีท��เป็ล��ยนแป็ลงเน&�องจิากควิามีเจิ/บป็Eวิยทางกายหร&อทางใจิ๓. พัฤต�กรรมีท��เป็ล��ยนแป็ลงเน&�องจิากควิามีเหน&�อยล�าของร!างกาย๔. พัฤต�กรรมีท��เก�ดำจิากป็ฏิ�ก�ร�ยาสำะท�อนต!างๆ

ป็ระสำบการณ์$ทางอ�อมี ค&อ ป็ระสำบการณ์$ท��ผ �เร�ยนมี�ไดำ�พับ หร&อสำ�มีผ�สำดำ�วิยตนเองโดำยตรง แต!อาจิไดำ�ร�บป็ระสำบการณ์$ทาง

อ�อมีจิาก การอบรมีสำ��งสำอนหร&อการบอกเล!า การอ!านหน�งสำ&อ ต!างๆ และการร�บร �จิากสำ&�อมีวิลชีนต!างๆ

Page 9: จิตวิทยาการเรียนรู้

จิ"ดำมี"!งหมีายของการเร�ยนร �พัฤต�กรรมีการเร�ยนร �ตามีจิ"ดำมี"!งหมีายของน�กการศึ2กษาซึ่2�งก�าหนดำโดำย บล มี และคณ์ะ (Bloom and Others ) มี"!งพั�ฒนาผ �เร�ยนใน ๓ ดำ�าน ดำ�งน�(๑. ดำ�านพั"ทธ์�พั�สำ�ย (Cognitive Domain) ค&อ ผลของการเร�ยนร �ท��เป็�นควิามีสำามีารถูทางสำมีอง ครอบคล"มีพัฤต�กรรมีป็ระเภท ควิามีจิ�า ควิามีเข�าใจิ การน�าไป็ใชี� การวิ�เคราะห$ การสำ�งเคราะห$และป็ระเมี�นผล๒. ดำ�านเจิตพั�สำ�ย (Affective Domain ) ค&อ ผลของการเร�ยนร �ท��เป็ล��ยนแป็ลงดำ�านควิามีร �สำ2ก ครอบคล"มีพัฤต�กรรมีป็ระเภท ควิามีร �สำ2ก ควิามีสำนใจิ ท�ศึนคต� การป็ระเมี�นค!าและค!าน�ยมี๓. ดำ�านท�กษะพั�สำ�ย (Psychomotor Domain) ค&อ ผลของการเร�ยนร �ท��เป็�นควิามีสำามีารถูดำ�านการป็ฏิ�บ�ต� ครอบคล"มีพัฤต�กรรมีป็ระเภท การเคล&�อนไหวิ การกระท�า การป็ฏิ�บ�ต�งาน การมี�ท�กษะและควิามีชี�านาญ

Page 10: จิตวิทยาการเรียนรู้

องค$ป็ระกอบสำ�าค�ญของการเร�ยนร �ดำอลลาร$ดำ และมี�ลเลอร$ (Dallard and Miller) เสำนอวิ!าการเร�ยนร � มี�องค$ป็ระกอบสำ�าค�ญ ๔ ป็ระการ ค&อ๑. แรงข�บ (Drive) เป็�นควิามีต�องการท��เก�ดำข2(นภายในต�วิบ"คคล เป็�นควิามีพัร�อมีท��จิะเร�ยนร �ของบ"คคลท�(งสำมีอง ระบบป็ระสำาทสำ�มีผ�สำและกล�ามีเน&(อ แรงข�บและควิามีพัร�อมีเหล!าน�(จิะก!อให�เก�ดำป็ฏิ�ก�ร�ยา หร&อพัฤต�กรรมีท��จิะชี�กน�าไป็สำ !การเร�ยนร �ต!อไป็๒. สำ��งเร�า (Stimulus) เป็�นสำ��งแวิดำล�อมีท��เก�ดำข2(นในสำถูานการณ์$ต!างๆ ซึ่2�งเป็�นต�วิการท��ท�าให�บ"คคลมี�ป็ฏิ�ก�ร�ยา หร&อพัฤต�กรรมีตอบสำนองออกมีา ในสำภาพัการเร�ยนการสำอน สำ��งเร�าจิะหมีายถู2งคร ก�จิกรรมีการสำอน และอ"ป็กรณ์$การสำอนต!างๆ ท��คร น�ามีาใชี�

Page 11: จิตวิทยาการเรียนรู้

๓. การตอบสำนอง (Response) เป็�นป็ฏิ�ก�ร�ยา หร&อพัฤต�กรรมีต!างๆ ท��แสำดำงออกมีาเมี&�อบ"คคลไดำ�ร�บการกระต"�นจิากสำ��งเร�า ท�(งสำ!วินท��สำ�งเกตเห/นไดำ�และสำ!วินท��ไมี!สำามีารถูสำ�งเกตเห/นไดำ� เชี!น การเคล&�อนไหวิ ท!าทาง ค�าพั ดำ การค�ดำ การร�บร � ควิามีสำนใจิ และควิามีร �สำ2ก เป็�นต�น๔. การเสำร�มีแรง (Reinforcement) เป็�นการให�สำ��งท��มี�อ�ทธ์�พัลต!อบ"คคลอ�นมี�ผลในการเพั��มีพัล�งให�เก�ดำการเชี&�อมีโยง ระหวิ!างสำ��งเร�าก�บการตอบสำนองเพั��มีข2(น การเสำร�มีแรงมี�ท�(งทางบวิกและทางลบ ซึ่2�งมี�ผลต!อการเร�ยนร �ของบ"คคลเป็�นอ�นมีาก

Page 12: จิตวิทยาการเรียนรู้

ธ์รรมีชีาต�ของการเร�ยนร �

การเร�ยนร �มี�ล�กษณ์ะสำ�าค�ญดำ�งต!อไป็น�(๑. การเร�ยนร �เป็�นกระบวินการ การเก�ดำการเร�ยนร �ของบ"คคลจิะ

มี�กระบวินการของการเร�ยนร �จิากการไมี!ร �ไป็สำ !การเร�ยนร � ๕ ข�(น ตอน ค&อ ๑. ๑ มี�สำ��งเร�ามีากระต"�นบ"คคล

๑. ๒ บ"คคลสำ�มีผ�สำสำ��งเร�าดำ�วิยป็ระสำาทท�(ง ๕๑. ๓ บ"คคลแป็ลควิามีหมีายหร&อร�บร �สำ��งเร�า

๑. ๔ บ"คคลมี�ป็ฏิ�ก�ร�ยาตอบสำนองอย!างใดำอย!างหน2�งต!อสำ��งเร�าตามีท��ร�บร �

๑. ๕ บ"คคลป็ระเมี�นผลท��เก�ดำจิากการตอบสำนองต!อสำ��งเร�า

Page 13: จิตวิทยาการเรียนรู้

Stimulusสิ่��งเร้�า

Sensation ปร้ะสิ่าทร้ บสิ่ มผั สิ่

Responseปฏิ�กิ�ร้�ยาตอบสิ่นอง

Conceptความค�ดร้วบยอด

เกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �Learning

กิาร้เปลี่��ยนแปลี่งพฤต�กิร้ร้ม

Perceptionกิาร้ร้ บร้� �

Page 14: จิตวิทยาการเรียนรู้

การเร�ยนร �เร��มีเก�ดำข2(นเมี&�อมี�สำ��งเร�า (Stimulus) มีากระต"�นบ"คคล ระบบป็ระสำาทจิะต&�นต�วิเก�ดำการร�บสำ�มีผ�สำ (Sensation) ดำ�วิยป็ระสำาทสำ�มีผ�สำท�(ง ๕ แล�วิสำ!งกระแสำป็ระสำาทไป็ย�งสำมีองเพั&�อแป็ลควิามีหมีายโดำยอาศึ�ยป็ระสำบการณ์$เดำ�มีเป็�นการร�บร � (Perception)ใหมี! อาจิสำอดำคล�องหร&อแตกต!างไป็จิากป็ระสำบการณ์$เดำ�มี แล�วิสำร"ป็ผลของการร�บร �น�(น เป็�นควิามีเข�าใจิหร&อควิามีค�ดำรวิบยอดำ (Concept) และมี�ป็ฏิ�ก�ร�ยาตอบสำนอง (Response) อย!างใดำอย!างหน2�งต!อสำ��งเร�า ตามีท��ร�บร �ซึ่2�งท�าให�เก�ดำการเป็ล��ยนแป็ลงพัฤต�กรรมีแสำดำงวิ!า เก�ดำการเร�ยนร �แล�วิ

