Upload
-titiporn-waidee
View
1.332
Download
2
Embed Size (px)
DESCRIPTION
ใบความรู้ที่ 01 ระบบเลขฐาน
Citation preview
ตั�วอย่�างการแปลงเลขฐานของระบบตั�วเลขการแปลงฐานสองเป�นเลขฐานส�บ :
หลั�กการ : คือการเอาคื�า Weight ของทุ�กบิ�ตทุ��มี�คื�าเป็�น 1 มีาบิวกก�น ดั�งต�วอย่�าง
ตั�วอย่�าง : จงแป็ลัง (11011101)2 ให เป็�นเลัขฐานสิ�บิ(11011101)2 = (1X27) + (1X26) + (0X25) + (1X24)
+ (1X23)+ (1X22) + (0X21) + (1X20)= 128 + 64 + 0 + 16 + 8 + 4 + 0 + 1= (221)10
ตั�วอย่�าง : จงเป็ลั��ย่น (1011.101)2 เป็�นเลัขฐานสิ�บิ
1 0 1 1 . 1 0 1 ผลัลั�พธ์& 2-3 0.125
2-2 0.02-1 0.5
-20 1.
21 2.22 0.
23 8. (11.62
5)10
\ (1011.101)2 = (11.625)10
การเปล��ย่นเลขฐานส�บเป�นเลขฐานสองหลั�กการ1. ให น(าเลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วต�)งแลัะน(า 2 มีาหาร ไดั เศษเทุ�าไรจะเป็�นคื�าบิ�ตทุ��มี�น�ย่สิ(าคื�ญน อย่ทุ��สิ�ดั (LSB)
2. น(าผลัลั�พธ์&ทุ��ไดั จากข อทุ�� 1 มีาต�)งหารดั วย่ 2 อ�กเศษทุ��จ�ดัจะเป็�นบิ�ตถั�ดัไป็ของเลัขฐานสิอง3. ทุ(าเหมีอนข อ 2 ไป็เร�อย่ๆ จนไดั ผลัลั�พธ์&เป็�นศ1นย่& เศษทุ��ไดั จะเป็�นบิ�ตเลัขฐานสิองทุ��มี�น�ย่สิ(าคื�ญมีากทุ��สิ�ดั (MSB)
ตั�วอย่�าง : จงเป็ลั��ย่น (221)10 เป็�นเลัขฐานสิอง 2 221 เศษ 1 (LSB)
2 110 เศษ 0
2 55 เศษ 1
2 27 เศษ 1
2 13 เศษ 1
2 6 เศษ 0
2 3 เศษ 1
2 1 เศษ 1 (MSB) 0
\ (221)10 = (11011101)2
ว�ธ์�คื�ดัโดัย่ใช้ น()าหน�ก (Weight) ของแต�ลัะบิ�ต
ตั�วอย่�าง จงเป็ลั��ย่น (221)10 = (……)2
1. น(าคื�าน()าหน�ก (Weight) มีาต�)ง โดัย่ Weight ทุ��มี�คื�ามีากทุ��สิ�ดัต องไมี�เก�นจ(านวนทุ��จะเป็ลั��ย่นดั�งน�)
128 128 64 32 16 8 4 2 12. เลัอกคื�า Weight ทุ��มี�คื�ามีากทุ��สิ�ดั แลัะคื�า Weight ต�วอ�น ๆ เมี�อน(ามีารวมีก�นแลั วให ไดั เทุ�าก�บิจ(านวนทุ��ต องการคื�า Weight 128 64 32 16 8 4 2 1
เลัอก 128 + 64 + 0 + 16 + 8 + 4 + 0 + 1 = 221
ฐานสิอง 1 1 0 1 1 1 0 1\ (221)10 = (11011101)2
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิทุ��มี�จ�ดัทุศน�ย่มีเป็�นเลัขฐานสิอง
หล�กการ1. 1. ให เป็ลั��ย่นเลัขจ(านวนเต4มีหน าจ�ดัทุศน�ย่มีดั วย่ว�ธ์� ทุ��กลั�าวมีา
แลั ว
2. 2. ให น(าเลัขจ�ดัทุศน�ย่มีมีาต�)งแลั วคื1ณดั วย่ 2 ผลัคื1ณมี�คื�าน อย่กว�า 1 จะไดั คื�าเลัขฐานสิองเป็�น 0 แต�ถั าผลัคื1ณมี�คื�ามีากกว�า 1
หรอเทุ�าก�บิ 1 จะไดั คื�าเลัขฐานสิองเป็�น 13. 3. ให น(าเลัขจ�ดัทุศน�ย่มีทุ��ไดั จากผลัการคื1ณใน � มีาต�)งแลัะคื1ณ
ดั ว ย่ 2 แ ลั ะ พ� จ า ร ณ า ผ ลั ลั� พ ธ์& เ ช้�น เ ดั� ย่ ว ก� บิ ข อ � แ ลั ะกระบิวนการน�)จะทุ(าต�อไป็เร�อย่ ๆ จนกว�าผลัคื1ณจะมี�คื�าเทุ�าก�บิ 1
หรอไดั คื�าทุ��แมี�นย่(าเพ�ย่งพอแลั วตั�วอย่�าง : จงเป็ลั��ย่น (0.375)10 เป็�นเลัขฐานสิองผลัการคื1ณ ผลัของจ(านวนเต4มี0.375 X 2 = 0.750.75 X 2 = 1.50.5 X 2 = 1.0
011
ดั�งน�)น (0.375)10 = (0.011)2
ตั�วอย่�าง : จงเป็ลั��ย่น (12.35)10 เป็�นฐานสิอง1. 1. เป็ลั��ย่น (12)10 ให เป็�นเลัขฐานสิอง
(12)10 = (1100)2
2. เป็ลั��ย่น (0.35)10 เป็�นเลัขฐานสิองผลัการคื1ณ ผลัของจ(านวนเต4มี0.35 X 2 = 0.70.7 X 2 = 1.40.4 X 2 = 0.80.8 X 2 = 1.60.6 X 2 = 1.20.2 X 2 = 0.4
010110
0.4 X 2 = 0.80.8 X 2 = 1.6
01
การเป็ลั��ย่นจะซ้ำ()าก�นไป็เร�อย่ ๆ จะน(ามีาใช้ เพ�ย่ง 6 บิ�ตดั�งน�)น (12.35)10 = (1100.010110)2
การเปล��ย่นเลขฐานแปดเป�นฐานส�บและเลขฐานส�บเป�นฐานแปด
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิ�บิ
หลั�กเกณฑ์& : น(าคื�าน()าหน�ก (Weight)แลัะเลัขฐานแป็ดัคื1ณดั วย่เลัข
ป็ระจ(าหลั�กแลั วน(าผลัทุ��ไดั ทุ�กหลั�กมีารวมีก�นน()าหน�ก : Weight ไดั แก� … 84 83 82 81 80 8-1 8-2
8-3…ตั�วอย่�าง : (134)8 = (…)10
(134)8 = (1X82) + (3X81) + (4X80) = 64 + 24 + 4 = (92) 10
ดั�งน�)น (134)8 = (92)10
จ�ดัทุศน�ย่มีการเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานแป็ดัหลั�กเกณฑ์& : น(าเลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วต�)งแลั วหารดั วย่ 8 เศษทุ��
ไดั จากการ หารจะเป็�นคื�าของเลัขฐานแป็ดั ทุ(าเช้�นเดั�ย่วก�บิการเป็ลั��ย่น เลัขฐานสิ�บิเป็�นฐานสิอง
ตั�วอย่�าง : (92)10 = (…)8
8 92 เศษ 4
8 11 เศษ 3
8 1 เศษ 1 0
1 3 4ดั�งน�)น (92)10 = (134)8
การเปล��ย่นเลขฐานแปดเป�นสองและเลขฐานสองเป�นฐานแปด
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิองหลั�กการ : จะต องใช้ เลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วกลัางในการเป็ลั��ย่นตั�วอย่�าง : (134)8 = (…)2
1. เป็ลั��ย่นเลัขฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิ�บิ(134)8 = (1X88) + (3X81) + (4X80)
= (92)10
2. เป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานสิอง(92)10 = (…)2
Weight = 64 32 16 8 4 2 1 = 64 + 0 + 16 + 8 + 4 + 0 + 0
เลัขฐาน 2 = 1 0 1 1 1 0 0
ดั�งน�)น (134)8 = (1011100)2
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิองเป็�นเลัขฐานแป็ดัหลั�กการ : จะต องใช้ เลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วกลัางในการเป็ลั��ย่น