Page 15: จิตวิทยาการเรียนรู้

๒. การเร�ยนร �ไมี!ใชี!วิ"ฒ�ภาวิะแต!การเร�ยนร �อาศึ�ยวิ"ฒ�ภาวิะ วิ"ฒ�ภาวิะ ค&อ ระดำ�บควิามีเจิร�ญเต�บโตสำ งสำ"ดำของพั�ฒนาการดำ�านร!างกาย อารมีณ์$ สำ�งคมี และสำต�ป็1ญญาของบ"คคลแต!ละวิ�ยท��เป็�นไป็ตามีธ์รรมีชีาต� แมี�วิ!าการเร�ยนร �จิะไมี!ใชี!วิ"ฒ�ภาวิะแต!การเร�ยนร �ต�องอาศึ�ยวิ"ฒ�ภาวิะดำ�วิย เพัราะการท��บ"คคลจิะมี�ควิามีสำามีารถูในการร�บร �หร&อตอบสำนองต!อสำ��งเร�ามีากหร&อน�อยเพั�ยงใดำข2(นอย !ก�บวิ!าบ"คคลน�(นมี�วิ"ฒ�ภาวิะเพั�ยงพัอหร&อไมี!๓. การเร�ยนร �เก�ดำไดำ�ง!าย ถู�าสำ��งท��เร�ยนเป็�นสำ��งท��มี�ควิามีหมีายต!อผ �เร�ยนการเร�ยนสำ��งท��มี�ควิามีหมีายต!อผ �เร�ยน ค&อ การเร�ยนในสำ��งท��ผ �เร�ยนต�องการจิะเร�ยนหร&อสำนใจิจิะเร�ยน เหมีาะก�บวิ�ยและวิ"ฒ�ภาวิะของผ �เร�ยนและเก�ดำป็ระโยชีน$แก!ผ �เร�ยน การเร�ยนในสำ��งท��มี�ควิามีหมีายต!อผ �เร�ยนย!อมีท�าให�ผ �เร�ยนเก�ดำการเร�ยนร �ไดำ�ดำ�กวิ!าการเร�ยนในสำ��งท��ผ �เร�ยนไมี!ต�องการหร&อไมี!สำนใจิ

Page 16: จิตวิทยาการเรียนรู้

๔. การเร�ยนร �แตกต!างก�นตามีต�วิบ"คคลและวิ�ธ์�การในการเร�ยน ในการเร�ยนร �สำ��งเดำ�ยวิก�น บ"คคลต!างก�นอาจิเร�ยนร �ไดำ�ไมี!เท!าก�นเพัราะบ"คคลอาจิมี�ควิามีพัร�อมีต!างก�น มี�ควิามีสำามีารถูในการเร�ยนต!างก�น มี�อารมีณ์$และควิามีสำนใจิท��จิะเร�ยนต!างก�นและมี�ควิามีร �เดำ�มีหร&อป็ระสำบการณ์$เดำ�มีท��เก��ยวิข�องก�บสำ��งท��จิะเร�ยนต!างก�น

ในการเร�ยนร �สำ��งเดำ�ยวิก�น ถู�าใชี�วิ�ธ์�เร�ยนต!างก�น ผลของการเร�ยนร �อาจิมีากน�อยต!างก�นไดำ� และวิ�ธ์�ท��ท�าให�เก�ดำการเร�ยนร �ไดำ�มีากสำ�าหร�บบ"คคลหน2�งอาจิไมี!ใชี!วิ�ธ์�เร�ยนท��ท�าให�อ�กบ"คคลหน2�งเก�ดำการเร�ยนร �ไดำ�มีากเท!าก�บบ"คคลน�(นก/ไดำ�

Page 17: จิตวิทยาการเรียนรู้

การถู!ายโยงควิามีร �

การถู!ายโยงการเร�ยนร �เก�ดำข2(นไดำ� ๒ ล�กษณ์ะ ค&อ การถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางบวิก (Positive Transfer) และการถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางลบ (Negative Transfer)

การถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางบวิก (Positive Transfer) ค&อ การถู!ายโยงการเร�ยนร �ชีน�ดำท��ผลของการเร�ยนร �งานหน2�งชี!วิยให�ผ �เร�ยนเก�ดำการเร�ยนร �อ�กงานหน2�งไดำ�เร/วิข2(น ง!ายข2(น หร&อดำ�ข2(น การถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางบวิก มี�กเก�ดำจิาก

Page 18: จิตวิทยาการเรียนรู้

๑. เมี&�องานหน2�ง มี�ควิามีคล�ายคล2งก�บอ�กงานหน2�ง และผ �เร�ยนเก�ดำการเร�ยนร �งานแรกอย!างแจิ!มีแจิ�งแล�วิ๒. เมี&�อผ �เร�ยนมีองเห/นควิามีสำ�มีพั�นธ์$ระหวิ!างงานหน2�งก�บอ�กงานหน2�ง๓. เมี&�อผ �เร�ยนมี�ควิามีต�(งใจิท��จิะน�าผลการเร�ยนร �จิากงานหน2�งไป็ใชี�ให�เป็�นป็ระโยชีน$ก�บการเร�ยนร �อ�กงานหน2�ง และสำามีารถูจิ�าวิ�ธ์�เร�ยนหร&อผลของการเร�ยนร �งานแรกไดำ�อย!างแมี!นย�า๔. เมี&�อผ �เร�ยนเป็�นผ �ท��มี�ควิามีค�ดำร�เร��มีสำร�างสำรรค$ โดำยชีอบท��จิะน�าควิามีร �ต!างๆ ท��เคยเร�ยนร �มีาก!อนมีาลองค�ดำทดำลองจินเก�ดำควิามีร �ใหมี!ๆ

Page 19: จิตวิทยาการเรียนรู้

การถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางลบ (Negative Transfer) ค&อการถู!ายโยงการเร�ยนร �ชีน�ดำท��ผลการเร�ยนร �งานหน2�งไป็ข�ดำขวิางท�าให�ผ �เร�ยนเก�ดำการเร�ยนร �อ�กงานหน2�งไดำ�ชี�าลง หร&อยากข2(นและไมี!ไดำ�ดำ�เท!าท��ควิร การถู!ายโยงการเร�ยนร �ทางลบ อาจิเก�ดำข2(นไดำ� ๒ แบบ ค&อ๑. แบบตามีรบกวิน (Proactive Inhibition) ผลของการเร�ยนร �งานแรกไป็ข�ดำขวิางการเร�ยนร �งานท�� ๒๒. แบบย�อนรบกวิน (Retroactive Inhibition) ผลการเร�ยนร �งานท�� ๒ ท�าให�การเร�ยนร �งานแรกน�อยลง

การเก�ดำการเร�ยนร �ทางลบมี�กเก�ดำจิาก - เมี&�องาน ๒ อย!างคล�ายก�นมีาก แต!ผ �เร�ยนย�งไมี!เก�ดำการเร�ยนร �

งานใดำงานหน2�งอย!างแท�จิร�งก!อนท��จิะเร�ยนอ�กงานหน2�ง ท�าให�การเร�ยนงาน ๒ อย!างในเวิลาใกล�เค�ยงก�นเก�ดำควิามีสำ�บสำน

- เมี&�อผ �เร�ยนต�องเร�ยนร �งานหลายๆ อย!างในเวิลาต�ดำต!อก�น ผลของการเร�ยนร �งานหน2�งอาจิไป็ท�าให�ผ �เร�ยนเก�ดำควิามีสำ�บสำนในการเร�ยนร �อ�กงานหน2�งไดำ�

Page 20: จิตวิทยาการเรียนรู้

การน�าควิามีร �ไป็ใชี�๑. ก!อนท��จิะให�ผ �เร�ยนเก�ดำควิามีร �ใหมี! ต�องแน!ใจิวิ!า ผ �เร�ยนมี�ควิามีร �พั&(นฐานท��เก��ยวิข�องก�บควิามีร �ใหมี!มีาแล�วิ๒. พัยายามีสำอนหร&อบอกให�ผ �เร�ยนเข�าใจิถู2งจิ"ดำมี"!งหมีายของการเร�ยนท��ก!อให�เก�ดำป็ระโยชีน$แก!ตนเอง๓. ไมี!ลงโทษผ �ท��เร�ยนเร/วิหร&อชี�ากวิ!าคนอ&�นๆ และไมี!มี"!งหวิ�งวิ!าผ �เร�ยนท"กคนจิะต�องเก�ดำการเร�ยนร �ท��เท!าก�นในเวิลาเท!าก�น๔. ถู�าสำอนบทเร�ยนท��คล�ายก�น ต�องแน!ใจิวิ!าผ �เร�ยนเข�าใจิบทเร�ยนแรกไดำ�ดำ�แล�วิจิ2งจิะสำอนบทเร�ยนต!อไป็๕. พัยายามีชี�(แนะให�ผ �เร�ยนมีองเห/นควิามีสำ�มีพั�นธ์$ของบทเร�ยนท��มี�ควิามีสำ�มีพั�นธ์$ก�น

Page 21: จิตวิทยาการเรียนรู้

ล�กษณ์ะสำ�าค�ญล�กษณ์ะสำ�าค�ญ ท��แสิ่ดงให้�เห้"นว#าม�กิาร้เร้�ยนร้� �เกิ�ดขึ้%&น จะต�องปร้ะกิอบด�วยป(จจ ย ๓ ปร้ะกิาร้ ค*อ๑. ม�กิาร้เปลี่��ยนแปลี่งพฤต�กิร้ร้มท��ค#อนขึ้�างคงทน ถาวร้๒. กิาร้เปลี่��ยนแปลี่งพฤต�กิร้ร้มน &นจะต�องเป.นผัลี่มาจากิปร้ะสิ่บกิาร้ณ์0 ห้ร้*อกิาร้ฝึ2กิ กิาร้ปฏิ�บ ต�ซ้ำ4&าๆ เท#าน &น๓. กิาร้เปลี่��ยนแปลี่งพฤต�กิร้ร้มด งกิลี่#าวจะม�กิาร้เพ��มพ�นในด�านความร้� � ความเขึ้�าใจ ความร้� �สิ่%กิแลี่ะความสิ่ามาร้ถทางท กิษะท &งปร้�มาณ์แลี่ะค7ณ์ภาพ

Page 22: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�การเร�ยนร � (Theory of Learning)

ทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �ม�อ�ทธิ�พลี่ต#อกิาร้จ ดกิาร้เร้�ยนกิาร้สิ่อนมากิ เพร้าะจะเป.นแนวทางในกิาร้กิ4าห้นดปร้ ชญากิาร้ศึ%กิษาแลี่ะกิาร้จ ดปร้ะสิ่บกิาร้ณ์0 เน*�องจากิทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �เป.นสิ่��งท��อธิ�บายถ%งกิร้ะบวนกิาร้ ว�ธิ�กิาร้แลี่ะเง*�อนไขึ้ท��จะท4าให้�เกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �แลี่ะตร้วจสิ่อบว#าพฤต�กิร้ร้มขึ้องมน7ษย0 ม�กิาร้เปลี่��ยนแปลี่งได�อย#างไร้ทฤษฎี�การเร�ยนร �ท��สำ�าค�ญ แบ!งออกไดำ� ๒ กล"!มีใหญ!ๆ ค&อ๑. ทฤษฎี�กิลี่7#มสิ่ มพ นธิ0ต#อเน*�อง (Associative Theories)

๒. ทฤษฎี�กิลี่7#มความร้� �ความเขึ้�าใจ (Cognitive Theories)

Page 23: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�การเร�ยนร �กล"!มีสำ�มีพั�นธ์$ต!อเน&�อง ทฤษฎี�น�&เห้"นว#ากิาร้เร้�ยนร้� �เกิ�ดจากิกิาร้เช*�อมโยงร้ะห้ว#างสิ่��งเร้�า (Stimulus) แลี่ะกิาร้ตอบสิ่นอง (Response) ป(จจ7บ นเร้�ยกิน กิทฤษฎี�กิลี่7#มน�&ว#า "พฤต�กิร้ร้มน�ยม" (Behaviorism) ซ้ำ%�งเน�นเกิ��ยวกิ บกิร้ะบวนกิาร้เปลี่��ยนแปลี่ง พฤต�กิร้ร้มท��มองเห้"น แลี่ะสิ่ งเกิตได�มากิกิว#ากิร้ะบวนกิาร้ค�ด แลี่ะปฏิ�กิ�ร้�ยาภายในขึ้องผั��เร้�ยน ทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �กิลี่7#มน�&แบ#งเป.นกิลี่7#มย#อยได� ด งน�&๑. ทฤษฎี�กิาร้วางเง*�อนไขึ้ (Conditioning Theories) ๑.๑ ทฤษฎี�กิาร้วางเง*�อนไขึ้แบบคลี่าสิ่สิ่�ค (Classical Conditioning Theories) ๑.๒ ทฤษฎี�กิาร้วางเง*�อนไขึ้แบบกิาร้กิร้ะท4า (Operant Conditioning Theory)๒. ทฤษฎี�สิ่ มพ นธิ0เช*�อมโยง (Connectionism Theories) ๒.๑ ทฤษฎี�สิ่ มพ นธิ0เช*�อมโยง (Connectionism Theory) ๒.๒ ทฤษฎี�สิ่ มพ นธิ0ต#อเน*�อง (S-R Contiguity Theory)

Page 24: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�การวิางเง&�อนไขแบบคลาสำสำ�ค

อธิ�บายถ%งกิาร้เร้�ยนร้� �ท��เกิ�ดจากิกิาร้เช*�อมโยงร้ะห้ว#างสิ่��งเร้�าตามธิร้ร้มชาต� แลี่ะสิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้กิ บกิาร้ ตอบสิ่นอง พฤต�กิร้ร้มห้ร้*อกิาร้ตอบสิ่นองท��เกิ��ยวขึ้�องม กิจะเป.นพฤต�กิร้ร้มท��เป.นปฏิ�กิ�ร้�ยาสิ่ะท�อน (Reflex) ห้ร้*อ พฤต�กิร้ร้มท��เกิ��ยวขึ้�องอาร้มณ์0 ความร้� �สิ่%กิ บ7คคลี่สิ่4าค ญขึ้องทฤษฎี�น�& ได�แกิ# Pavlov, Watson, Wolpe etc.

Ivan P. Pavlov น กิสิ่ร้�ร้ว�ทยาชาวร้ สิ่เซ้ำ�ย (1849 - 1936) ได�ท4ากิาร้ทดลี่องเพ*�อ

ศึ%กิษากิาร้เร้�ยนร้� �ท��เกิ�ดขึ้%&นจากิกิาร้เช*�อมโยงร้ะห้ว#างกิาร้ตอบสิ่นองต#อสิ่��งเร้�าตามธิร้ร้มชาต�ท��ไม#ได�วางเง*�อนไขึ้ (Unconditioned Stimulus = UCS) แลี่ะสิ่��งเร้�า ท��เป.นกิลี่าง (Neutral Stimulus) จนเกิ�ดกิาร้เปลี่��ยนแปลี่งสิ่��งเร้�าท��เป.นกิลี่างให้�กิลี่ายเป.นสิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้ (Conditioned Stimulus = CS) แลี่ะกิาร้ตอบสิ่นองท��ไม#ม�เง*�อนไขึ้ (Unconditioned Response = UCR) เป.นกิาร้ตอบสิ่นองท��ม�เง*�อนไขึ้ (Conditioned Response = CR) ลี่4าด บขึ้ &นตอนกิาร้เร้�ยนร้� �ท��เกิ�ดขึ้%&นด งน�&

Page 25: จิตวิทยาการเรียนรู้

๑ . กิ#อนกิาร้วางเง*�อนไขึ้ UCS (อาห้าร้ ) UCR (น4&าลี่ายไห้ลี่) สิ่��งเร้�าท��เป.นกิลี่าง (เสิ่�ยงกิร้ะด��ง ) น4&าลี่ายไม#ไห้ลี่๒ . ขึ้ณ์ะวางเง*�อนไขึ้ CS (เสิ่�ยงกิร้ะด��ง ) + UCS (อาห้าร้ ) UCR

(น4&าลี่ายไห้ลี่)๓ . ห้ลี่ งกิาร้วางเง*�อนไขึ้

CS (เสิ่�ยงกิร้ะด��ง ) CR (น4&าลี่ายไห้ลี่)ห้ลี่ กิกิาร้เกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �ท��เกิ�ดขึ้%&น ค*อ กิาร้ตอบสิ่นองท��เกิ�ด

จากิกิาร้วางเง*�อนไขึ้ (CR ) เกิ�ดจากิกิาร้น4าเอาสิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้ (CS ) มาเขึ้�าค�#กิ บสิ่��งเร้�าท��ไม#ได�วางเง*�อนไขึ้ (UCS ) ซ้ำ4&ากิ นห้ลี่ายๆ คร้ &ง ต#อมาเพ�ยงแต#ให้�สิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้ (CS ) เพ�ยงอย#างเด�ยวกิ"ม�ผัลี่ท4าให้�เกิ�ดกิาร้ตอบสิ่นองในแบบเด�ยวกิ น