ตั�วอย่�าง : (1011100)2 = (…)8
1. 1. เป็ลั��ย่นเลัขฐานสิองเป็�นเลัขฐานสิ�บิ(1011100)2 = 64 + 0 + 16 + 8 + 4 + 0 + 0
= (92)10
2. 2. เป็ลั��ย่นฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานแป็ดั 8 92 เศษ 4
8 11 เศษ 3
8 1 เศษ 1 0
1 3 4 ดั�งน�)น (1011100)2 = (134)8
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิองเป็�นเลัขฐานแป็ดัแลัะฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิอง ว�ธ์�ลั�ดั
เลัขฐานแป็ดั เลัขฐานสิอง01234567
000001010011100101110111
ตารางเป็ร�ย่บิเทุ�ย่บิเลัขฐานแป็ดัแลัะเลัขฐานสิองจากตารางจะเห4นว�าเลัขฐานแป็ดัหน8�งหลั�กสิามีารถัแทุนดั วย่เลัขฐาน
สิองจ(านวน 3 บิ�ต
ต�วอย่�าง : จงแป็ลังเลัขฐานสิองเป็�นเลัขฐานแป็ดั (1011100) 2 = (…)8
ว�ธ์�ทุ(า : 001 011 100
1 3 4 ดั�งน�)น (1011100) 2 = (134)8
ต�วอย่�าง เป็ลั��ย่นเลัขฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิอง (6143)8 = (…)2
ว�ธ์�ทุ(า 6 1 4 3
110 001 100 011 ดั�งน�)น (6143)8 = (110001100011)2
การเปล��ย่นเลขฐานส�บหกเป�นฐานส�บและเลขฐานส�บเป�นฐานส�บหกการเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิหกเป็�นเลัขฐานสิ�บิ
หลั�กการ : น(าคื�าน()าหน�ก (Weight) ของเลัขฐานสิ�บิหกคื1ณดั วย่เลัขป็ระจ(า
หลั�ก แลัะน(าผลัทุ��ไดั ทุ�กหลั�กมีารวมีก�น น()าหน�ก (Weight) : … 164 163 162 161 160 16-1
16-2 16-3… ต�วอย่�าง (6C)16 = (…)10
(6C)16 = (5X161) + (12X160)= 80 + 12= (92)10
ดั�งน�)น (6C)16 = (92)10
ต�วอย่�าง (0.3)16 = (…)10
(0.3)16 (0.3)16 = 3X10-1
= 3X0.0625 = (0.1875)10
ดั�งน�)น (0.3)16 = (0.1878)10
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานสิ�บิหก
หลั�กการ : น(าเลัขฐานสิ�บิมีาเป็�นต�วต�)งแลั วน(า 16 มีาหาร เศษทุ��ไดั จากการหาร จะเป็�นคื�า
เลัขฐานสิ�บิหก ทุ(าเช้�นเดั�ย่วก�บิการเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานสิองต�วอย่�าง : (92)10 = (…)16
ว�ธ์�ทุ(า : 16 92 เศษ 12 =C
16 5 เศษ 5
5 Cดั�งน�)น (92)10 = (5C)16
ต�วอย่�าง (0.7875)10 = (….)16
ว�ธ์�ทุ(าผลัการคื1ณ ผลัของจ(านวนเต4มี0.7875 X 16 = 12.60.6 X 16 = 9.6
12 = C9
0.6 X 16 = 9.60.6 X 16 = 9.6
99
ดั�งน�)น (0.7875)10 = (0.C9)16
การเปล��ย่นเลขฐานสองเป�นฐานส�บหก และฐานส�บหกเป�นฐานสองการเป็ลั��ย่นเลัขฐานแป็ดัเป็�นเลัขฐานสิอง
หลั�กการ : จะต องใช้ เลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วกลัาง
ต�วอย่�าง : (5C)16 = (…)2