Page 26: จิตวิทยาการเรียนรู้

ผัลี่จากิกิาร้ทดลี่อง Pavlov สิ่ร้7ปห้ลี่ กิเกิณ์ฑ์0ขึ้องกิาร้เร้�ยนร้� �ได� ๔ ปร้ะกิาร้ ค*อ๑. กิาร้ด บสิ่�ญห้ร้*อกิาร้ลี่ดภาวะ (Extinction) เม*�อให้� CR นานๆ โดยไม#ให้� UCS เลี่ย กิาร้ตอบสิ่นองท��ม�เง*�อนไขึ้ (CR) จะค#อยๆ ลี่ดลี่งแลี่ะห้มดไป

๒. กิาร้ฟื้C& นกิลี่ บห้ร้*อกิาร้ค*นสิ่ภาพ ( Spontaneous Recovery ) เม*�อเกิ�ดกิาร้ด บสิ่�ญขึ้องกิาร้ตอบสิ่นอง (Extinction) แลี่�วเว�นร้ะยะกิาร้วางเง*�อนไขึ้ไปสิ่ กิร้ะยะห้น%�ง เม*�อให้� CS จะเกิ�ด CR โดยอ ตโนม ต�

๓. กิาร้แผั#ขึ้ยาย ห้ร้*อ กิาร้สิ่ร้7ปความ (Generalization) ห้ลี่ งจากิเกิ�ดกิาร้ตอบสิ่นองท��ม�เง*�อนไขึ้ ( CR ) แลี่�ว เม*�อให้�สิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้ (CS) ท��คลี่�ายคลี่%งกิ น จะเกิ�ดกิาร้ตอบสิ่นองแบบเด�ยวกิ น

๔. กิาร้จ4าแนกิความแตกิต#าง (Discrimination) เม*�อให้�สิ่��งเร้�าให้ม#ท��แตกิต#างจากิสิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้ จะม�กิาร้จ4าแนกิความแตกิต#างขึ้องสิ่��งเร้�า แลี่ะม�กิาร้ตอบสิ่นองท��แตกิต#างกิ นด�วย

Page 27: จิตวิทยาการเรียนรู้

John B. Watson น กิจ�ตว�ทยาชาวอเมร้�กิ น (1878 - 1958) ได�ท4ากิาร้ทดลี่อง

กิาร้วางเง*�อนไขึ้ทางอาร้มณ์0กิ บเด"กิชายอาย7ปร้ะมาณ์ ๑๑ เด*อน โดยใช�ห้ลี่ กิกิาร้เด�ยวกิ บ Pavlov ห้ลี่ งกิาร้ทดลี่องเขึ้าสิ่ร้7ปห้ลี่ กิเกิณ์ฑ์0กิาร้เร้�ยนร้� �ได� ด งน�&

๑. กิาร้แผั#ขึ้ยายพฤต�กิร้ร้ม (Generalization) ม�กิาร้แผั#ขึ้ยายกิาร้ตอบสิ่นองท��วางเง*�อนไขึ้ต#อสิ่��งเร้�าท��คลี่�ายคลี่%งกิ บสิ่��งเร้�าท��วางเง*�อนไขึ้

๒. กิาร้ลี่ดภาวะห้ร้*อกิาร้ด บสิ่�ญกิาร้ตอบสิ่นอง (Extinction) ท4าได�ยากิต�องให้�สิ่��งเร้�าให้ม# (UCS ) ท��ม�ผัลี่ตร้งขึ้�ามกิ บสิ่��งเร้�าเด�ม จ%งจะได�ผัลี่ซ้ำ%�งเร้�ยกิว#า Counter - Conditioning

Joseph Wolpe น กิจ�ตว�ทยาชาวอเมร้�กิ น (1958) ได�น4าห้ลี่ กิกิาร้

Counter - Conditioning ขึ้อง Watson ไปทดลี่องใช�บ4าบ ดความกิลี่ ว (Phobia) ร้#วมกิ บกิาร้ใช�เทคน�คผั#อนคลี่ายกิลี่�ามเน*&อ (Muscle Relaxation) เร้�ยกิว�ธิ�กิาร้น�&ว#า Desensitization

Page 28: จิตวิทยาการเรียนรู้

การน�าหล�กการมีาป็ระย"กต$ใชี�ในการสำอน

๑. คร้�สิ่ามาร้ถน4าห้ลี่ กิกิาร้เร้�ยนร้� �ขึ้องทฤษฎี�น�&มาท4าความเขึ้�าใจ พฤต�กิร้ร้มขึ้องผั��เร้�ยนท��แสิ่ดงออกิถ%งอาร้มณ์0 ความร้� �สิ่%กิท &งด�านด�

แลี่ะไม#ด� ร้วมท &งเจตคต�ต#อสิ่��งแวดลี่�อมต#างๆ เช#น ว�ชาท��เร้�ยน กิ�จกิร้ร้ม ห้ร้*อคร้�ผั��สิ่อน เพร้าะเขึ้าอาจได�ร้ บกิาร้วางเง*�อนไขึ้อย#างใด

อย#างห้น%�งอย�#กิ"เป.นได�๒. คร้�ควร้ใช�ห้ลี่ กิกิาร้เร้�ยนร้� �จากิทฤษฎี�ปลี่�กิฝึ(งความร้� �สิ่%กิแลี่ะเจตคต�ท��

ด�ต#อเน*&อห้าว�ชา กิ�จกิร้ร้มน กิเร้�ยน คร้�ผั��สิ่อนแลี่ะสิ่��งแวดลี่�อมอ*�นๆ ท��เกิ��ยวขึ้�องให้�เกิ�ดในต วผั��เร้�ยน

๓. คร้�สิ่ามาร้ถปDองกิ นความร้� �สิ่%กิลี่�มเห้ลี่ว ผั�ดห้ว ง แลี่ะว�ตกิกิ งวลี่ขึ้อง ผั��เร้�ยนได�โดยกิาร้สิ่#งเสิ่ร้�มให้�กิ4าลี่ งใจในกิาร้เร้�ยนแลี่ะกิาร้ท4ากิ�จกิร้ร้ม

ไม#คาดห้ว งผัลี่เลี่�ศึจากิผั��เร้�ยน แลี่ะห้ลี่�กิเลี่��ยงกิาร้ใช�อาร้มณ์0ห้ร้*อ ลี่งโทษผั��เร้�ยนอย#างร้7นแร้งจนเกิ�ดกิาร้วางเง*�อนไขึ้ขึ้%&น กิร้ณ์�ท��ผั��เร้�ยน

เกิ�ดความเคร้�ยด แลี่ะว�ตกิกิ งวลี่มากิ คร้�ควร้เปEดโอกิาสิ่ให้�ผั��เร้�ยนได�ผั#อนคลี่ายความร้� �สิ่%กิได�บ�างตามขึ้อบเขึ้ตท��เห้มาะสิ่ม

Page 29: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�การวิางเข&�อนไขแบบการกระท�าของสำก�นเนอร$

(Skinner's Operant Conditioning Theory)

B.F. Skinner - 1904 1990( ) น�กจิ�ตวิ�ทยาชีาวิอเมีร�ก�น ไดำ�ท�าการทดำลองดำ�านจิ�ตวิ�ทยาการศึ2กษาและวิ�เคราะห$สำถูานการณ์$การเร�ยนร �ท��มี�การตอบสำนองแบบแสำดำงการกระท�า (Operant Behavior ) สำก�นเนอร$ไดำ�แบ!ง พัฤต�กรรมีของสำ��งมี�ชี�วิ�ตไวิ� ๒ แบบ ค&อ

๑. Respondent Behavior พัฤต�กรรมีหร&อการตอบสำนองท��เก�ดำข2(นโดำยอ�ตโนมี�ต� หร&อเป็�นป็ฏิ�ก�ร�ยาสำะท�อน (Reflex) ซึ่2�งสำ��งมี�ชี�วิ�ตไมี!สำามีารถูควิบค"มีต�วิเองไดำ� เชี!น การกระพัร�บตา น�(าลายไหล หร&อการเก�ดำอารมีณ์$ ควิามีร �สำ2กต!างๆ

๒ . Operant Behavior พัฤต�กรรมีท��เก�ดำจิากสำ��งมี�ชี�วิ�ตเป็�นผ �ก�าหนดำ หร&อเล&อกท��จิะแสำดำงออกมีา สำ!วินใหญ!จิะเป็�นพัฤต�กรรมีท��บ"คคลแสำดำงออกในชี�วิ�ตป็ระจิ�าวิ�น เชี!น ก�น นอน พั ดำ เดำ�น ท�างาน ข�บรถู ฯลฯ.

Page 30: จิตวิทยาการเรียนรู้

การเร�ยนร �ตามีแนวิค�ดำของสำก�นเนอร$ เก�ดำจิากการเชี&�อมีโยงระหวิ!างสำ��งเร�าก�บการตอบสำนองเชี!นเดำ�ยวิก�น แต!สำก�นเนอร$ให�ควิามีสำ�าค�ญต!อการตอบสำนองมีากกวิ!าสำ��งเร�า จิ2งมี�คนเร�ยกวิ!าเป็�นทฤษฎี�การวิางเง&�อนไขแบบ Type R นอกจิากน�(สำก�นเนอร$ให�ควิามีสำ�าค�ญต!อการเสำร�มีแรง (Reinforcement) วิ!ามี�ผลท�าให�เก�ดำการเร�ยนร �ท��คงทนถูาวิร ย��งข2(นดำ�วิย สำก�นเนอร$ไดำ�สำร"ป็ไวิ�วิ!า อ�ตราการเก�ดำพัฤต�กรรมีหร&อการตอบสำนองข2(นอย !ก�บผลของการกระท�า ค&อ การเสำร�มีแรง หร&อการลงโทษ ท�(งทางบวิกและทางลบ

Page 31: จิตวิทยาการเรียนรู้

พฤต�กิร้ร้ม

กิาร้เสิ่ร้�ม กิาร้ลี่งโทษแร้ง

ทางบวกิ ทางลี่บ ทางบวกิ ทางลี่บ

ความถ��ขึ้องพฤต�กิร้ร้มเพ��มขึ้%&น ความถ��ขึ้องพฤต�กิร้ร้มลี่ดลี่ง

Page 32: จิตวิทยาการเรียนรู้

การน�าหล�กการมีาป็ระย"กต$ใชี�๑. กิาร้เสิ่ร้�มแร้ง แลี่ะ กิาร้ลี่งโทษ

๒. กิาร้ปร้ บพฤต�กิร้ร้ม แลี่ะ กิาร้แต#งพฤต�กิร้ร้ม ๓. กิาร้สิ่ร้�างบทเร้�ยนสิ่4าเร้"จร้�ปการเสำร�มีแรงและการลงโทษ การเสำร�มีแรง (Reinforcement) ค*อกิาร้ท4าให้�อ ตร้ากิาร้ตอบ

สิ่นองห้ร้*อความถ��ขึ้องกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มเพ��มขึ้%&นอ นเป.นผัลี่จากิกิาร้ได�ร้ บสิ่��งเสิ่ร้�มแร้ง (Reinforce) ท��เห้มาะสิ่ม กิาร้เสิ่ร้�มแร้งม� ๒ ทาง ได�แกิ#

๑. กิาร้เสิ่ร้�มแร้งทางบวกิ (Positive Reinforcement ) เป.นกิาร้ให้�สิ่��งเสิ่ร้�มแร้งท��บ7คคลี่พ%งพอใจ ม�ผัลี่ท4าให้�บ7คคลี่แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มถ��ขึ้%&น

๒. กิาร้เสิ่ร้�มแร้งทางลี่บ (Negative Reinforcement) เป.นกิาร้น4าเอาสิ่��งท��บ7คคลี่ไม#พ%งพอใจออกิไป ม�ผัลี่ท4าให้�บ7คคลี่แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มถ��ขึ้%&น

Page 33: จิตวิทยาการเรียนรู้

การลงโทษ (Punishment) ค*อ กิาร้ท4าให้�อ ตร้ากิาร้ตอบสิ่นองห้ร้*อความถ��ขึ้องกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มลี่ดลี่ง กิาร้ลี่งโทษม� ๒ ทาง ได�แกิ#

๑. กิาร้ลี่งโทษทางบวกิ (Positive Punishment) เป.นกิาร้ให้�สิ่��งเร้�าท��บ7คคลี่ท��ไม#พ%งพอใจ ม�ผัลี่ท4าให้�บ7คคลี่แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มลี่ดลี่ง

๒. กิาร้ลี่งโทษทางลี่บ (Negative Punishment) เป.นกิาร้น4าสิ่��งเร้�าท��บ7คคลี่พ%งพอใจ ห้ร้*อสิ่��งเสิ่ร้�มแร้งออกิไป ม�ผัลี่ท4าให้�บ7คคลี่แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มลี่ดลี่ง

Page 34: จิตวิทยาการเรียนรู้

ตารางการเสำร�มีแรง (The Schedule of

Reinforcement) ๑. กิาร้เสิ่ร้�มแร้งอย#างต#อเน*�อง (Continuous Reinforcement) เป.นกิาร้

ให้�สิ่��งเสิ่ร้�มแร้งท7กิคร้ &งท��บ7คคลี่แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มตามต�องกิาร้๒. กิาร้เสิ่ร้�มแร้งเป.นคร้ &งคร้าว (Intermittent Reinforcement) ซ้ำ%�งม�กิาร้

กิ4าห้นดตาร้างได�ห้ลี่ายแบบ ด งน�& ๒.๑ กิ4าห้นดกิาร้เสิ่ร้�มแร้งตามเวลี่า (Iinterval schedule) ๒.๑.๑ กิ4าห้นดเวลี่าแน#นอน (Fixed Interval Schedules = FI) ๒.๑.๒ กิ4าห้นดเวลี่าไม#แน#นอน (Variable Interval Schedules = VI ) ๒.๒ กิ4าห้นดกิาร้เสิ่ร้�มแร้งโดยใช�อ ตร้า (Ratio schedule) ๒.๒.๑ กิ4าห้นดอ ตร้าแน#นอน (Fixed Ratio Schedules = FR) ๒.๒.๒ กิ4าห้นดอ ตร้าไม#แน#นอน (Variable Ratio Schedules = VR)

Page 35: จิตวิทยาการเรียนรู้

การป็ร�บพัฤต�กรรมีและการแต!งพัฤต�กรรมี

การป็ร�บพัฤต�กรรมี (Behavior Modification) เป.นกิาร้ปร้ บเปลี่��ยนพฤต�กิร้ร้มท��ไม#พ%งปร้ะสิ่งค0 มาเป.นพฤต�กิร้ร้มท��พ%งปร้ะสิ่งค0 โดยใช�ห้ลี่ กิกิาร้เสิ่ร้�มแร้งแลี่ะกิาร้ลี่งโทษ

การแต!งพัฤต�กรรมี (Shaping Behavior ) เป.นกิาร้เสิ่ร้�มสิ่ร้�างให้�เกิ�ดพฤต�กิร้ร้มให้ม# โดยใช�ว�ธิ�กิาร้เสิ่ร้�มแร้งกิร้ะต7�นให้�เกิ�ดพฤต�กิร้ร้มท�ลี่ะเลี่"กิท�ลี่ะน�อย จนกิร้ะท �งเกิ�ดพฤต�กิร้ร้มตามต�องกิาร้

Page 36: จิตวิทยาการเรียนรู้

บทเร�ยนสำ�าเร/จิร ป็ (Programmed Instruction)

เป็�นบทเร�ยนโป็รแกรมีท��น�กการศึ2กษา หร&อคร ผ �สำอนสำร�างข2(น ป็ระกอบดำ�วิย เน&(อหา ก�จิกรรมี ค�าถูามีและ ค�าเฉลย การสำร�างบทเร�ยนโป็รแกรมีใชี�หล�กของ Skinner ค&อเมี&�อผ �เร�ยนศึ2กษาเน&(อหาและท�าก�จิกรรมี จิบ ๑ บท จิะมี�ค�าถูามีย��วิย"ให�ทดำสำอบควิามีร �ควิามีสำามีารถู แล�วิมี�ค�าเฉลยเป็�นแรงเสำร�มีให�อยากเร�ยนบทต!อๆ ไป็อ�ก

Page 37: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�สำ�มีพั�นธ์$เชี&�อมีโยงของธ์อร$นไดำค$ (Thorndike's Connectionism Theory)

Edward L. Thorndike (1874 - 1949) น กิจ�ตว�ทยากิาร้ศึ%กิษาชาวอเมร้�กิ น ผั��ได�ช*�อว#าเป.น"บ�ดาแห้#งจ�ตว�ทยากิาร้ศึ%กิษา" เขึ้าเช*�อว#า "คนเร้าจะเลี่*อกิท4าในสิ่��งกิ#อให้�เกิ�ดความพ%งพอใจแลี่ะจะห้ลี่�กิเลี่��ยงสิ่��งท��ท4าให้�ไม#พ%งพอใจ" จากิกิาร้ทดลี่องกิ บแมวเขึ้าสิ่ร้7ปห้ลี่ กิกิาร้เร้�ยนร้� �ได�ว#า เม*�อเผัช�ญกิ บป(ญห้าสิ่��งม�ช�ว�ตจะเกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �ในกิาร้แกิ�ป(ญห้าแบบลี่องผั�ดลี่องถ�กิ (Trial and Error) นอกิจากิน�&เขึ้าย งให้�ความสิ่4าค ญกิ บกิาร้เสิ่ร้�มแร้งว#าเป.นสิ่��งกิร้ะต7�นให้�เกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �ได�เร้"วขึ้%&น