1. เป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิหกเป็�นเลัขฐานสิ�บิ (5C)16= (5X161) + (12X160)
= 80 + 12= (92)10
2. เป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานสิอง
(92)10= (…)2
Weight = 64 32 16 8 4 2 1 64 + 0 + 16 + 8 + 4 + 0 + 0
เลัขฐานสิอง = 1 0 1 1 1 0 0
ดั�งน�)น (5C)16 = (1011100)2
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิองเป็�นเลัขฐานสิ�บิหก
หลั�กการ : ต องใช้ เลัขฐานสิ�บิเป็�นต�วกลัางต�วอย่�าง : (1011100)2 = (…)16
1. เป็ลั��ย่น (1011100)2 เป็�นเลัขฐานสิ�บิ (1011100)2 = (92)10
2. เป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิเป็�นเลัขฐานสิ�บิหก16 92 เศษ 12 =C
16 5 เศษ 5 0
5 C ดั�งน�)น (1011100)2 = (5C)16
การเป็ลั��ย่นเลัขฐานสิ�บิหกเป็�นฐานสิองแลัะเลัขฐานสิองเป็�นฐานสิ�บิหกว�ธ์�ลั�ดั
เลัขฐานแป็ดั เลัขฐานสิอง0123456789ABCDEF
0000000100100011010001010110011110001001101010111100110111101111
ตารางเป็ร�ย่บิเทุ�ย่บิเลัขฐานสิ�บิหกก�บิเลัขฐานสิอง
จากตารางจะเห4นว�า เลัขฐานสิ�บิหกหน8�งหลั�กสิามีารถัจะแทุนดั วย่เลัขฐานสิองจ(านวน 4 บิ�ต
ต�วอย่�าง จงเป็ลั��ย่น (1011100)2 เป็�นเลัขฐานสิ�บิหกว�ธ์�ทุ(า 0101 1100
5 12 5 C
ดั�งน�)น (1011100)2 = (5C)16
ต�วอย่�าง จงเป็ลั��ย่น (1011110111011)2 เป็�นเลัขฐานสิ�บิหกว�ธ์�ทุ(า 0001 0111 1011 1011
1 7 11 11
1 7 B B ดั�งน�)น (1011110111011)2 = (17BB)16
ต�วอย่�าง จงเป็ลั��ย่น (A95)16 เป็�นเลัขฐานสิองว�ธ์�ทุ(า A 9 5
1010 1001 0101 ดั�งน�)น (A95)16 = (101010010101)2
แบบฝึ�กห�ด 2.1 จงแป็ลังเลัขฐานสิ�บิต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานสิ�� (base-4) แลัะเลัขฐานห า (base-5)
a. 10 b. 21c. 50 d. 67 e. 100
2.2 จงแป็ลังเลัขฐานต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานสิ�บิ a. (24)5 b. (3F7)16c. (148)8 d. (ABC)15
2.3 จงแป็ลังเลัขฐานสิองต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานสิ�บิแลัะให มี�ทุศน�ย่มีเพ�ย่ง 4 ต(าแหน�งa. (0.1111)2 b. (0.11010011)2
c. (001110.111111111)2
2.4 จงแป็ลังเลัขฐานสิ�บิต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานสิองแลัะให มี�ทุศน�ย่มีเพ�ย่ง 4 ต(าแหน�งa. (0.1111)10 b. (947.613)10
c. (4287.6543)10 2.5 จงแป็ลังเลัขฐานสิ�บิหกต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานแป็ดั
a. (ABCE)16 b. (97F)16
c. (A0)16 2.6 จงแป็ลังเลัขฐานแป็ดัต�อไป็น�) เป็�นเลัขฐานสิ�บิหก
a. (375)8 b. (054)8
c. (3517)8