Page 38: จิตวิทยาการเรียนรู้

กฎีการเร�ยนร �ของธ์อร$นไดำค$๑. กิฎีแห้#งผัลี่ (Law of Effect) ม�ใจความสิ่4าค ญค*อ ผัลี่แห้#ง

ปฏิ�กิ�ร้�ยาตอบสิ่นองใดท��เป.นท��น#าพอใจ อ�นทร้�ย0ย#อมกิร้ะท4าปฏิ�กิ�ร้�ยาน &นซ้ำ4&าอ�กิแลี่ะผัลี่ขึ้องปฏิ�กิ�ร้�ยาใดไม#เป.นท��พอใจบ7คคลี่จะห้ลี่�กิเลี่��ยงไม#ท4าปฏิ�กิ�ร้�ยาน &นซ้ำ4&าอ�กิ

๒. กิฎีแห้#งความพร้�อม (Law of Readiness) ม�ใจความสิ่4าค ญ ๓ ปร้ะเด"น ค*อ

๒.๑ ถ�าอ�นทร้�ย0พร้�อมท��จะเร้�ยนร้� �แลี่�วได�เร้�ยน อ�นทร้�ย0จะเกิ�ดความพอใจ

๒.๒ ถ�าอ�นทร้�ย0พร้�อมท��จะเร้�ยนร้� �แลี่�วไม#ได�เร้�ยน จะเกิ�ดความร้4าคาญใจ

๒.๓ ถ�าอ�นทร้�ย0ไม#พร้�อมท��จะเร้�ยนร้� �แลี่�วถ�กิบ งค บให้�เร้�ยน จะเกิ�ดความร้4าคาญใจ

๓. กิฎีแห้#งกิาร้ฝึ2กิห้ ด (Law of Exercise) ม�ใจความสิ่4าค ญค*อ พฤต�กิร้ร้มใดท��ได�ม�โอกิาสิ่กิร้ะท4าซ้ำ4&าบ#อยๆ แลี่ะม�กิาร้ปร้ บปร้7งอย�#เสิ่มอ ย#อมกิ#อให้�เกิ�ดความคลี่#องแคลี่#วช4าน�ช4านาญ สิ่��งใดท��ทอดท�&งไปนานย#อมกิร้ะท4าได�ไม#ด�เห้ม*อนเด�มห้ร้*ออาจท4าให้�ลี่*มได�

Page 39: จิตวิทยาการเรียนรู้

การน�าหล�กการมีาป็ระย"กต$ใชี�๑. กิาร้สิ่อนในช &นเร้�ยนคร้�ควร้กิ4าห้นดว ตถ7ปร้ะสิ่งค0ให้�ช ดเจน จ ดแบ#ง

เน*&อห้าเป.นลี่4าด บเร้�ยงจากิง#ายไปยากิ เพ*�อกิร้ะต7�นให้�ผั��เร้�ยนสิ่นใจ ต�ดตามบทเร้�ยนอย#างต#อเน*�อง เน*&อห้าท��เร้�ยนควร้ม�ปร้ะโยชน0ต#อ

ช�ว�ตปร้ะจ4าว นขึ้องผั��เร้�ยน๒. กิ#อนเร้��มสิ่อนผั��เร้�ยนควร้ม�ความพร้�อมท��จะเร้�ยน ผั��เร้�ยนต�องม�

ว7ฒิ�ภาวะเพ�ยงพอแลี่ะไม#ตกิอย�#ในสิ่ภาวะบางอย#าง เช#น ปGวย เห้น*�อย ง#วง ห้ร้*อ ห้�ว จะท4าให้�กิาร้เร้�ยนม�ปร้ะสิ่�ทธิ�ภาพ

๓. คร้�ควร้จ ดให้�ผั��เร้�ยนม�โอกิาสิ่ฝึ2กิฝึนแลี่ะทบทวนสิ่��งท��เร้�ยนไปแลี่�วแต#ไม#ควร้ให้�ท4าซ้ำ4&าซ้ำากิจนเกิ�ดความเม*�อยลี่�าแลี่ะเบ*�อห้น#าย

๔. คร้�ควร้ให้�ผั��เร้�ยนได�ม�โอกิาสิ่พ%งพอใจแลี่ะร้� �สิ่%กิปร้ะสิ่บผัลี่สิ่4าเร้"จใน กิาร้ท4ากิ�จกิร้ร้ม โดยคร้�ต�องแจ�งผัลี่กิาร้ท4ากิ�จกิร้ร้มให้�ทร้าบ ห้ากิผั��

เร้�ยนท4าได�ด�ควร้ชมเชยห้ร้*อให้�ร้างว ลี่ ห้ากิม�ขึ้�อบกิพร้#องต�องช�&แจงเพ*�อกิาร้ปร้ บปร้7งแกิ�ไขึ้

Page 40: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�สำ�มีพั�นธ์$ต!อเน&�องของก�ทร� (Guthrie's Contiguity Theory)

Edwin R. Guthrie น กิจ�ตว�ทยาชาวอเมร้�กิ น เป.นผั��กิลี่#าวย4&าถ%งความสิ่4าค ญขึ้องความใกิลี่�ช�ดต#อเน*�องร้ะห้ว#างสิ่��งเร้�ากิ บกิาร้ตอบสิ่นอง ถ�าม�กิาร้เช*�อมโยงอย#างใกิลี่�ช�ดแลี่ะแนบแน#นเพ�ยงคร้ &งเด�ยวกิ"สิ่ามาร้ถเกิ�ดกิาร้เร้�ยนร้� �ได� (One Trial Learning ) เช#น ปร้ะสิ่บกิาร้ณ์0ช�ว�ตท��ว�กิฤตห้ร้*อร้7นแร้งบางอย#าง ได�แกิ# กิาร้ปร้ะสิ่บอ7บ ต�เห้ต7ท��ร้7นแร้ง กิาร้สิ่�ญเสิ่�ยบ7คคลี่อ นเป.นท��ร้ กิ ฯลี่ฯ

Page 41: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�การเร�ยนร �กล"!มีควิามีร �ควิามีเข�าใจิ

ทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �ท��มองเห้"นความสิ่4าค ญขึ้องกิร้ะบวนกิาร้ค�ดซ้ำ%�งเกิ�ดขึ้%&นภายในต วบ7คคลี่ในร้ะห้ว#างกิาร้เร้�ยนร้� �มากิกิว#าสิ่��งเร้�าแลี่ะกิาร้ตอบสิ่นอง น กิทฤษฎี�กิลี่7#มน�&เช*�อว#า พฤต�กิร้ร้มห้ร้*อกิาร้ตอบสิ่นองใดๆ ท��บ7คคลี่แสิ่ดงออกิมาน &นต�องผั#านกิร้ะบวนกิาร้ค�ดท��เกิ�ดขึ้%&นร้ะห้ว#างท��ม�สิ่��งเร้�าแลี่ะกิาร้ตอบสิ่นอง ซ้ำ%�งห้มายถ%งกิาร้ห้ย �งเห้"น (Insight) ค*อความร้� �ความเขึ้�าใจในกิาร้แกิ�ป(ญห้า โดยกิาร้จ ดร้ะบบกิาร้ร้ บร้� �แลี่�วเช*�อมโยงกิ บปร้ะสิ่บกิาร้ณ์0เด�ม

ทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �กิลี่7#มน�&ย งแบ#งย#อยได�อ�กิด งน�& ๑. ทฤษฎี�กิลี่7#มเกิสิ่ต ลี่ท0 (Gestalt's Theory)

๒. ทฤษฎี�สิ่นามขึ้องเลี่ว�น ( Lewin's Field Theory)

Page 42: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�กล"!มีเกสำต�ลท$ (Gestalt's Theory)

น�กจิ�ตวิ�ทยากล"!มีเกสำต�ลท$ (Gestalt Psychology) ชีาวิเยอรมี�น ป็ระกอบดำ�วิย Max Wertheimer, Wolfgang Kohler และ Kurt Koftka ซึ่2�งมี�ควิามีสำนใจิเก��ยวิก�บการร�บร � (Perception ) การเชี&�อมีโยงระหวิ!างป็ระสำบการณ์$เก!าและใหมี! น�าไป็สำ !กระบวินการค�ดำเพั&�อการแก�ป็1ญหา (Insight) องค$ป็ระกอบของการเร�ยนร � มี� ๒ สำ!วิน ค&อ

Page 43: จิตวิทยาการเรียนรู้

๑. กิาร้ร้ บร้� � (Perception) เป.นกิร้ะบวนกิาร้แปลี่ความห้มายขึ้องสิ่��งเร้�าท��มากิร้ะทบปร้ะสิ่าทสิ่ มผั สิ่ ซ้ำ%�งจะเน�นความสิ่4าค ญขึ้องกิาร้ร้ บร้� �เป.นสิ่#วนร้วมท��สิ่มบ�ร้ณ์0มากิกิว#ากิาร้ร้ บร้� �สิ่#วนย#อยท�ลี่ะสิ่#วน

๒. กิาร้ห้ย �งเห้"น (Insight) เป.นกิาร้ร้� �แจ�ง เกิ�ดความค�ดความเขึ้�าใจแวบเขึ้�ามาท นท�ท นใดขึ้ณ์ะท��บ7คคลี่กิ4าลี่ งเผัช�ญป(ญห้าแลี่ะจ ดร้ะบบกิาร้ร้ บร้� � ซ้ำ%�งเดว�สิ่ (Davis, 1965) ใช�ค4าว#า Aha ' experience

ห้ลี่ กิขึ้องกิาร้ห้ย �งเห้"นสิ่ร้7ปได�ด งน�& ๒.๑ กิาร้ห้ย �งเห้"นขึ้%&นอย�#กิ บสิ่ภาพป(ญห้า กิาร้ห้ย �งเห้"นจะเกิ�ดขึ้%&นได�

ง#ายถ�าม�กิาร้ร้ บร้� �องค0ปร้ะกิอบขึ้องป(ญห้าท��สิ่ มพ นธิ0กิ น บ7คคลี่สิ่ามาร้ถสิ่ร้�างภาพในใจเกิ��ยวกิ บขึ้ &นตอนเห้ต7กิาร้ณ์0 ห้ร้*อสิ่ภาพกิาร้ณ์0ท��เกิ��ยวขึ้�องเพ*�อพยายามห้าค4าตอบ

๒.๒ ค4าตอบท��เกิ�ดขึ้%&นในใจถ*อว#าเป.นกิาร้ห้ย �งเห้"น ถ�าสิ่ามาร้ถแกิ�ป(ญห้าได�บ7คคลี่จะน4ามาใช�ในโอกิาสิ่ต#อไปอ�กิ

๒.๓ ค4าตอบห้ร้*อกิาร้ห้ย �งเห้"นท��เกิ�ดขึ้%&นสิ่ามาร้ถน4าไปปร้ะย7กิต0 ใช�ในสิ่ถานกิาร้ณ์0ให้ม#ได�

Page 44: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�สำนามีของเลวิ�น (Lewin's Field

Theory) Kurt Lewin น�กจิ�ตวิ�ทยาชีาวิเยอรมี�น (1890 - 1947)

มี�แนวิค�ดำเก��ยวิก�บการเร�ยนร �เชี!นเดำ�ยวิก�บกล"!มีเกสำต�ลท$ ท��วิ!าการเร�ยนร � เก�ดำข2(นจิากการจิ�ดำกระบวินการร�บร � และกระบวินการค�ดำเพั&�อการแก�ไขป็1ญหาแต!เขาไดำ�น�าเอาหล�กการทางวิ�ทยาศึาสำตร$มีาร!วิมีอธ์�บายพัฤต�กรรมีมีน"ษย$ เขาเชี&�อวิ!าพัฤต�กรรมีมีน"ษย$แสำดำงออกมีาอย!างมี�พัล�งและท�ศึทาง (Field of Force) สำ��งท��อย !ในควิามีสำนใจิและต�องการจิะมี�พัล�งเป็�นบวิก ซึ่2�งเขาเร�ยกวิ!า Life space สำ��งใดำท��อย !นอกเหน&อควิามีสำนใจิจิะมี�พัล�งเป็�นลบ

Page 45: จิตวิทยาการเรียนรู้

Lewin ก�าหนดำวิ!า สำ��งแวิดำล�อมีรอบต�วิมีน"ษย$ จิะมี� ๒ ชีน�ดำ ค&อ

๑. สำ��งแวิดำล�อมีทางกายภาพั (Physical environment)

๒. สำ��งแวิดำล�อมีทางจิ�ตวิ�ทยา (Psychological environment) เป็�นโลกแห!งการร�บร �ตามีป็ระสำบการณ์$ของแต!ละบ"คคลซึ่2�งอาจิจิะเหมี&อนหร&อแตกต!างก�บสำภาพัท��สำ�งเกตเห/นโลก หมีายถู2ง Life space น��นเอง

Life space ของบ"คคลเป็�นสำ��งเฉพัาะต�วิ ควิามีสำ�าค�ญท��มี�ต!อการจิ�ดำการเร�ยนการสำอน ค&อ คร ต�องหาวิ�ธ์�ท�าให�ต�วิคร เข�าไป็อย !ใน Life space ของผ �เร�ยนให�ไดำ�

Page 46: จิตวิทยาการเรียนรู้

การน�าหล�กการทฤษฎี�กล"!มีควิามีร � ควิามีเข�าใจิ ไป็ป็ระย"กต$ใชี�

๑. คร้�ควร้สิ่ร้�างบร้ร้ยากิาศึกิาร้เร้�ยนท��เป.นกิ นเอง แลี่ะม�อ�สิ่ร้ะท��จะให้� ผั��เร้�ยนแสิ่ดงความค�ดเห้"นอย#างเต"มท��ท &งท��ถ�กิแลี่ะผั�ด เพ*�อให้�ผั��

เร้�ยนมองเห้"นความสิ่ มพ นธิ0ขึ้องขึ้�อม�ลี่ แลี่ะเกิ�ดกิาร้ห้ย �งเห้"น๒. เปEดโอกิาสิ่ให้�ม�กิาร้อภ�ปร้ายในช &นเร้�ยน โดยใช�แนวทางต#อไปน�& ๒. ๑ เน�นความแตกิต#าง ๒. ๒ กิร้ะต7�นให้�ม�กิาร้เดาแลี่ะห้าเห้ต7ผัลี่ ๒. ๓ กิร้ะต7�นให้�ท7กิคนม�สิ่#วนร้#วม ๒. ๔ กิร้ะต7�นให้�ใช�ความค�ดอย#างร้อบคอบ ๒. ๕ กิ4าห้นดขึ้อบเขึ้ตไม#ให้�อภ�ปร้ายออกินอกิปร้ะเด"น

Page 47: จิตวิทยาการเรียนรู้

๓. กิาร้กิ4าห้นดบทเร้�ยนควร้ม�โคร้งสิ่ร้�างท��ม�ร้ะบบเป.นขึ้ &นตอน เน*&อห้าม�ความสิ่อดคลี่�องต#อเน*�องกิ น

๔. ค4าน%งถ%งเจตคต�แลี่ะความร้� �สิ่%กิขึ้องผั��เร้�ยน พยายามจ ดกิ�จกิร้ร้มท��กิร้ะต7�นความสิ่นใจขึ้องผั��เร้�ยนม�เน*&อห้าท��เป.นปร้ะโยชน0 ผั��เร้�ยนน4าไปใช�ปร้ะโยชน0ได� แลี่ะควร้จ ดโอกิาสิ่ให้�ผั��เร้�ยนร้� �สิ่%กิปร้ะสิ่บความสิ่4าเร้"จด�วย

๕. บ7คลี่�กิภาพขึ้องคร้�แลี่ะความสิ่ามาร้ถในกิาร้ถ#ายทอด จะเป.นสิ่��งจ�งใจให้�ผั��เร้�ยนม�ความศึร้ ทธิาแลี่ะคร้�จะสิ่ามาร้ถเขึ้�าไปอย�#ใน Life space ขึ้องผั��เร้�ยนได�

Page 48: จิตวิทยาการเรียนรู้

ทฤษฎี�ป็1ญญาสำ�งคมี (Social Learning Theory)

Albert Bandura (1962 - 1986) น กิจ�ตว�ทยาชาวอเมร้�กิ น เป.นผั��พ ฒินาทฤษฎี�น�&ขึ้%&นจากิกิาร้ศึ%กิษาค�นคว�าขึ้องตนเอง เด�มใช�ช*�อว#า "ทฤษฎี�กิาร้เร้�ยนร้� �ทางสิ่ งคม" (Social Learning Theory) ต#อมาเขึ้าได�เปลี่��ยนช*�อทฤษฎี�เพ*�อความเห้มาะสิ่มเป.น "ทฤษฎี�ป(ญญาสิ่ งคม"

ทฤษฎี�ป(ญญาสิ่ งคมเน�นห้ลี่ กิกิาร้เร้�ยนร้� �โดยกิาร้สิ่ งเกิต (Observational Learning) เกิ�ดจากิกิาร้ท��บ7คคลี่สิ่ งเกิตกิาร้กิร้ะท4าขึ้องผั��อ*�นแลี่�วพยายามเลี่�ยนแบบพฤต�กิร้ร้มน &น ซ้ำ%�งเป.นกิาร้เร้�ยนร้� �ท��เกิ�ดขึ้%&นในสิ่ภาพแวดลี่�อมทางสิ่ งคมเร้าสิ่ามาร้ถพบได�ในช�ว�ตปร้ะจ4าว น เช#น กิาร้ออกิเสิ่�ยง กิาร้ขึ้ บร้ถยนต0 กิาร้เลี่#นกิ�ฬาปร้ะเภทต#างๆ เป.นต�น

Page 49: จิตวิทยาการเรียนรู้

ข�(นตอนของการเร�ยนร �โดำยการสำ�งเกต๑. ขึ้ &นให้�ความสิ่นใจ (Attention Phase) ถ�าไม#ม�ขึ้ &นตอนน�& กิาร้เร้�ยนร้� �อาจจะไม#เกิ�ดขึ้%&น เป.นขึ้ &นตอน ท��ผั��เร้�ยนให้�ความสิ่นใจต#อต วแบบ (Modeling) ความสิ่ามาร้ถ ความม�ช*�อเสิ่�ยง แลี่ะค7ณ์ลี่ กิษณ์ะเด#นขึ้องต วแบบจะเป.นสิ่��งด%งด�ดให้�ผั��เร้�ยนสิ่นใจ๒. ขึ้ &นจ4า (Retention Phase) เม*�อผั��เร้�ยนสิ่นใจพฤต�กิร้ร้มขึ้องต วแบบ จะบ นท%กิสิ่��งท��สิ่ งเกิตได�ไว�ในร้ะบบความจ4าขึ้องตนเอง ซ้ำ%�งม กิจะจดจ4าไว�เป.นจ�นตภาพเกิ��ยวกิ บขึ้ &นตอนกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้ม๓. ขึ้ &นปฏิ�บ ต� (Reproduction Phase) เป.นขึ้ &นตอนท��ผั��เร้�ยนลี่องแสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มตามต วแบบ ซ้ำ%�งจะสิ่#งผัลี่ให้�ม�กิาร้ตร้วจสิ่อบกิาร้เร้�ยนร้� �ท��ได�จดจ4าไว�

Page 50: จิตวิทยาการเรียนรู้

๔. ขึ้ &นจ�งใจ (Motivation Phase) ขึ้ &นตอนน�&เป.นขึ้ &นแสิ่ดงผัลี่ขึ้องกิาร้กิร้ะท4า (Consequence) จากิกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มตามต วแบบ ถ�าผัลี่ท��ต วแบบเคยได�ร้ บ (Vicarious Consequence) เป.นไปในทางบวกิ (Vicarious Reinforcement) กิ"จะจ�งใจให้�ผั��เร้�ยนอยากิแสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มตามแบบ ถ�าเป.นไปในทางลี่บ (Vicarious Punishment) ผั��เร้�ยนกิ"ม กิจะงดเว�นกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มน &นๆ ห้ลี่ กิพ*&นฐานขึ้องทฤษฎี�ป(ญญาสิ่ งคม ม� ๓ ปร้ะกิาร้ ค*อ ๑. กิร้ะบวนกิาร้เร้�ยนร้� �ต�องอาศึ ยท &งกิร้ะบวนกิาร้ทางป(ญญา แลี่ะท กิษะกิาร้ต ดสิ่�นใจขึ้องผั��เร้�ยน๒. กิาร้เร้�ยนร้� �เป.นความสิ่ มพ นธิ0ร้ะห้ว#างองค0ปร้ะกิอบ ๓ ปร้ะกิาร้ ร้ะห้ว#าง ต วบ7คคลี่ (Person) สิ่��งแวดลี่�อม (Environment) แลี่ะพฤต�กิร้ร้ม (Behavior) ซ้ำ%�งม�อ�ทธิ�พลี่ต#อกิ นแลี่ะกิ น

Page 51: จิตวิทยาการเรียนรู้

P

B E

Page 52: จิตวิทยาการเรียนรู้

๓. ผัลี่ขึ้องกิาร้เร้�ยนร้� �กิ บกิาร้แสิ่ดงออกิอาจจะแตกิต#างกิ น สิ่��งท��เร้�ยนร้� �แลี่�วอาจไม#ม�กิาร้แสิ่ดงออกิกิ"ได� เช#น ผัลี่ขึ้องกิาร้กิร้ะท4า (Consequence) ด�านบวกิ เม*�อเร้�ยนร้� �แลี่�วจะเกิ�ดกิาร้แสิ่ดงพฤต�กิร้ร้มเลี่�ยนแบบ แต#ผัลี่กิาร้กิร้ะท4าด�านลี่บ อาจม�กิาร้เร้�ยนร้� �แต#ไม#ม�กิาร้เลี่�ยนแบบ

การน�าหล�กการมีาป็ระย"กต$ใชี�๑. ในห้�องเร้�ยนคร้�จะเป.นต วแบบท��ม�อ�ทธิ�พลี่มากิท��สิ่7ด คร้�ควร้ค4าน%ง

อย�#เสิ่มอว#า กิาร้เร้�ยนร้� �โดยกิาร้สิ่ งเกิตแลี่ะเลี่�ยนแบบจะเกิ�ดขึ้%&นได�เสิ่มอ แม�ว#าคร้�จะไม#ได�ต &งว ตถ7ปร้ะสิ่งค0ไว�กิ"ตาม

Page 53: จิตวิทยาการเรียนรู้

๒. กิาร้สิ่อนแบบสิ่าธิ�ตปฏิ�บ ต�เป.นกิาร้สิ่อนโดยใช�ห้ลี่ กิกิาร้แลี่ะขึ้ &น ตอนขึ้องทฤษฎี�ป(ญญาสิ่ งคมท &งสิ่�&น คร้�ต�องแสิ่ดงต วอย#าง

พฤต�กิร้ร้มท��ถ�กิต�องท��สิ่7ดเท#าน &น จ%งจะม�ปร้ะสิ่�ทธิ�ภาพในกิาร้แสิ่ดง พฤต�กิร้ร้มเลี่�ยนแบบ ความผั�ดพลี่าดขึ้องคร้�แม�ไม#ต &งใจ ไม#ว#าคร้�

จะพร้4�าบอกิผั��เร้�ยนว#าไม#ต�องสิ่นใจจดจ4า แต#กิ"ผั#านกิาร้สิ่ งเกิตแลี่ะกิาร้ร้ บร้� �ขึ้องผั��เร้�ยนไปแลี่�ว๓. ต วแบบในช &นเร้�ยนไม#ควร้จ4ากิ ดไว�ท��คร้�เท#าน &น ควร้ใช�ผั��เร้�ยนด�วย

กิ นเป.นต วแบบได�ในบางกิร้ณ์� โดยธิร้ร้มชาต�เพ*�อนในช &นเร้�ยน ย#อมม�อ�ทธิ�พลี่ต#อกิาร้เลี่�ยนแบบสิ่�งอย�#แลี่�ว คร้�ควร้พยายามใช�ท กิษะ

จ�งใจให้�ผั��เร้�ยนสิ่นใจแลี่ะเลี่�ยนแบบเพ*�อนท��ม�พฤต�กิร้ร้มท��ด� มากิกิว#าผั��ท��ม�พฤต�กิร้ร้มไม#ด�

Page 54: จิตวิทยาการเรียนรู้

เอกสำารอ�างอ�งปร้ะด�น นท0 อ7ปร้ม ย . ๒๕๔๐ . เอกิสิ่าร้กิาร้สิ่อนช7ดว�ชาพ*&นฐานกิาร้ศึ%กิษา ห้น#วย ท�� ๔ มน7ษย0กิ บกิาร้เร้�ยนร้� �(น. ๑๑๗ - ๑๕๕) . พ�มพ0คร้ &งท�� ๑๕ : นนทบ7ร้�, สิ่4าน กิพ�มพ0มห้าว�ทยาลี่ ยสิ่7โขึ้ท ยธิร้ร้มาธิ�ร้าช.

พร้ร้ณ์� ช�ท ย เจนจ�ต . ๒๕๓๘ . จ�ตว�ทยากิาร้เร้�ยนกิาร้สิ่อน. พ�มพ0คร้ &งท�� ๔ ; กิร้7งเทพ , บร้�ษ ท

คอมแพคท0พร้�&นท0จ4ากิ ด.

อ จฉร้า ธิร้ร้มาภร้ณ์0 .๒๕๓๑. จ�ตว�ทยากิาร้เร้�ยนร้� �. ป(ตตาน� : คณ์ะศึ%กิษาศึาสิ่ตร้0 มห้าว�ทยาลี่ ยสิ่งขึ้ลี่านคร้�นทร้0 ว�ทยาเขึ้ตป(ตตาน�, ๒๕๓๑.